NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 389
บทที่389 การโต้กลับของหลี่ฝาง
สีหน้าของอาจารย์ อึดอัดขึ้นมา
การกระทำนี้ของหลี่ฝาง เต็มไปด้วยข้อพิสูจน์ นั่นก็คือเขามีเงิน
เอาเงินกว่าเจ็ดแสนไปให้คนอื่น คนแบบนี้ จะไปขโมยหนึ่งหมื่นเหรอ?
คำตอบคือไม่มีทาง
หลี่ฝางหัวเราะ มองอาจารย์ แล้วถาม:“อาจารย์ ตอนนี้ในมือคุณมีหนึ่งหมื่นกว่า หรือว่า คุณก็เป็นขโมยครับ?”
อาจารย์อึ้งไป รีบเอาเงินวางไว้ที่โต๊ะของหลี่ฝาง ทำเสียงฮึดฮัด พูดอย่างจริงจัง:“อาจารย์จะเป็นขโมยได้ไง?อีกอย่าง เงินที่มือผม ก็ไม่ใช่ของผม”
“อาจารย์ หยิบขึ้นมา”
หลี่ฝางยิ้มบางๆ:“เงินนี้ ผมเอาให้คุณ”
“นี่……”อาจารย์ลังเลหน่อยๆ ยังไง เงินนี้ถ้าเขาจะเอา นั่นก็เป็นการติดสินบน
เพื่อนนักเรียนเอากันได้ แต่เขาไม่ได้
“อาจารย์จะไปอยากได้เงินคุณได้ไง?”อาจารย์พูดจบด้วยหน้านิ่งๆ น้ำเสียงกลับอ่อนโยนไม่น้อย
เวลานี้ ใครๆก็มองออก หลี่ฝาง เป็นคนรวยที่ใช้เงินได้สุรุ่ยสุร่ายอย่างถูกต้อง
และยังเป็นคนรวยมากๆ
คนรวยธรรมดาๆ ใครจะไปกล้าเอาเงินกว่าเจ็ดแสนให้เพื่อนๆในห้อง?
หยูเถิงกล้าไหม?เขาไม่กล้าแน่นอน
หยูเถิงมองตู้เฟย ทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ:“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ กระเป๋าสะพายข้างของหลี่ฝาง จะมีเงินมากขนาดนั้นได้ไง?”
“พี่ชาย ผมก็ไม่รู้ หรือว่า เงินขายที่ของเจ้าหมอนี่ ยังใช้ไม่หมด?”ตู้เฟยพูดอย่างงุนงง
หยูเถิงพยักหน้า คิดว่าการเดาของตู้เฟย นั่นคือความจริง
“น่าจะเป็นแบบนี้ คุณพูดไม่ผิด เจ้าหมอนี่ทึ่มจริงๆ เอาเงินแบกมากับตัว ทำไม กลัวธนาคารจะยักยอกเงินเหรอ?ฮ่าฮ่า ตลกจะตายอยู่แล้ว”
“ไม่ใช่เหรอไง หลี่ฝางนี่ไม่ใช่แค่ทึ่ม แต่ยังชอบทำหน้าใหญ่ใจโต เงินแค่นี้ ยังจะแบ่งให้คนอื่นๆ”
ตู้เฟยพูดไป สีหน้าก็เย็นชา ในหัวเขา จู่ๆก็คิดถึงอดีต
เมื่อก่อนที่Lotus หลี่ฝางก็ทำให้ให้ตู้เฟยอับอายเช่นนี้
อีกอย่างอยู่ที่Recalling the past หลี่ฝางก็อาศัยเงินจำนวนนี้ ทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบาก
ตู้เฟยกัดฟัน ในใจฮึดฮัด นี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว?
ตู้เฟยคิดว่า หลี่ฝางไม่มีเงินแล้ว
เวลานี้หยูเถิงก็ส่ายหน้า พูดกับตู้เฟย:“ดูเหมือนครั้งนี้พวกเราจะแพ้อีกแล้ว ยอมแพ้เถอะ ยืนขึ้นมาคุยกับอาจารย์ ว่าเงินหาเจอแล้ว”
ตอนนี้ ใครจะไปเชื่อว่าหลี่ฝางเป็นขโมยล่ะ?
ไม่ใช่แค่ไม่มีคนเชื่อ ถ้าวุ่นวายจนตำรวจมา หยูเถิงก็ยังขี้ขลาดหน่อยๆ
ยังไง ตอนนั้นที่ยัดเงินในกระเป๋าสะพายหลี่ฝาง ก็มีคนจำนวนมากที่เห็น
พยานพวกนี้เมื่อกี๊ไม่ได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ให้หลี่ฝาง เพราะว่าพวกเขาไม่สนิทกับหลี่ฝาง
แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป เมื่อกี๊พวกเขาได้รับประโยชน์จากหลี่ฝาง คนละสองหมื่น
ถ้าตำรวจมา ใครกล้ารับประกันว่าพยานพวกนี้จะไม่ออกมา กล่าวหาว่าตู้เฟยใส่ร้ายล่ะ?
