NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 283
บทที่283 เหยสงมาแล้ว
เวลานี้ ก็มืดค่ำแล้ว
ภายใต้ต้นหลิวขนาดใหญ่ของสถานตากอากาศ ผู้ชายคนหนึ่งที่กำยำล่ำสัน ยืนอยู่ตรงนั้น ในปากเขาคีบบุหรี่หนึ่งมวน ใบหน้าเย็นชา
เขาก็คือเหยสง พี่ชายของเหยโก่ว พ่อของหวางเฉิน
บุหรี่ในปากของเหยสง ค่อยๆหดสั้นลง……
ทันทีที่ก้นบุหรี่ตกลงไปตอนนั้น ร่างคนๆหนึ่งก็มาตรงหน้าเขา
“พี่ใหญ่……”
เหยโก่วมาแล้ว เสียงของเขาหนักแน่นมาก
เหยโก่วทำร้ายหลานชายตัวเองจนเป็นแบบนั้น ตอนนี้ จะมีหน้าไปเผชิญหน้ากับพี่ชายแท้ๆตัวเองได้ไง?
เหยสงหันหน้าไป เขามองเหยโก่วแวบหนึ่ง
เหยโก่วในตอนนี้ ก้มหน้าลง
“เงยหน้ามามองผม”เหยสงพูดอย่างเย็นชา
เหยโก่วลังเลเล็กน้อย ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา
ตอนที่เหยโก่วเงยหน้าตอนนั้นเอง เหยสงยกขาขึ้น เตะไปที่น้องชายแท้ๆของตัวเอง
ได้ยินแต่เสียงดังปัง
ทั้งตัวของเหยโก่ว ลอยออกไป ล้มลงไปชนต้นหลิวด้านหลัง
ต้นหลิวสั่นเล็กน้อย มีใบหลิวพัดปลิวสองสามใบ
เหยสงจึงถาม:“ทำไม?”
ฮีโร่สมัยก่อน ปกติแล้วต่างปกป้องคนของตัวเอง
เหยสงคิดว่า ลูกชายของตัวเอง แค่ไม่หักหลังตัวเอง งั้นจะทำอะไร ก็ถูกทั้งนั้น
ถึงลูกชายตัวเองผิด เหยโก่วที่เป็นอา ก็ไม่ควรลงมือหนักขนาดนั้น
หวางเฉินก็ไม่ได้นอนกับภรรยาของเหยโก่ว คุณลงมือหนักขนาดนั้น สรุปเพราะทำไมกันแน่?
เหยสงคิดไม่ออก……
เหยโก่วปากสั่น ไม่รู้จะตอบอย่างไร
หรือว่าบอกว่า เพราะว่าตัวเองกลัวส้าวส้วยเหรอ?
เหยสงถามต่อ ครั้งนี้ เขาถามตรงไปตรงมามากขึ้น:“ทำไมต้องทำหลานชายตัวเอง ได้รุนแรงขนาดนั้น?”
เหยโก่วตอบไม่ได้จริงๆ
เขาเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
“คุณคิดว่าเป็นน้องชายแท้ๆของผมแล้ว ผมจะไม่กล้าลงมือกับคุณ?”เสียงของเหยสงเย็นชา ใบหน้ามีความเดือดดาลพร้อมฆ่ายิ่งขึ้น
เตะเมื่อกี๊ แม้จะหนัก
แต่ไม่ใช่แรงที่แท้จริงของเหยสง
ถ้าเหยสงออกแรงทั้งหมด หรือเหยโก่วไม่ใช่น้องชายของเหยสง เตะเมื่อกี๊ น่าจะทำเอากระดูกช่วงซี่โครงอกของเหยโก่วแตกละเอียด
เหยโก่วมีสีหน้าลำบากใจ เงยหน้ามองเหยสง:“พี่ พี่ก็รู้จักผม ถ้าไม่ได้โดนบังคับ ผมจะลงมือกับเฉินเฉินแรงขนาดนั้นได้ไง?”
