NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 400
บทที่ 400 เป็นตู้เฟยที่ทำร้ายนาย
พูดได้ว่าหวงว่างโก๋ตั้งตารอเป็นประกาย บอกได้ว่ารอการมาของหลี่ฝาง
“คุณชายหลี่?”
พอได้ยินชื่อเรียกนี้ หยูเถิงแค่รู้สึกว่าตัวเองต้องฟังผิดไปแน่ๆ
หวงว่างโก๋คนนี้ทำไมถึงเรียกหลี่ฝางว่าคุณชายหลี่ล่ะ?
หลี่ฝางกระแอมสองที: “พี่หวง ล้อเล่นอะไรครับเหนี่ย ผมใช่คุณชายหลี่อะไรนั่นที่ไหนกัน”
ที่จริงในตอนนี้ เพื่อนทั้งชั้น ส่วนมากก็พอเดาได้ว่าฐานะของหลี่ฝางไม่ธรรมดา
จ่ายเงินสดเข้าห้องตั้งเจ็ดแสน และเมื่อกี้เคลียร์บิล ก็รูดไปอีกห้าแสนกว่า
วันนี้ ใช้เงินไปเป็นล้านๆ แล้ว
ประเด็นคือบนหน้าของหลี่ฝาง ไม่เห็นถึงความเสียดายตังค์ใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับนักเรียนทั่วไปแล้ว กินข้าวมื้อนึงจ่ายเงินหลักพันหน้าก็เขียวแล้ว แต่ว่าหลี่ฝาง ห้าแสนขนยังไม่ร่วงสักเส้น
ออร่าความรวยนี้ ถ้าไม่ใช่คุณชาย ยังจะเป็นอะไรได้อีก?
จะเป็นอย่างที่ตู้เฟยพูดจริงๆ หรือเปล่า เป็นแค่คนยากจนจริงๆ เหรอ?
“พี่หวง ผมมีเรื่องต้องทำนิดหน่อย จัดการเรียบร้อย จะไปหานะครับ” หลี่ฝางพูดกับหวงว่างโก๋
หวงว่างโก๋พยักหน้า: “โอเค นายมีธุระก็ไปจัดการก่อน พี่จะรอ”
“แต่ว่า นายอย่าเทฉันแล้วกัน” หวงว่างโก๋ชี้ไปที่หลี่ฝาง แล้วพูดเตือน
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “ครั้งที่แล้วผมลืมจริงๆ ”
ครั้งก่อน หลี่ฝางนัดหวงว่างโก๋เฉินเจียโล่และคนอื่นๆ ว่าสุดสัปดาห์นัดกินข้าว แต่เพราะว่ายุ่งๆ หลี่ฝางจึงลืมไป
หลังจากหวงว่างโก๋ไป สีหน้าของหยูเถิง ก็สงสัยขึ้นทันที
“หลี่ฝาง นายเป็นใครกันแน่?” ถึงแม้หยูเถิงจะโง่ แต่ก็พอดูออก
ไม่ใช่แค่ช่วยตนจ่ายบิลราคาห้าแสน แถมยังเรียกคนอย่างหวงว่างโก๋แบบพี่น้อง
หลี่ฝางก็รู้ว่าใกล้จะหลอกต่อไปไม่ได้แล้ว จากนั้นก็กระซิบที่ข้างหูลู่เชาไม่กี่คำ
จากนั้น หลี่ฝางก็ตบไปที่บ่าของหยูเถิง แล้วพูด: “ถ้าหากฉันพูดไม่ผิด ตระกูลหยูของพวกนาย คงจะใกล้ล้มละลายแล้วใช่มั้ย?”
“ก็แค่เจอปัญหาเรื่องการเงินนิดหน่อย ยังไม่ถึงขั้นล้มละลาย” หยูเถิงเชื่อมั่นในรากฐานของตระกูลหยู
ตนเพิ่งออกมาจากตระกูลหยูได้แค่วันเดียว ทำไมจู่ๆ ถึงได้ล้มละลายล่ะ?
ตระกูลนี้เป็นตระกูลเก่าแก่หลายสิบปี รากฐานของตระกูล ทำไมถึงได้ถูกทำลายลงได้ในแค่วันเดียวล่ะ?
