NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 285
บทที่285 การออมมือของส้าวส้วย
หลี่ฝางชัดเจนดี ผู้ชายคนนี้พุ่งเป้ามาที่ตัวเอง
แต่ตัวเองไม่รู้จักเขานี่
“คุณเป็นใครกันแน่?ไม่พูดผมจะเรียกคนมาแล้วนะ”หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชา
ซุนจิ้นไม่พูดไร้สาระใดๆ ตอนที่รีบมาตรงหน้าของหลี่ฝาง จู่ๆเขาก็เร่งความเร็ว พุ่งมาที่หลี่ฝาง
“ห่าเอ๊ย!”
หลี่ฝางตระหนักได้ว่าผิดปกติ จะตะโกนให้ช่วยเหลือ
ยังไม่ทันร้องออกมา ซุนจิ้นก็เตะเข้ามา
หลี่ฝางล้มไปที่กำแพงทั้งตัว รู้สึกว่าที่หน้าอกของตัวเอง เหมือนจะฉีกขาด
“แม่เอ๊ย ไอ้ห่าคุณเป็นบ้าหรือไง เข้ามาตีผมแบบนี้?”หลี่ฝางมองซุนจิ้นอย่างเย็นชา ถามออกไป
ซุนจิ้นไม่พูด เคลื่อนไหวเข้ามา
แต่หลี่ฝางหาโอกาสได้ดี เขารีบลุกขึ้นมา พุ่งเข้าไปที่ ประตูของวิลล่า
“ส้าวส้วย……”
หลี่ฝางพุ่งเข้าไป ร้องเรียกส้าวส้วยเสียงดัง
และเวลานี้เอง ส้าวส้วยถือกางเกงวิ่งออกมา
พอเห็นซุนจิ้น สีหน้าของส้าวส้วย จึงเปลี่ยนไป
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม เจ้านาย?”ส้าวส้วยถือกางเกงไป พร้อมกับเข้ามาตรงหน้าหลี่ฝาง ถามอย่างเป็นห่วง
หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า:“ดีที่ผมวิ่งมาไว ไม่อย่างนั้น ถูกผู้ชายคนนี้ทำร้ายตายห่าแน่”
หลี่ฝางหาโซฟา นอนลง แล้วตัวเองนวดที่หน้าอก
เปิดเสื้อของตัวเอง หลี่ฝางจึงพบว่าจุดที่โดนถีบเขียวหน่อยๆแล้ว
“คุณคือคนที่เอาชนะเหยโก่ว?”
มองส้าวส้วย ซุนจิ้นดูไม่ค่อยเชื่อเล็กน้อย
ยังไง อายุของส้าวส้วย ก็หนุ่มเกินไป ……
ส้าวส้วยพยักหน้า มองสายตาของซุนจิ้น รู้สึกคุ้นๆ ……
ก็แค่ เวลานั้น กลับคิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน ……
“โอเค งั้นผมก็ขอคำแนะนำจากคุณด้วย ……”
ซุนจิ้นมองส้าวส้วย แสดงความคารวะออกมา:“ผู้สืบทอดรุ่นสิบแปดของมวยสิงอี้ ซุนจิ้น ขอคำแนะนำด้วย”
“ส้าวส้วย ผมไม่เคยมีสำนัก”ส้าวส้วยพูดนิ่งๆ
“ไม่มีอาจารย์……”ซุนจิ้นดูไม่ค่อยเชื่อ
“ไม่พูดก็ช่าง”
ซุนจิ้นก็ไม่ได้ถามต่อ เขาเดินเข้ามาโดยตรง ปล่อยหมัดเข้าไป
มวยสิงอี้ รูปแบบหมัดเยอะมาก
การโจมตีของซุนจิ้นนี้ ใช้มวยผ้าว มวยผ้าวนั้นได้เปรียบมากที่สุด นั่นคือแรงของหมัดนั้นมากพอ
ส่วนส้าวส้วย ได้แต่ยิ้มนิ่งๆ พร้อมกับกำหมัดขึ้นมา เดินเข้าไป
“อยากตาย?”
