NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 341
บทที่341 หักหน้า
ตระกูลหลี่ไม่มีห้าร้อยล้านเหรอ?
คำตอบคือมี
สถานตากอากาศลงทุนไปหลายหมื่นล้าน เกือบจะสองหมื่นล้าน
สวนสนุกลงทุนไปแปดพันกว่าล้าน
ผับลงทุนไปสองพันกว่าล้าน
หลี่ต๋าคางก่อตั้งสร้างลานกว้างสาธารณะขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า บ้านพักคนชรา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โรงเรียนประถมเป็นต้น ให้ตงไห่ที่เป็นบ้านเกิดฟรี ……
เงินลงทุนมากขนาดนี้ ใช้เงินตัวเองออกเองหมด ไม่ได้กู้จากธนาคารเลย
ตงไห่เป็นแค่เมืองระดับจังหวัดเล็กๆเท่านั้น ใครจะกล้าจ่ายเงินลงทุนสามหมื่นล้านไปที่เมืองระดับจังหวัด?
ทั้งประเทศนอกจากหลี่ต๋าคาง ก็ไม่มีใครแล้ว
คนแบบนี้ ต้องมีทรัพย์สมบัติมากแค่ไหน?
ไม่ต่ำกว่าแสนล้าน หรืออาจมากกว่านั้น
หลี่ต๋าคางยิ้มนิดๆ มองมู่เจิ้งถังแล้วพูด:“คุณไม่คิดว่าความน่าสงสัยของตัวเองน่าตลกมากเหรอ?”
“เทียบกับผมแล้ว อย่างมากคุณก็เป็นได้แค่คนขอข้าวกิน คุณสงสัยว่าผมปล้นเงินคุณไป ก็เท่ากับสงสัยว่าผมแย่งกล่องข้าวในมือขอทานไป ผมต้องทำขนาดนั้นเหรอ ผมแย่ขนาดนั้นเหรอ?”หลี่ต๋าคางยืนขึ้น สองมือพาดหลัง ยืดอก มองมู่เจิ้งถังจากมุมสูงลงไป
มู่เจิ้งถังกัดฟันอย่างโมโห:“คุณ!คุณเห็นผมเป็นขอทานเหรอ?”
“ผมเรียกคุณว่าท่านมู่เพราะเคารพคุณ เห็นคุณเป็นแขกสำคัญของสถานตากอากาศ แต่ถ้าคุณเอาความเคารพของผมไปวางท่าให้ได้ใจมากขึ้น คิดว่าผมกลัวคุณล่ะก็ นั่นมันผิดมหันต์เลยแหละ”
“ผมบอกคุณนะ มู่เจิ้งถัง คุณจะไปทำเรื่องดุเดือด เบ่งอำนาจในที่อื่น ผมไม่สน แต่คุณมาตบโต๊ะในที่ของผม ผมบอกได้แค่ เลือกผิดที่แล้ว”
“เบิกตาคุณแล้วคอยดูดีๆซะ นี่คือที่ที่คุณหักหน้าได้ไหม?”
หลี่ต๋าคางทำเสียงฮึดฮัด มองไปที่มู่เจิ้งถังอย่างเย็นชา:“ทำไม ไม่เชื่อ?”
