NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 284
บทที่284 ตระกูลสวีมาหาถึงที่
ส้าวส้วยหัวเราะ มองหลี่ฝาง:“จางกงหมิงบอกว่าไปแหย่ไม่ได้ ก็คือแหย่ไม่ได้หรือไง?”
คำพูดส้าวส้วยนี้ ดูเหมือนไม่สนใจความหมายของจางกงหมิง
ถ้าจางกงหมิงอยู่นี่ ได้ยินคำนี้ จะต้องสู้กับส้าวส้วยแน่นอน
แน่นอนว่า จางกงหมิงสู้ส้าวส้วยไม่ได้อยู่แล้ว
“เจ้านาย คุณวางใจเถอะ ถึงผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหยสง ก็ยังมีลูกพี่ไม่ใช่เหรอ?”นิ่งไป ส้าวส้วยจึงพูดเสริม
หลี่ฝางรู้อยู่แล้ว ลูกพี่จากปากของส้าวส้วย นั่นก็คือพ่อของตัวเอง หลี่ต๋าคาง
พูดแบบนี้ พ่อของตัวเองก็เจ๋งกว่าส้าวส้วย
ได้ยินดังนี้ ในใจของหลี่ฝาง ก็เหมือนกับสบายใจมากขึ้น
สวีเถิงเฟยตอนนี้ มีใบหน้าลำบากใจ
เขายืนอยู่ตรงหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง ก้มหน้าลง เหมือนกับเด็กคนหนึ่งที่ทำผิด
ผู้หญิงคนนี้ หน้าตาเย้ายวนเซ็กซี่มาก
ตาเฉี่ยวๆทรงสุนัขจิ้งจอก คิ้วทรงใบหลิว จมูกคมๆ หน้าตาดีมาก แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของจิ้งจอก
สวีจื่อเม่ย เธอคือพี่สาวของสวีเถิงเฟย และก็เป็นภรรยาของหูเฟย
เธอมาที่สถานตากอากาศด้วยเช่นกัน และก็รู้เรื่องทุกอย่างในห้องสมุด
สวีจื่อเม่ยมองสวีเถิงเฟยอย่างเย็นชา กัดฟันพูด:“พูดมา ไม่ขายขี้หน้าเหรอไง?ไปเป็นม้านั่งให้คนอื่น ต่อหน้าคนตั้งมากมายขนาดนั้นน่ะ”
“ถึงคุณไม่อาย คุณก็ต้องคิดถึงพวกเราทั้งตระกูลสวีด้วย คุณรู้ไหม คุณเป็นตัวแทน ของพวกเราตระกูลสวีน่ะ”
สวีจื่อเม่ยพูดไป ก็สูดหายใจลึกๆ:“เยี่ยมไปเลย หน้าของตระกูลสวี ถูกคุณทำขายขี้หน้าไปหมดแล้ว”
“นี่ถ้าให้พ่อรู้ เราไม่โดนพ่อโกรธตายเลยเหรอไง?”
สวีจื่อเม่ยกลอกตาใส่สวีเถิงเฟยอย่างเย็นชา:“บอกฉันมา คนที่รังแกคุณ ชื่ออะไร?”
“พี่ เรื่องนี้ พี่อย่ายุ่งเลย ผมจัดการเอง”สวีเถิงเฟยพูดอย่างหดหู่
“คุณจัดการได้?คุณจะจัดการโดยไปเป็นม้านั่งให้เขานั่งเหรอไง?”สวีจื่อเม่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
สวีเถิงเฟยหมดหนทาง พี่สาวตัวเองนี้ จะยุ่งให้ได้ แล้วตัวเองจะทำไง?
“รังแกผมสองคนนั้น คนหนึ่งชื่อหลี่ฝาง อีกคนชื่อส้าวส้วย”สวีเถิงเฟยพูดอย่างสบายๆ
สวีจื่อเม่ยได้ยินชื่อแปลกๆนี้ จึงถาม:“หลี่ฝาง?ส้าวส้วย?สองคนนี้ทำไมไม่เคยได้ยินเลยล่ะ!”