“พี่……พี่ดูหน้าผมสิ ……”
เหยโก่วชี้หน้าตัวเองที่ถูกส้าวส้วยตบ พูดว่า:“นี่อีกฝ่ายทำ”
จากนั้น เหยโก่วก็ยกแขนเสื้อตัวเองขึ้น พูด:“แล้วพี่ดูแขนผมอีกสิ ……ตอนที่ฝ่ายตรงข้ามตบผม ผมใช้แขนบัง หลายปีนี้ถ้าไม่ใช่ว่าผมฝึกกังฟู มือข้างนี้ กลัวจะจะหักไปแล้ว?”
แขนของเหยโก่ว ล่ำกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย
ตอนนี้ เขียวม่วงแล้ว
ห่างกับเสื้อผ้า ยังถูกส้าวส้วยตีจนเป็นรอยนิ้วมือ
มองเห็นฉากนี้ สีหน้าของเหยสง จู่ๆก็เปลี่ยนไป
เขาจึงเข้าใจว่า ได้ไปยุ่งกับตัวละครโหดๆแล้ว
“เมืองเอกมีคนฝีมือดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”เหยสงขมวดคิ้ว พูดอย่างซีเรียส
พอเหยสงเห็นบาดแผลที่หน้าของเหยโก่ว รอยแผลที่แขน ก็เข้าใจทันที
“แรงแบบนี้ถ้าตีไปที่หน้าของเฉินเฉิน สันนิษฐานว่า ตอนที่ผมเจอเฉินเฉิน คำพูดหวาดกลัวของเขาจะต้องพูดออกมาอย่างยาก”เหยสงพูดนิ่งๆ
เหยสงคือคนฝึกกำลังภายใน เกี่ยวกับความแข็งแรง เขาวิเคราะห์ได้เฉียบมาก
ผ่านระดับความบาดเจ็บที่ได้รับมา เหยสงก็เดาออกว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากแค่ไหน
“ไปขัดใจเขาได้ไง?”เหยสงเริ่มถาม
เวลานี้ น้ำเสียงของเหยสง อ่อนโยนสุดๆ
“ที่จริงเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับเฉินเฉิน แต่เป็นสวีเถิงเฟย คุณชายสวีไปขัดใจผู้ชายคนนั้น แต่เฉินเฉินกลับมาหาผม ให้ผมไปช่วย ไปช่วยคุณชายสวี”
“ตอนเริ่มต้น ผมคิดว่าแค่คนไม่เอาไหนรังแกคุณชายสวี ก็รีบตามไป ใครจะไปรู้ว่า ดันเป็นเขา”พูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเหยโก่ว ก็ปรากฏความซีเรียสสุดๆ
เหยสงภาม:“ทำไม คุณรู้จักเขา?”
“หลายวันก่อนที่เขาหมาป่า ผมเคยเจอผู้ชายคนนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง และก็เป็นคุณชายสวีมาหาผม ให้ผมไปช่วยเขาจัดการคนๆหนึ่ง ดูเหมือนจะชื่อหลี่ฝางอะไรนั่น”
“คนฝีมือดีคนนี้ ดูเหมือนจะเป็นคนที่อยู่ข้างกายหลี่ฝาง”
“ผมแค่สบตากับคนฝีมือดีนี้ท่านั้น ก็รู้สึกเยือกเย็นไปหมด สายตาเขา มีความพร้อมฆ่าลึกๆ ผมไม่เคยเห็นสายตาที่เย็นชาเช่นนั้น เวลานั้น ผมก็ตื่นตระหนก……ผมจึงรู้ว่าตัวเองไปกระตุกหนวดเสือเข้าให้แล้ว จึงคิดหนีทันที”
“แต่ใครจะไปรู้ ฝ่ายนั้นกลับไม่ปล่อยผม คนฝีมือดีคนนี้ มือหนึ่งดึงผมขึ้นมา โยนผมไปที่เขาหมาป่า”
เหยโก่วถอนหายใจ พูด:“พอลงจากเขาหมาป่า ฝีมือดีคนนี้ ก็กลายเป็นฝันร้ายของผม ทุกครั้งที่คิดถึงสายตาที่เขามองผม ขนของผมก็ลุกขึ้นทั้งตัว”