ตู้เฟยพูดอย่างหงุดหงิด:“เสียซ้ำเสียซ้อนจริงๆเลย ตอนนี้ ไม่ใช่แค่ไม่ได้ทำร้ายไอ้หมอนี่ แต่ยังเสียหนึ่งหมื่นไปฟรีๆ”
“มีอะไรให้โกรธล่ะ พวกเราขาดทุนแค่หมื่นกว่า แต่หลี่ฝางเสียไปตั้งเจ็ดแสน ที่จริง พวกเราก็ชนะ”หยูเถิงยิ้มไปปลอบไป
ได้ยินคำนี้ ใบหน้าตู้เฟย ก็ปรากฏรอยยิ้มทันที
“อาจารย์ ขอโทษครับ ผมคิดออกแล้ว เงินหนึ่งหมื่นนี้ เมื่อวานผมไปซื้อคอม ขอโทษจริงๆ”ตู้เฟยยืนขึ้นมาหัวเราะ อธิบายกับอาจารย์
หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“เมื่อวานซื้อคอมก็ยังลืม ทำไม วันนี้ลืมสมองไว้ที่บ้านเหรอ?”
“แล้วก็คุณ ถังจิ้น คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเห็นผมด้อมๆมองๆไปมาตรงที่นั่งตู้เฟย นั่งอยู่นานน่ะ?”
“ผมเห็น แล้วทำไม?”ถังจิ้นพูดอย่างโมโห
“เหรอ?อาจารย์ คุณก็ไม่โง่ สามคนนี้ใส่ร้ายผมชัดๆ”
“มากกว่าใส่ร่าย ก็คือหมิ่นประมาท ถังจิ้น คุณบอกว่าตอนเที่ยงเห็นหลี่ฝางด้อมๆมองๆอยู่ตรงที่นั่งของตู้เฟย จำได้ไหมว่ากี่โมง?ช่างเถอะ ไม่ว่ากี่โมง ตอนเที่ยงนี้ ผมอยู่กับหลี่ฝางตลอด เงาติดตัวไม่เคยห่าง อีกอย่างพวกเราก็อยู่ที่โรงอาหารตลอด โรงอาหารนี้มีกล้องวงจรปิด”หวางเสี่ยวโก๋ยืนขึ้นมาพูด
“งั้นผมก็มองผิดแล้ว”ถังจิ้นพูดอย่างพอเป็นพิธี
“มองผิด?ระยะห่างใกล้ขนาดนี้คุณก็มองผิด ผมว่าคุณตาบอดแล้วมั้ง?”หวางเสี่ยวโก๋พูดเสียงเยือกเย็น
ในแววตาของถังจิ้น มีความเยือกเย็นปรากฏ
หวางเสี่ยวโก๋ไม่กลัวเลย ยังไง หวางเสี่ยวโก๋ในตอนนี้ ก็ตัดสินใจเดินหน้าไปด้วยกันกับหลี่ฝางแล้ว
“จ้องอะไร ยังไม่รีบขอโทษหลี่ฝางอีก?”หวางเสี่ยวโก๋มองถังจิ้นอย่างเย็นชา พูดไป
“นักเรียนคนนี้ รีบขอโทษซะ”
“ไม่อย่างนั้น คุณก็ไม่สามารถเรียนจบได้”
“นี่เปิดเทอมวันแรก คุณก็ไปกล่าวหาคนอื่น ก่อปัญหาให้หลี่ฝางขนาดใหญ่ ผมบอกคุณให้นะ ถ้าหลี่ฝางแจ้งความ คุณจะโดนข้อหากล่าวหา ต้องติดคุก”อาจารย์ก็อยู่ข้างหลี่ฝาง พูดเสียงคมกริบกับถังจิ้น
ถังจิ้นกัดฟันแน่น เหมือนไม่อยากขอโทษ
“ขอบคุณที่พวกคุณเตือน ผมจะแจ้งความ”
“อาจารย์ แล้วก็เพื่อนๆในห้อง รบกวนเป็นพยานให้ผมด้วย”หลี่ฝางพูดไป ก็หยิบโทรศัพท์ เตรียมแจ้งความ
“ผมขอโทษ”
ถังจิ้นพูดด้วยหน้าบูดบึ้ง:“หลี่ฝาง ขอโทษ”
หลี่ฝางทำเหมือนไม่ได้ยิน โทรต่อไป ขณะเดียวกันก็บ่นพึมพำ:“ทำไม ตู้เฟยทิ้งสมองไว้ที่บ้านเหรอ?ส่วนคุณทิ้งเสียงไว้ที่บ้าน?เสียงเบาขนาดนี้ ใครจะได้ยิน?”
