NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 36
บทที่36 ขาของตู้เฟยราคาเท่าไหร่?
“ตู้เฟย คุณลืมอะไรไปอย่างหนึ่งหรือเปล่า?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองตู้เฟยอย่างเย็นชา
“ถ้าคุณไม่พูดฉันก็ลืมไปแล้วจริง ๆ คุณยังมีบันทึกเสียงอยู่ในมือนี่ ใช่ไหม?” ตู้เฟยมองหลี่ฝางพลางหัวเราะในลำคอ
“แต่คุณเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ฉันว่าคุณไม่ส่งบันทึกเสียงนั่นให้ฉันแน่” ตู้เฟยพูด
“ต่อให้ฉันยกปอร์เช่ให้คุณ คุณก็สำรองไฟล์บันทึกเสียงไว้อยู่ดี”
ตู้เฟยหัวเราะ มองหลี่หลง: “พี่หลง ลงมือเถอะ ช่วยผมหักขาหมอนี่ซะ”
“ให้หมอนี่ไม่มีทางไปโรงพักแจ้งตำรวจได้” ตู้เฟยหัวเราะเสียงเย็น
เมื่อหลี่หลงพยักหน้า กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็เริ่มขยับ แต่ละคนหยิบไม้เบสบอลออกมาจากอ้อมแขน มุ่งมาทางหลี่ฝางและถังหยู่ซวน
“หลี่ฝาง” ในตอนนั้นเอง ถังหยู่ซวนก็เอ่ยขึ้นมา
“นายวิ่งให้เร็วหน่อย ที่นี่ห่างจากคลับแค่ร้อยกว่าเมตร แค่นายวิ่งเข้าไปในคลับ ก็ไม่เป็นไรแล้ว ต่อให้หลี่หลงจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่กล้าลงมือที่Recalling the past เมื่อถึงRecalling the pastแล้ว ก็โทรหาพี่ชิงชิง เธอจะมารับนาย” ถังหยู่ซวนหัวเราะ คิดหาทางออกแทนหลี่ฝาง
“แล้วนายล่ะ?” หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน
“ฉัน? ฉันก็รอพวกนายมาช่วยฉันไง” ถังหยู่ซวนพูดอย่างไม่ใส่ใจ: “ชีวิตเน่า ๆ ของฉัน พวกมันไม่ต้องการหรอก เป้าหมายของพวกมันคือนายไม่ใช่ฉัน”
“วิ่ง!” พูดจบ ถังหยู่ซวนก็ผลักหลี่ฝางออกไป ขากะเผลกพุ่งเข้าใส่พวกของหลี่หลง
เมื่อไปถึงข้างหน้าคนพวกนี้ ถังหยู่ซวนก็ถูกเตะลงกับพื้นทันที เขากอดคนหนึ่งไว้อย่างสุดชีวิต ไม่ให้มันเข้ามาใกล้
“เป็นไอ้โง่จริง ๆ สินะ จะเอาไม้ซีกงัดไม้ซุงเหรอ?” มองการกระทำโง่เขลาของถังหยู่ซวนเช่นนั้นแล้ว ตู้เฟยและคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง
“หลี่ฝาง นายรีบวิ่งสิ!” ถังหยู่ซวนหันไป แล้วตะโกนไปทางหลี่ฝางเสียงดัง
“วิ่งเชี้ยอะไร!” หลี่ฝางกัดฟันกรอด ด่าอย่างโมโห
หลี่ฝางไม่วิ่ง ถ้าวิ่งแล้ว เขาจะไม่กลับมาเลย
ยิ่งไปกว่านั้น คนของหลี่หลงเยอะขนาดนั้น จะให้เขาวิ่งหนีไปได้อย่างไร
หลี่ฝางตะโกนใส่หลี่หลง: “หลี่หลง บอกคนของคุณหยุดตี”
“แม่งเอ้ย คุณเป็นใครฮะ ถึงกล้ามาสั่งฉัน” หลี่หลงย่นคิ้วอย่างโกรธ ๆ
