NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 392
บทที่392 พี่ใหญ่ สูบบุหรี่สิ
อาการของซินปา เหมือนกับเห็นผี
ตู้เฟยถามว่า:“พี่ซินปา คุณเป็นอะไรไป?”
ซินปากลืนน้ำลาย สายตามีความหวาดกลัว ถามตู้เฟย:“พวกคุณว่าไอ้หมอนั่นที่ทำร้ายครูฝึก คงไม่ใช่เขาใช่ไหม?”
“ใช่สิ เขานั่นแหละ”ชี้ไปส้าวส้วย ตู้เฟยพยักหน้า
จากนั้น ตู้เฟยก็ยิ้ม:“พี่ซินปา ถึงตาคุณออกโรงแล้ว”
ใจของซินปาในตอนนี้ เย็นขึ้นทันที
เขาเคยเห็นส้าวส้วยลงมือแล้ว
เมื่อก่อน เสือร่วมมือกับลูกน้องของห้าวหนาน เตรียมจะจัดการให้จางกงหมิงตาย
ใครจะไปคิดว่า เวลาที่สำคัญช่วงสุดท้าย จางกงหมิงจะไปสมรู้ร่วมคิดกับหวางเห้า แล้วยังพาผู้ชายตรงหน้าคนนี้มา……ส้าวส้วย
เสือที่มีชื่อเสียงมานานหลายปี แค่เพราะเจอปีศาจตัวนี้ ก็ทำให้วันนี้เขามีจุดจบ
เสือโหดแค่ไหน ซินปารู้ดีมาก แม้แต่ตอนนั้นที่ห้าวหนานพี่ใหญ่ตัวเองหยิ่งยโส ก็ยังพูดว่าเสือคนนี้แตะต้องไม่ได้
แต่เสือเจอส้าวส้วยเข้า กลับเหมือนแค่ลูกแมวตัวหนึ่ง ถูกทุบตีจนไม่อาจปกป้องได้
ซินปามองส้าวส้วย ก็เข้าไปทันที
เห็นซินปาเข้ามาก่อนเอง ที่ใบหน้าหยูเถิง ก็ปรากฏรอยยิ้มตื่นเต้น
“พี่ซินปา……”
หยูเถิงที่รีบเดินไปไม่กี่ก้าว กำลังเตรียมจะไปต้อนรับซินปา ใครจะไปรู้ว่าซินปากลับไม่สนใจเขาเลย
ซินปามาตรงหน้าส้าวส้วย ยื่นบุหรี่ให้ส้าวส้วย หัวเราะหึหึ:“พี่ใหญ่ เจอท่านอีกแล้วนะ มา สูบบุหรี่สิ”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ เหลือบมองหยูเถิง แล้วรับบุหรี่เข้ามาในมือ:“ทำไม หยูเถิงให้คุณมาจัดการผมเหรอ?”
“นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ พี่ใหญ่ พี่ไม่จัดการผมก็ดีแล้ว แล้วผมจะจัดการพี่ได้ไง”ซินปารีบพูดเคลียร์:“ผมกับคุณชายหยูแค่เพื่อนธรรมดาๆ ไม่ได้ติดต่อกันเท่าไหร่”
“มา พี่ๆ สูบบุหรี่กัน”
ซินปายื่นบุหรี่ให้หลี่ฝางและคนอื่นๆทีละคน จากนั้นก็ด่าเสี่ยวเจ๋และเพื่อนๆของตัวเอง:“คุณนี่โง่เหรือเปล่าแม่เอ๊ย คุณไปจับคอเสื้อเขาได้ไง ยังไม่รีบเอามือออกอีก”
“ไม่เอาออกอีก กลับไปคุณถูกตัดมือแน่”ซินปาพูดกับลูกน้องตัวเอง สั่งสอนอย่างเย็นชา
เสี่ยวเจ๋และคนอื่นๆก็ตะลึง นี่มันอะไรกัน?
แต่พวกเขาก็รีบปล่อย จากนั้นก็เริ่มขอโทษพวกนักเรียนคนอื่นๆ
เพราะว่าสายตาพวกเขามีแวว มองท่าทีซินปาต่อส้าวส้วยออก
พวกเขาเดาออก ส้าวส้วยนี้ ไม่ใช่คนทั่วๆไปแน่
แน่นอน พวกเขาไม่เคยเห็นฝีมือของส้าวส้วย ถ้าเคยเห็น ส้าวส้วยจะต้องน่ากลัวกว่าพี่ใหญ่ซินปาตัวเองแน่
“ห่า พี่ซินปา นี่คุณเล่นอะไรเนี่ย ผมให้คุณมาทำร้ายพวกเขานะ ทำไมคุณไปให้บุหรี่พวกเขา?”หยูเถิงมองเห็นฉากนี้ ก็เข้าไปอย่างโมโห
“ทำไม พี่ซินปา หรือว่าผมไม่ได้ให้เงินคุณ?ผมคุยเรื่องผลประโยชน์กับคุณแล้วไม่ใช่เหรอ?รอให้โครงการที่ศูนย์การค้าพวกเราตระกูลหยูได้ไป ผมจะให้พี่มีรายได้”หยูเถิงรีบสัญญากับพี่ซินปาอีกครั้ง
ซินปาขมวดคิ้ว แอบส่งสายตาให้หยูเถิง
นี่มันเรื่องเงินเหรอ?
