NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 290
บทที่290 มีผมหลี่ฝางอยู่ คุณทำตามอำเภอใจได้เลย
หลี่ซ่วยซ่วยกัดฟันมองแฟนเก่าตัวเอง ไห่เย่น สีหน้านิ่งไปทันที
แค่ช่วงหนึ่งไม่เจอกัน……
ปากของผู้หญิงคนนี้ ร้ายกาจกว่าเมื่อก่อนอีก
และก็เอาใจคนอื่นมากขึ้น
หยิ่นเหล่ยได้ยินคำพูดแบบนี้ ก็หัวเราะเหอะๆ:“ไห่เย่น หรือคุณมองไม่ออก?ที่หลี่ซ่วยซ่วยร้องไห้ ก็เพราะคุณทำร้ายจิตใจเขา”
“อย่าลืมล่ะ คุณคือคนในใจเขา ……”
ไห่เย่นได้ยินคำนี้ ก็ไม่สบายใจอย่างมาก
ไห่เย่นพูดเสียงหม่น:“ก็ไม่ใช่ว่าตอนนั้นตาบอด คิดว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่มีอนาคตเหรอไง?”
“พี่สะใภ้เหล่ย หลี่ซ่วยซ่วยของพวกเราเป็นถึงอันดับหนึ่งทั้งโรงเรียนของโรงเรียนเรา และยังอยู่ในสิบอันดับแรกของทั้งเมืองอีก มากไปกว่านั้นก็ยังเข้ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ที่มีชื่อเสียงในเมืองเอกอีก ไม่แน่อนาคตเรียนจบแล้ว……”
หยุดไปแป๊บหนึ่ง ใบหน้าของจูอีหมิง ก็ปรากฏความร้ายกาจออกมา:“รอเขาเรียนจบมหาวิทยาลัย ก็จะมีโอกาสเข้าไปบริษัทของคุณชายเหล่ย เป็นพนักงานออฟฟิศ ฮ่าฮ่า”
ได้ยินคำนี้ ใบหน้าของหยิ่นเหล่ย ก็มีความพอใจปรากฏออกมา
“ใช่ ถึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ได้แล้วจะมีประโยชน์อะไร?ตอนนี้เป็นอาจารย์ หมอ อย่างน้อยต่างก็ต้องเรียนปริญญาโท มีวุฒิบัตร ได้วุฒิบัตรมา อย่างมากที่สุดก็คือได้งานดีๆ”
“อย่างคุณชายเหล่ย ถึงแม้เขาไม่มีวุฒิบัตร แต่แค่เขาต้องการ ก็เป็นได้ถึงผู้จัดการทั่วไป ……และอนาคตอีกไม่ไกล แม้แต่คณะกรรมการ ล้วนต่างเป็นของคุณชายเหล่ย”ไห่เย่นพูดอยู่ข้างๆ
ใบหน้าของหยิ่นเหล่ย ก็ภูมิใจยิ่งขึ้น
พอถูกคนชมก็รู้สึกภูมิใจ
“วางใจเถอะ รอผมได้เป็นผู้จัดการทั่วไปก่อน วันข้างหน้าของพวกคุณ ก็มาที่ต้าหัว กรุ๊ปได้ ทำหน้าที่ว่างๆ ถึงแม้ไม่มีอะไรให้ทำ ผมก็รับประกันว่าพวกคุณจะได้เงินเดือนเกินหมื่นหยวน”ที่มุมปากหยิ่นเหล่ยยกขึ้น พูดขำๆ
ลูกคนรวยแบบนี้ ถ้าเข้าไปในธุรกิจของครอบครัว ก็เป็นแค่ตัวอ่อนของแมลงวัน
หลี่ฝางคิดว่า ถ้าวันหนึ่งต้าหัว กรุ๊ปตกไปอยู่ในมือของหยิ่นเหล่ย ก็เป็นความตกต่ำของต้าหัว กรุ๊ป เดินไปถึงความล้มละลาย
“ใช่สิ หลี่ซ่วยซ่วย แม่คุณยังเก็บขยะอยู่ไหม เก็บขยะนี้ทั้งวันต้องขี่สามล้อไปมา จะหาเงินได้แค่ไหนเชียว?งั้นให้เธอไปเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ต้าหัว กรุ๊ปไหม จะบอกให้นะ อาคารใหญ่ของต้าหัว กรุ๊ปนี้ มีชักโครกอีกสิบกว่าอันที่ต้องทำความสะอาดพอดี”
“คุณชายเหล่ย พนักงานทำความสะอาดของต้าหัว กรุ๊ป ก็น่าจะได้เงินเยอะกว่าเก็บขยะสินะ?”ไห่เย่นมองหยิ่นเหล่ย แกล้งทำเป็นถาม
ไม่ทันรอหยิ่นเหล่ยตอบ จูอีหมิงก็ชิงพูดก่อน:“แน่นอนสิ ต้าหัว กรุ๊ปนี้ เป็นถึงธุรกิจที่มีอิทธิพลของพวกเรา พนักงานใดๆในด้านใน ถึงแม้จะอยู่ระดับต่ำสุด ถ้ารายได้เทียบกับเก็บขยะไม่ได้ คงไม่ใช่เรื่องน่าขันของผู้คนเหรอไง?”