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” หลี่ฝางส่ายหน้า: “ฉันแค่จะบอกว่า คุณตีเขาไปก็ไม่มีประโยชน์”
“ถ้าพวกคุณอยากตี ก็ควรจะตีฉัน” หลี่ฝางพูด
“ตัวต่อตัว” หลี่หลงหน้าครึ้มลง ไม่คิดจะปล่อยใครไปเลยสักคน
“แม่คุณสิ ตู้เฟยให้คุณเท่าไหร่ ฉันจะให้พวกคุณสองเท่า!” หลี่ฝางตะโกนเสียงดัง เขาไม่คิดจะลูกเล่นอีกต่อไป ถ้ายังใช้ลูกเล่นต่ออีก ขาของตัวเองก็คงได้หายไปจริง ๆ
หลี่หลงได้ยินดังนั้น ก็ตะโกนสั่งลูกน้องของตัวเองทันทีทันใด: “หยุดก่อน”
“เจ้าหนุ่ม เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ ฉันเหมือนจะได้ยินไม่ชัด” หลี่หลงเดินไปทางหลี่ฝาง แล้วถามอีกรอบ
“ตู้เฟยให้คุณเท่าไหร่ ฉันจะให้คุณสองเท่า” หลี่ฝางพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน
หลี่หลงหัวเราะในลำคอ ตบหน้าหลี่ฝางเบา ๆ เอ่ยอย่างเหน็บแนม “อย่างคุณ จะมีเงินเยอะขนาดนั้นเหรอ?”
“ตู้เฟยให้ฉันมาหลายแสน!” หลี่หลงถามอย่างสงสัย: “คุณจะจ่ายสองเท่าได้?”
“ได้!” หลี่ฝางพยักหน้า
“งั้นก็ดี ตู้เฟยให้ฉันสองแสนห้า ถ้าหากว่าคุณให้ฉันห้าแสนได้ล่ะก็ วันนี้จะปล่อยคุณไป” หลี่หลงพูด
ตอนนั้นเองตู้เฟยก็เริ่มร้อนใจ: “พี่หลง ทำไมพี่ถึงเป็นแบบนี้ไปได้!”
หลี่หลงไม่ได้สนใจเขา มองแค่หลี่ฝาง: “ห้าแสน คุณแน่ใจนะว่าจะจ่ายได้?”
เซี่ยลู่ดึงแขนตู้เฟยไว้แล้วพูดกับเขา: “พี่เฟย พี่ร้อนใจอะไร หลี่ฝางจะมีห้าแสนที่ไหน”
“เขาถูกลอตเตอรี่แค่ห้าแสน ยังถูกเขาใช้ไปหมดแล้ว พี่ให้เขาเอามาห้าแสนตอนนี้ จะเป็นไปได้อย่างไร?” เซี่ยลู่เอ่ย
“ก็จริง หมอนี่ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงห้าแสนให้หลี่หลงหรอก” ตู้เฟยจึงเบาใจลง
“ตู้เฟยจ่ายสองแสนห้าซื้อขาข้างหนึ่งของฉัน ใช่ไหม” ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางมองหลี่หลง แล้วหัวเราะ
“ใช่ ถ้าคุณอยากจะซื้อกลับไป ต้องจ่ายเป็นสองเท่าของราคา” หลี่หลงพูด
“ห้าแสนให้คุณได้ ฉันจะเพิ่มให้คุณอีกห้าแสน แล้วคุณช่วยฉันหักขาทั้งสองข้างของตู้เฟย” หลี่ฝางมองตู้เฟย พูดด้วยสีหน้าเย็นเยียบ
“นั่นไม่ได้” หลี่หลงส่ายหน้า
“ทำไมไม่ได้ ขาข้างหนึ่งไม่ใช่ว่าสองแสนห้าเหรอ? ฉันให้คุณเพิ่มอีกห้าแสน หักขาสองข้าง ทำไมไม่ได้?” หลี่ฝางถามอย่างไม่เข้าใจ
“บอกคุณแบบนี้แล้วกัน คนเรา แบ่งได้ตามระดับต่าง ๆ นี่ตู้เฟยเลยนะ เป็นคนระดับแรก แต่คุณน่ะ เป็นคนระดับล่าง ขาข้างหนึ่งของคนระดับล่างเลยราคาสองแสนห้า” หลี่หลงพูดกลั้วหัวเราะ
หลี่ฝางกัดฟันกรอด: “งั้นคุณบอกฉันมา ขาของคนระดับสูงราคาเท่าไหร่?”
