NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 281
บทที่281 ส้าวส้วยที่มีใบหน้าร้ายกาจเล็กน้อย
หวางเฉินตะลึง
อาเหยโก่วของตัวเอง ถือว่าเป็นคนที่รู้จักกันดีมากที่เมืองเอก แล้วเขาจะไปเรียกเด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่ง……ว่าท่านได้ไงล่ะ!
เวลานี้ หวางเฉินก็สงสัยหูของตัวเอง เกิดอาการหลอนหรือไม่
เหยโก่วมองส้าวส้วยอย่างงุนงง พูดว่า:“ท่าน เห็นแก่หน้าผมหน่อยไม่ได้เหรอ ปล่อยเขาไปสักครั้ง”
“เหยโก่ว คุณนี่เห็นค่าของตัวเองจริงๆเลยนะ?”
ส้าวส้วยพูดอย่างเย็นชา:“คุณอยู่ถิ่นของผม มีหน้าด้วยหรือไง?”
“ถอยไป”ส้าวส้วยพูดอย่างเย็นชา
เหยโก่วก็ไม่รู้ว่าทำไม ตัวเองถึงได้กลัวผู้ชายตรงหน้าคนนี้ขนาดนี้!
ถึงเขาจะสุดยอดแค่ไหน ก็ไม่ใช่ว่าแค่คนๆหนึ่งเหรอ?
เหล่าพรรคพวกน้องชายของตัวเอง รวมกันแล้วก็เกือบจะเกินร้อย
แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตัวเองก็ยังไม่มั่นใจนัก ที่จะเป็นปรปักษ์กับส้าวส้วย
เซ้นส์ของเหยโก่วแข็งแกร่งมาก เซ้นส์ของเขาบอกตัวเองว่า ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ยุ่งไม่ได้เด็ดขาด
“ท่าน เขาคือหลานชายของผม”เหยโก่วพูด
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ มองเหยโก่วอย่างมีเลศนัย:“ทำไม ความหมายของคุณก็คือ หลานชายของคุณ ด่าผมได้ ใช่ไหม?”
หวางเฉินมองเห็นฉากนี้ ตะลึงโดยสิ้นเชิง
นี่มันสถานการณ์อะไรกันแน่?
อาเหยโก่วที่ดูมีอำนาจทรงพลังของตัวเอง ทำไมอยู่ต่อหน้าส้าวส้วย ถึงได้กลายเป็นคนขี้ขลาดได้แบบนี้?
คิ้วของหวางเฉิน ขมวดแน่น เขาผลักอาของตัวเองออก จ้องส้าวส้วยแล้วพูด:“คุณเป็นใครเหรอ?ด่าคุณแล้วจะทำไม?คุณเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้เหรอไง ด่าคุณแค่นี้จะถูกฟ้าผ่าตายเหรอไง?”
“ไม่ใช่ถูกฟ้าผ่าตายหรอก……”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ ฝ่ามือ ก็ตบใส่หวางเฉินจนหน้าหัน
“แต่ด่าผม ผมจะต้องเอาคืน”ส้าวส้วยมองหวางเฉินอย่างเย็นชา พูดไป
เหยโก่วรีบวิ่งเข้ามา พูดกับหวางเฉิน:“ไอ้เด็กนี่ ดูไม่ออกเหรอไง?ว่าเขาเป็นคนฝีมือดี”
“ฝีมือดี……ฝีมือดีก็ทำร้ายผมได้เหรอ?”
