NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 346
บทที่346 สถานะของหลี่ต๋าคางตอนนั้น
จากสีหน้าของหวางเสี่ยวโก๋ หลี่ฝางก็เดาเรื่องที่เกิดขึ้นออก
รอหวางเสี่ยวโก๋วางสายเสร็จอย่างอดทน คนในรถก็มองหวางเสี่ยวโก๋พร้อมกัน หลายเสียงถามขึ้นพร้อมกันอย่างเป็นห่วง
“เสี่ยวโก๋ เกิดเรื่องอะไร?”ทุกคนแทบถามแบบนี้
สีหน้าของหวางเสี่ยวโก๋ ดูแย่กว่าเมื่อครู่
“แม่เอ๊ย วิธีการที่ตระกูลมู่ใช้ร้ายกาจมาก?แม่ผมเพิ่งโทรมา บอกว่าหน้าประตูมีคนส่งพวงหรีดมาสองพวง จากนั้นหน้าประตูบ้านปู่ผม ก็มีคนส่งโลงศพไป ระหว่างทางที่พ่อผมเลิกงาน ก็ถูกกลุ่มคนสวมหน้ากากทุบตี……”
หลี่ฝางรีบตัดบท ถาม:“บาดเจ็บหนักไหม?”
“แค่ชกต่อยเตะน่ะ ไม่ได้ลงมือเกินไปมากนัก ส่วนพ่อผม ไม่ได้เป็นอะไรนัก แต่พวกเขากลัวมาก ถามผมว่าเกิดเรื่องอะไรข้างนอกหรือเปล่า พวกเขาสงสัยว่าผมไปยืมเงินพวกดอกเบี้ยแพง ถูกตามถึงบ้าน ยังไงวิธีการพวกนี้ ก็เป็นวิธีการของพวกเงินกู้ที่ดอกเบี้ยแพงทำกัน”หวางเสี่ยวโก๋ถอนหายใจ พูดเศร้าๆ
ทันใดนั้น ในใจของหลี่ฝาง ก็รู้สึกผิดขึ้นมา
ตอนนี้เอง โทรศัพท์เลี่ยวข่ายก็ดังขึ้น พอเลี่ยวข่ายรับสาย ก็ได้รับเนื้อหาคล้ายๆกัน
“บ้านคุณเกิดเรื่องเหรอ?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกโกรธหน่อยๆ
“ประตูของบ้านผมถูกคนเอาเลือกสาดใส่ แล้วก็ยังมีพวกอุจจาระ ตอนนี้ที่บ้านผมกังวลกันมาก”
“แล้วยังมีคนโทรหาที่บ้านผม ให้ผมหุบปาก ถ้าไม่งั้น จะเผาบ้านผมให้มอดไหม้”
“นี่แค่คำเตือนนะ อะไรกันแน่ ……”
เลี่ยวข่ายกับหวางเสี่ยวโก๋มองไปที่หลี่ฝางพร้อมกัน หลี่ฝางคิด แล้วพูด:“แค้นของผมกับมู่เสี่ยวไป๋ ต่างเป็นของเราสองคน ตามเหตุผลแล้วไม่ควรลงมือที่พวกคุณ พวกคุณคิดดู ถ้าพวกคุณไม่อยาก ผมจะให้ลุงเฉียนกลับไป พาพวกคุณไปส่งที่โรงพัก ให้พวกคุณถอนฟ้อง”
“วางใจเถอะ ผมไม่โทษพวกคุณหรอก”
เลี่ยวข่ายลังเลหน่อยๆ พูดว่า:“หลี่ฝาง คุณเห็นพวกเราเป็นอะไร แค่ลำบากเล็กๆน้อยๆนี้เอง ทำพวกเราตกใจกลัวได้เหรอ?พวกเราคิดเรื่องนี้ได้ตั้งแต่อยู่ข้างในแล้ว”