ในมือหลี่ฝางมีอยู่แปดล้านกว่า ในตอนนี้เขาได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะต้องจ่ายกี่ล้าน เขาก็ต้องการหักขาหมาอย่างตู้เฟย
แต่ใครจะรู้ว่าหลี่หลงก็ยังคงส่ายหน้า: “ขาของคนระดับสูง ต่อให้จ่ายเท่าไหร่ ฉันก็ไม่กล้าตี”
“พ่อของตู้เฟยเป็นถึงผู้พัฒนามีชื่อของตงไห่ ฐานะทางสังคมมากกว่าร้อยล้าน ถ้าฉันไปหักขาตู้เฟยแล้ว พ่อของเขาจะปล่อยฉันไปเหรอ?”
“ฉันหักขาตู้เฟย จะทำให้ฉันกับพ่อของฉันเดือดร้อนมากมาย แต่คุณไม่เหมือนกัน ฉันสืบมาแล้ว พ่อแม่คุณล้วนเป็นคนธรรมดา ไม่มีเบื้องหลังอะไร อย่างเดียวที่ทำให้คนหวาดกลัวได้ คิดว่าคือหลินชิงชิง”
“แต่ว่าหลินชิงชิงเป็นแค่พี่สาวนอกไส้ของคุณเท่านั้นเอง ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดใดๆ กับคุณ ต่อให้ฉันหักขาคุณ เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรเหนือฉัน ก็ยังมีพ่อฉันอยู่”
หลี่หลงหัวเราะจนพูดจบ แล้วถามขึ้นอีก: “ว่าไง คุณมีเงินไถ่ขาตัวเองคืนไปไหม?”
“ถ้ามีก็รีบเอาเงินมาให้ฉัน ถ้าไม่มีก็อย่าเสือกพูดอะไรไร้สาระกับฉัน เสียเวลาอันมีค่าของฉัน” หลี่หลงพูด
“ฉันขอใช้โทรศัพท์!” หลี่ฝางล้วงโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะโทรหาพ่อของตน
“โทรทำไม?”
“หาคนเอาเงินมาให้คุณไง ฉันไม่ได้เอาเงินติดตัวมาเยอะขนาดนั้น?” หลี่ฝางมองบนใส่หลี่หลง
หลี่หลงก็กระโดดบินยกเท้าขึ้น เตะบริเวณท้องของหลี่ฝาง: “แม่คุณสิ คุณคิดว่าฉันเชื่อคุณจริงเหรอ ให้คุณโทรศัพท์ คุณก็ต้องแจ้งตำรวจก่อนแน่นอน!”
“เห็นโทรศัพท์ห่วยแตกนี่ของคุณแล้ว ก็แค่ไม่กี่ร้อยหยวน จะเอาเงินครึ่งล้านมาจ่ายให้ได้?” หลี่หลงหัวเราะออกมา: “เมื่อกี้ฉันแค่หยอกคุณเล่น”
หลี่หลงหัวเราะอยู่สักพัก ลูกน้องของเขาก็ถือไม้เบสบอลเดินเข้าหาหลี่ฝาง
เซี่ยลู่คว้าแขนตู้เฟยไว้: “พี่เฟย จะหักขาเขาจริง ๆ เหรอ?”