หวางเฉินถูกตบหนึ่งฉาด ถึงแม้เจ็บจนน้ำตาไหล แต่เขาก็ยังคงท่าทียโสของเขา
“อาเหยโก่ว คุณอย่าลืมล่ะ พ่อผมก็เป็นคนฝีมือดี เขามาจากวัดเส้าหลินด้วยซ้ำ”
“ผมไม่เชื่อว่า เขาจะสุดยอดแค่ไหน ก็จะสุดยอดกว่าพ่อผมได้?”หวางเฉินพูดอย่างไม่เชื่อ
สีหน้าของเหยโก่ว ดูแย่สุดๆ เขาพูดเสียงเบา:“เกี่ยวกับพ่อคุณกับเขาใครเจ๋งกว่ากันนั้น พวกเขาไม่เคยสู้กัน และผมก็ให้คำตอบคุณไม่ได้ แต่ผมบอกคุณให้นะ ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่โหดร้ายมากๆ ถ้าคุณทำเขาโมโห ก็ระวังชีวิตน้อยๆของคุณด้วย”
“จำไว้ ตอนนี้พ่อคุณไม่ได้อยู่ที่สถานตากอากาศนะ ถึงคุณให้เขามาช่วยจัดการ ก็ต้องให้พ่อคุณมาก่อนค่อยว่ากัน เข้าใจไหม?”เหยโก่วไปที่ข้างหูหวางเฉิน แล้วพูด
“ความหมายของอาคือ ให้ผมทนกับเขาก่อน?”ในที่สุดหวางเฉินก็เข้าใจความหมายของเหยโก่ว
หวางเฉินกัดปาก ไม่ค่อยพอใจนัก:“ทำไมผมต้องทนไอ้เด็กนี่ด้วย?”
“ไอ้คนโง่เง่าเต่าตุ่นคนนี้……”
หวางเฉินยังไม่ทันพูดจบ เหยโก่วก็ตบไปหนึ่งฉาด ใส่ที่หน้าของหวางเฉิน
หวางเฉินตะลึง เขามองอาเหยโก่วของตัวเองอย่างมึนๆ ถาม:“อาเหยโก่ว……ทำไมอาต้องตบผมล่ะ?”
หวางเฉินคิดในใจ ส้าวส้วยตบเขาก็ว่าไปอย่าง นี่เขาคืออาผม ทำไมถึงตบผมล่ะ?
เวลานี้ จู่ๆหวางเฉินก็รู้สึกน้อยใจ เขาอยากร้องไห้อย่างน่าสมเพช ……
ที่จริงหวางเฉินคือผู้ชายที่เข้มแข็ง และดื้อรั้นมาก ……
ก็แค่ ใครจะไปเผชิญหน้ากับญาติที่กบฏใส่ได้?
เวลานี้ หวางเฉินรู้สึกว่าอาเหยโก่วของตัวเอง คือคนของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ……
ทรยศเขา
“ถูกคนของตัวเองสั่งสอน ก็ดีกว่าคนอื่นมาสั่งสอนเสมอ……อย่างน้อย ผมก็ออมมือกับคุณได้”เหยโก่วพูดด้วยใบหน้าซีเรียส
ใช่ ฝ่ามือของเหยโก่วนี้ เบากว่าฝ่ามือของส้าวส้วยเยอะเลย
“จัดการญาติตัวเองเพื่อความเป็นธรรมของสังคม?”
มองเห็นฉากนี้ ส้าวส้วยก็หัวเราะอย่างน่าสนใจ เขาเดินไปข้างหน้า แทรกกลางระหว่างเหยโก่วกับหวางเฉิน:“เมื่อกี๊พวกคุณทั้งสอง ซุบซิบอะไรกันเหรอ”
“ปรึกษากันว่าจะจัดการผมอย่างไร?”ส้าวส้วยถาม
“จะกล้าได้ไงล่ะ ท่าน ผมให้หลานชายผมขอโทษคุณ”เหยโก่วมองส้าวส้วยอย่างอ่อนโยน
ส้าวส้วยพยักหน้า มองหวางเฉิน แล้วพูด:“ขอโทษ?”