“คุณล่ะ เสี่ยวโก๋”หลี่ฝางมองไปที่หวางเสี่ยวโก๋ สอบถาม
“ผมเหมือนกับเลี่ยวข่าย แต่ ผมไม่อยากให้ที่บ้านเกิดเรื่อง ตอนนี้ผมจะโทรไป ให้พวกเขาไปที่สถานตากอากาศ”หวางเสี่ยวโก๋พูดจบ ก็หยิบโทรศัพท์มา เตรียมโทรไป
“ผมให้คนไปรับละกัน”
หลี่ฝางมองลุงเฉียน พูดว่า:“ลุงเฉียน ช่วยจัดคนไปหน่อย”
“เรื่องเล็ก มา น้องชายทั้งสอง บอกที่อยู่บ้านคุณสองคนผมมา ผมจะให้คนไปรับคนในครอบครัวคุณตอนนี้เลย วางใจเถอะ อำนาจของตระกูลมู่ใหญ่แค่ไหน ก็ไม่กล้ายื่นมือไปที่สถานตากอากาศแน่”
ลุงเฉียนหยิบโทรศัพท์ออกมา เริ่มส่งลูกน้องไป
ที่จริงแล้ว หลี่ฝางกำลังลองใจหวางเสี่ยวโก๋กับเลี่ยวข่าย
ถึงหวางเสี่ยวโก๋กับเลี่ยวข่ายไม่ช่วย ถอยกลางคัน มู่เสี่ยวไป๋ก็หนีไม่พ้น
หวางเสี่ยวโก๋กับเลี่ยวข่ายตอนนี้เป็นแค่ตัวช่วย เหยนเสี่ยวน่าต่างหากที่เป็นตัวสำคัญ
แค่เหยนเสี่ยวน่าไม่ปล่อยไป มู่เสี่ยวไป๋ก็จบแน่
ลุงเฉียนจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ทำท่ามือOK แล้วพูด:“เรียบร้อย พวกคุณวางใจเถอะ”
“ที่จริงวิธีการนี้ ไม่ใช่คนของตระกูลมู่ทำ”ลุงเฉียนหัวเราะ พูดว่า:“น่าจะเป็นพวกคนเก็บดอกเบี้ยแพง รับเงินมาเล็กน้อย แล้วก็จัดการครอบครัวพวกคุณ”
“พวกเขาไม่กล้าทำบุ่มบ่าม ยังไงตอนนี้ก็เป็นสังคมที่มีกฎหมาย ตอนนี้พวกคุณมีคดีแล้ว ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่โหร้ายนี้ ถ้าครอบครัวคุณสองคนเกิดอะไรขึ้น โดยธรรมชาติก็ต้องพุ่งเป้าไปที่ตระกูลมู่”ลุงเฉียนหัวเราะเหอะๆพูด:“ตอนนี้ก็ต้องลงโทษอย่างรุนแรง”
พอพูดถึง ในเมื่อมีคำเตือนพวกนี้ ในใจของเลี่ยวข่ายกับหวางเสี่ยวโก๋ก็ตื่นตระหนกกังวล
รับครอบครัวพวกเขามาที่สถานตากอากาศ พวกเขาจึงหมดห่วงขึ้นมา
ตอนกลับมาที่สถานตากอากาศ งานเลี้ยงก็ใกล้จะเลิกแล้ว
ระหว่างทางเจอกับโก่เอ๋อที่กระโดดโลดเต้น หลี่ฝางเข้าไปทักทาย:“ทำไม มาดูไอดอลตัวเองเหรอ?”
“แหงสิ ฉันยังถ่ายรูปกับไอดอลฉันด้วยนะ”
โก่เอ๋อมองหลี่ฝาง ถามอย่างสงสัย:“ใช่สิ คุณชายหลี่ คุณเป็นอะไร วันนี้คุณเป็นคนสำคัญ ทำไมคุณไม่ปรากฏตัวเลย?”
