NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 299
บทที่ 299 คุณชายหลี่คือใคร?
เห็นได้ชัดว่า ส้งเคอและคนอื่นๆ ไม่เต็มใจที่จะลงมือกับสวีเถิงเฟย
แต่ท่าทีของหลี่ฝางก็ชัดเจนมากเช่นกัน หากไม่จัดการกับสวีเถิงเฟย มิตรภาพที่พึ่งตกลงกันไว้ ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ปัญหาหนักเบา หลายคนพิจารณาอย่างรอบคอบ
ในท้ายที่สุด ส้งเคอก็กัดฟัน และพูดก่อน “แม่งเอ้ย ผมก็อยากต่อยสวีเถิงเฟยไอ้หมอนั่นตั้งนานแล้ว”
“เขาหลอกใช้พวกเราทุกวัน คิดว่าพี่น้องของเราเป็นคนโง่เขลา?”
ขณะที่ส้งเคอพูด ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆชื่อหวงเจ๋ ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ใช่สิ สิ่งที่เกลียดที่สุดคือคราวนี้ ถึงกับให้พวกเรามาหาเรื่องคุณชายหลี่”
“เขาต้องการให้พวกเราพี่น้องตาย!” หวงเจ๋ก็พยักหน้า และเห็นด้วย
ตามด้วยส้งเคอ หวงเจ๋และคนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วย และอีกหลายคน ก็มีคำตอบอยู่ในใจเช่นกัน
ในเมื่อทุกคนลงมือด้วยกัน ก็ไม่ต้องกลัวการแก้แค้นของตระกูลสวี
ถ้ามีอะไรผิดพลาด ทุกคนก็แบกรับพร้อมกัน แม้ว่าตระกูลสวีจะเก่งแค่ไหน ก็ต้องไปชำระบัญชีแค้นทีละตระกูล?”
ตระกูลส้ง ตระกูลหวง ตระกูลเฝิง… … รวมกัน ตระกูลสวีแม้จะโกรธก็ต้องอดกลั้นเอาไว้
“คุณชายหลี่ พวกเราจะไปช่วยคุณระบายความแค้น” ส้งเคอพูดอย่างดุเดือด
หลี่ฝางพยักหน้า โบกมือ และพูดว่า “ไปเถอะ”
“คุณชายหลี่ คุณก็อยู่รอดูที่นี่” หวงเจ๋พูดตาม
เมื่อเทียบกับหลี่ฝางแล้ว สวีเถิงเฟยไม่มีคุณค่าอะไร?
หวงเจ๋ และส้งเคอ กับสวีเถิงเฟย มีสถานะครอบครัวใกล้เคียงกัน
แต่เมื่อเทียบกับหลี่ฝางแล้ว มันก็ต่ำกว่าหลายระดับ
ทอดทิ้งคนอย่างสวีเถิงเฟย แต่ได้เพื่อนอย่างหลี่ฝางทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง ส้งเคอหวงเจ๋และคนอื่นๆ ทุกคนรู้สึกว่าเหมือนได้กำไรมากมาย
ในเวลานี้สวีเถิงเฟย กำลังนั่งอยู่บนโซฟา มือข้างหนึ่งถือแก้วแชมเปญ อีกข้างหนึ่งจับมือเรียวยาวของดาราสาวที่ยังไม่ค่อยดังมาก กำลังช่วยดูดวง
บนใบหน้าของสวีเถิงเฟย ทำตัวเหมือนหมอดูข้างถนน ท่าทางเจ้าเล่ห์
ดาราหญิงคนนี้ ชื่อหรงหรง ถ่ายละครออนไลน์และได้รับความนิยม พึ่งมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้าง
“คุณชายสวี ท่านยังดูไม่เสร็จอีกเหรอ” หรงหรงอยากดึงตัวเองเธอกลับ
มีคนรู้จักมากมายในงานปาร์ตี้ ถ้าพวกเขาเห็น อาจทำให้เข้าใจผิดได้?
