NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 320
บทที่ 320 ส้าวส้วยมีอันตราย
หลี่ฝางคิดในใจ ไอ้เลวมู่เสี่ยวไป๋นี้ เมื่อรู้สถานะของตนแล้ว ยังกล้ามาที่สถานตากอากาศ เห็นชัดว่าดูแคลนตน ไม่หวาดกลัวตน
หลี่ฝางหัวเราะเฮอะ ๆ ขึ้น มองมู่เสี่ยวไป๋อย่างสนุก “นายอยากเรียกอะไรก็เรียก ฉันกล้าตอบ ไม่เชื่อนายลองเรียกดู?”
ขณะพูด หลี่ฝางยังเลิกคิ้วให้มู่เสี่ยวไป๋
“นายพูดอะไร?!”
มู่เสี่ยวไป๋เมื่อถูกยั่วโมโห ทั่วใบหน้าเปลี่ยนไปดุร้ายขึ้นมา
“แค่ก แค่ก!”
อาจเพราะฉุนเฉียวเกินไป มู่เสี่ยวไป๋จึงไอขึ้นมาตรงนั้น
คนที่ทำทรงผมแบบเจิ้งอีเจี้ยน ประคองมู่เสี่ยวไป๋ ก่อนเอ่ยว่า “คุณชาย อย่าโมโห ร่างกายคุณยังไม่หายดี”
หลี่ฝางมองภาพนี้ กลับยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข
มู่เสี่ยวไป๋สถานะพิเศษ ลงมือกับเขาตรงๆ ไม่ได้ หากทำให้มันโมโหตาย คงสะใจดีแน่
หลังจากนั้น หลี่ฝางใส่ไฟขึ้น โดยเอ่ยต่อไปว่า “เป็นอะไรล่ะที่นี่ ทำไมเหมือนคนป่วยใกล้ตายแบบนี้ ร่างกายไม่พร้อมก็กลับไปนอนที่บ้านเถอะ อย่าออกมาวางท่าเลย ไม่งั้นอาจเหมือนพี่ชายนายที่ถูกคนชน…”
หากมู่เสี่ยวไป๋ไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้เขาคงเข้าใจดี
อุบัติเหตุรถชนพี่ชายเขา มู่เหวินตง ต้องเป็นฝีมือของฝั่งหลี่ฝางแน่
จริงดังคิด มู่เสี่ยวไป๋หลังได้ฟังประโยคนี้ ยิ่งโมโหมากขึ้น เลือดร้อนของเขาเริ่มเดือดพล่าน จนกระอักเลือดออกมา
หลี่ฝางถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างวุ่นวาย เพื่อไม่ให้เลือดเปื้อนบนเสื้อผ้าตน
“แม่ง มู่เสี่ยวไป๋ นายจะตายอย่าอ้วกใส่ฉัน เกือบจะโดนเสื้อผ้าฉัน นายรู้ว่าเสื้อผ้าชุดนี้ของฉันราคาเท่าไหร่ไหม ห้าล้านกว่าเลยนะ!”
“พื้นที่ถูกนายทำเปื้อน ต้องจ่ายค่าปรับนะ” หลี่ฝางชี้รอยเลือดบนพื้นพลางเอ่ยขึ้น
มู่เสี่ยวไป๋กุมหน้าอกตน ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา
“บัญชีเรื่องพี่ชายของฉันนั้น…”
มู่เสี่ยวไป๋เพิ่งจะเอ่ยปาก กลับถูกเจิ้งอีเจี้ยนตัดบทขึ้นว่า “คุณชาย เราไม่มีหลักฐาน จะใส่ร้าย ‘คนดี’ ไม่ได้”
เมื่อพูดถึง ‘คนดี’ สองคำนี้ เจิ้งอีเจี้ยนชำเลืองมองที่ส้าวส้วย
และสีหน้าของส้าวส้วย มองไม่เห็นถึงความรู้สึกผิดและตื่นตระหนก
“คุณชาย พวกเราไปเดินทางนั้นเถอะ ทางนั้นอากาศดี” เจิ้งอีเจี้ยนเอ่ย
มู่เสี่ยวไป๋รู้ว่าอยู่ที่นี่ไม่มีประโยชน์อะไร การลับฝีปากไม่สู้หลี่ฝาง จึงพยักหน้าท่ามกลางการประคองของเจิ้งอีเจี้ยน เดินผ่านข้างกายหลี่ฝางไป