“หลี่ฝาง ขอโทษ”
ถังจิ้นพูดเสียงดังไปที่หลี่ฝาง
“แม่เอ๊ย คุณทำผมตกใจจริงๆ เสียงดังขนาดนี้ คุณตะคอกผม หรือว่าขอโทษผม?”หลี่ฝางดูเย็นชา คิ้วขมวด เดินไปที่ถังจิ้น
“แม่เอ๊ยคุณไม่เคยขอโทษใช่ไหม?”หลี่ฝางถามไป
“คุณมีท่าทีขอโทษหน่อยไหม?ก้มเป็นเปล่า ท่าทีก็ต้องถ่อมตัวด้วย เข้าใจไหม?”หลี่ฝางถาม
“ขอโทษ หลี่ฝาง”
ถังจิ้นลดความเย่อหยิ่งลง ขอโทษหลี่ฝาง
ถังจิ้นไม่อยากเข้าคุก
“แม้แต่ขอโทษก็ยังให้คนอื่นสอน งี่เง่าเต่าตุ่นจริงๆ”หลี่ฝางทำเสียงฮึดฮัด พูดไป
ถังจิ้นได้ยินคำว่างี่เง่านี้ ในใจก็ไม่พอใจอย่างมาก แต่เขาไม่กล้าทำอะไรหลี่ฝาง
ถังจิ้นเพิ่งเงยหน้าขึ้น หลี่ฝางก็ยกแขนขึ้นมา ตบใส่ที่หน้าของถังจิ้นทันที
เสียงตบดังแปะ ใบหน้าของถังจิ้น ก็ทิ้งรอยนิ้วมือทั้งห้าไว้
ที่หน้าของถังจิ้น กลายเป็นโหดร้ายขึ้นทันที
ถังจิ้นมองหลี่ฝาง ดูชั่วร้าย เหมือนจะกินหลี่ฝาง
“ทำไม ตบคุณฉาดหนึ่งก็ไม่ยอมแล้ว?ไม่งั้น คุณตบผมสักฉาดไหมล่ะ?”หลี่ฝางมองถังจิ้นอย่างเย็นชา
ถังจิ้นกัดฟันแน่น ทนไว้
เขาไม่ทน ก็ต้องเข้าคุกอย่างไม่ต้องสงสัย
ตบนี้ รุนแรงกว่าเข้าคุกมากสินะ?
เสียงตบดังฉาดนี้ ทุกคนในห้อง ต่างส่งสายตามองมาที่หลี่ฝางอย่างนับถือ
ใครว่าหลี่ฝางนั้นจนและกระจอก?
หลี่ฝางเจ๋งสุดๆเลยโอเคไหม?
ถังจิ้นเป็นหลานชายของห้าวหนานแล้วยังไง ถูกตบต่อที่สาธารณะ ไม่อารมณ์ขึ้นเลยสักนิดเหรอ?
“บอกว่าคุณตาบอด”หลี่ฝางพูดนิ่งๆ
“หลี่ฝาง คุณอย่าทำเกินไปสิ อย่างมากผมก็เข้าไปไม่กี่วัน ถึงตอนนั้นผมออกมา ผมจะเอาคุณตายเลย”ถังจิ้นกัดฟัน พูดอย่างโมโห
“โอเค งั้นคุณก็ตบผมได้ เอาที่เสียหน้าคืนกลับไป”
“แต่คุณคิดดีแล้วใช่ไหม เข้าไปไม่กี่วันไม่เป็นไรน่ะ คดีนี้ก็จะถูกติดตัวคุณไป แล้วที่คุณเข้ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ได้ ก็ถือว่าเข้าไปฟรีๆ ผมได้ยินว่าห้าวหนานต้องลงแรงไปไม่น้อย เพื่อให้คุณเข้าไปที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่”
“ทำไม คุณจะให้ลุงคุณผิดหวังคุณเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ มองถังจิ้นอย่างขี้เล่นแล้วถามไป
พอห้าวหนานพิการ ก็อยากให้ชีวิตถังจิ้นอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงหาคอนเนคชั่นมากมาย เอาถังจิ้นเข้าไปที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่
สีหน้าของถังจิ้น เต็มไปด้วยความตกใจ
“คุณรู้ได้ไง?”ถังจิ้นมองหลี่ฝางอย่างแปลกใจ
“เหอะเหอะ ต่างเป็นความลับเล็กๆน้อยๆ ผมยังรู้ความลับเล็กๆอีกอย่าง อยากฟังไหม”
หลี่ฝางพูดเสียงทุ้มต่ำ พูดแนบไปที่หูถังจิ้น:“ที่จริงคุณไม่ใช่หลานชายของห้าวหนาน คุณคือลูกชายแท้ๆของห้าวหนานสินะ?”
พูดคำนี้ไป ถังจิ้นก็ตะลึงทันที