อีกอย่าง สถานตากอากาศแห่งนี้ได้เชิญสื่อมวลชนมากมาย หากโดนถ่ายรูป อาจถูกเขียนข่าวซุบซิบให้เป็นเรื่องน่าอับอาย
แต่สวีเถิงเฟยกำมือของหรงหรง ดูภายนอกเหมือนกำลังดูดวง แต่ในความเป็นจริงกำลังแต๊ะอั๋ง
“เฮ้อ แสงไฟที่นี่ไม่พอ หรือว่าสักครู่เธอไปที่ห้องของผม พวกเราจะเปิดไฟให้สว่างกว่านี้ ให้ผมดูให้ชัดเจน?” สวีเถิงเฟยเลิกคิ้วและถาม
ถ้าเป็นเมื่อก่อนก่อนที่เธอจะดัง สวีเถิงเฟยถูกใจเธอ ไม่แน่หรงหรงอาจจะเห็นด้วย
แต่ตอนนี้หรงหรงกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เธอคงจะไม่โง่พอที่ดึกดื่นจะเดินเข้าไปในห้องนอนของสวีเถิงเฟย ถ้าถูกคนอื่นถ่ายภาพ บนเส้นทางวงการบันเทิง จะต้องพังพินาศ
ยิ่งไปกว่านั้น สวีเถิงเฟยไม่ต้องเสียเงินสักบาท แม่งเอ้ยคิดได้ไง!”
หรงหรงรู้สึกน่าเบื่อเล็กน้อย ดึงมือตัวเองกลับมา และพูดว่า “คุณชายสวี ฉันเห็นเพื่อนๆของฉัน ขอตัวก่อนค่ะ
สวีเถิงเฟยไม่ใช่ผู้กำกับใหญ่ และตระกูลของเขาไม่ได้เปิดบริษัทภาพยนตร์
หรงหรงไม่สนใจสวีเถิงเฟยอยู่แล้ว
ในเวลานี้ สวีเถิงเฟยเห็นส้งเคอหวงเจ๋และคนอื่นๆกลับมา
“ยังไม่ต้องไป เพื่อนของผมกลับมาแล้ว ผมจะแนะนำเพื่อนให้คุณรู้จัก” สวีเถิงเฟยชี้ไปที่หวงเจ๋และพูดว่า “เห็นไอ้หนุ่มนั่นไหม? ตระกูลของเขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ต้ามู่ ชื่อหวงเจ๋ เป็นน้องชายของผม”
ดวงตาของหรงหรงเปล่งประกายขึ้น จ้องมองหวงเจ๋ และแสดงท่าทางยั่วยวนเล็กน้อย
ในวงการบันเทิงนอกเหนือจากความสามารถส่วนตัว และทักษะการแสดงแล้ว ยังต้องดูที่ทุนทรัพย์
และสิ่งที่เรียกว่าทุนทรัพย์ มาจากผู้กำกับ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่… …
และการมาร่วมงานปาร์ตี้ครั้งนี้ของหรงหรง เพื่อทำความรู้จักกับผู้กำกับรุ่นใหญ่ หรือคุณชายที่ร่ำรวย และดีที่สุดคือตระกูลที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์โดยตรง
เมื่อเห็นหวงเจ๋มา ทันใดนั้นหรงหรงก็ไม่อยากไปไหน
“คุณชายสวี งั้นอีกสักครู่ช่วยแนะนำให้ฉันรู้จักหน่อย” หรงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่มีปัญหา”
สวีเถิงเฟยพร้อมรับผิดชอบ ลุกขึ้นยืน และโบกมือให้หวงเจ๋ที่กำลังจะมาถึง “เสี่ยวหวง พี่จะแนะนำสาวสวยให้นายรู้จัก… …”
ทันทีที่สวีเถิงเฟยพูดจบ หวงเจ๋ก็มาถึงตรงหน้าสวีเถิงเฟย
“แม่งเอ้ยเรียกใครว่าเสี่ยวหวงวะ!”