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
หลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าตระกูลหยูจะไม่เคยเจอวิกฤต แต่ในครั้งนั้น ก็ผ่านพ้นมันมาได้นี่?
ดังนั้น หยูเถิงเชื่อว่า ตระกูลหยูที่หนุนหลังตน เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกถอนรากแบบนี้
“ไป ไปหาที่คุยกัน” หลี่ฝางพูดพลางหัวเราะ
“มีอะไรที่ต้องหลีกเลี่ยงผู้คน?” หยูเถิงขมวดคิ้ว
“ฉันเกรงว่าถ้ามีคนอื่นอยู่ นายจะกระอักเลือด” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ จากนั้นก็โอบหยูเถิง และเดินไปยังสนามหญ้าฝั่งตรงข้าม
และในตอนนั้น ลู่เชาก็สั่งการออกไป ว่าให้เพื่อนร่วมชั้น กลับไปแล้วอย่าพูดเรื่องของหลี่ฝางไปเรื่อย
หลังจากสั่งการ ลู่เชาก็เดินไปทางรถปอร์เช่ 918 สีแดงคันนั้น
“พี่เชา เสียมารยาทถามนิดนึง ท่านกับคุณชายหลี่ มีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?”
“เหอะๆ พวกเราที่จริงแล้วเป็นเพื่อนของคุณชายหลี่”
ส้งเคอเดินขึ้นหน้ามา แล้วถามลู่เชา
ส้งเคอและคนอื่นๆ สงสัยว่าสรุปแล้วลู่เชาใช่คุณชายของสี่ตระกูลหรือเปล่า
เพราะว่าจากท่าทีของลู่เชาก็สามารถเห็นได้ว่า ลู่เชานั้นเกรงกลัวหลี่ฝางเอามากๆ
“นายคือคนของคุณชายหลี่ใช่มั้ย?” หวงเจ๋ก็เดินขึ้นหน้ามา และเอ่ยถามเช่นกัน
สีหน้าของลู่เชาเลิ่กลั่กอยู่ครู่ เขาคิดไม่ถึงว่าฐานะของตนจะถูกจับได้
เขาไม่ได้ปิดบัง พูดพลางหัวเราะ: “เห็นว่าพวกนายรู้จักกับเจ้านาย งั้นฉันก็จะบอกความจริงให้ฟังแล้วกัน ที่จริงแล้ว ฉันเป็นแค่ลูกน้องของคุณชายหลี่เท่านั้น”
“งั้นรถคันนั้น?” ใบหน้าของหวงเจ๋ เต็มไปด้วยความตกใจ
“แน่นอนว่าเป็นของคุณชายหลี่สิ” ลู่เชาพูดพลางหัวเราะ และเข้าไปในรถ
ในรถ มีสาวสวยคนนึงนั่งอยู่
หลังจากรถขับออกไป ส้งเคอถึงพูดขึ้น: “คุณชายหลี่สรุปแล้วเป็นคนยังไงกันแน่เหนี่ย? น่ากลัวไปแล้ว ปอร์เช่ 918 คันนี้ กลับเอามาให้ลูกน้องขับ?”
“แล้วก็ป้ายทะเบียนรถนี่ เป็นป้ายทะเบียนรถของท่านจวน ทำไมถึงได้หลุดมาถึงคุณชายหลี่ได้ คุณชายหลี่คนนี้ กับท่านจวนมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?”