ส้าวส้วยนี้ เสือที่มีชื่อเสียง พออยู่ในมือของส้าวส้วย ก็มีแต่เจ็บปวดใจ
ถ้าตัวเองไปจัดการส้าวส้วย นั่นไม่ใช่ว่าตัวเองไปหาเรื่องอยากตายเหรอ?
ซินปาจ้องหยูเถิง พูดว่า:“พอเถอะน่า คุณชายหยู โครงการที่ศูนย์การค้านี้ พวกคุณตระกูลหยูพวกคุณจะประมูลได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ ……ถึงประมูลได้ ผมก็ไม่ยุ่ง”
“ซินปา คุณหมายความว่าไง?เมื่อกี๊คุณบอกว่าคุณกับเพื่อนๆของคุณหิวแทบตาย ไม่มีข้าวให้กิน ตอนนี้กลับกันบอกว่าไม่ยุ่งด้วย?”หยูเถิงก็โกรธหน่อยๆ
“พูดอะไรน่ะ ผมเป็นนักเลงมาหลายปี จะอดตายได้เหรอ?รีบๆไสหัวไป”ซินปาพยายามส่งสายตาให้หยูเถิงสุดๆ
แต่ หยูเถิงกำลังโกรธมาก ยังต้องแคร์อะไรพวกนี้อีก
“เหอะเหอะ จะเสแสร้งไปทำห่าไร พี่ใหญ่ห้าวหนานของพวกคุณก็พิการแล้ว พวกคุณยังจะมีธุรกิจอะไรหาเงินได้อีก”หยูเถิงหัวเราะอย่างเย็นชา กลอกตาใส่ซินปา
เวลานี้ ตู้เฟยก็เดินเข้ามา
“พี่ชาย พี่ซินปา พวกคุณจะสู้กันเองทำไม”เห็นท่าไม่ดี ตู้เฟยก็รีบเข้ามาโน้มน้าว
จากนั้น ตู้เฟยมองไปก็พูดไป:“พี่ซินปา ในเมื่อคุณไม่เชื่อว่าตระกูลหยูสามารถรับโครงการที่ศูนย์การค้ามาได้ งั้นเอางี้ ผมเสนอราคาละกัน ผมอยากได้ขาข้างหนึ่งของหลี่ฝาง แสนหนึ่ง พอไหม?”
“ถ้าไม่พอ ผมเพิ่มให้ได้อีก”
ตู้เฟยหัวเราะ พูดว่า:“มีอำนาจในการคบหาเป็นเพื่อน”
“แม่เอ๊ยคุณโง่เหรอ?”ซินปาหันหน้าไป กลอกตาใส่ตู้เฟย ต่อว่าทันที
“นี่มันยุคไหนแล้วเนี่ย ตัดขาแลกกับเงินแสนหนึ่ง?แม่เอ๊ย ผมคือพลเมืองดี ไม่ใช่นักเลง ตอนนี้มีกฎหมายควบคุม คุณคิดว่าเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เหรอ?ผมว่าเด็กอย่างคุณดูหนังมากไปไหม”
มองตู้เฟย ซินปาก็ด่าทันที:“ถ้าคุณเก่งนัก ก็ไปตัดขาเขาเองสิ อย่ามายุ่งกับผม ผมไม่อยากกินข้าวคุก”
“แม่เอ๊ย เด็กๆตอนนี้ ประสาทกันมากขึ้น”ซินปาด่า
สีหน้าตู้เฟย ดูอึดอัดทันที
เขาไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมซินปาด่าตัวเอง
ซินปาไม่ใช่นักเลงเหรอ?
ตัวเองพูดอะไรผิด?
ซินปาปฏิบัติกับตัวเองอย่างกับกินดินปืนมา ตู้เฟยอึดอัดใจหน่อยๆ มองซินปาแล้วถาม:“พี่ซินปา คุณหมายความว่าไงกันแน่ หลอกพวกเราสองพี่น้องเหรอ?”