“คุณจะขอโทษผมเหรอ?”ส้าวส้วยสงสัยมากๆ
เวลานี้ เหยโก่วจ้องมองหวางเฉินอย่างสุดชีวิต ส่วนหวางเฉิน ในที่สุดก็ก้มหัวให้ พูดกับส้าวส้วย:“โอเค ผมผิดไปแล้ว”
“ขอโทษแบบไม่เต็มใจขนาดนี้เชียว?”
ส้าวส้วยส่ายหน้า พูดว่า:“แล้วก็ ผมยอมรับคำขอโทษไม่ได้”
“เมื่อกี๊คุณด่าผมไปตั้งเยอะ ……ไม่ใช่ว่าแค่คำขอโทษหนึ่งคำ ก็จะหายกันได้”
ส้าวส้วยยิ้มอย่างเหยียดหยาม:“ถ้าขอโทษมีประโยชน์ คุณว่า……กำปั้นใหญ่ๆของผมนี้ จะมีประโยชน์อะไร?”
“เหตุผลนี้หรือไม่ เหยโก่ว?”ส้าวส้วยมองเหยโก่ว แล้วถาม
เหยโก่วได้ยินคำพูดนี้ของส้าวส้วย ก็รู้ว่าขอโทษไปก็ไม่มีประโยชน์
ดังนั้น เหยโก่วจึงไม่บังคับให้หวางเฉินขอโทษต่อ มองส้าวส้วยแล้วถาม:“เอ่อท่าน คุณว่ามาเลยดีกว่าว่าจะเอาไง”
“ง่ายๆ เมื่อกี๊ผมเห็นคุณตบเขา รู้สึกสบายใจมาก ผมชอบดูคนตบตีคนกันเองมากที่สุด ก็แค่แรงที่คุณลงมือ เบาไปหน่อย”
“เอางี้ คุณทำแรงๆหน่อยไหม?”ส้าวส้วยขำไปพูดไป
เหยโก่วมองหวางเฉินแวบหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ
ยังไง หวางเฉินก็เป็นหลานชายแท้ๆของตัวเอง ถ้าให้เขาจัดการ เขาก็ทำไม่ได้
เหยโก่วขมวดคิ้ว มองหวางเฉินแล้วพูด:“ท่าน ตอนนี้คุณก็ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเอก ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินชื่อเหยสงนี้หรือไม่……”
“เขาเป็นหัวหน้าแก๊งที่เขตทิศเหนือของเมืองเอก ทั้งเขตทิศเหนือของเมืองเอก ล้วนแต่เป็นของเหยสงคนๆนี้”
“เขาคือพี่ชายผม และก็เป็นพ่อของเฉินเฉิน”
“เอางี้ เห็นแก่พี่ชายของผม ปล่อยเฉินเฉินเถอะนะ?”เหยโก่วพูด
อำนาจของเมืองเอก วุ่นวายมากๆ
ยิ่งน้ำลึก ทุกแห่งหนก็มักจะมีลูกพี่อยู่
แต่ไม่มีใครเหมือนกับเหยสงได้ ที่ครอบครองเมืองเอกคนเดียว ……
คนจำนวนมาก มักจะเป็นสองคน หรือสามคน แบ่งกันปกครองเขตหนึ่ง
ดังนั้นจึงพูดได้ว่า เหยสงในเมืองเอก ถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงในโลกใต้ดิน บอกว่าเขาคือบุคคลอันดับหนึ่งในโลกใต้ดินของเมืองเอก ก็ยังได้ ……
แน่นอน นี่เพราะว่า ท่านจวนตอนนี้สละบัลลังก์ไปแล้ว ไม่ได้เอาท่านจวนมาเรียงลำดับ
“คุณกำลังข่มขู่ผมเหรอ?”ส้าวส้วยหัวเราะ มองเหยโก่วนิ่งๆ
ประโยคของส้าวส้วย ทำให้เหยโก่วเข้าใจทันที
ถึงแม้ตัวเองจะเอาตัวตนของพี่ชายตัวเองออกมาพูด ก็ไม่มีประโยชน์
แน่นอน ผลลัพธ์เช่นนี้ เหยโก่วเดาไว้นานแล้ว
ผู้ชายที่ฆ่าคนมาเยอะ ทำไมถึงหวาดกลัวคนๆหนึ่งที่มีชื่อเสียงได้แบบนี้?