ซุนจิ้นเห็นการสู้กลับของส้าวส้วย ตอนนั้นมุมปากก็พ่นคำออกมาสองคำ
มวยผ้าวของเขาทรงพลังมาก เมื่อมองไปรอบๆแล้ว ที่เมืองเอกมีปรมาจารย์ไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าเผชิญหน้าหมัดนี้ ทุกคนต่างเลือกที่จะหลี่กเลี่ยง
ซุนจิ้นคิดในใจ:ผู้ชายวัยรุ่นคนนี้ หยิ่งยโสมาก
เดิมที เขายังคิดว่าส้าวส้วยเอาชนะเหยโก่ว เป็นคู่ต่อสู้ที่หายาก วันนี้ก็จะได้สู้สนุกๆแล้ว
ใครจะไปรู้ว่า ส้าวส้วยจะไม่รู้จักเป็นตายร้ายดีได้ขนาดนี้
ซุนจิ้นคิดว่า หมัดนี้ ส้าวส้วยจะมีเปอร์เซ็นต์มากที่จะพ่ายแพ้
สองหมัดปะทะกัน เสียงดังตุบขึ้นมา
ซุนจิ้น ถอยหลังไปสามก้าว
ส่วนส้าวส้วย กลับยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับสักนิด
“อะไร?”
ซุนจิ้นรู้สึกว่ากำปั้นของตัวเอง ชาขึ้นมา
เขาคิดไม่ถึงว่า การเผชิญหน้าครั้งนี้ ตัวเองจะตกม้าตายได้
“จะเป็นไปได้ไง?”
ซุนจิ้นกลืนน้ำลาย มองซุนจิ้นที่มีสีหน้านิ่งเรียบ พร้อมกับความน่ากลัว
“มาอีกรอบ”
ซุนจิ้นไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เขาโจมตีไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เขาไม่ได้ใช้มวยผ้าว
แต่ใช้มวยสิงอี้สิบสองท่า
ที่เรียกว่ามวยสิงอี้สิบสองท่า ก็เพราะมีสัตว์สิบสองอย่าง ร่วมกันสร้างท่าหมัดนี้ออกมา
มังกร งู เสือ นกกระเรียน……เป็นต้น
วิธีการของมวยนี้ไม่อาจคาดเดาได้ ถ้าเรียนได้จนสุดยอดแล้ว ก็มีคนไม่มากนักที่จะสามารถหยุดมันได้
ส่วนซุนจิ้น เรียนมาสามสิบปีเต็มๆ
เขาเกิดมาจากตระกูลมวยสิงอี้ ฝึกตั้งแต่เด็ก สามสิบปีที่ฝึกมาอย่างลำบาก ในที่สุดก็ทำให้เขาสำเร็จในมวยสิงอี้สิบสองท่าได้อย่างยอดเยี่ยม
มวยสิงอี้สิบสองท่า เขาทำได้อย่างคุ้นเคยดี
พอมาถึงตรงหน้าส้าวส้วย เขาก็เริ่มโจมตี
หมัดสิบสองชนิด ไม่หยุดเปลี่ยน หมัดมังกรสักพัก หมัดงูอีกสักพัก……
ส้าวส้วยหรี่ตา เขาจ้องหมัดซุนจิ้นเขม็ง ไม่กล้าละเลย
ตอนเริ่ม ส้าวส้วยได้แต่ป้องกัน
แต่ไม่ถึงหนึ่งนาที ความเร็วของซุนจิ้น ก็ช้าลง
เขาตื่นตระหนกขึ้นเรื่อยๆ เขาคิดไม่ถึงว่า……จะมีคนสามารถหยุดการโจมตีทุกอย่างของเขาได้
ทำให้ในใจของซุนจิ้น รู้สึกพลังทลายลงเล็กน้อย
ซุนจิ้นในตอนนี้ ในใจมีคำตอบแล้ว ตัวเอง ……ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ชายตรงหน้านี้เลย
แม้ว่า คู่ต่อสู้ของตัวเองจะอายุแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้น
แต่ ซุนจิ้นยังคงไม่ยอมแพ้การโจมตี ยังไง ตระกูลสวีก็เลี้ยงเขามาตั้งหลายปี เขาจะทำให้ตระกูลสวีผิดหวังได้ไง?