ขณะที่หวงเจ๋พูด ยกขาขึ้นและเตะสวีเถิงเฟย เตะล้มลงบนโซฟา “กูชื่อหวงเจ๋ ไม่ใช่เสี่ยวหวง เสี่ยวหวง เสี่ยวหวง แม่งเอ้ยเรียกสุนัขเหรอ”
สวีเถิงเฟยตกตะลึงชั่วขณะ หวงเจ๋คนนี้ทำไมมีอารมณ์ฉุนเฉียวขนาดนี้!
“หวงเจ๋ นายบ้าไปแล้วเหรอ พอมาก็ตีฉัน!!” สวีเถิงเฟยขมวดคิ้ว โกรธขึ้นมา
“ส้งเคอ หวงเจ๋เป็นอะไร กินยาผิดหรือเปล่า?” สวีเถิงเฟยเงยหน้าขึ้นชำเลืองมองส้งเคอ และถาม
ส้งเคอยิ่งเป็นคนตรงไปตรงมา พอมาถึงก็ดึงคอเสื้อของสวีเถิงเฟย กำหมัดแน่น และต่อยไปที่ใบหน้า “ไอ้บ้าเอ้ย นายยังมีหน้ามาถามพวกเราว่าเกิดอะไรขึ้น? ในใจของนายไม่รู้เลยเหรอ?”
“กูปฏิบัติต่อนายเหมือนพี่น้อง แต่นายกลับใช้พวกเราเหมือนไอ้โง่?
ส้งเคอจ้องมองสวีเถิงเฟยอย่างเย็นชา และขณะที่พูด ก็ชกเขาอีกหมัดหนึ่ง
“สวีเถิงเฟย ไอ้ชั่ว พวกเราไปล่วงเกินนายเหรอ ทำไมนายต้องทำร้ายพวกเรา”
“โชคดีที่คุณชายหลี่เป็นคนใจกว้าง ไม่อย่างนั้น พวกเราจะต้องถูกคนชั่วอย่านายทำร้ายจนตาย”
“ใช่ นายไปล่วงเกินคุณชายหลี่เอง ทำไมต้องเอาพวกเราไปตายพร้อมนาย”
คนที่เหลือ ได้พูดตำหนิก่อน ต่อจากนั้นก็ชกต่อยสวีเถิงเฟย
หรงหรงที่อยู่ข้างๆ ตกใจจนอึ้ง
อีกด้านหนึ่งสวีเถิงเฟยตะโกนขอความช่วยเหลือ และพยายามจะหนีจากเงื้อมมือของส้งเคอและคนอื่นๆ
ส้งเคอและคนอื่นๆ ได้ล้อมสวีเถิงเฟยไว้ ทั้งเตะและต่อย
สวีเถิงเฟยในขณะนี้ ทำได้แค่กุมหัวปกป้องตัวเอง และโต้ตอบไม่ได้เลย
สิ่งที่น่าหดหู่ที่สุดคือ สวีเถิงเฟยไม่รู้ว่าทำไมส้งเคอและคนอื่นๆต้องชกต่อยตัวเอง
พวกเขาต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีที่อยู่เคียงข้างกันมาหลายปี แล้วทำไมพวกเขาถึงรวมตัวกันเพื่อมาต่อยตัวเอง?”
คุณชายหลี่?
คุณชายหลี่คือใคร?
สวีเถิงเฟยก็ไม่เข้าใจ คุณชายหลี่ที่หวงเจ๋พูด คือใครกันแน่?
“ตีกันอีกแล้วเหรอ?”
“วันนี้เป็นอะไร? มีการตีกันกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า!”