หวงเจ๋ส่ายหน้า: “เรื่องนี้พวกเราอย่าเพิ่งพูดถึงเลย เมื่อกี้ฉันได้รับข่าวมา ว่าตระกูลหยูเป็นไปได้มากว่าจะล้มละลายแล้ว”
“ตระกูลหยูล้มละลาย? เรื่องนี้จริงหรือปลอมเหนี่ย ตระกูลหยูก็ดีๆ อยู่ ทำไมบอกว่าล้มละลายก็ล้มไปทั้งอย่างนั้นได้ล่ะ” หน้าของเฝิงจื่อหลิน เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เฝิงจื่อหลินออกแบบเสื้อผ้า สำหรับธุรกิจของตระกูลหยู เฝิงจื่อหลินก็สนใจอยู่ตลอด
สามารถพูดได้ว่าครั้งนี้ที่กลับมา คู่แข่งของเฝิงจื่อหลิน ก็คือตระกูลหยู
“คุณชายหลี่ลงมือเหรอ” หวงเจ๋ทำสีหน้าสงสัย
“คุณชายหลี่ใช้เวลาแค่วันเดียว ก็ขุดรากถอนโคน ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหยู ทั้งหมดต้องพังเพราะหยูเถิงคนเดียว” หวงเจ๋ถอนหายใจ
“เวลาแค่วันเดียว? หวงเจ๋ นายบอกว่าคุณชายหลี่ใช้เวลาแค่วันเดียว ก็สามารถขุดรากถอนโคนตระกูลหยูได้แล้ว เป็นไปได้ไง?” ส้งเคอไม่ค่อยเชื่อ
“ฉันก็คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่ว่าความจริงก็วางกองอยู่ตรงหน้าแล้ว พวกเราไม่เชื่อก็ไม่ได้”
หวงเจ๋ถอนหายใจเฮือกใจ: “ตระกูลหลี่แห่งบ้านพักตากอากาศ น่ากลัวกว่าที่พวกเราคิดไว้มาก……โชคดี พวกเราไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจ”
ในใจของหวงเจ๋ หลี่ฝางกลายเป็นปีศาจไปแล้ว
ไม่สิ น่ากลัวกว่าปีศาจอีก
“เมื่อคืนสวีเถิงเฟยเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สองแขนสองขาพิการหมด อีกครึ่งชีวิตที่เหลือ ทำได้แค่นั่งบนรถเข็น แต่พวกนายคิดว่าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ เหรอ?” หวงเจ๋หัวเราะอย่างเย็นชา และพูดด้วยสีหน้าซับซ้อน
“ถ้าไม่งั้นล่ะ?” เฝิงจื่อหลินถาม: “หรือว่ามีสาเหตุอื่น?”
“หวงเจ๋ อย่าลีลา ถ้ารู้อะไร ก็รีบบอกมา ในพวกเรา ไม่มีหนอนบ่อนไส้” จางเฉียงร้อนรนเล็กน้อย
หวงเจ๋ส่ายหน้า แล้วพูด: “ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
“งั้นนายพูดพร่ำอะไรเหนี่ย?” จางเฉียงได้ยินแบบนี้ ก็ไม่พอใจทันที
หน้าของส้งเคอและเฝิงจื่อหลิน ก็มีความไม่พอใจและผิดหวัง
ในนานหวงเจ๋ ก็พูดขึ้นต่อ: “หรือว่าพวกนายไม่ใช่สมองคิดหน่อยเหรอ ไม่กี่วันก่อนที่บ้านพักตากอากาศ สวีเถิงเฟยคนนั้นทำอะไรไว้?”
“สวีเถิงเฟยกับคุณชายหลี่มีเรื่องกัน……” ส้งเคอพูด
เฝิงจื่อหลินก็คิดขึ้นได้: “หวงเจ๋ ความหมายของนายคือ เรื่องที่สวีเถิงเฟยพิการ คุณชายหลี่เป็นคนทำเหรอ”
หวงเจ๋ยิ้ม: “ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ พวกนายพูดกันเองนะ”
……
ทันใดนั้น ใบหน้าของทุกคน ก็ซีดกันหมด
หลี่ฝาง ทำเรื่องได้เด็ดขาดและรุนแรงมาก
คนนึงพิการ อีกคนตระกูลล้มละลาย
หลังจากหลี่ฝางกับหยูเถิงมาถึงสนามหญ้า หลี่ฝางก็หยิบบุหรี่ขึ้นมวนนึง และยื่นให้หยูเถิง: “อย่างแรก ฉันจะสารภาพเรื่องนึงกับนาย”
“เรื่องฐานะของนาย?”
หลี่ฝางพยักหน้า: “ที่จริงแล้วฉันคือคุณชายของพักบ้านพักตากอากาศ หลี่เจียเฉินคือปู่ของฉันเอง”
เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ ลมหายใจของหยูเถิงก็เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น
“ช็อกมากใช่มั้ย? ช็อกก็ถูกแล้ว” หลี่ฝางยิ้มอย่างเย็นชา
หยูเถิงมองหลี่ฝาง ถามด้วยใจที่เต้นรัว: “ที่ธุรกิจของลุงฉันตู้ต้าไห่ล้มละลาย เป็นนายที่ทำ?”
