NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 435
บทที่435 ความองอาจสง่าผ่าเผยของแม่
กระสุนยิงไปที่ฝ่ามือของฉินเสี่ยวหู่
ฉินเสี่ยวหู่กรีดร้องโหยหวน
ใบหน้าของมู่หรงฉางเฟิงขาวไปหมด
เมื่อก่อน มู่หรงฉางเฟิงหยิ่งยโสมาก คิดว่าถึงตัวเองจะไม่ใช่คุณชายของสี่ตระกูลใหญ่ ก็พึ่งความสามารถของตัวเอง นั่นก็เป็นความภาคภูมิใจหนึ่งในล้านที่หาได้
แต่ใครจะไปรู้
หลายปีมานี้ มู่หรงฉางเฟิงต่อสู้อย่างยากลำบากมาเป็นร้อยครั้งที่กรงแปดเหลี่ยม ถึงจะฝึกกังฟูได้
แต่พอมาอยู่ตรงหน้าของส้าวส้วย แม้แต่โอกาสที่จะสู้กลับยังไม่มี
สำหรับพวกอาวุธปืน มู่หรงฉางเฟิงไม่ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง
ถึงแม้ไม่ใช่มือปืนที่ยิงแม่นทุกนัด แต่ในระยะภายในหนึ่งร้อยเมตร ยิงไปต้องมีคนถึงแก่ชีวิต เขาก็สามารถทำได้ง่ายดาย
อีกอย่าง เขายังมีสัมผัสที่หกอันเฉียบแหลม
ถ้ามีมือปืนอยู่ใกล้ๆ เขาจะต้องรู้สึกได้แน่นอน
แต่ครั้งนี้ กระสุนมาจากทางไหน มู่หรงฉางเฟิงกลับไม่รู้เลย
มือปืนคือใคร?
อยู่ตรงไหน?
อยู่ไกลจากตัวเองแค่ไหน?
ทั้งหมดนี้ มู่หรงฉางเฟิงไม่รู้ว่า
ที่ใบหน้ามู่หรงฉางเฟิงมีเหงื่อไหล หัวใจของเขาเต้นเร็ว ทั้งตัวเขาสั่นขึ้นมาด้วยความกลัว
นี่คือสไนเปอร์คนหนึ่ง
และวิธียิงปืนก็แม่นมาก
มู่หรงฉางเฟิงไม่กล้าจินตนาการเลยว่า ถ้าปืนนี้ ไม่ได้ยิงไปที่ฝ่ามือของฉินเสี่ยวหู่ แต่ยิงไปที่ร่างของตัวเอง ผลจะเป็นไง
สไนเปอร์คนนี้สามารถทำได้เลย
หมายความว่า ชีวิตของตัวเอง สามารถถูกอีกฝ่ายเอาไปได้ตลอดเวลา
มู่หรงฉางเฟิงเปิดประตูรถ เข้าไปข้างใน เขากลืนน้ำลาย เหงื่อที่ใบหน้าไหล เยอะยิ่งกว่าฉินเสี่ยวหู่
เหงื่อเย็นๆที่หน้าของฉินเสี่ยวหู่ ไหลออกมา
และเหงื่อเย็นๆที่ใบหน้าของมู่หรงฉางเฟิง ก็น่าตกใจ
“พอเถอะ อย่าร้องเลย”
ได้ยินเสียงร้องอันโหยหวนจากปากของฉินเสี่ยวหู่ ในใจของมู่หรงฉางเฟิงก็ยิ่งว้าวุ่น
“ผมบอกว่าอย่าร้องไง”
ฝ่ามือถูกยิง ความเจ็บปวดข้างในใจ ฉินเสี่ยวหู่จะทนไหวได้ไง?