ตู้เฟยหัวเราะเสียงเย็น: “ทำไม สงสารอีกแล้ว?”
“สงสารกับผีสิ ฉันกลัวมีเรื่องต่างหาก ในมือหลี่ฝางยังมีบันทึกเสียงที่พวกเราแบล็กเมล์เขาอยู่ พวกเราจะหักขามัน เขาก็ต้องเกลียดพวกเรามากขึ้น รอสว่างแล้ว เขาต้องแล่นไปแจ้งความแน่” เซี่ยลู่ขมวดคิ้วแน่น เอ่ย: “ถึงตอนนั้น พวกเราไม่จบเห่กันเหรอ?”
“ฉันรู้อยู่แล้ว” ตู้เฟยยกมุมปากขึ้น แล้วจุดบุหรี่ให้ตัวเอง
“แต่ว่าฉันก็ถูกมันบังคับเหมือนกัน ฉันจ่ายไปตั้งสามแสน” ตู้เฟยเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน รู้สึกเสียดายเงินเล็กน้อย
“ไอ้หลี่ฝางคนนี้ เจ้าเล่ห์เกินไป บวกกับที่เมื่อก่อนพวกเราทำแบบนั้นกับมัน ต่อให้ฉันเอาปอร์เช่ให้มัน มันต้องเก็บบันทึกเสียงไว้แน่ ขอแค่มีบันทึกเสียงอยู่ พวกเราจะถูกมันจูงจมูกทั้งชีวิต”
“ดังนั้นฉันถึงจะให้หลี่หลงหักขามันข้างหนึ่ง เป็นขั้นแรกให้แก่มัน รอหลี่หลงหักขามันแล้ว ฉันก็จะให้มันลบบันทึกเสียงทั้งหมดทิ้ง ถ้าหากไม่ลบ ฉันก็จะหักขาอีกข้างของมัน”
ตู้เฟยพูดพลางยิ้มเหี้ยม: “รอหลี่ฝางถูกลงโทษแล้ว มันก็จะกลัวฉัน ถึงตอนนั้น ต่อให้มันจะมีไฟล์บันทึกเสียงสำรอง ก็ไม่กล้าไปสถานีตำรวจแจ้งความฉัน”
“คนอย่างหลี่หลงนั้น เขาทำคนพิการมาแล้วไม่น้อย เขาก็ยังอยู่ดีไม่มีเรื่องอะไรไม่ใช่เหรอ? มีพ่อของเขาลูกพี่หลี่อยู่ ใครจะกล้าไปในสถานีตำรวจแจ้งความลูกชายเขา แบบนั้นก็รนหาที่ตายน่ะสิ!”
“ฉันหักขาหลี่ฝางแล้ว เพราะอยากจะบอกหลี่ฝาง คนจนอย่างมัน สู้ทายาทตระกูลที่ร่ำรวยอย่างพวกเราไม่ได้หรอก เป็นศัตรูกับฉัน จุดจบขอบมันมีแต่ตายกับตายเท่านั้น”
ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วจริง ๆ มองคนของหลี่หลงที่ถือไม้เบสบอลเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เหงื่อกาฬไหลซึมบนใบหน้าของเขา
“เจ้าหนุ่ม อีกเดี๋ยวก็ทนหน่อยละกัน”
คนนั้นยกไม้เบสบอลขึ้น เมื่อกำลังจะตีหลี่ฝาง อยู่ ๆ แสงแสบตาของไฟรถก็ส่องเข้าตาเขา
“แม่ง รถใครวะ ส่องตาฉันจนจะบอดแล้ว!”
คนของหลี่หลงกำลังยกแขนขึ้นบังตา แต่ทว่ากลับเห็นรถพุ่งเข้ามาทางพวกเขา