“ทำไมไม่เคยได้ยินคุณพูดถึง?”เหยสงขมวดคิ้ว พูดตำหนิเล็กน้อย
“เจอคนฝีมือดีแบบนี้ คุณน่าจะบอกผมเร็วๆหน่อยถึงจะถูก”เหยสงพูดอย่างไม่พอใจ
“ยังไงเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องขายขี้หน้า ผมจะไปป่าวประกาศบอกทั่วได้ไง อีกอย่าง ผมก็ไม่เคยคิดเอาคืน ดังนั้น จึงปิดบังพี่ไปด้วย”เหยโก่วเบะปาก พูด
เงียบไปสักพัก เหยโก่วก็พูดที่มาที่ไปของเรื่องต่อ
“วันนี้ ผมกับเฉินเฉิน เจอคุณชายสวี คิดอยากช่วยคุณชายสวี แต่คิดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายจะเป็นคนฝีมือดี ผมก็เลยบอกเฉินเฉิน เรื่องนี้ยุ่งด้วยไม่ได้”
“แต่เฉินเฉินไม่ฟัง เข้าใจผมผิด คิดว่าผมต้องการผลประโยชน์จากคุณชายสวี จึงไม่ยอมลงมือ”
“สุดท้าย เฉินเฉินก็ตัดสินใจเอง ลงมือกับฝีมือดีคนนั้น เขาเตะขาออกไป……สุดท้ายกลับถูกหมัดของฝีมือดี ตัดขาออก”
ได้ยินคำนี้ สีหน้าของเหยสง จู่ๆก็เกร็ง
“คุณพูดอะไร?ขาของเฉินเฉินถูกหมัดของผู้ชายคนนั้นตัด?”ใบหน้าของเหยสง มีความหวาดกลัวปรากฏ
“เฉินเฉินเตะออกไป คนฝีมือดีปล่อยหมัดไปที่ฝ่าเท้าของเฉินเฉิน ……ขาของเฉินเฉิน จากนั้นจึงหัก”เหยโก่วย้อนถึงฉากตอนนั้น
“หมัดปล่อยไปที่ฝ่าเท้า ตัดขาของเฉินเฉิน?”เหยสงสูดหายใจลึกๆ
“ดูเหมือน พวกคุณจะไปมีเรื่องกับตัวละครโหดแล้วจริงๆ”เหยสงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ใช่ พอเฉินเฉินเห็นขาของตัวเองหัก ก็ด่าคนฝีมือดีนั่นไปหลายคำ และไม่หยุดร้องเอะอะใส่คนฝีมือดีนั่น สุดท้าย ก็ทำคนฝีมือดีนั่นโมโหสุดๆ”
“ผมตบเฉินเฉินไปหนึ่งที ให้เขาหุบปาก ……แต่เขาไม่ฟัง สุดท้ายคนฝีมือดีจึงให้ผมจัดการเฉินเฉิน”
“พี่ใหญ่ พี่ว่าตอนนั้นผมควรทำอย่างไร?”
“เจอคนฝีมือดีเช่นนี้ ผมสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าไม่ยอมประนีประนอม กลัวว่าผลลัพธ์จะแย่จนไม่กล้าคิด”
“ดังนั้น ผมจึงทำร้ายเฉินเฉิน ตอนแรกแรงไม่พอ คนฝีมือดีนี้ก็ให้ผมตบอีกที ให้ผมออกแรง ……ผมหมดหนทาง”เหยโก่วพูดอย่างทำอะไรไม่ได้
เหยสงตบไหล่ของเหยโก่ว พูดว่า:“พี่เข้าใจคุณผิดไปเอง”
“พี่ ที่พี่เตะผมไปนี้ ผมไม่โกรธพี่หรอก พูดตรงๆนะ ผมทำร้ายเฉินเฉินไป ในใจก็รู้สึกลนลานมาก ให้พี่ทำผมบ้าง ในใจของผม ก็สบายใจขึ้นมาหน่อย”เหยโก่วพ่นลมหายใจออกมายาวๆ พูด
เหยสงไม่พูด จุดบุหรี่ให้ตัวเองอีกครั้ง
“คนฝีมือดีนั่น ดูแล้วน่าจะอายุเท่าไหร่?เทียบกับผม?”เหยสงถามออกไป
เหยโก่วกลืนน้ำลาย พูด:“พี่ใหญ่ พูดแล้วอาจจะไม่เชื่อ ฝีมือดีคนนั้น อายุยังน้อยกว่าเฉินเฉิน”
“อะไรนะ?”