“ผมจะชี้ทางคุณหน่อยละกัน ให้แสงสว่างต่อคุณ หลานชายคุณมีคุณธรรมอะไรกัน คุณไม่มีจิตใจเลยหรือไง?ถึงคุณหนูตระกูลฉินไม่ฟ้องว่าหลานชายคุณขืนใจ บุกรุกเข้าห้องชุดส่วนตัวของเธอ จู่โจมแขกของสถานตากอากาศผม ผมก็มีอำนาจปฏิบัติต่อเขาเหมือนโจร ที่กระทำผิดกฎหมาย มีอำนาจทำร้ายเขา”
ประโยคนี้หลี่ต๋าคางพูดจบ มู่เจิ้งถังก็โกรธจนตัวสั่น
มู่เจิ้งถังหยิบยาบำรุงหัวใจที่ทำขึ้นเองมาเม็ดหนึ่งจากกระเป๋าตัวเอง รีบเอาเข้าปากของตัวเอง
“น้ำ น้ำ น้ำ……”มู่เจิ้งถังตะโกนอย่างร้อนใจ
ลุงเฉียนกลอกตาใส่มู่เจิ้งถัง:“อยู่นี่ ยังเห็นตัวเองเป็นคุณชายอีก อยากดื่มน้ำก็ไปเทเอง ที่นี่ไม่มีคนปฏิบัติคุณหรอก”
เดิมทียังมีมู่เสี่ยวไป๋คนหนึ่งที่ยอมเทน้ำให้มู่เจิ้งถัง
แต่เมื่อครู่ เพื่อให้ฉินวี่เฟยหายโกรธ มู่เจิ้งถังถึงกับต้องตบตีหลานชายไปยกใหญ่
ตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋ยืนยังลำบาก อย่าว่าแต่เทน้ำให้มู่เจิ้งถังเลย
พูดถึง ในใจของมู่เสี่ยวไป๋ก็หดหู่มาก
สามารถออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดได้ ตอนที่ลงจากเตียงแล้วเดินได้ เขาดีใจกว่าใครทั้งนั้น
ตอนนี้เอง เขาจึงตระหนักได้ว่า ตัวเองดีใจเร็วไปแล้ว
ตัวเองหาเหาใส่หัวมาที่สถานตากอากาศเอง ถูกหักขา ถูกตัดหู ถูกปู่ตบตี ทั้งหมดนี้ สบายกว่านอนบนเตียงคนป่วยตรงไหน?
นิ่งไปแป๊บเดียว มู่เจิ้งถังได้แต่เทน้ำให้ตัวเองแก้วหนึ่งด้วยตัวเขาเอง
แต่ตอนที่จะดื่ม โหจื่อจู่ๆกลับวิ่งเข้ามา แย่งแก้วน้ำไป ด่าอย่างเย็นชา:“ไอ้แก่สารเลว แม่เอ๊ยอยากตายใช่ไหม ใช้แก้วน้ำผมไปดื่มน้ำ?ถามความเห็นผมยัง?”
“คุณอายุขนาดนี้แล้ว ไม่แน่ว่าอาจมีโรคติดต่ออะไรหรอกนะ!”
โหจื่อพูดจบ เสียงดังปังขึ้นมาทำแก้วน้ำที่พื้น แตกกระจาย
การกระทำแบบนี้ เท่ากับกำลังดูหมิ่นมู่เจิ้งถังอย่างหนัก
หลี่ต๋าคางรังแกมู่เจิ้งถังก็ว่าไปแล้ว นี่โหจื่อบอดี้การ์ดคนหนึ่ง ทำไมไม่เห็นมู่เจิ้งถังในสายตาเลย
มู่เจิ้งถังน้อยใจหน่อยๆ ตัวเองหัวหน้าตระกูลมู่ที่สง่างาม ถูกปฏิบัติอย่างเหี้ยมโหดเช่นนี้?
แม้แต่น้ำก็ยังไม่ให้กิน!
มู่เจิ้งถังกลืนยาใส่ปากลงไป จ้องโหจื่อกับหลี่ต๋าคางและคนอื่นๆอย่างเย็นชา
“ท่านหลี่ พวกเรามาคอยดูกัน”
อยู่ใต้ชายคา จำเป็นต้องก้มหัวให้
ที่นี่คือถิ่นของหลี่ต๋าคาง ในใจของมู่เจิ้งถังรู้ดี ที่นี่ ตัวเองต่อรองไม่ได้สักครึ่งเดียว
“ทำไม ขู่ผม?”หลี่ต๋าคางขำแห้งๆออกมา มองมู่เจิ้งถัง:“คุณมีอำนาจมาสู้ผมด้วยเหรอ?ผมแนะนำให้คุณหยุดเถอะ อย่าเป็นปืนให้คนพวกนั้น อย่างแรก ปืนคุณนี้สู้ผมไม่ได้เลย อย่างที่สอง คนพวกนั้นฝีมือร้ายกาจมากกว่าที่คุณคิดไว้ ระวังเถอะแม้แต่กระดูกชิ้นสุดท้ายก็อาจถูกพวกเขาจัดการด้วย”
สีหน้ามู่เจิ้งถังเปลี่ยน มองหลี่ต๋าคางอย่างตะลึงหน่อยๆ
“ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาห่วงใยหรอก”มู่เจิ้งถังทำเสียงฮึดฮัด หมุนตัวพูดกับมู่เสี่ยวไป๋:“เสี่ยวไป๋ พวกเราไปเถอะ”
มู่เสี่ยวไป๋ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก มาตรงหน้ามู่เจิ้งถัง ปู่หลานสองคนเดินไปหน้าประตู โหจื่อกลับพูด:“ให้พวกคุณไปหรือยัง?”