“เหอะเหอะ เกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะ ”หลี่ฝางลูบหัวอย่างเขินอาย
“แพลตฟอร์มประกาศข่าวนั่นของคุณ?”โก่เอ๋อถามต่อ
“อือ”หลี่ฝางไม่ปิดบัง
“งั้นคุณก็รวยสิ เมื่อกี๊ไอดอลฉันประกาศต่อหน้าผู้คนว่าเข้าแพลตฟอร์มของคุณแล้ว และก็เซ็นสัญญากับคุณ เพื่อเป็นศิลปินผู้ประกาศข่าวของพวกคุณ อีกอย่างไอดอลฉันก็บอกแล้ว จะพยายามมาถ่ายทอดสดไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมงทุกสัปดาห์ด้วย”
“แล้วก็โจวซิงฉือนั่น เขาก็เข้าแพลตฟอร์มคุณด้วย ถึงแม้ยังไม่เซ็นสัญญาอะไร แต่ก็เผยแพร่ผลงาน จากการเข้ามาของซูเปอร์สตาร์สองคนนี้ ชื่อเสียงของแพลตฟอร์มพวกคุณ ไม่รู้ว่าจะทวีขึ้นกี่เท่า”
“เหรอ?”ได้ยินข่าวนี้ อารมณ์ของหลี่ฝาง ก็ดีขึ้นทันที
“ใช่สิ ฉันว่าคุณชายหลี่ คุณเจ๋งจริงๆเลย ตระกูลหลี่ของพวกคุณมีอำนาจลึกลับอะไรกันแน่ ถึงทำให้ซูเปอร์สตาร์สองคนนี้ยอมช่วยคุณ?”
“ถ้าไอดอลฉันล่ะก็ ต้องจ่ายเงินจำนวนมาก ถึงจะจ้างมาได้ แต่King of Comedy เขาไปเป็นคนอยู่เบื้องหลังแล้ว เชิญเขาออกมาจากเขาได้ นั่นไม่ใช่เรื่องเงินแน่”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ไม่พูดอะไร
แน่นอน หลี่ฝางก็แปลกใจมาก ไอดอลของตัวเองก็มีเงินอยู่แล้ว เขาเป็นราชาแห่งการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์นานแล้ว อาศัยการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าของเขา ไปถึงหลายพันล้านจนถึงหมื่นล้านขึ้นไปนานแล้ว
และตอนนี้ เกรงว่าจะมากขึ้น
หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า:“ที่จริงผมก็ไม่รู้ พ่อผมทำทั้งนั้น”
“โอเค อย่าถ่อมตัวกับน้องหน่อยเลย ต่อไปฉันก็อยู่ที่เมืองเอกแล้ว ถ้าเกิดเรื่องอะไร คุณต้องปกป้องฉันนะ”โก่เอ๋อกะพริบตาให้หลี่ฝาง
“นองสาว?”หลี่ฝางตะลึง
“ใช่ ฉันตัดสินใจแล้ว จะเคารพคุณ คุณอายุมากกว่าฉัน ฉันจะเรียกคุณว่าพี่ชาย วางใจเถอะ ฉันจะไม่ทำให้คุณเสียเปรียบ รอต่อไปคุณไปที่ถิ่นของฉัน ฉันก็จะปกป้องคุณ”โก่เอ๋อตบอกตัวเองพูดอย่างประกัน
หลี่ฝางหัวเราะ ถือว่าตอบรับไป
และตอนดึก หลี่ต๋าคางหยิบสัญญากองหนึ่งยื่นให้หลี่ฝาง
หลี่ฝางถามอย่างตะลึง:“นี่คืออะไร?”
“สัญญา พ่อเซ็นศิลปินจำนวนหนึ่งให้ลูก ส่วนมากเป็นพวกดาราวัยรุ่นที่ดังๆ แน่นอนว่า มีดาราดังรุ่นใหญ่ไม่กี่คน ก็เข้ามาที่แพลตฟอร์มพวกลูก เพราะว่าเศรษฐกิจทางบริษัทของพวกเขา จึงอาจไม่มีทางเซ็นสัญญากับพวกเราได้ แต่ก็จะหาเวลาสร้างชื่อเสียงให้แพลตฟอร์ม ทำโฆษณาให้”
ได้ยินคำพูดหลี่ต๋าคาง หลี่ฝางตะลึงทันที
“พ่อ ผมนับถือพ่อมาก พ่อทำอย่างไรกันแน่”หลี่ฝางพูดด้วยใบหน้าตะลึง
“เหอะเหอะ นี่มันยากอะไรกัน ปู่ลูกที่จีน มีอุตสาหกรรมบางอย่าง ในอุตสาหกรรมพวกนี้ ก็รวมถึงโรงหนัง โรงหนังในประเทศสิบแห่งนี้ มีแห่งหนึ่งเป็นของพวกเรา ดังนั้น ดาราพวกนี้จึงยอมที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเรา หวังว่าพวกเราจะมีผลงานให้พวกเขา หรือว่า ให้จำนวนเงินทุนที่พวกเขาต้องการได้ เสี่ยวฝาง ลูกอย่าไปคิดว่าดาราสูงส่ง สังคมนี้ เป็นสังคมที่เงินทองสูงส่ง สิ่งของเกือบเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ ต่างถูกแทนที่ด้วยเงิน”
“แค่ลูกมีเงิน อะไรก็เป็นไปไม่ได้”
หลี่ต๋าคางหยิบซิการ์ออกมา คีบไปที่ปากตัวเอง:“ใช่สิ เด็กตระกูลมู่คนนั้น ลูกคิดจะจัดการอย่างไร คิดจะส่งเขาเข้าไปจริงๆเหรอ?”
