NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 317
บทที่ 317 มู่เสี่ยวไป๋ออกจากโรงพยาบาล
ก่อนหน้านี้จางกงหมิงโกรธเคืองหลี่ฝาง หากเขาไม่มีเรื่องใหญ่อะไร คงไม่ติดต่อหลี่ฝางแน่นอน
เมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา สีหน้าของหลี่ฝางพลันเคร่งเครียดขึ้น เพราะเขารู้ว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่
ลังเลอยู่ชั่วขณะ หลี่ฝางวิ่งออกมาจากร้านขายโจ๊กเย็น เมื่อมาถึงมุมไร้ผู้คน จึงกดรับสาย
“สะดวกคุยไหม?” จางกงหมิงเอ่ยเสียงเบา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลี่ฝางรู้ว่าจางกงหมิงต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่
พูดตามจริง หลี่ฝางกลัวที่สุดว่าจางกงหมิงและหลินชิงชิงจะเกิดอะไรขึ้น
คนหนึ่งอยู่ใต้อำนาจมู่เสี่ยวไป๋ คนหนึ่งถูกมู่เสี่ยวไป๋กัดไม่ปล่อย หลี่ฝางคิดฆ่าไอ้ลูกหมามู่เสี่ยวไป๋ทิ้งเสียจริง
“พี่หมิง ตอนนี้สะดวกแล้ว ฟังจากเสียงพี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลี่ฝางกังวล
“ช่างเถอะ อย่ามัวห่วงฉันเลย ฉันทำงานสายนี้มาหลายปี ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก นายห่วงตัวเองเถอะ” จางกงหมิงเอ่ยจบ เอ่ยเสียงเครียดว่า “มู่เสี่ยวไป๋ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
“เร็วขนาดนี้ นี่เพิ่งไม่กี่วันเอง ไหนบอกว่าแผลสองมีดนั้น ทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว นอกเหนือจากความคิดไม่ถึง ยังรู้สึกกดดันอีกด้วย
ตระกูลมู่ ถือเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร้ายกาจที่สุดในเมืองเอก
และถือเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง ยากจัดการของหลี่ฝาง
รวมทั้งตอนนี้ต้องการกำจัดตระกูลสวี จัดการเหยสง เวลานี้มู่เสี่ยวไป๋ออกจากโรงพยาบาลแล้ว สำหรับหลี่ฝางถือว่าไม่ใช่เรื่องดี
หากกลุ่มอำนาจสามกลุ่มนี้ร่วมมือกัน หลี่ฝางปวดหัวแน่
“มู่เสี่ยวไป๋ออกจากโรงพยาบาลจริง อาการบาดเจ็บของเขา ปู่ของเขาทำการรักษาให้เป็นพิเศษ ต้องพูดว่านายท่านมู่คือหมอเทวดา กระทั่งผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลยังบอกว่าเขาคือเทวดา เห็นชัดว่าอย่างน้อยอีกหนึ่งอาทิตย์มู่เสี่ยวไป๋ถึงจะลงจากเตียงได้ ตอนนี้เดินได้แล้ว”
“ฉันบอกแกตามตรง มู่เสี่ยวไป๋ออกมา วันเวลาของฉันก็ไม่ดีแน่ ช่วยเหลืออะไรแกไม่ได้ บัญชีของเสือนั้น เขาต้องจัดการกับฉันแน่ นี่มันเป็นธรรมดา หากฉันเกิดเรื่อง เขาก็คงสอบถามเสือ แต่ข้างกายมู่เสี่ยวไป๋ไม่มีอัจฉริยะที่ร้ายกาจ มีแค่ฉันแล้ว ผ่านไปสักระยะ เขาต้องเห็นความสำคัญของฉันอีกครั้งแน่”
“ที่โทรหานาย ไม่ได้พูดแค่เรื่องพวกนี้กับนาย ฉันอยากบอกแกว่าอาศัยความเข้มแข็ง รังแกคนอ่อนด้อยกว่า หลักการนี้นายคงเข้าใจสินะ?”
“มู่เสี่ยวไป๋ซื้อมีดเถื่อนมาหลายกระบอก จากการคาดเดาของฉันและเสี่ยวโจว น่าจะเอาไปจัดการแก”
“นายต้องระวังตัวให้ดี อย่าให้ถูกยิงหัวล่ะ ไม่งั้นพี่คงไม่ได้เจอแกแล้ว” จางกงหมิงเอ่ย
“แม่ง ผมเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง คุ้มค่าให้มันคิดถึงขนาดนั้นเหรอ จะจัดการผมยังต้องใช้ปืน” หลี่ฝางปวดหัว เพราะปืนไม่ใช่อาวุธที่ป้องกันได้
หากวันไหนเดินอยู่บนถนน มีคนยิงตนจากด้านหลัง ยิงที่ขาหรือแขนยังพอว่า อย่างมากแค่พิการ
แต่หากยิงหัวดังที่จางกงหมิงพูดนั้น ชั่วชีวิตนี้คงจบสิ้นแล้ว
หลี่ฝางหนังศีรษะชาวาบ “พี่หมิง มู่เสี่ยวไป๋รู้สถานะของผมหรือเปล่า?”