“พวกคุณจะเอาอะไรอีก?”มู่เจิ้งถังมองโหจื่ออย่างเยือกเย็น:“อย่างคุณ หรือว่าอยากเก็บผมไว้?”
“ผมกลับไม่คิดที่จะเก็บคุณไว้ แต่หลานชายคุณทำเรื่องแย่มากมายขนาดนั้น คุณบอกไปก็ไป คุณคิดว่าคุณเป็นตำรวจเหรอ?”
“ขาของหลานชายผมถูกหักไป พวกคุณคิดจะทำไง?”มู่เจิ้งถังทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ
“ขาของหลานชายคุณถูกหัก เพราะเขาหาเรื่องใส่ตัวเอง สมควรแล้ว ถ้าคุณไม่พอใจ ก็ไปแจ้งความฟ้องพวกผมได้เลย ยังไงซะในมือผมก็มีหลักฐานที่หลานชายคุณกระทำผิด”โหจื่อหัวเราะหึๆ
มู่เจิ้งถังหัวเราะเหอะๆ มองฉินวี่เฟย:“สาวน้อย คุณจะช่วยพวกเขาฟ้องเสี่ยวไป๋เหรอ?”
ฉินวี่เฟยก้มหน้าลง ไม่กล้าเงยมองมู่เจิ้งถัง และก็ไม่ได้ตอบคำถามเขา
มู่เจิ้งถังเสียงหม่นลง ถามต่อ:“สาวน้อย เสี่ยวไป๋เป็นคู่หมั้นของคุณ สองวันนี้คุณสองคนก็จะหมั้นกันแล้ว คุณจะฟ้องว่าคู่หมั้นคุณขืนใจเหรอ?”
ฉินวี่เฟยยังไม่พูดสักคำ หลี่ฝางที่อยู่ข้างๆกลับหัวเราะ พูดว่า:“ท่านมู่ มีประโยคหนึ่งคุณไม่เคยได้ยินเหรอ?ไม่พูดก็หมายความว่ายอมรับ คุณรู้ไหมว่าหลานชายระยำแค่ไหน?เขาต่อยไปที่หน้าของฉินวี่เฟย ตอนนั้น เขาเห็นตัวเองเป็นคู่หมั้นของฉินวี่เฟยหรือยัง?”
“หลี่ฝาง ทำไมผมต้องทำร้ายฉินวี่เฟย คนอื่นไม่รู้ หรือว่าคุณไม่รู้เหรอไง?”
มู่เสี่ยวไป๋เอามือล้วงไปในกระเป๋า หยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมา เปิดอัลบั้มของตัวเอง:“ปู่ ดูสิ……”
มู่เจิ้งถังก้มหน้ามองไป:“เสี่ยวไป๋ คุณให้ปู่มองอะไร?”
เห็นแค่ ในอัลบั้มโทรศัพท์ของมู่เสี่ยวไป๋ ว่างเปล่า ไม่มีอะไร
สีหน้ามู่เสี่ยวไป๋ตะลึงไป จากนั้น เขาเงยหน้ามองโหจื่อ
“คุณทำเหรอ?”มู่เสี่ยวไป๋มองโหจื่ออย่างเย็นชา ถามไป
เมื่อกี๊ในมือของมู่เสี่ยวไป๋ที่ชั้นใต้ดิน โทรศัพท์ของเขา ต่างอยู่ในมือของโหจื่อหมด
เวลานี้เอง โทรศัพท์ของมู่เสี่ยวไป๋ ถูกฟอร์แมตจนไม่เหลืออะไรอีก
อัลบั้ม สมุดโทรศัพท์ ……ต่างถูกโหจื่อลบหมด
โหจื่อไม่มีทางยอมรับ เขาหัวเราะเหอะๆ เดินเข้ามา:“คุณชายมู่ ผมทำอะไร?”