ฉินเสี่ยวหู่ก็ยังคงกรีดร้องอย่างน่าอนาถ มู่หรงฉางเฟิงทนไม่ไหว หันหน้าไปทันที กำหมัดขึ้นมา แล้วต่อยไปที่หน้าของฉินเสี่ยวหู่ตรงๆ อยู๋สองหมัดหนักๆ
เสียงร้องหยุดลง ฉินเสี่ยวหู่ก็สลบไป
ไม่มีเสียงร้องแล้ว ความกลัวในใจของมู่หรงฉางเฟิงยังไม่หายไป
แต่ว่า ยังกลัวมากขึ้น
ภายใต้ความเงียบ มู่หรงฉางเฟิงก็กลัวมากขึ้น
“หน้ากากล่ะ?”
มู่หรงฉางเฟิงพบด้วยความแปลกใจ หน้ากากยักษ์หลอซ่าในรถนั้น จู่ๆก็หายไป
มู่หรงฉางเฟิงหาอยู่นาน แทบจะหาไปทั่วรถแล้ว สุดท้ายก็ไม่เจอ
มู่หรงฉางเฟิงกลัวมากขึ้น เขาคว้าคอเสื้อของฉินเสี่ยวหู่ไว้ หยิกเขา หยิกจนทำเขาฟื้นขึ้นมา
“หน้ากากผีอยู่ไหน?”
มู่หรงฉางเฟิงมองฉินเสี่ยวหู่ ถามเสียงดัง
“หน้ากากผี……ไม่ได้อยู่นี่เหรอ?”ฉินเสี่ยวหู่มองไปข้างหน้า แต่ไม่เจออะไร
“เมื่อกี๊ยังอยู่นี่”
ฉินเสี่ยวหู่ก็ตะลึง จากนั้นก็มองมู่หรงฉางเฟิง“คุณชายมู่หรง คุณเอาไปใช่ไหม”
จากนั้น ฉินเสี่ยวหู่ก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่มาจากแขนเขา“คุณชายมู่หรง พาผมไปโรงพยาบาลได้ไหม มือผม……”
มือของฉินเสี่ยวหู่ จนตอนนี้ก็ยังเลือดไหล
มู่หรงฉางเฟิงจ้องเขา“ไอ้โง่อย่างคุณ อยากไปพันแผลข้อมือที่โรงพยาบาลเหรอ?”
“ใช่ไง”
ฉินเสี่ยวหู่พยักหน้า“ถ้ายังไม่ไปพันแผล มือผม ก็จะพิการแล้ว!”
“ส่งคุณไปที่โรงพยาบาล กับส่งคุณที่สถานีตำรวจ ต่างกันตรงไหน?ไอ้โง่!”
หลังจากด่าฉินเสี่ยวหู่ไปยกใหญ่ มู่หรงฉางเฟิงก็ออกรถทันที
รถของมู่หรงฉางเฟิงขับออกไปจากเบนซ์G-Classสีแดง
พอรถของมู่หรงฉางเฟิงออกไป ร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง ก็ปรากฏที่หลังรถ
“พ่อ!”
เป็นหลี่ต๋าคาง!
เห็นหลี่ต๋าคาง หลี่ฝางก็ร้องออกมาอย่างดีใจ
ที่จริง เมื่อกี๊หลี่ฝางก็ตกใจ
เสียงปืนดังขึ้น หลี่ฝางหันไปมอง ฉินเสี่ยวหู่ดันแอบโจมตีลับหลังส้าวส้วยจากข้างหลัง
น่าเสียดาย ฉินเสี่ยวหู่ยังไม่ทันเหนี่ยวไก ก็ถูกกระสุนมาจากที่ไกลๆ ยิงเข้าใส่ฝ่ามือ
หลี่ฝางแปลกใจหน่อยๆ มองไปรอบๆ แต่ส้าวส้วยดูท่าทางไม่สนใจ เหมือนว่าทุกอย่างนี้ อยู่ในการคาดเดาของเขาแล้ว
“พ่อผมมาได้ไง?”
หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ
ส้าวส้วยหัวเราะ“ลูกพี่มาตั้งนานแล้ว”
ทันใดนั้น ส้าวส้วยก็กระโดดลงจากรถ พูดว่า “ไม่ใช่แค่ลูกพี่มา แต่โหจื่อก็มาด้วย”
เพราะว่าอายุของโหจื่อกับส้าวส้วยไล่เลี่ยกัน ดังนั้นถึงแม้โหจื่อจะเป็นรุ่นน้องของส้าวส้วย แต่ส้าวส้วยก็จะเรียกชื่อเล่นเขา ไม่เรียกว่ารุ่นน้อง
“ปืนเมื่อกี๊ เป็นโหจื่อที่ยิงเอง?”หลี่ฝางคิดได้ทันที
หลี่ฝางเกือบลืมไป โหจื่อนี้ คือเทพมือปืน
“ไม่จำเป็น”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า“ถ้าโหจื่อมาแล้ว จากสันดานเขาแล้ว จะต้องเข้ามาโชว์ความแข็งแกร่งของตัวเองแน่นอน”
“ถ้าปืนนี้โหจื่อยิง งั้นหลังจากที่เขายิงไป จะต้องทิ้งปืน เข้ามาดูฉากเด็ด ทำเหมือนเป็นคนเดินผ่าน ถามว่าฉินเสี่ยวหู่เจ็บไหม”
ส้าวส้วยส่ายหน้า“เขาชอบล่วงเกินศัตรูของตัวเอง”
“มีคนนิสัยแบบนี้ด้วยเหรอ”หลี่ฝางยิ้มอย่างหมดคำพูด
ทันใดนั้น ส้าวส้วยก็พูดต่อ“อีกอย่าง ถ้าเขายิง ไม่ยิงแค่นัดเดียวแน่ เขากับตระกูลมู่หรงมีความบาดหมางกันเล็กน้อย ถ้าเขายิงปืน เกรงว่ามู่หรงฉางเฟิง ชีวิตนี้ก็คงไม่รอดแล้ว”
ยังไงส้าวส้วยกับโหจื่อก็รู้จักมาหลายปี ดังนั้นทั้งสองฝ่ายต่างรู้จักสนิทสนมกับอีกฝ่ายอย่างดี รวมถึงนิสัยของบุคคล และความเคยชินในการทำเรื่องต่างๆ
“ใช่สิ ถ้าไม่ใช่โหจื่อ งั้นจะเป็นใคร?”
ตอนนี้เอง รถยนต์ออดี้สีขาวคันหนึ่ง ก็ขับเข้ามาจากไกลๆ
คนที่ขับรถ เป็นแม่ของหลี่ฝาง เมี๋ยวชุ่ย
มือหนึ่งของเมี๋ยวชุ่ยขับรถไป อีกมือก็ถือปืนสไนเปอร์
“นัดเมื่อกี๊ เป็นแม่ผมที่ยิง?”มองเห็นฉากนี้ หลี่ฝางก็กลืนน้ำลายอย่างตะลึง
“น่าจะนะ”
ส้าวส้วยพยักหน้าหัวเราะไป“ใช่สิ คุณยังไม่รู้เหรอ?กังฟูของโหจื่อ เรียนมากับผม เทคนิคยิงปืนของเขา ก็เป็นแม่ของคุณเอง และก็เป็นอาจารย์ที่สอนผม”
“อาจารย์คุณ?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว“แม่ผมคืออาจารย์คุณ?”