“ไม่ใช่คนท้องถิ่นเมืองเอกสินะ?”สวีจื่อเม่ยถาม
“ไม่ใช่ เขาทั้งสองคนคือคนที่มาจากตงไห่”สวีเถิงเฟยพูด
“เป็นใครมาจากไหน ไปถามมายัง?”สวีจื่อเม่ยถามต่อ
“ถามมาแล้ว ตอนแรกคิดว่าเป็นลูกคนรวย สุดท้ายไปถามๆมาถึงรู้ว่า ก็แค่คนจนสองคน แต่ ส้าวส้วยนั่นสู้เก่งมาก เหยโก่วก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
ครั้งที่แล้วที่สถานตากอากาศ สวีเถิงเฟยแอบได้ยินหลี่ฝางกับลู่หลุ่ยคุยกัน ก็ยังคิดว่าพ่อของหลี่ฝางเป็นคนที่ยอดเยี่ยม
สุดท้ายพอถามมาถึงได้รู้ว่า ก็แค่คนแชร์ลูกโซ่
ตอนนั้น สวีเถิงเฟยจึงเข้าใจว่า ตัวเองจะต้องมองผิดพลาดแน่
หยกจักรพรรดิ์สีเขียวนั่น จะต้องเป็นของก๊อบปี้เกรดสูงแน่
ยังไง คนที่เคยทำแชร์ลูกโซ่ ก็ชอบซื้อของปลอมให้คนอื่นอยู่แล้ว หรือแต่งตัวให้ตัวเอง เพื่อให้มีหน้า
สวีเถิงเฟยเห็นคนแชร์ลูกโซ่มาไม่น้อย ภายนอกขับBMW เบนซ์ แต่ที่จริงแล้ว ก็แค่ยืมมา
“เหยโก่ว?คือน้องชายของเหยสง?”สีหน้าของสวีจื่อเม่ย เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอก็รู้จักเหยสงกับเหยโก่วสองพี่น้องนี้ว่า ฝีมือไม่เลว
“ใช่”
“ถือว่าตัวเองสู้ได้ จึงรังแกคนของพวกเราตระกูลสวี……ฉันว่า สองคนนี้ไม่อยากอยู่แล้วมั้ง!”สวีจื่อเม่ยยิ้มอย่างดูถูก ใบหน้ามีความร้ายกาจปรากฏ
“พี่ ผมว่าพวกเรารอก่อนดีกว่า ……”สวีเถิงเฟยเวลานี้พูด
“ยังต้องรออะไรอีก?เขาเห็นคุณเป็นม้านั่งไปแล้ว ถ้าตระกูลสวีของเราไม่เอาความน่าละอายนั้นคืนกลับมา ต่อไปจะมีหน้าไปเจอผู้คนได้ไง?”สวีจื่อเม่ยจ้องสวีเถิงเฟย
“พี่ พี่ได้ยินมาแค่ว่าผมไปเป็นม้านั่งให้คนอื่น ไม่ได้ยินเรื่องที่หวางเฉินถูกพวกเขาหักขาเหรอ?”สวีเถิงเฟยหัวเราะในลำคอ
“เทียบกับหวางเฉินแล้ว ผมโชคดีกว่าเยอะ ……หวางเฉินไม่ใช่แค่ถูกส้าวส้วยหักขา แต่ที่หน้า ยังถูกตบตีจนยวมเหมือนหัวหมูด้วย”สวีเถิงเฟยพูดอย่างรู้สึกสะใจ
“มีเรื่องแบบนี้ด้วย?หรือพวกเขาไม่รู้ว่าพ่อของหวางเฉินคือเหยสง?”