“งั้นในเมื่อเป็นแบบนี้ หลี่ซ่วยซ่วย คุณรีบขอร้องคุณชายเหล่ย ให้เหล่ยรับแม่ของคุณมาเป็นพนักงานทำความสะอาดของต้าหัว กรุ๊ป”ไห่เย่นมองหลี่ซ่วยซ่วย ยิ้มด้วยใบหน้าร้ายกาจ
หลี่ซ่วยซ่วยในตอนนี้ ใบหน้าดูกระอักกระอ่วน
ไม่ว่าคนๆหนึ่งจะซื่อแค่ไหน แต่พ่อแม่ ก็มักจะเป็นเส้นตายของคนๆนั้น
หลี่ซ่วยซ่วย ก็ไม่ยกเว้น
เวลานี้ หลี่ซ่วยซ่วยกำหมัดขึ้น เขาโมโหแล้ว
เงยหน้าขึ้น หลี่ซ่วยซ่วยมองไห่เย่นกับจูอีหมิงอย่างเยือกเย็น สายตาเย็นชา ใบหน้าโหดเหี้ยม
“หลี่ซ่วยซ่วย คุณจะดุขนาดนี้ทำไม?พวกเราไม่ได้ทำเพื่อคุณเหรอ?ถ้าคุณไม่อยากให้รายได้ของแม่คุณมากขึ้นหน่อย งั้นก็ช่างเถอะ ทำไมต้องใช้สายตาแบบนี้มองพวกเราด้วย?เหมือนจะกินพวกเราเลย”
“พี่สะใภ้ คุณจะกลัวเขาทำอะไร?นอกจากเขาจะใช้สายตาจ้องเรา จะทำอะไรได้อีก?หรือเขากล้าทำร้ายพวกเรา?”
“ผมว่าหลี่ซ่วยซ่วย พนักงานทำความสะอาดของต้าหัว กรุ๊ปนี้ อย่างน้อยก็เป็นงานที่ดี ทำงานที่ต้าหัวแบบนี้ พูดไปจะมีหน้ามากแค่ไหนเชียวนะ ……”
“ถึงจะเป็นคนล้างห้องน้ำ แต่ก็ล้างห้องน้ำให้คนรวยนะ ใช่ไหม หลี่ซ่วยซ่วย?”
จูอีหมิงพูดจบ ที่ตัวของหลี่ซ่วยซ่วย จู่ๆก็ระบายความอัดอั้นทั้งหมดก่อนหน้านี้ออกมาหมด
หลี่ซ่วยซ่วยสูงเกือบร้อยเก้าสิบ สูงกว่าคนที่นี่ทุกคน และระยะห่างก็มาก พอเขาโกรธขึ้นมา ทำให้คนรู้สึกลัวจริงๆ
“ทำไม จะทำให้เราตกใจกลัว?ถ้ากล้านัก คุณก็ลองทำร้ายผมสิ!”จูอีหมิงไม่ค่อยพอใจ ยังไง เขาก็เคยรังแกหลี่ซ่วยซ่วยไม่ต่ำกว่าครั้งเดียว
หลี่ซ่วยซ่วยนี้ กล้าทำตัวปรปักษ์สักครั้งไหม?