“มู่เสี่ยวไป๋ ระวังด้วยล่ะ ทางนั้นเป็นหน้าผา นายอย่าตกลงไปเล่า หากนายตกลงไป จะมาร่วมงานแต่งของฉันและหลินชิงชิงได้ยังไง” หลี่ฝางรู้ว่ามาเสี่ยวไป๋ย้อนกลับไปสถานที่ใด ดังนั้นจึงพูดทิ่มแทงใจดำเขา
มู่เสี่ยวไป๋แคร์ที่สุด ไม่มีอะไรนอกจากพี่ชายของเขาและหลินชิงชิง
และพี่ชายเขา กลับถูกชนจนกลายเป็นผัก ตอนนี้ดูแล้ว น่าจะเป็นฝีมือของฝั่งหลี่ฝาง
ส่วนหลินชิงชิง วันๆ เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับหลี่ฝาง ความสัมพันธ์คลุมเครือ
สองจุดอ่อนของมู่เสี่ยวไป๋ เรียกได้ว่าถูกหลี่ฝางบีบจนตาย
มู่เสี่ยวไป๋โมโหขึ้น แต่กลับถูกเจิ้งอีเจี้ยนพูดปลอบหลายประโยคลง
หลังพวกเขาเดินไปไกล หลี่ฝางถามอย่างผิดหวัง “เจิ้งอีเจี้ยนพูดอะไรที่ข้างหูมู่เสี่ยวไป๋ ความจริงฉันจะให้มันกระอักเลือดอีกรอบ เฮ้อ ทำไมหลังเจิ้งอีเจี้ยนพูดแค่ไม่กี่ประโยค มู่เสี่ยวไป๋ไม่เพียงไม่โมโห ทำไมมันยังยิ้มอีก”
“ทำไม มันคิดกินขนมมงคลของฉันกับหลินชิงชิงจริงๆ เหรอ?” หลี่ฝางอึดอัดใจ
ส้าวส้วยมีสีหน้าสับสน ลังเลชั่วขณะจึงเอ่ยว่า “ไอ้นั่นมันบอกมู่เสี่ยวไป๋ว่า มันจะฆ่าคุณ ให้มู่เสี่ยวไป๋วางใจ”
“เจิ้งอีเจี้ยนพูดแบบนั้นจริงเหรอ?” หลี่ฝางขมวดคิ้วอย่างควบคุมตนเองไม่ได้
นี้บ้าเกินไปแล้ว ในถิ่นของหลี่ฝาง ยังพูดว่าจะฆ่าหลี่ฝาง?
“ใช่ ลุงเฉียนยังคิดว่ามู่เสี่ยวไป๋ไม่กล้าฆ่าคุณ ตอนนี้ดูแล้ว ลุงเฉียนประเมินความกล้าของมู่เสี่ยวไป๋ต่ำไป” ส้าวส้วยเอ่ยจบ ผ่านไปไม่กี่วินาที เอ่ยเสริมขึ้นอีกว่า “เถ้าแก่ อย่ากลัวไปเลย ผมเดาว่ามันทำเพื่อไม่ให้มู่เสี่ยวไป๋โมโห ดังนั้นจึงพูดแบบนี้”
หลี่ฝางหัวเราะเฮอะเฮอะ อย่างไม่ใส่ใจ “มีอะไรต้องกลัว แม้เขาจะฆ่าฉันจริง พ่อฉันและพวกนาย ก็จะแก้แค้นแทนฉันอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าพวกมันจะฆ่าฉันจริง อย่าให้ฉันตายอย่างโดดเดี่ยวเลย ช่วยหาเพื่อนร่วมทางไปกับฉันด้วย”
“แน่นอน”
“แน่นอน ส้าวส้วย แกแช่งฉันเหรอ?” หลี่ฝางถลึงตาให้ส้าวส้วย
“ใช่ที่ไหน ผมบอกว่าจะปกป้องคุณแน่นอน”
เดินไปกี่ก้าว หลี่ฝางยิ่งรู้สึกไม่สบายขึ้นมา
สถานะตนเปิดเผย เรื่องมู่เหวินตงนั้น คงเปิดเผยเช่นกัน
ตอนแรกมีผู้ต้องสงสัยแปดคน ความจริงคนที่สงสัยตนมีน้อยที่สุด
แต่ตอนนี้…
หลี่ฝางเงยหน้ามองส้าวส้วยแวบหนึ่ง ก่อนถามว่า “ส้าวส้วย เรื่องมู่เหวินตง ฝีมือนายหรือเปล่า?”
