NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 364
บทที่ 364 หลี่ฝางโดนจับ
พอหลี่ฝางได้ยินประโยคนี้ ก็ชะงักไปทั้งตัว
“นายไม่รู้อะไรเลยเหรอ?” ซือถูเฟยมองหลี่ฝางอย่างสงสัย และถามขึ้น
หลี่ฝางมองซือถูเฟย และส่ายหน้า จากสายตาของซือถูเฟย หลี่ฝางมองไม่เห็นถึงความอาฆาต
“เหอๆ พ่อนายนี่ทะนุถนอมนายจังนะ ที่เขาไม่บอกนาย คงจะไม่อยากลากนายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ว่า นายเป็นลูกชายของเขา จะทำเป็นคนนอกได้ยังไง?”
ซือถูเฟยหัวเราะเบาๆ : “เขาควรจะบอกนายนะ”
หลี่ฝางมองซือถูเฟยอย่างซับซ้อน: “เห็นที่นายจะรู้ทั้งหมด”
“ถ้างั้นนายก็บอกฉันมา เป็นยังไง?”
เมื่อครู่หลี่ฝางยังคิดว่าซือถูเฟยไม่เลว อยากจะไปดื่มเหล้าสานสัมพันธ์ เป็นพี่น้องกับเขา แต่ว่าตอนนี้เห็นที ซือถูเฟยไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เขาเห็น
ซือถูเฟยเป็นคนที่กว้างไกลไม่สามารถคาดเดาได้
วันนั้นที่บ้านพักตากอากาศในร้านขนมหวาน เขาถูกหลิวจินหยางรังแกขนาดนั้นยังไม่ยอมสวนกับ……
หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ ว่าคนอย่างซือถูเฟย ข้างกายจะไม่มีบอดี้การ์ด?
ความลึกลับของสี่ตระกูลใหญ่ นั้นลึกล้ำมากๆ
ซือถูเฟย เทียบกับมู่เสี่ยวไป๋ ฉินจื่อยี่และคนอื่นๆ นั้นสูงส่งกว่าเยอะ
แม้แต่มู่เสี่ยวไป๋ข้างกายยังมีบอดี้การ์ดคอยดูแลอยู่หนึ่งคน งั้นทำไมซือถูเฟยถึงไม่มีล่ะ?
คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยอมให้พวกอันธพาลรังแก และกับไม่โกรธ……
คนแบบนี้ น่ากลัวเกินไปแล้ว
“ช่างเถอะ ให้พ่อนายบอกนายด้วยตัวเองดีกว่านะ ให้ฉันบอก มันไม่เหมาะ”
ซือถูเฟยหัวเราะ มองหลี่ฝางแล้วถามขึ้น: “งั้นเหล้า พวกเรายังจะดื่มกันอยู่มั้ย?”
หลี่ฝางลังเลอยู่ครู่ จึงพูดขึ้น: “ช่างเถอะ พวกเราเป็นคู่อริกัน ไม่ใช่เพื่อนกัน มีแค่เพื่อนเท่านั้นที่สามารถร่วมวงนั่งกินเหล้ากันได้”
“นอกจากนั้น ฉันมองนายไม่ออก” หลี่ฝางพูด
“นายกลัวหรือไง?”
“ไม่ใช่แบบนี้ ถ้าหากว่าฉันดื่มจนขาดสติ แล้วนายแอบเอาฉันไปขายจะทำยังไง? งั้นฉันก็ซวยเลยน่ะสิ?” หลี่ฝางพูดพลางหัวเราะเหอะๆ
ที่จริงแล้ว หลี่ฝางนั้นกลัวจริงๆ
กินเหล้ากับเพื่อน ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร
แต่ต้องมาดื่มเหล้ากับคนที่มองไม่ออกว่าเป็นศัตรูหรือมิตรนั้น มันน่ากลัวมากๆ
“ฉันไม่มีเจตนาจะทำร้ายนาย ถ้าฉันอยากจะทำร้ายนาย ฉันคงไม่ช่วยนาย” ซือถูเฟยส่ายหัวอย่างผิดหวัง: “พูดตามจริง ที่จริงแล้วฉันชื่นชมนายนะ เกี่ยวกับประสบการณ์ของนาย ฉันตรวจสอบมาแล้ว คล้ายกับฉันมาก ฉันก็เคยอดทนกับคำดูถูกเหยียดหยามมาก่อน”
“เหอะๆ เรื่องนั้นจิ๊บๆ พวกเราล้วนใช่ชีวิตเพื่อวันนี้และต่อไป ไม่ว่าเมื่อก่อนจะตกต่ำขนาดไหน นั้นมันก็ผ่านไปแล้ว” หลี่ฝางพูดพลางยิ้ม
หลี่ฝางพูด พลางหันหลังเดินไป
หลี่ฝางก็เข้าใจ นั่นมันเป็นความแค้นของคนรุ่นก่อน
เรื่องของหลี่ต๋าคางกับสี่ตระกูลใหญ่นั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับซือถูเฟยเลย
แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง ซือถูเฟย ก็เป็นคนของฝั่งศัตรู การเป็นเพื่อนกับซือถูเฟย ก็ไม่ต่างอะไรกับการเล่นกับไฟ
อีกอย่างซือถูเฟยยากที่จะคาดเดาได้ เมื่อแกะอยู่กับหมาป่า ก็บอกไม่ได้ว่าเมื่อจะถูกเขมือบ
เดินไปได้ไม่ไกล หลี่ฝางก็ควักบัตรแบล็กการ์ดขึ้นมา แล้วส่งให้เฉินฝูเซิง: “ไปเคลียร์บิลให้ที”
หลี่ฝางเกือบลืม ว่าตนเหมาร้านไว้
ถ้าวันนี้……ตนจากไปแบบนี้ ค่าเสียหายจำนวนนี้ ก็ต้องลงที่หัวของซือถูเฟยไม่ใช่เหรอ?