แต่ครั้งนี้ จูอีหมิงไม่ช่างไม่ได้
ทันใดนั้นหลี่ซ่วยซ่วยก็พุ่งเข้ามา ปล่อยหมัดไปที่หน้าของจูอีหมิงหนึ่งหมัด
พลังแข็งแกร่งนี้ แรงที่ระเบิดออกไปนี้ ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง
หลี่ซ่วยซ่วย เหมือนกับผู้กล้าแห่งเขาเหลียงซานหลี่ขุย ที่แรงเยอะจนทำเอาตกใจ
หมัดนี้ต่อยไปที่หน้าของจูอีหมิง จนทำให้จูอีหมิงหมดสติล้มไปที่พื้น
จูอีหมิงช็อก
ล้มลงพื้น เหมือนตาย
ส่วนหลี่ซ่วยซ่วย มีสายตาน่ากลัว หันไปมองไห่เย่น พูดเสียงคำรามใส่:“ผมไม่ยอมให้พวกคุณว่าแม่ผม……”
บางทีอาจจะเพราะความรู้สึกเก่า หรือว่าเพราะไห่เย่นเป็นผู้หญิง
หลี่ซ่วยซ่วยไม่ได้ทำอะไรไห่เย่น
เลี่ยวข่ายวิ่งเข้าไป จับช่วงลมหายใจของจูอีหมิง จากนั้นใช้เล็บหยิก จูอีหมิงจึงลืมตาขึ้นมา
จูอีหมิงค่อยๆคลานขึ้นมา มุมปากของเขา ถูกต่อยจนเลือดออก
เขามองหลี่ซ่วยซ่วย สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ฝ่ามือนี้ ทำให้จูอีหมิงเข้าใจหลี่ซ่วยซ่วยใหม่
เขาไม่เคยเห็นด้านที่หลี่ซ่วยซ่วยระเบิดเช่นนี้
หลี่ซ่วยซ่วยหันหน้าไป จ้องจูอีหมิงอย่างเยือกเย็น การจ้องนี้ จูอีหมิงคิดว่าหลี่ซ่วยซ่วยจะต่อยเขาอีก ตกใจจนเขาต้องถอยหลัง
โซเซ ล้มลงพื้น
พลังของหมัดหลี่ซ่วยซ่วย เยอะมาก
แม้แต่พวกหลี่ฝาง ก็ตกใจเช่นกัน
ใครจะไปรู้ หลี่ซ่วยซ่วยที่ปกติดูซื่อๆ พอทำร้ายคนขึ้นมา ก็โหดได้มากขนาดนั้น
ดูเหมือน มีบางคำพูดไว้ถูก อย่าบีบบังคับให้คนซื่อๆหมดหนทาง ไม่งั้นโอกาสที่คุณจะขอโทษก็ยังไม่มี!
หยิ่นเหล่ยนั้น ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
“หลี่ซ่วยซ่วย ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาบ้าคลั่งได้”แต่ หยิ่นเหล่ยถือที่ตัวเองเป็นคุณชาย จึงไม่กลัวอะไรหลี่ซ่วยซ่วยนัก
เวลานี้ หลี่ฝางหัวเราะ พูด:“หลี่ซ่วยซ่วย ไม่ต้องกลัว มีผมสนับสนุนคุณ คุณอยากทำอะไร ก็ทำเลย”
“อยากบ้าคลั่งยังไง ก็บ้าคลั่งไป”
“อยากทำร้ายใคร ก็ทำมันไป”
“ไม่ต้องสนว่าเขาคือทายาทต้าหัว กรุ๊ป หรือว่าบริษัทเสี่ยวหวา หรือว่าคุณชายใหญ่ไร้สาระห่าอะไร คุณอยากตีเขา ก็ตีไป”
หลี่ฝางเดินเข้าไป พูดกับหลี่ซ่วยซ่วย
หลี่ซ่วยซ่วยหันหน้าไป มองหยิ่นเหล่ยอย่างเย็นชา
หลี่ซ่วยซ่วยในเวลานี้ม้าป่าตัวหนึ่งวิ่งหนีออกจากคอก ที่พอไม่มีการผูกมัด เขาก็กลายเป็นคนไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
หลี่ฝางเปิดเผยตัวตนของตัวเองให้หลี่ซ่วยซ่วยแล้ว
ในเมื่อเพื่อนของตัวเอง คือคุณชายแห่งสถานตากอากาศ งั้นพวกเอง ยังต้องกลัวอะไรอีก?