จู่ๆ ส้าวส้วยก็ขมวดคิ้ว เขายื่นมือออกไป แขนเหมือนงูตัวหนึ่ง จับแขนของซุนจิ้น วนไปรอบๆ
“จะสู้อีกไหม?”
วนไปรอบหนึ่งเสร็จ มือของส้าวส้วย จับคอของซุนจิ้นไว้ แล้วก็ปล่อยออกอีก
เวลานี้ ซุนจิ้นสูดหายใจลึกๆ
“คุณ……ทำไมคุณถึงออมมือกับผม?ที่จริง ถ้าคุณรีบลงมือหน่อย ผมแพ้ไปนานแล้ว”ที่จริงซุนจิ้นรู้ว่าพอตัวเองช้าลง สิ่งบกพร่องของตัวเองก็จะเปิดเผย
ซุนจิ้นรู้ดี:
จากการตอบสนองที่รวดเร็วของส้าวส้วย ในเมื่อเขาสามารถป้องกันการโจมตีทุกอย่างของตัวเองได้ในจุดสูงสุดของตัวเอง และก็ตอนที่ตัวเองเสียหลัก ช้าลง ก็สามารถโจมตีตัวเอง ทำตัวเองแพ้ได้
“เหอะๆ……ที่ผมไม่ได้โจมตีใส่คุณ ก็เพราะว่าผมเคารพพ่อคุณ……”ส้าวส้วยหัวเราะ พูด
“คุณรู้จักพ่อผม?”ซุนจิ้นตกใจหน่อยๆ ยังไงส้าวส้วยก็ยังยี่สิบต้นๆ ส่วนพ่อของตัวเอง ใกล้จะหกสิบแล้ว
“ใช่ ตอนนั้นที่ชีวิตผมตกอับใช้ชีวิตข้างถนน เคยผ่านสำนักศิลปะการต่อสู้ที่หนึ่ง ……ถึงแม้ธุรกิจของสำนักศิลปะการต่อสู้จะไม่ดีนัก แต่คนดูแลกลับใจดี มักจะให้ผมเข้าไปกินข้าว ……”
“ถึงจะเป็นแค่อาหารพื้นๆทั่วไป แต่ก็ช่วยให้ผมอุ่นอิ่มประทังชีวิตได้ ……”
“คุณหน้าเหมือนพ่อคุณมาก หลายวันก่อน ผมยังไปเยี่ยมเยียนเขา เขาเป็นผู้สืบทอดรุ่นสิบเจ็ดของมวยสิงอี้ ส่วนคุณ คือรุ่นสิบแปด”
“เขาเคยพูดถึงคุณกับผม เขาอยากให้คุณสืบทอดทักษะของเขาต่อไปมาก เอาสำนักมวยของมวยสิงอี้ เปิดต่อไป แต่คุณ เปิดไปได้แค่แป๊บเดียว ก็ไปเป็นที่ตระกูลสวีเป็นบอดี้การ์ดติดตัวของคนตระกูลสวี”ส้าวส้วยพูดนิ่งๆ
“พูดถึงแล้ว พวกเราก็ถือว่าเป็นพี่น้องกัน ตอนผมยังเด็ก ก็เคยเรียนกับพ่อคุณมาบ้างไม่กี่วัน”ส้าวส้วยหัวเราะ พูดไป
ซุนจิ้นจึงเข้าใจ ว่าทำไมส้าวส้วยถึงออมมือกับเขา
ที่แท้ก็เพราะว่าพ่อของตัวเอง
ได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของซุนจิ้น ก็ละอาย
ทำไมซุนจิ้นถึงไม่อยากเอามวยสิงอี้ของบรรพบุรุษตัวเอง มาพัฒนาเติบโตที่เมืองเอกล่ะ?