“ก็ใช่ไง เทคนิคขับรถของผม ก็แม่คุณสอน”
“ดังนั้นแม่คุณคืออาจารย์ผม”
“ตอนนั้น อาจารย์โยนกระดาษที่ขยำมาให้พวกเราสองอัน ทั้งสองกระดาษขยำนั้นแบ่งกันเขียนคำว่าปืนกับรถไว้ หยิบอันไหนไป ก็ต้องเรียนกับอาจารย์อย่างนั้น ผมหยิบได้รถ ส่วนโหจื่อ หยิบได้ปืน”
“พูดถึงแล้ว ผมกับโหจื่อ นอกจากจะเป็นความสัมพันธ์ทางด้านอาจารย์กับศิษย์กันแล้ว ก็ยังเป็น พี่น้องที่มาจากสำนักเดียวกันอีก”
ส้าวส้วยหัวเราะหึหึ จากนั้นก็โบกมือทักทาย กับเมี๋ยวชุ่ยที่อยู่ในรถ
หลี่ฝางอ้าปากกว้างอย่างตกใจ ดูไม่ค่อยเชื่อ ยังไงเมื่อก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยเห็นแม่ตัวเองเล่นปืนมาก่อน และก็ไม่เคยเห็นเธอขับรถด้วย
ตลอดมา แม่ของตัวเองสาวสวยชนบท และเป็นภรรยาและแม่ที่ดี
ใครจะไปคิดว่า เบื้องหลังของแม่ จะเป็นเทพแห่งปืน และยังเป็นเทพแห่งรถอีก!
พอรู้ความจริงเรื่องนี้ ในใจของหลี่ฝาง มีแค่สองคำตะลึง!
ห่า!
พ่อของตัวเองปกปิดตัวเองก็พอแล้ว ตอนนี้แม้แต่แม่ตัวเองยังหลอกตัวเองด้วย
หลี่ฝางอยากร้องไห้อย่างน้อยใจ
พ่อกับแม่ของตัวเองมีความสามารถมากมายขนาดนี้ ทำไมไม่สอนตัวเองล่ะ?
นี่ใช่ลูกแท้ๆหรือเปล่า?
หลี่ฝางเปิดประตูรถ พ่นลมหายใจยาวๆออกมา หลี่ต๋าคางมองหลี่ฝางที่มีความน้อยใจ ก็ถาม“เป็นอะไรไป ลูกชาย?”
“ไม่ครับ แค่อยากเข้ามาถามพ่อ ว่าผมใช่ลูกแท้ๆของพ่อไหม?”
หลี่ฝางมองหลี่ต๋าคาง ถามด้วยใบหน้าหดหู่“ทำไมพ่อสอนกังฟูส้าวส้วย ไม่สอนผมล่ะ”
“จริงๆเลย ความสามารถขอตัวเองดันไม่สอนลูก ไม่น่าล่ะลูกถึงได้ตำหนิว่าคุณ”เมี๋ยวชุ่ยที่อยู่ในรถ ก็กลอกตาใส่หลี่ต๋าคาง
“แม่ แม่อย่าว่าพ่อเลย แม่กับพ่อก็ศีลเสมอกันแหละ แม่ไม่ได้บอกเหรอว่าตัวเองขับรถไม่เป็น?แล้วนี่แม่ขับอะไร แล้วก็ ที่มือแม่ยังถือสไนเปอร์อีก เมื่อกี๊ที่ยิงไป แม่ยิงใช่ไหม?”
“พ่อผมไม่สอนผม คุณก็ไม่สอนผม”หลี่ฝางถอนหายใจ
“เหอะเหอะ เดี๋ยวตำรวจก็มาแล้ว พวกเรารีบไปเถอะ”
หลี่ต๋าคางหัวเราะฮ่าฮ่า เข้าไปในรถแล้วพูด“เสี่ยวฝาง สองวันนี้พ่อกับแม่ค่อนข้างยุ่ง จะไม่มาเยี่ยมลูกแล้วนะ ลูกก็ดูแลตัวลูกเองดีๆล่ะ”
หลี่ต๋าคางยังไม่ทันพูดจบ เมี๋ยวชุ่ยร้อนตัวจึงสตาร์ทรถ
เมี๋ยวชุ่ยกลัวว่าหลี่ฝางจะระดมคนไปทวงความยุติธรรม
ส้าวส้วยลงจากรถ ตบไหล่ของหลี่ฝาง“อย่าว่าลูกพี่กับอาจารย์เลย พวกเขาไม่อยากให้คุณเข้ามายุ่งกับยุทธภพก็เท่านั้น”
“บนโลกนี้ คนที่มีความสามารถ อาจไม่ได้มีความสุขไปมากกว่าคนที่ไร้ความสามารถ”