“เถ้าแก่ ใครคือมู่เหวินตง ผมไม่รู้จักเขา”
“จะมาแกล้งไม่รู้เรื่องอะไร พี่ชายของมู่เสี่ยวไป๋ มู่เหวินตง เขาถูกคนแข่งคันหนึ่งกำจัด ทักษะการขับรถของมู่เหวินตงดีขนาดนั้น ถูกคนชนจนรถคว่ำ แสดงว่าฝีมือของคนลงมือ ต้องเหนือกว่ามู่เหวินตง” หลี่ฝางเอ่ย
“งั้นไม่แน่ว่าหมายถึงผม เถ้าแก่” ส้าวส้วยมีสีหน้าถูกใส่ร้าย
“งั้นก็ดี ฉันถามนาย ตอนแข่งที่เขาหมาป่า นายไปที่ไหน นายบอกว่าไปขี้ ทำไมบังเอิญขนาดนั้น ตอนเริ่มการแข่ง นายไปขี้ หลังแข่งจบ นายก็ขี้เสร็จกลับมา เทพรถที่เขาหมาป่านั้น แกกล้าพูดว่าไม่ใช่แกไหม?” หลี่ฝางซักถามส้าวส้วย
ส้าวส้วยลูบท้ายทอยอย่างเก้อเขิน กร่อนกล่าวยิ้มๆ ว่า “คือผม ครั้งนั้นผมแย่งรถหลิวจินหยางจริง ขับวิ่งชนะลัมโบกินี่คันนั้น”
“นายขับชนะทุกคน ยังทำลายสถิติของเขาหมาป่า โดยใช้มัสแตงคันเก่านั่น” หลี่ฝางเอ่ยแก้
“ฮิฮิ เถ้าแก่ ความจริงผมจะบอกคุณ แต่บอกคุณแล้ว คุณจะโทษผม”
“โทษอะไรนาย โทษว่านายขโมยรถเหรอ?” หลี่ฝางถามอย่างโมโห
ส้าวส้วยไม่พูดจา
“ผมแอบสืบมาแล้ว คนลงมือนั้น ตอนหนีไป ยังอ้อมหน้าผาไปเหมือนกับนาย หากนายยังไม่ยอมรับ ถือว่าไม่มีความอะไร” หลี่ฝางเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา
“เอาเถอะ ผมคือเทพรถแห่งเขาหมาป่า และคือคนที่ลงมือกับมู่เหวินตง เถ้าแก่จะแจ้งจับผมหรือเปล่า?”
“ฉันแค่จะถามนาย ทำไมไม่ชนให้ตาย?”
“พี่ใหญ่ไม่ให้ทำ ผมอยากตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แต่พี่ใหญ่บอกว่าสั่งสอนเล็กน้อยก็พอ ผมเลยให้มู่เหวินตงเหลือลมหายใจ”
“ถือว่ามู่เหวินตงมีบุญ ยังฝืนเอาชีวิตรอดผ่านมาได้” ส้าวส้วยยิ้มมุมปาก
หลังมั่นใจว่าเป็นฝีมือของส้าวส้วย หลี่ฝางเป็นห่วงเขา
“ส้าวส้วย นายต้องระวังตัว ฉันรู้สึกว่ามู่เหวินตงคนนั้น คือคนที่มู่เสี่ยวไป๋เชิญมารับมือนายโดยเฉพาะ”
“พวกมันอาจรู้แล้วว่าคนลงมือคือนาย” หลี่ฝางตบไหล่ของส้าวส้วย
“รู้ก็รู้ไปเถอะ ยังไงพวกมันไม่มีหลักฐาน ส่วนมู่เหวินตงคนนั้น ความจริงฝีมือไม่เลว ดูท่าทางเขา ไม่เพียงฝีมือดี ยังอาจเป็นมือปืนด้วย ถ้ายังงั้นคงยุ่งยากเล็กน้อย” ใบหน้าส้าวส้วย เผยความหนักใจที่ไม่มีมาก่อนออกมา
แต่ไหนแต่ไรมา หลี่ฝางไม่เคยเห็นสีหน้าเช่นนี้บนหน้าส้าวส้วยเลย
ไม่มั่นใจ
บนหน้าส้าวส้วย ไม่หลงเหลือความมั่นใจเต็มเปี่ยมแบบนั้นอีกแล้ว
หลี่ฝางขบคิด ก่อนเอ่ยว่า “งั้นพวกเราชิงลงมือก่อน เรียกโหจื่อและพ่อฉันมา คิดหาวิธีกำจัดเจิ้งอีเจี้ยนคนนั้น”
“ไม่จำเป็น ทำไมต้องระดมคนมากมายขนาดนั้น ผมคนเดียวน่าจะไม่มีปัญหา”
“อย่าพูดว่าน่าจะไหวกับฉัน ฉันไม่อยากให้นายเป็นอะไร เล็กน้อยก็ไม่ได้ เข้าใจไหม?” หลี่ฝางถลึงตามองส้าวส้วย เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งครัด “รอไว้ตอนเย็น ฉันจะพูดกับพ่อเอง”
“เถ้าแก่ ไม่ต้องจริงๆ อย่าพูดกับพี่ใหญ่เลย”
“เอาแบบนี้แหละ”
หลี่ฝางเอ่ยจบ โทรหาหวางเสี่ยวโก๋ เพื่อถามว่าเขาอยู่ที่ไหน
“แม่ง ทำไมพวกนายอยู่ที่ประตูสถานตากอากาศ?” หลี่ฝางหลังโทรติด เอ่ยถามตำแหน่งของหวางเสี่ยวโก๋
จากในโทรศัพท์จึงรู้ว่าหวางเสี่ยวโก๋และคนอื่นๆ กำลังจะกลับ
“นายเข้ามาก่อน ทางนี้เกิดปัญหาเล็กน้อย ไม่ไปเกรงว่าไม่ได้” หวางเสี่ยวโก๋เอ่ยในโทรศัพท์
หลี่ฝางวางสาย รีบขี่จักรยานตรงไปที่ประตูสถานตากอากาศ
“แม่ง พวกแกทำเรื่องอะไร?” หลี่ฝางเอ่ยถามขึ้น