“เหยดด นี่มันบัตรแบล็กการ์ดนี่?”
เฉินฝูเซิงมองบัตรใบนี้ แล้วรับไปอย่างตื่นเต้น: “คุณชายหลี่ ท่านนี่โคตรเจ๋งเลย”
“ไม่ได้และ ผมไม่กลับภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ผมจะอยู่ที่นี่เป็นลูกน้องท่านต่อ อยู่ข้างกายพี่ชายฝึกกังฟู ฝีมือกังฟูของเขา เก่งกว่าพ่อผมอีก พ่อผมเมื่อเทียบกับพี่ชาย ถือว่าอ่อนไปเลย” เฉินฝูเซิงยักคิ้ว แล้วพูด
หลี่ฝางเอือม: “คำพวกนี้ถ้ากษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขาคงตัดพ่อตัดลูกกับนายเลยนะ”
“นั่นจะเป็นอะไรไป ยังไงเขาก็มีลูกชายตั้งหลายคน ขาดผมไปคนก็ไม่เป็นไร” เฉินฝูเซิงพูดอย่างเฉยๆ
“งั้นนายขาดพ่อมั้ย?”
“ไม่ขาด อย่างมากก็คำนับคุณชายหลี่ เมื่อถึงตอนนั้น พ่อของท่านก็คือพ่อของผม” เฉินฝูเซิงหัวเราะฮี่ๆ พลางพูด
“เอาละ ไม่ต้องพูดมากแล้ว รีบไปเคลียร์บิลเถอะ”
หลี่ฝางควักบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน หลังจากจุดบุหรี่ก็พูดขึ้น: “ฉันรอนายอยู่นี่ นายกลับมาแล้วเราไปดื่มเหล้ากัน”
เฉินฝูเซิงไปได้ไม่นาน ก็มีรถตำรวจขับเข้ามาหนึ่งคัน
เมื่อไฟรถกะพริบ หลี่ฝางก็โยนบุหรี่ในมือทิ้ง จากนั้นก็ลากหลินชิงชิงและเริ่มวิ่ง
“อย่าขยับ ถ้าขยับพวกเราจะยิง!”
ตำรวจที่เหลือก็ควักปืนขึ้นมา เล็งไปที่หลี่ฝางกับหลินชิงชิง
หลี่ฝางกัดฟัน แล้วแอบสบถในใจ
คนที่นำมา คือหูเฟยจากกองบัญชาการ
หลี่ฝางมองหูเฟย แล้วหัวเราะเหอะๆ : “หูเฟย จำเป็น ต้องมาจับฉันด้วยตัวเองเลยเหรอ?”
หูเฟยก็รู้จักหลี่ฝาง ถึงยังไงเมื่อครั้งก่อนที่บ้านพักตากอากาศ หลี่ฝางก็เคยตามเขาไปให้ปากคำ
แต่ว่า หูเฟยไม่ได้รู้ถึงฐานะจริงๆ ของหลี่ฝางอย่างแน่ชัด
“พูดให้มันน้อยๆ หน่อย ฉันได้รับแจ้งความ มีคนยิงปืนทำร้ายคน เป็นนายใช่มั้ย? หลี่ฝาง” หูเฟยจ้องหลี่ฝางเขม็ง
“จะเป็นผมได้ยังไงล่ะ ผมเป็นแค่นักศึกษาธรรมดานะ จะไปเอาปืนมาจากไหน?” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูด
ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้หลี่ฝางไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่
บางทีอาจจะเป็นเพราะคำพูดประโยคนั้นของส้าวส้วย
ส้าวส้วยรับประกันกับหลี่ฝางแล้ว ว่าจะไม่ให้เขาต้องติดคุก
“ไปค้นตัวเขา” หูเฟยเล็งปืนไปทางหลี่ฝาง ตำรวจอีกนาย ก็เข้าไปค้นตัวหลี่ฝาง
หลังจากถูกค้นทั้งบนและล่างแล้ว ตำรวจนายนั้นก็ส่ายหน้าให้หูเฟย: “บนตัวเขาไม่มีปืนครับ”
หูเฟยขมวดคิ้ว จากนั้นก็มองไปทางหลินชิงชิง และพูดอย่างสงสัย: “อยู่ที่ผู้หญิงคนนี้?”