“ไม่รู้ แต่คงเดาสถานะของแกได้แปดส่วนว่าไม่ธรรมดา หมายหัวแกครั้งแล้วครั้งเล่า ยังถูกนายท่านบังคับให้ขอโทษนาย มู่เสี่ยวไป๋แม้จะโง่ สามารถเดาอะไรออกมาได้ สรุปแล้ว นายต้องระวัง เอาล่ะ ไม่พูดพล่ามกับนายแล้ว มีคนจับตาดูฉันอยู่ ฉันวิ่งออกมาขี้ แอบโทรหานาย เบอร์นี้ใช้ไม่แล้ว นายจำเบอร์ใหม่ฉันไว้ 136XXXXXXXXX”
“จำได้หรือยัง?” จางกงหมิงเอ่ยถาม
“จำได้”
ตู้ดหลังวางสาย จางกงหมิงล้วงซิมโทรศัพท์ออกมา หักเป็นสองท่อน แล้วทิ้งลงไปในชักโครก
เมื่อออกมาจากห้องน้ำ จางกงหมิงสวมชุดผู้ป่วย บริเวณพันด้วยผ้าพันแผล
“พี่หมิง ทำไมขี้นานขนาดนี้ หรือทำอะไรลับหลังนายน้อย” คนยากไร้คนหนึ่งตรงประตู มองจางกงหมิงอย่างยิ้มไม่ยิ้ม ก่อนเอ่ยว่า “นายน้อยให้ผมดูพี่ พี่อย่าทำร้ายผมเลย”
สีหน้าจางกงหมิงเย็นยะเยือก ค่อยๆ เดินไปที่ห้องพักฟื้นของตน
…
หลังวางสาย หลี่ฝางมักรู้สึกไม่ดี ความจริงยังคิดถามว่าหลินชิงชิงเป็นอย่างไร สุดท้ายไม่คิดว่าจางกงหมิงจะวางสายเร็วขนาดนี้
ก่อนหน้านี้บอกแล้วว่า จางกงหมิงสามารถโทรหาหลี่ฝางได้ แต่หลี่ฝางจะโทรหาจางกงหมิงไม่ได้ ไม่งั้นจะเกิดเรื่องขึ้นได้ง่าย
เพราะจางกงหมิงไม่ได้สะดวกตลอดเวลา
หลี่ฝางเพิ่งหันหลัง เตรียมตัวกลับไป กลับเห็นส้าวส้วยอยู่ด้านหลังตน
หลี่ฝางตกใจ จนรีบตบหน้าอกของตน “แม่ง นายคิดทำให้ตกใจตายหรือไง ให้แกอยู่หลิวจินหยางไว้ ทำไมวิ่งมาที่นี่?”
“เถ้าแก่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?” ส้าวส้วยเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
หลี่ฝางลังเลชั่วขณะ แล้วไม่พูดอะไร
“สถานตากอากาศคือถิ่นของเรา คิดหาเรื่องกับไอ้เด็กนั้น เมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อกี้เห็นคุณรับโทรศัพท์ สีหน้าดูไม่ปรกติ และยังวิ่งมารับในมุมลับตาคน เถ้าแก่ ใครโทรมากันแน่ ถึงทำให้คุณเครียดขนาดนี้?” ส้าวส้วยเอ่ยถามต่อ
“จางกงหมิงโทรมา”
หลังคิด หลี่ฝางไม่ปิดบังส้าวส้วย จึงเอ่ยตรง ๆ ออกไป “มู่เสี่ยวไป๋ออกจากโรงพยาบาลแล้ว และยังซื้อปืนเถื่อนอีกหลายกระบอก น่าจะเตรียมจัดการฉัน”
สีหน้าส้าวส้วย พลันเคร่งเครียดลง เผยไอสังหารออกมาหลายส่วน
แม้จะรู้จักกับส้าวส้วยได้ไม่นาน แต่หลี่ฝางกลับรู้สึกถึงความจงรักภักดีที่เขามีต่อตนได้เป็นอย่างดี
เพียงได้ยินว่ามีคนจะจัดการตน ส้าวส้วยคนนี้ ต้องรีบออกมาปกป้องแน่
“อีกเดี๋ยวต้องบอกพี่ใหญ่ ให้พี่ใหญ่ตัดสินใจว่าจะทำยังไง เพราะสถานะของมู่เสี่ยวไป๋ค่อนข้างพิเศษ” ส้าวส้วยเอ่ย
หลี่ฝางพยักหน้า รู้สึกว่าเรื่องนี้ควรจะต้องพูดคุยกับบิดาของตน