“ไม่ใช่แค่ตู้ต้าไห่ รวมไปถึงตระกูลหยูของพวกนายด้วย ก็เป็นฉันที่ทำ” หลี่ฝางพูดพลางยิ้ม
“นาย!” หยูเถิงพูดด้วยสีหน้าอาฆาต เกือบจะลงไม้ลงมือกับหลี่ฝาง
ส้าวส้วยเดินออกมาจากหลังต้นไม้ต้นนึงอย่างช้าๆ จึงทำให้ความต้องการทำร้ายหลี่ฝางของหยูเถิงหยุดชะงัก
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “โชคนายไม่ดี ที่ไปเป็นลูกพี่ลูกน้องของตู้เฟย”
“ประเด็นสำคัญก็คือ นายช่วยตู้เฟยทำร้ายฉันครั้งแล้วครั้งเล่า นี่เป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ตระกูลหยูพังพินาศ” หลี่ฝางพูด
“หึ อย่าฝันเลย ถึงแม้ตระกูลหลี่ของนายจะมีเงิน อยากจะขุดรากถอนโคนตระกูลหยู ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ แล้วอีกอย่างนี่มันเพิ่งจะแค่วันเดียวเอง ถึงจะเป็นหนึ่งปี เกรงว่าพวกนายก็ทำไม่ได้ อย่าดูถูกตระกูลหยูของพวกเรานักสิ” หยูเถิงพูดอย่างหยิ่งผยอง
“เหรอ?”
หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเปิดไฟล์นึง จากนั้นก็ยื่นให้หยูเถิง: “นี่คือลูกค้าหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมดของพวกนายใช่มั้ย?”
“ทั้งหมดอยู่ในนี้ใช่มั้ย?” หลี่ฝางพูดพลางยิ้มอ่อน: “ไม่น่าตกหล่นนะ”
หยูเถิงมองรายชื่อในไฟล์นี้ ก็ถึงกับอึ้ง
ในไฟล์นั้น ไม่ได้มีแค่รายชื่อลูกค้า นอกจากนั้นยังมีข้อมูล พวกราคา และสิ่งที่ควรมี
“ตระกูลหยูมีหนอนบ่อนไส้……” หยูเถิงกัดฟันแน่น ข้อมูลพวกนี้ นอกจากคนในตระกูล ก็ไม่มีใครหาได้
หลี่ฝางพูด: “ลูกค้าของตระกูลหยูของพวกนาย หยุดการค้าทั้งหมดแล้ว บอกได้ว่า เสื้อผ้าที่ตระกูลหยูของนายผลิตออกมา ก็ขายไม่ออกแล้ว……ทำได้แค่ขายล้างสต๊อกเท่านั้น ฉันได้ยินมาว่าตระกูลกู้เงินมากมายเพื่อโครงการถนนการค้า กู้เงินมาไม่น้อยนี่……”
“เงินในธนาคารมีปัญหา และกำลังต้องการเงินก้อนนี้จากพวกนาย ถ้าหากไม่มีให้ ก็รอล้มละลายได้เลย”
หลี่ฝางยิ้ม แล้วพูดอย่างมั่นใจ: “ฉันคิดว่าตระกูลหยูของพวกนายไม่มีเงินให้หรอก”
“นายมันชั่ว……” หยูเถิงมองหลี่ฝาง กัดฟันแน่นแทบหัก
“ชั่วเหรอ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณชายหลี่ เกรงว่าฉันจะเล่นพวกนายถึงตายเลย”
หลี่ฝางปัดๆ ก้นแล้วยืนขึ้น พูดพลางทำสีหน้าเย็นชา: “ฉันแค่โชคดี เกิดดีกว่านายหน่อย เงินเยอะกว่านายหน่อย เส้นสายเยอะกว่านายหน่อย”
“หยูเถิง ไม่ใช่ฉันทำร้ายนายนะ แต่เป็นตู้เฟยน้องชายนายที่ทำร้ายนาย”
“แก……แกมันสารเลว ฉันจะอัดแก!” หยูเถิงพุ่งเข้าหาหลี่ฝาง ราวกับคนบ้า