“เย่นจื่อ เธอไปค้นตัวหล่อนสิ” พอดีที่ ในตำรวจกลุ่มนี้ มีตำรวจหญิงอยู่นายนึงพอดี
“ระวังด้วย” หลังจากเย่นจื่อเข้าใกล้ หูเฟยก็เตือนอย่างเป็นห่วง
เย่นจื่อพยักหน้า แล้วเข้าค้นตัวหลินชิงชิง ผลก็เหมือนกับหลี่ฝาง
“ที่หล่อนก็ไม่มี? ทิ้งไปแล้วเหรอ?”
หูเฟยขมวดคิ้ว แล้วพูด: “ช่างเถอะ พากลับไปที่สถานีก่อนช่วยว่ากัน”
หลี่ฝางกับหลินชิงชิง ถูกตำรวจควบคุมตัวไป
พูดตามจริง หลี่ฝางคิดไม่ถึงว่าเฉียนเฟิงจะแจ้งความ คนหยิ่งแบบเขา ควรจะหาโอกาสมาแก้แค้นเองมากกว่า
เฉินฝูเซิงเคลียร์บิลเสร็จกลับมา ก็กลับมาเห็นหลี่ฝางกับหลินชิงชิงถูกตำรวจคุมตัวไปพอดี
เฉินฝูเซิงไม่ได้โง่วิ่งเข้าไป เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เขาก็มีส่วนร่วมด้วย ถ้าเข้าวิ่งเข้าไป ก็จะเป็นแบบเดียวกับหลี่ฝาง
เฉินฝูเซิงรีบหลบ รอให้ส้าวส้วยกลับมา
หลังจากที่ส้าวส้วยกลับมา ก็เห็นเฉินฝูเซิง: “คุณชายหลี่ล่ะ?”
“คุณชายหลี่ถูกตำรวจจับตัวไปแล้ว”
“แล้วก็หลินชิงชิง ก็ถูกจับไปเหมือนกัน”
เฉินฝูเซิงมองส้าวส้วย: “พี่ชาย ทำยังไงกันดี?”
“อย่าตื่นตกใจไป คุณชายหลี่ไม่เป็นอะไรหรอก วันนี้พวกเรามีสองคดี คดีแรก คือเฉียนเฟิง คดีที่สอง เป็นสวีเถิงเฟย คดีของสวีเถิงเฟย คงไม่ถูกตำรวจรู้ในเร็วๆ นี้หรอก”
ส้าวส้วยพูดอย่างมั่นใจ: “น่าจะเป็นเฉียนเฟิงที่แจ้งความ”
“พี่ชาย พี่ว่าพวกเราถูกซือถูเฟยแฉแล้วมั้ย? ความลับนี้ ดูแล้วซ่อนเงื่อนมากทีเดียว น่าจะมีไม่กี่คนที่รู้ นี่คุณชายหลี่ออกมา ก็ถูกจัดได้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นซือถูเฟยทำ” เฉินฝูเซิงกัดฟันพูด: “ไอ้หมอนี่ ภายนอกดูใจดี คิดไม่ถึงว่าในใจจะเลวแบบนี้”
“ครั้งหน้าถ้าเจอ ผมจะอัดมันสักยก” เฉินฝูเซิงพูดอย่างโมโห
“ก่อนหน้านั้นนายต้องสู้เขาให้ได้ก่อนนะ” ส้าวส้วยส่ายหน้า
“พี่ชาย พี่คิดว่าผมสู้เขาไม่ได้เหรอ? ผอมแห้งแรงน้อยแบบนั้น ผมบีบเขาตายได้ด้วยแค่มือข้างเดียวเลยนะ” เฉินฝูเซิงพูด
ส้าวส้วยไม่ได้พูดอะไรมากมาย เขาควักโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรหาลุงเฉียน
“ลุงเฉียน เกรงว่าลุงจะต้องกลับบ้านตระกูลเฉียนสักรอบแล้วแหละ” เมื่อสายติด ส้าวส้วยก็พูดเข้าประเด็น
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันต้องกลับไปตระกูลเฉียน?” ลุงเฉียนขมวดคิ้ว
ลุงเฉียนออกมาจากบ้านนั้นหลายปีแล้ว ตั้งแต่เรื่องเมื่อสามปีก่อน ก็ไม่อยากจะกลับไป
“คุณชายเกิดเรื่องแล้ว คุณชายยืนเฉียนเฟิงขาเดี้ยง แถมยังยิงกล่องดวงใจของเฉียนเฟิงอีก ตอนนี้เฉียนเฟิงแจ้งความแล้ว คุณชายก็ถูกตำรวจคุมตัวไปแล้ว เรื่องนี้ ขอแค่เฉียนเฟิงยอม……”
ส้าวส้วยยังไม่ทันพูดจบ ลุงเฉียนก็เข้าใจแล้ว
“โอเค เรื่องนี้เกี่ยวกับคุณชาย งั้นฉันกลับบ้านสักเที่ยว”
ลุงเฉียนวางสาย แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“สามปีแล้ว นี่ก็ถึงเวลากลับไปดูแล้วสินะ” สีหน้าของลุงเฉียนนั้นซับซ้อน