“คุณยังจะเสแสร้งอีก คุณลบอัลบั้มรูปโทรศัพท์ผม!”มู่เสี่ยวไป๋พูดเสียงดัง
“คุณชายมู่ คุณจะปรักปรำผมมั่วๆไม่ได้นะ ผมเคยแตะโทรศัพท์คุณ แต่ไม่เคยลบอะไรของคุณ โทรศัพท์คุณ ต้องสแกนรอยนิ้วมือ นอกจากคุณ จะมีใครเปิดได้?”
โหจื่อพูดยิ้มๆ
ทางที่พามู่เสี่ยวไป๋ไปในห้องใต้ดิน โหจื่อตีจนมู่เสี่ยวไป๋สลบ จุดประสงค์ก็เพื่อไม่ให้เขาจำเส้นทางของสถานตากอากาศได้
และก็ตอนนั้นเอง โหจื่อใช้โทรศัพท์มู่เสี่ยวไป๋ปลดล็อก จากนั้นก็ฟอร์แมตข้อความทั้งหมดของเขา
แน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นหลี่ฝางกำชับให้เขาทำแบบนั้น
“ปู่ เมื่อคืนฉินวี่เฟยตามหลี่ฝางเข้าไปในวิลล่า แล้วก็ไม่ออกมาอีกเลย ……”
มู่เสี่ยวไป๋มองฉินวี่เฟย กัดฟันพูด:“ปู่ สวะแบบนี้ คู่ควรที่จะเข้าตระกูลใหญ่ของตระกูลมู่พวกเราเหรอ?”
“โหจื่อ ตบเขา”
ได้ยินคำว่า‘สวะ’สองคำนี้ หลี่ฝางก็ไม่พอใจ
“ครับ”
โหจื่อหัวเราะหึหึ รีบเดินเข้ามา ยกแขนขึ้นตบไปที่หน้าของมู่เสี่ยวไป๋
จากนั้นก็มีเสียงดังแปะ มุมปากของมู่เสี่ยวไป๋ เลือดซิบออกมา
มู่เจิ้งถังขมวดคิ้ว ต่อหน้าเขา ไปตบหลานชายเขา นี่มันไม่เคารพตัวเองเกินไปแล้ว?
“ท่านหลี่ พวกคุณคือคนของสถานตากอากาศ นี่คือคุณธรรมที่นี่เหรอ?”มู่เจิ้งถังหันไปมองที่หลี่ต๋าคาง
และหลี่ต๋าคางตอนนี้ ก็หลับไปที่โต๊ะประชุมไปนานแล้ว หลับอย่างขี้เซา
หลายวันนี้ หลี่ต๋าคางเหนื่อยมาก เขาไม่ได้พักผ่อนนานแล้ว
“พ่อผมหลับไปแล้ว สถานตากอากาศนั่นคือที่รับผิดชอบของผม ท่านมู่ ดูแลปากหลานชายคุณดีๆ บอกว่าใครสวะเหรอ?คุณหนูฉินเป็นแขกสำคัญของสถานตากอากาศพวกเรา นี่ดูหมิ่นแขกสำคัญของสถานตากอากาศเรา ตบคุณไปทีหนึ่งก็ถือว่าน้อยไปแล้ว”
“แล้วก็นะ มู่เสี่ยวไป๋ คุณบอกว่าเมื่อคืนผมกับคุณหนูฉินเข้าไปในวิลล่าห้องหนึ่ง คุณมีหลักฐานไหม?”
“ถ้าคุณไม่มีหลักฐาน อย่าพูดมั่วซั่ว ผมยังไม่บอกเลย คุณอย่าทำลายความบริสุทธิ์ของคุณหนูฉินให้มัวหมอง”หลี่ฝางมองมู่เสี่ยวไป๋ หัวเราะอย่างขี้เล่น