“เขาสองคนคือคนตงไห่ จะไปรู้จักเหยสงได้ไง!ถ้ารู้ เขาสองคนคงตกใจแย่”
สวีเถิงเฟยพูดขำๆ:“ดังนั้น ผมว่าไม่ต้องให้พวกเราลงมือหรอก เขาสองคนก็ตายแน่นอน”
“มันก็ไม่ได้ เหยสงคิดบัญชีของเขา พวกเราต้องคิดบัญชีของเรา ……”สวีจื่อเม่ยพูดยืนหยัด
“พอแล้ว ปาร์ตี้ของคืนนี้ คุณไม่ต้องเข้าร่วม ดูโทรศัพท์ที่ห้องละกัน”สวีจื่อเม่ยเตรียมออกไป
“ทำไมล่ะ?พี่!”
สวีเถิงเฟยร้อนใจทันที ยังไง งานเลี้ยงคืนนี้ ก็มีดาราจำนวนมากมาร่วมงาน
สวีเถิงเฟยไม่สนใจดาราชาย แต่สำหรับดาราสาว เขาสนใจมากๆ
จากการที่เป็นคุณชายของตระกูลสวี ถึงจะจีบดาราสาวระดับเบอร์ต้นๆไม่ได้ แต่พวกดาราที่อยู่ระดับสามคุณภาพปานกลางๆ ก็สามารถจีบมาได้หน่อย
สวีเถิงเฟยนางแบบเซ็กซี่แล้ว แต่ไม่เคยเล่นกับพวกดารา
จุดประสงค์ที่เขามาสถานตากอากาศ ก็เพื่อสิ่งนี้
ตอนนี้ สวีจื่อเม่ยกลับบอกเขา……ห้ามให้เขาไป ให้อยู่แต่ในห้อง……เขาจะยอมได้ไง?
“ทำไม ยังขายขี้หน้าไม่พออีกเหรอ?ตอนนี้เรื่องของคุณ รู้ไปทั่วในแวดวงหมดแล้ว คืนนี้ถ้าคุณไปได้อับอายไปหมดทุกคนแน่”สวีจื่อเม่ยกลอกตาใส่สวีเถิงเฟย พูดว่า:“ฉันก็ทำเพื่อคุณหรอก”
“แน่นอน แค่คุณไม่กลัวอับอายขายหน้า จะไปเข้าร่วมก็ไป”สวีจื่อเม่ยพูดอย่างหมดคำพูด
พอสวีจื่อเม่ยไป สีหน้าของสวีเถิงเฟย ก็หดหู่
ห้องสมุดวันนี้ ถึงจะไม่มีคนในแวดวง แต่เรื่องดีๆไม่มีใครมาพูดถึงหรอก มีแต่จะป่าวประกาศเรื่องแย่ๆไปทั่ว ……
หนึ่งคนพูดต่อไปเป็นสิบ สิบคนก็พูดต่อไปเป็นร้อย ยังไงคนในแวดวงก็ต้องได้ยิน
“หลี่ฝางสมควรตาย แล้วก็ส้าวส้วย……ไม่ช้าก็เลวสักวัน ผมจะทำลายศพพวกคุณให้สิ้นซาก!”สวีเถิงเฟยอยู่ในห้องของตัวเอง และพูดกับตัวเอง
สวีจื่อเม่ยออกไปจากห้องของสวีเถิงเฟย หน้าประตูมีชายชุดสูทคนหนึ่ง แล้วจึงรีบตามเข้าไป
“ซุนจิ้น ฉันถามคุณนะ คุณรู้จักเหยโก่วไหม?”สวีจื่อเม่ยหันไปมองชายชุดสูท แล้วถาม
“รู้จักครับ น้องชายของเหยสง”ชายชุดสูท ก็คือซุนจิ้น พยักหน้าพูด
“งั้นคุณกับเหยโก่ว ใครเจ๋งกว่ากัน”สวีจื่อเม่ยถามต่อ
ซุนจิ้นเงียบไปเล็กน้อย
ซุนจิ้นนี้ เดิมทีเป็นผู้ดูแลของสำนักศิลปะการต่อสู้แห่งหนึ่ง ก็แค่ตอนนี้มีผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้น้อยลง สำนักศิลปะการต่อสู้มีผู้เรียนได้ไม่กี่คน ขาดทุนจึงต้องปิดไป
ต่อมา ซุนจิ้นจึงมาพึ่งพิงตระกูลสวี เป็นบอดี้การ์ดของสวีจื่อเม่ย
ตระกูลสวีก็ใจกว้าง เดือนหนึ่งให้ค่าแรงซุนจิ้นสามหมื่นหยวน ค่าตอบแทนนี้ มากกว่าบอดี้การ์ดทั่วไป เป็นสามเท่า
แน่นอนว่า นี่ก็เกี่ยวข้องกับฝีมือของซุนจิ้นด้วย
บอดี้การ์ดธรรมดาๆนี้ จะเจ๋งได้ครึ่งหนึ่งไปกว่าซุนจิ้นได้ไง?