ดังนั้น ในสายตาของหลี่ซ่วยซ่วย ไม่มีความกลัวอีก
ในแววตาของหลี่ซ่วยซ่วย เต็มไปด้วยความโมโห
เขามองหยิ่นเหล่ยกับไห่เย่น พูดอย่างเย็นชา:“ผมทนพวกคุณมานานแล้ว!”
พูดจบ หลี่ซ่วยซ่วยลุกขึ้นเดินเข้ามา หนึ่งหมัดปล่อยไปที่หน้าของหยิ่นเหล่ย หมัดเดียวทำเอาหยิ่นเหล่ยที่อ่อนแอปวกเปียกล้มลงพื้น
หยิ่นเหล่ยเงยหน้าขึ้น มองฉากนี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ
หยิ่นเหล่ยกัดฟัน หยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมา เหมือนเตรียมจะเรียกคน
ส่วนหลี่ฝาง กลับไม่สนใจ
ในเมื่อหยิ่นเหล่ยต้องการเรียกคนมาช่วย งั้นก็ให้เขาเรียกมา
ถ้าต้องการเอาชนะคนๆหนึ่งโดยสิ้นเชิง ก็ต้องโค่นหลังเวทีของเขา แบบนี้ เขาถึงจะหมดหวังโดยสิ้นเชิง
ดังนั้น หลี่ฝางไม่ได้เข้ามาห้ามไว้ และก็ไม่ได้ให้พวกหลี่ซ่วยซ่วย หวางเสี่ยวโก๋ เข้าไปห้าม
“ชายหญิงสารเลวอย่างพวกคุณ จะรังแกผมไปถึงไหนกันแน่?”
หลี่ซ่วยซ่วยมองหยิ่นเหล่ยกับไห่เย่น แล้วพูด:“ผมทำผิดอะไรกันแน่?พวกคุณถึงได้มาหาเรื่อง มาตรงหน้าผม เพื่อทำให้ผมละอาย เยาะเย้ยผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า!”
“ผมไม่เคยทำเรื่องอะไรที่เคยทำร้ายพวกคุณ ทำไมพวกคุณกลับมาทำร้ายผมซ้ำๆแบบนี้ล่ะ?”
ชี้ไปที่จมูกของไห่เย่น หลี่ซ่วยซ่วยถามเสียงดัง:“ผู้หญิงเลวอย่างคุณ แพศยาที่เห้นแก่ผลประโยชน์จนไม่คำนึงถึงคุณธรรม คุณทิ้งผม ผมไม่ว่าคุณ แต่ทำไมคุณต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีผม หาว่าฉันไร้ความสามารถ!”
“ปฏิเสธปัจจุบันของผมก็พอแล้ว ยังจะมาปฏิเสธอนาคตของผมอีก …… คุณมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินว่าผมเรียนจบแล้วจะไม่มีความสำเร็จใดเป็นชิ้นเป็นอัน!”
“ผม!”
หลี่ซ่วยซ่วยยกแขนขึ้น ตอนที่ยื่นออกไปจะทำร้ายไห่เย่น กลับหยุดลง
แขนลอยอยู่กลางอากาศ เขาทนไม่ไหวเล็กน้อย
เสียงดังแปะ หลี่ฝางเดินเข้ามา ฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าไห่เย่น อย่างเรียบง่ายตรงๆ
“ในเมื่อคุณทำไม่ลง งั้นให้ผมจัดการเอง”หลี่ฝางพูดยิ้มๆ