“ครับ ผมถือชิปในมือเพียงพอแล้ว และก็เพียงพอที่จะเอาเขาเข้าคุก”หลี่ฝางพูดด้วยใบหน้ามั่นใจ
หลี่ต๋าคางพยักหน้า สีหน้านิ่งเรียบ:“ที่จริง ตระกูลมู่ก็แค่สิ่งของเล็กๆเท่านั้น”
“ถ้าเบื้องหลังมู่เจิ้งถังไม่มีใครสนับสนุนเขา เขาไม่มีทางกล้าสู้กับพวกเราตระกูลหลี่แน่”หลี่ต๋าคางพูด
คิ้วของหลี่ฝางขมวดเข้า:“เบื้องหลังตระกูลมู่ยังมีคนอีก?”
ตลอดมา หลี่ฝางคิดว่าตระกูลมู่ถือว่ามีอำนาจใหญ่ที่สุดในเมืองเอก แต่ตอนนี้ดูแล้ว ยังมีสี่ตระกูลใหญ่อีก
“ใช่ เทียบกับหมาทิเบตันแล้ว จากพลังของตระกูลมู่ตอนนี้ ไม่มีทางที่เชิญดาราตัวหลักมาได้แน่”หลี่ต๋าคางถอนหายใจ พูด:“เสี่ยวฝาง บอกความจริงลูกละกัน สามปีก่อน พ่อไม่ได้ถูกปู่พาไป”
หลี่ฝางมีสีหน้าตะลึง การแสดงออกดูเคร่งขรึมขึ้นมา
หลี่ฝางเดาออกนานแล้ว พ่อของตัวเองต้องมีเรื่องปิดบังแน่ สถานะของเขา จะต้องไม่ใช่คนขับรถทั่วไปที่ธรรมดาๆแน่นอน
การหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อสามปีก่อน เกรงว่าต้องมีความยากลำบากแน่นอน
ในใจของหลี่ฝาง ตื่นเต้นหน่อยๆ
“พ่อ สามปีก่อนทำไมพ่อต้องจากไป?”หลี่ฝางถามหลี่ต๋าคาง
หลี่ต๋าคางเงียบพักหนึ่ง พูดด้วยเสียงหม่น:“ลูกก็โตแล้ว บางเรื่อง ก็ควรให้ลูกรู้”
“พ่ออยู่ที่ตงไห่ สถานะเป็นคนขับรถบรรทุกธรรมดา แต่ที่เมืองเอก กลับเป็นคนที่อยู่ภายใต้คนๆหนึ่ง แต่อยู่สูงกว่าคนเป็นหมื่น”
“ท่านจวนกับพ่อ เป็นหุ้นส่วนกัน เมืองเอกตอนนั้น เป็นโลกของพวกเราสองคน”
“พ่อครอบครองแผ่นดิน ส่วนท่านจวน รับผิดชอบรักษาตำแหน่งผู้ครองแผ่นดิน”
หลี่ต๋าคางพูดไป จู่ๆมุมปากก็ยิ้มออกมา:“ตอนนั้นมีคำพูดว่า พ่อเป็นนายพล จวนเป็นจักรพรรดิ”
“ตอนนั้นพ่อกับท่านจวนต่างคิดว่าอยู่จุดสูงสุดแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่า……มีคนดึงพวกเราลงมาจากจุดสูงสุดนั่น”