ทันใดนั้น หลี่ฝางกลับรู้สึกว่ากำจัดตระกูลสวีไม่ใช่เรื่องสำคัญขนาดนั้น เรื่องที่ต้องรีบจัดการ คือจัดการมู่เสี่ยวไป๋ถึงจะถูก
แม้ต่างหมายเอาชีวิตตน แต่คุณสมบัติกลับแตกต่างกันอย่างมาก
สวีเถิงเฟยต้องการกำจัดตน เพียงเพราะตนมีภาพลับของเขาอยู่ในมือหลายใบ ยังกดดันเขา รวมทั้งเขาคิดว่าตนคือผู้ชายธรรมดา ไม่มีพิษสง ดังนั้นจึงคิดเอาชีวิตตน
ตอนนี้หากให้ความกล้าของสวีเถิงเฟยอีกสิบครั้ง เขาคงไม่กล้าจ้างนักฆ่ามาเอาชีวิตตน
แต่มู่เสี่ยวไป๋ต่างออกไป เกรงว่าเขารู้สถานะของตน ยังคงจะฆ่าตน
ดังนั้น เปรียบเทียบกันแล้ว มู่เสี่ยวไป๋จึงอันตรายมากกว่า
เมื่อกลับมาที่ร้านโจ๊กเย็น หลิวจินหยางและหูเสี่ยวน่าวหายไป หลี่ฝางมองลู่หลุ่ยพร้อมถามว่า “หมาตัวผู้ตัวเมียคู่นั้นล่ะ หนีไปไหนแล้ว?”
“ไม่รู้ ส้าวส้วยออกไป พวกเขาหนีไปแล้ว คิดว่าคงกลัว”
ลู่หลุ่ยเอ่ยจบก็เบ้ปาก “แต่นายต้องระวังไว้หน่อย หูเสี่ยวน่าวบอกว่าเรื่องนี้ไม่จบแค่นี้แน่ เธอจะมาจัดการนาย”
“งั้นก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงไปหาเธอ”
หลี่ฝางหัวเราะเฮอะเฮอะ อย่างดูแคลน
เมื่อเดินถึงล็อบบี้ หลี่ฝางใช้นิ้วเคาะโต๊ะ เรียกเถ้าแก่เข้ามา เถ้าแก่จึงเอ่ยถามว่า “น้องชาย แฟนของนายจ่ายเงินแล้ว”
“ไม่ใช่เรื่องเงิน” หลี่ฝางส่ายหน้า
“งั้นน้องชายมีเรื่องอะไรกับฉัน?” เถ้าแก่เอ่ยถาม
หลี่ฝางเลิกคิ้ว ชี้ไปที่กล้องวงจรปิดด้านบน พร้อมเอ่ยว่า “ผมอยากได้ภาพเมื่อกี้จากกล้องวงจรปิด คุณช่วยคัดลอกให้ผมได้หรือเปล่า”
เถ้าแก่สีหน้าเคร่งเครียด รีบเอ่ยขึ้นว่า “น้องชาย ฉันทำการค้าเล็กๆ น้อย จะบาดหมางกับคนใหญ่คนโตไม่ได้”
“ฉันรู้นายคิดทำอะไร แต่วิดีโอประเภทนี้ ไม่ได้กระทบอะไรหูเฟยมากหรอก อย่างมากไม่มีที่ลงให้เขา ฉันกลัวว่าเวลานั้น หูเฟยจะมาแก้แค้นกับฉัน งั้นคงจบเห่พอดี” เถ้าแก่เอ่ยพล่ามยาว ดูแล้วคงเป็นคนในพื้นที่ และรู้จักหูเฟยแน่นอน
“น้องชาย ฟังคำเตือนของลุงเถอะ เขาไม่เอาเรื่องเรา ถือว่าดีพอแล้ว อย่าเอาตัวเองลงไปพัวพันเลย นายสู้เขาไม่ได้หรอก”
หลี่ฝางไม่พูดพล่าม ล้วงการ์ดของตนออกมา เพื่อแสดงฐานะของตน จากนั้นหัวเราะขึ้น “จริงเหรอ?”
เมื่อเห็นการ์ด สายตาของเถ้าแก่เป็นประกาย ก่อนเผยความตกใจออกมา
“ที่แท้คือคุณชายหลี่ ผมสายตาไม่ดี ผมจะจัดการเรื่องกล้องวงจรปิดให้ครับ”
เถ้าแก่ยิ้มอย่างเก้อเขินให้หลี่ฝาง พลันตัดต่อวิดีโอสั้นๆ ออกมาจากคอมพิวเตอร์ แล้วส่งให้หลี่ฝาง
มีวิดีโอนี้ หลี่ฝางไม่กังวลว่าจะจัดการหูเฟยคนนี้ไม่ได้
หลี่ฝางกล้ามั่นใจว่าเบื้องหลังการเงินของหูเฟยไม่สะอาดแน่นอน