ก็แค่ ในสังคมตอนนี้ ยังจะมีใครเรียนมวยอีก?
เมื่อเทียบกับเทควันโดแล้ว มวยสิงอี้ค่อนข้างน่าเบื่อ และใช้เวลานาน
ถึงแม้จะเป็นผู้เรียนศิลปะการต่อสู้โบราณของจีน แต่ จะมีใครให้ความสนใจตรงส่วนนี้ล่ะ?
“สืบทอดทักษะต่อไป?เปิดสำนักศิลปะการต่อสู้?ผมไม่ต้องกินข้าว ไม่ต้องแต่งงานเหรอไง?ถ้าผมฟังพ่อ กลัวว่าตอนนี้ผมยังต้องโสดอยู่แน่ๆ”ซุนจิ้นพูดฟ้อง
“คุณรู้ไหมทำไมคุณสู้ผมไม่ได้?”ส้าวส้วยมองซุนจิ้น แล้วถามนิ่งๆ
“ก็แค่ด้อยไปกว่าคุณ ไม่มีอะไรต้องพูด”ซุนจิ้นพูดด้วยใบหน้าหดหู่
“ที่จริง มวยสิงอี้ของคุณ ทำได้ดีกว่าผม ก็แค่ ผมฝึกมวย ก็เพื่อเอามาฆ่าคน แต่คุณฝึกมวย เอามาเพื่อ ก็แค่ฝึกไปตามแบบนั้น ไม่มีความโหด หลายวันก่อนผมไปหาพ่อคุณ ก็พูดกับเขาเช่นนี้ สำนักศิลปะการต่อสู้ สามารถเปิดต่อไปได้ ก็แค่ ต้องปรับเปลี่ยนหน่อย”
“ที่เจี๋ยฉวนเต้าเป็นที่รู้จักไปทั้งโลก และได้รับชัยชนะไปทั่วโลก ก็เพราะว่าเขาลงมือได้เร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม และให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ ……”
“มวยสิงอี้ ไม่ด้อยไปกว่าเทควันโด ก็แค่ ไม่ต้องไปสนใจความงามของท่า ……ต้องเรียนรู้ที่จะปลดปล่อยพลังของตัวเอง ท่าแบบไหน แรงที่ปล่อยไปนั้นแข็งแกร่งที่สุด แล้วจึงใช้ท่านั้นถึงจะถูก”
ส้าวส้วยพูด:“คุณกลับไปเถอะ”
“กลับไปหาพ่อคุณ ผมจะเงินพ่อคุณก้อนหนึ่ง ให้เขาตั้งสำนักกำลังภายในใหม่อีกครั้ง เขาแก่แล้ว คุณต้องไปช่วยเขา อย่าไปเป็นบอดี้การ์ดขี้หมูขี้หมาให้คนตระกูลสวีอีกเลย”
“ไม่อย่างนั้น……”
พูดไป จู่ๆหมัดของส้าวส้วยก็ทุบไปที่โต๊ะ ทำเอาโต๊ะหักออกเป็นสองครึ่ง:“นี่คือจุดจบของคุณ”
มองเห็นฉากนี้ สีหน้าของซุนจิ้น ซีดขาวทันที
เขายากที่จะจินตนาการ ถ้าตอนนั้นไม่ใช่ว่าพ่อมีเมตตา ให้ข้าวส้าวส้วยกิน จุดจบของตัวเอง จะเป็นยังไง
“แต่ตระกูลสวี……”
“ไม่ต้องสนใจตระกูลสวี……พวกเขาไม่สร้างปัญหาให้คุณแน่”
ส้าวส้วยยิ้มเรียบๆ:“เพราะว่าอีกแป๊บเดียว ตระกูลสวีก็จะไม่อยู่แล้ว