ปาร์ตี้ระดับสูงแบบนี้ น้อยนักที่จะมีการตีกันเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ งานเลี้ยงดำเนินมาได้เพียงครึ่งทาง ก็มีการตีกันสองครั้ง
ลุงเฉียนทำเหมือนไม่เห็นอะไร และไม่คิดมาสนใจ โดยเฉพาะรปภ. ทำเหมือนตาบอด ไม่เข้ามาห้ามปราม ปล่อยให้คนอื่นมาทุบตีสวีเถิงเฟยเต็มที่
“ส้งเคอ? หวงเจ๋?”
“คนนั้นคือเฝิงจื่อหลินใช่ไหม? ไม่เจอมาสองสามปี เฝิงจื่อหลินสูงขึ้น และหล่อเหลา”
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา? ทำไมถึงควบคุมอารมณ์ไม่ได้… …กล้าที่จะชกต่อยกันในสถานตากอากาศแห่งนี้ ไม่กลัวว่าจะทำให้ตระกูลหลี่ขุ่นเคือง หรือทำให้ตระกูลหลี่ไม่พอใจ?”
คนกลุ่มที่มาชมความสนุก อาจจะยังไม่รู้ สาเหตุที่ส้งเคอหวงเจ๋และคนอื่นๆลงไม้ลงมือหนัก ก็เพราะว่าได้รับคำสั่งมาจากหลี่ฝาง
นี่คือสิ่งที่หลี่ฝางต้องการ แล้วตระกูลหลี่จะไม่พอใจได้อย่างไร?
“คนที่ถูกตี ดูเหมือนจะเป็นคุณชายสวี!”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณชายสวีเหรอ? พวกเขาเป็นอะไรไป ทำไมถึงลงมือทำร้ายคุณชายสวีอย่างรุนแรง”
ในเวลานี้ ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน
เธอมีดวงตาเหมือนจิ้งจอก หรือที่เรียกว่าหางตาชี้ไปด้านบน
คำพูดสุภาษิตว่าไว้ คนที่มีหางตาชี้ไปด้านบน เป็นคนที่ไม่น่าคบ
ผู้หญิงคนนี้ เป็นพี่สาวของสวีเถิงเฟย ชื่อสวีจื่อเม่ย
หลังจากที่สวีจื่อเม่ยเห็นแล้ว ก็รีบเดินไป และมาถึงโซฟา
“พวกแกบ้าไปแล้วเหรอ? รีบหยุดเดี๋ยวนี้!”
“หยุดตีได้แล้ว ได้ยินไหม?”
สวีจื่อเม่ยวิ่งมา จับแขนของส้งเคอ แล้วสะบัดไปด้านหลัง ส้งเคอ นายบ้าไปแล้วเหรอ
นายตีน้องชายของฉันทำไม?”
ส้งเคอตะคอก และพูดว่า “พวกเราตีเขา มันต้องมีเหตุผลของพวกเรา”
“น้องชายของเธอแกล้งพวกเรา ยุให้พวกเราไปดูถูกคุณชายหลี่… …นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์ควรทำเหรอ? ตระกูลสวีของพวกคุณทำให้ตระกูลหลี่ขุนเคืองเอง ทำไมต้องลากพวกเราไปเกี่ยวข้องด้วย?”
“ก็ใช่สิ ตระกูลสวีของพวกคุณ ต้องการจะทำร้ายพวกเราหรือเปล่า?”
ส้งเคอหวงเจ๋และคนอื่นๆหันกลับมา ทำตาเหลือกให้สวีจื่อเม่ย จากนั้นก็ชกต่อยสวีเถิงเฟยต่อ อย่างไร้ความปรานี
“คุณชายหลี่? คุณชายหลี่คือใคร!”
สวีจื่อเม่ยขมวดคิ้ว และพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกนายหยุดก่อน ไม่งั้น ฉันจะโทรแจ้งตำรวจแล้ว!”
“แจ้งตำรวจเหรอ? พึ่งสามีเธอ คิดว่าพวกเราจะกลัวเธอเหรอ?”
“มา เธอแจ้งสิ ให้หูเฟยมาจับฉัน เธอลองถามเขาว่ากล้าไหม?”