“เมื่อกี๊คุณรับประกันกับผมแล้ว บอกว่า ……”
ตู้เฟยยังไม่ทันพูดจบ ซินปาก็ยกแขนขึ้นมา ตบไปที่หน้าของตู้เฟย หนึ่งฉาดทันที
“หุบปากซะ พูดเหลวไหลที่นี่ให้มันน้อยๆหน่อย เมื่อกี๊ผมไม่ได้พูดอะไร ได้ยินไหม?”ซินปาชี้ไปที่จมูกตู้เฟยแล้วต่อว่า
“ห่า ซินปา บ้าแล้วเหรอ ทำน้องชายผม?”หยูเถิงเดินเข้ามา จ้องซินปาเขม็ง
“ไม่อยากช่วยก็บอก”
“คุณตบเขาทำไม?”หยูเถิงโกรธหน่อยๆ
เวลานี้หลี่ฝางเดินเข้าไป พูด:“พอเถอะ ไม่ได้โง่กันนะ ผมเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ซินปาใช่ไหม?ผมว่าคุณอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย คุณน่าจะเป็นคนที่หยูเถิงให้มาจัดการพวกเราสินะ?ผมเคยเห็นคุณ เมื่อก่อนอยู่กับห้าวหนานใช่ไหม?”
หลี่ฝางหัวเราะ เข้าใจว่าทำไมซินปากลัวส้าวส้วย
เพราะว่าซินปาเคยเห็นฝีมือส้าวส้วยแล้ว
“น้องชายคนนี้จำได้ดีจริง ก่อนหน้านี้พวกเราเคยมีชะตากรรมต่อกันจริงๆ ใช่สิ เรื่องของจางกงหมิง พวกเราตัดสินใจช่างมัน นี่คือความตั้งใจของพี่ใหญ่ห้าวหนาน หวังว่าน้องชายจะช่วยบอกจางกงหมิง”
“น้องชายช่างฉลาด มองออกทุกอย่าง ……แต่ คนไม่รู้ไม่ผิดนี่ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเป็นคุณ ถ้ารู้ว่าเป็นคุณ ผมไม่มาหรอก ห่า นี่ก็รีบมาเหนื่อยไปเสียเปล่า เกือบจะทำให้พี่ใหญ่โกรธ”พูดถึงตรงนี้ ซินปาก็มองส้าวส้วยอย่างผวาอยู่
ซินปาเสเพลอยู่ในยุทธภพมาหลายปี ถึงแม้ตอนนี้ส้าวส้วยดูเป็นแค่นักเรียน แต่ซินปารู้ ตัวตนของส้าวส้วย ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นแน่
นี่น่าจะเป็นตัวละครหนึ่งที่โหดร้าย
สามารถจัดการเสือให้แย่ได้ทันที คนแบบนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
ถ้าเขาคลุกคลีกับพวกนักเลง กลัวว่าสังคมมืดในเมืองเอก จะต้องถูกเขาปั่นป่วนแน่นอน
ได้ยินคำนี้ หยูเถิงกับตู้เฟยก็พอจะเข้าใจขึ้นมา
ก็แค่ พวกเขาเข้าใจผิด พวกเขาคิดว่า ซินปากลัวคือจางกงหมิง
“พี่ เรื่องนี้ พวกเราอยากทำให้มันดีแต่ดันกลายเป็นแย่แล้ว พี่ชายของหลี่ฝางก็คือจางกงหมิง ตอนนี้เสือตายแล้ว อำนาจจางกงหมิงก็ขึ้นไป กลายเป็นผู้มีอิทธิพลของเมืองเอก ไม่น่าล่ะซินปาไม่กล้าทำหลี่ฝาง”ตู้เฟยแนบข้างหูหยูเถิง แล้วพูดเบาๆ
หยูเถิงขมวดคิ้ว:“แม่เอ๊ย ชีวิตของเด็กนี่ ทำไมดีขนาดนี้”
หยูเถิงโกรธจนกัดฟัน นี่หลายครั้งแล้ว ที่ตกอยู่ในมือหลี่ฝาง
“ช่างเถอะ ตอนดึกค่อยจัดการเขา”หยูเถิงไม่พอใจ พูดอย่างทำอะไรไม่ได้
ซินปาตอนนี้ก็พูดมา:“พี่ๆน้องๆ ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อนล่ะ รอวันไหนมีเวลา ผมจะเลี้ยงเหล้าทุกคน จากนั้นก็ขอโทษ ว่าไง?”
ซินปามองหลี่ฝางแล้วถาม เขามองออกว่า หลี่ฝางต่างหากที่เป็นลูกพี่
หลี่ฝางหัวเราะอย่างมีเลศนัย:“ผมว่า ก็ไม่เลว”
“คุณอุตส่าห์มาแล้ว แล้วยังทำซะเว่อร์วังขนาดนี้ ถ้าไม่ทำอะไรเลย จะไม่ไร้ค่าไปเปล่า”หลี่ฝางพูดไป ตาก็มองไปที่ตู้เฟย