มองส้าวส้วย สีหน้าของเหยโก่วเขียวปั้ด เวลานี้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไร
เหยโก่วเก่งที่สุด ก็คือใช้ความรุนแรงตอบโต้ความรุนแรง
เผชิญหน้ากับส้าวส้วย ใช้ความรุนแรงในการแก้ไข นั่นไม่ใช่หาเรื่องตายเหรอ?
ฝ่ายตรงข้ามต่อสู้ได้ดีกว่าตัวเอง ถ้าลงมือ ก็เท่ากับตัวเองหาเรื่องตาย
ดังนั้น เหยโก่วมีแค่ทางเลือกเดียว นั่นคือยอมประนีประนอม
เหยโก่วประนีประนอมให้แล้ว เขาพยักหน้าให้ส้าวส้วย แล้วพูด:“โอเค ท่าน เอาตามที่ท่านว่า”
“ตบสักทีสองที……คุณว่าไง”เหยโก่วถามส้าวส้วย
เหยโก่วมองออก ส้าวส้วยผู้ชายคนนี้ ร้ายกาจมากๆ
ไม่อย่างนั้น เขาก็คงไม่ให้ตัวเองลงมือ ทำหลานชายของตัวเอง
ดังนั้น เรื่องอะไรก็ตาม ทางที่ดีควรพูดให้เข้าใจดีที่สุด
ต่อไป จะได้ไม่เกิดปัญหาอีก
ยังไง ตอนนี้ก็เป็นส้าวส้วยตัดสินใจ……ส้าวส้วยว่าไงก็ตามนั้น
ถ้าตัวเองตบเสร็จแล้ว อีกฝ่ายพูดสั่งอีก ยังไม่พอ จะทำไง?
“ตบสามทีละกัน”
ส้าวส้วยพูดนิ่งๆ:“ยังไง เขาก็ด่าผมอยู่เยอะ”
“สามที……”
เหยโก่วท่องคำ จำนวนนี้ เขายังยอมรับได้
ถ้าส้าวส้วยบอกว่าตบสิบที หรือว่าหลายสิบที เป็นร้อยที เหยโก่วนี้ จะต้องบ้าแน่นอน
ส้าวส้วยนี้ ก็ถือว่ายังให้ตัวเองมีชีวิตต่อ ไม่เอาตัวเองถึงตาย
เหยโก่วหันหน้ามองไปที่หวางเฉิน พูด:“เฉินเฉิน อดทนหน่อย”
“อาเหยโก่ว อาจจะตบผมจริง……”
หวางเฉินไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ อาของตัวเอง จู่ๆก็ฟังส้าวส้วยขนาดนั้น ถ้าเขาตีตัวเอง เขาก็ต้อง……
ต้องฝันไปแน่ๆ!
อีกอย่าง ก็ยังเป็นฝันร้ายด้วย!
หวางเฉินพูดจบ เหยโก่วจึงยกแขนขึ้น ตบไปหนึ่งฉาดที่ของหวางเฉิน
เสียงดังแปะขึ้นมา ที่ใบหน้าของหวางเฉิน มีรอบฝ่ามือห้านิ้วประทับ
ขณะเดียวกันที่หน้าของเขา ก็เจ็บแสบร้อน
“อาเหยโก่ว……”หวางเฉินลูบหน้าตัวเอง มองอาของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ……
และเวลานี้ จู่ๆส้าวส้วยกลับลงมือ ตบไปหนึ่งฉาดที่หน้าของเหยโก่ว
แรงหนักมาก จนทำให้เหยโก่วหน้าคว่ำไปที่พื้น