“ถามคุณอยู่นะ เป็นใบ้เหรอไง?”สวีจื่อเม่ยโกรธหน่อยๆ
“ถึงผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหยสงพี่ชายเขา แต่เผชิญหน้ากับเหยโก่ว ก็มีโอกาส 80% ที่จะชนะ”ซุนจิ้นเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนสวีจื่อเม่ยรู้ดี
ซุนจิ้นบอกว่ามีโอกาส 80% เท่ากับว่า เหยโก่วสู้ผมไม่ได้
พอสวีจื่อเม่ยได้ยิน มุมปากก็ยิ้ม:“ไม่เลว ตระกูลสวีเลียงคุณมาตั้งนาน ถึงเวลาที่จะให้คุณตอบแทนแล้ว”
ซุนจิ้นรีบพูด:“ผมได้ยินว่า คุณชายน้อยถูกคนรังแก?”
สวีจื่อเม่ยสีหน้าเปลี่ยนไป อึดอัดหน่อยๆ ยังไง เรื่องที่น้องชายตัวเองถูกคนเห็นเป็นม้านั่ง ถูกนั่งขี่ใต้เป้า สำหรับทั้งตระกูลสวีแล้ว ถือเป็นเรื่องน่าละอายมากๆเรื่องหนึ่ง
สวีจื่อเม่ยคิดไม่ถึงว่า แม้แต่ซุนจิ้นที่ไม่ชอบฟังเรื่องนินทามาตลอด ก็จะรู้
เห็นได้ว่า เรื่องแพร่ออกไปเร็วมาก
“ในเมื่อคุณรู้ งั้นฉันก็จะไม่ปิดบังคุณ มีคนรังแกเถิงเฟยจริงๆ เขาไปหาส้าวส้วย คุณเอาขาของเขาทั้งคู่ หักมาให้ฉันซะ”สวีจื่อเม่ยพูดอย่างเย็นชา
เรื่องแพร่ออกไปเร็ว แก้คืนนั้น ก็ต้องเร็วด้วย
แค่ในเวลาที่เร็วที่สุดนี้ เอาขาทั้งคู่ของส้าวส้วยมาตัด ถึงจะคืนหน้าให้ตระกูลสวีได้
ถ้าส้าวส้วยอยู่ดีไม่เป็นอะไร คนนอกจะพูดได้ว่า:คุณดูสิ เขาขี่คุณชายสวีไว้ใต้เป้า แต่ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ……ดูเหมือนว่า คนตระกูลสวีจะไปแหย่ได้แหละ
สวีจื่อเม่ยไม่อยากได้ยินแบบนี้ เธออยากเห็นขาทั้งคู่ของส้าวส้วยถูกตัด……
แบบนี้ คนอื่นรู้ ……ก็จะพูด:วันนี้คนที่รังแกคุณชายสวี ขาถูกตัดไปทั้งคู่……น่าเวทนามาก
ถึงตอนนั้น ทุกคนก็จะรู้ ตระกูลสวี ไม่ได้รังแกง่ายขนาดนั้น
รังแกคนตระกูลสวี จะต้องเอาคืนอย่างสาสม
“เรื่องจะชักช้าไม่ได้ ตอนนี้คุณไปเถอะ”สวีจื่อเม่ยพูดกับซุนจิ้น
ซุนจิ้นลังเล จึงถาม:“งั้นคุณหนูใหญ่……ความปลอดภัยของคุณล่ะ?”
“ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของฉัน”
สวีจื่อเม่ยพูด:“พนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานตากอากาศไม่เลวเลย”
“แค่ฉันไม่ไปที่ที่มีคนน้อย ก็จะไม่มีปัญหาใดๆ”สวีจื่อเม่ยพูดจบ จึงเอารูปส้าวส้วยกับหลี่ฝาง ส่งให้ซุนจิ้น
“งั้นผมไปนะ คุณหนูใหญ่”ซุนจิ้นจึงออกเดินทาง
“อ้อใช่ จำไว้ว่า อย่าลงมือในที่ที่มีคนเยอะ พยายามหาที่ที่มีคนน้อย”
“ลงมือในห้องของพวกเขาก็ได้”สวีจื่อเม่ยกำชับไป
ซุนจิ้นพยักหน้า หายไปกับความมืดระหว่างนั้น
ความมืด เป็นคืนที่ดีที่สุดกับการฆาตกรรมคน
ถึงแม้ซุนจิ้นทำเช่นนี้ ไม่ใช่เพื่อฆ่าคน แต่ก็ถือว่าโหดร้าย
หักขาทั้งคู่ของคนอื่น ก็ต้องรับผิดชอบทางอาชญากรรมที่ทำ
แต่ ซุนจิ้นไม่กลัวสักนิด หนึ่งคือสามีของสวีจื่อเม่ย นั่นก็คือหูเฟย
สองคือตระกูลสวีที่มีครอบครัวและธุรกิจขนาดใหญ่ อำนาจก็ใหญ่ด้วย ช่วยพวกเขาทำงาน หากเกิดเรื่อง พวกเขาก็จะช่วย
ถึงแม้จะติดอยู่ในคุกสักพัก เรื่องจบ ซุนจิ้นก็จะได้รับรางวัลก้อนโต
……
“สายแล้ว เปลี่ยนชุด ไปร่วมปาร์ตี้ดีกว่า”หลี่ฝางกับส้าวส้วยนั่งอยู่สักพัก ก็พูด
ส้าวส้วยพยักหน้า พูดว่า:“ผมไปกับคุณ”
“คุณไม่เปลี่ยนชุดเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ
“ไม้ตอง เดิมทีผมก็เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของที่นี่ ใส่อะไรก็ได้”ส้าวส้วยพูดอย่างไม่แคร์
ตามหลี่ฝางมา ทั้งสองเข้ามาที่หน้าวิลล่าของ หลี่ฝางด้วยกัน
พอปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ก็เข้ามาในห้อง แล้วหลี่ฝางก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ตัว
จากนั้น หลี่ฝางก็หาอีกตัว ส่งให้ส้าวส้วยที่อยู่นอกประตู:“รูปร่างเราพอๆกัน คุณก็เปลี่ยนหน่อยสิ”
ส้าวส้วยลังเลเล็กน้อย แล้วจึงรับจากมือของหลี่ฝาง
“คุณรอผมก่อนแป๊บหนึ่ง ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้”ส้าวส้วยพูด
ส้าวส้วยเพิ่งเข้ามาในห้องไม่นาน เงาดำร่างหนึ่ง มาที่ตรงหน้าของหลี่ฝาง
คนๆนี้ ก็คือซุนจิ้น
ซุนจิ้นมองหลี่ฝาง จ้องอยู่สักพัก พอมั่นใจว่าคือคนที่ตัวเองต้องมาหา ก็เดินเข้ามา
มองซุนจิ้นเดินเข้ามาใกล้ หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถามว่า:“คุณคือใครน่ะ?