เหยสงหันหน้าไป ตาทั้งคู่ ก็จ้องไปที่เหยโก่วเขม็ง:“อายุน้อยขนาดนี้?”
เหยสงไม่ค่อยเชื่อนัก เขาคิดว่า คนฝีมือเช่นนี้ อย่างน้อยน่าจะสี่สิบกว่า
ใครจะไปชื่อ แค่วัยรุ่นอายุยี่สิบคนหนึ่ง?
คนอายุน้อยขนาดนี้……เขาทำได้อย่างไร?
เหยสงสูดหายใจลึกๆ:“คนๆนี้ เบื้องหลังจะต้องมีคนฝีมือดีชี้นำแน่ ไม่มีทางที่อายุน้อยขนาดนั้น จะเดินมาได้ถึงวันนี้หรอก”
“ผมฝึกกำลังภายในที่วัดเส้าหลินมาตั้งหลายปี ไม่เคยเห็นวัยรุ่นที่เก่ากล้าแบบนี้หลายคน”
เหยสงพูด:“คนๆนี้……ปล่อยไว้ไม่ได้”
ตอนที่พูดคำนี้ ที่หน้าของเหยสง ก็ปรากฏความอาฆาตแรงๆ
“พี่ใหญ่ พี่อยากกำจัดเขา?”เหยโก่วมองเหยสง ถามไปหนึ่งประโยค
“ไร้สาระ คนแบบนี้ไม่กำจัดเขา แล้วผมจะนอนหลับสบายไหม?”เหยสงพูดอย่างโกรธๆ
เหยโก่วไม่พูด ที่จริง จากความหมายของเหยโก่ว ฝีมือดีแบบนี้ ทางที่ดีไม่ควรไปกระตุ้นมากนัก
ยังไง ก็ไม่ง่ายเลยที่ได้เป็นลูกพี่ ความหรูหรามั่งคั่งก็ยังไม่ทันได้สนุกไปกับมัน แล้วทำไมต้องไปมีปัญหากับศัตรูที่แข็งแกร่งด้วย?
ถ้าลากตัวเองเข้าไป……
งั้นชีวิตนี้ ก็ไม่ใช่ว่าดิ้นรนมาเปล่าๆเหรอไง?
แต่เหยโก่วเข้าใจพี่ชายตัวเอง ในเมื่อพี่ชายตัวเองตัดสินใจ ตัวเองจะโน้มน้าวอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์
ส่วนอีกด้าน
หลี่ฝางได้รับข่าวว่า เหยสงมาแล้ว และยังนัดพบเหยโก่วลับๆด้วย
หลี่ฝางหันหน้าไปมองส้าวส้วย พูดว่า:“เหยสงมาแล้ว กลัวว่า อีกไม่นานเขาจะมาหาคุณ แก้แค้นแทนลูกชาย”
แต่ที่หน้าของส้าวส้วย กลับชิลสุดๆ
ดูเหมือนว่าจะไม่เอาเหยสงไว้ในสายตาเลย
“เจ้านาย คุณเคยรับปากผม รอผมจัดการเหยสง คุณจะเปิดร้านแฮมเบอร์เกอร์ให้ผม จริงไหม?”ส้าวส้วยมองหลี่ฝางอย่างดีใจ
หลี่ฝางนิ่งไป มองส้าวส้วย อดไม่ได้ที่จะถาม:“ทำไมคุณชอบแฮมเบอร์เกอร์ขนาดนั้น?”
“นี่มันไปถึงไหนกันแล้ว คุณสนใจประเด็นหลักหน่อยได้ไหม ผมเคยถามจางกงหมิง เขาบอก เหยสงคนๆนี้ อย่าขัดใจเด็ดขาด”