NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 438
บทที่438 เรื่องราวเมื่อสามปี
หลี่ฝางตะลึง
“ฟังที่คุณพูดแล้ว แม้แต่พ่อผมก็ยังกลัวคนพวกนี้?”หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าซีเรียส
“ก็ไม่ใช่ ลูกพี่ไม่กลัวพวกเขา”
ใบหน้าส้าวส้วยมีรอยยิ้มที่มั่นใจ“ก็แค่น้ำที่เมืองเอก ลึกพอแล้ว สี่ตระกูลใหญ่ จนตอนนี้ยังไม่ถูกขุดออกมา ถ้าเอาคนพวกนั้นเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ก็จะยิ่งยุ่งยาก”
“แต่ลูกพี่รับปากแล้วหลิงหลง วันหนึ่ง จะไปแก้แค้นให้หลิงหลง ……ก็แค่ โอกาสยังไม่มาถึง”
ได้ยินคำนี้ หลี่ฝางก็ถือว่าโล่งอก
“ลูกผู้ชายสิบปีล้างแค้น ก็ยังไม่สายนี่”หลี่ฝางหัวเราะ พูดเสริมไป
ส้าวส้วยส่ายหน้า“สิบปีนานไป ใครก็รอไม่ไหว……ที่จริงสามปีก็ว่านานแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าสามปีนี้พวกเราผ่านอะไรมาบ้าง”
“ผ่านอะไรมาล่ะ?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ
มองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของส้าวส้วย หลี่ฝางก็คิดว่าตัวเองช่างไม่เหมาะสม
“คุณไม่อยากพูดก็ช่างเถอะ ผมไม่ควรจะถาม”หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูกตัวเอง
“บอกคุณไปก็ไม่มีอะไร ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว”
“อิทธิพลของสี่ตระกูลใหญ่ ไม่ใช่แค่กระจายไปที่เมืองเอก แต่ยังไปทั่วประเทศ พวกเขาติดต่อสัมพันธ์ กับผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆมากมาย”
“รวมถึงที่เมืองหลวง ก็มีคนของพวกเขา”
“เมื่อก่อน ท่านจวนกับลูกพี่ไม่รู้ว่ามีสี่ตระกูลใหญ่อยู่ และก็ยิ่งไม่รู้ว่าเบื้องหลังของพวกนักธุรกิจในเมืองเอกมีสี่ตระกูลใหญ่ที่เป็นผีดูดเลือดนี้ซ่อนไว้อยู่ ท่านจวนกับลูกพี่ร่วมมือกัน ทั้งสองเข้าไปเคลื่อนทัพที่เมืองเอก แต่ในช่วงเวลาสั้นๆก็ผุดขึ้นอย่างฉับพลัน ไปแย่งธุรกิจที่เป็นของสี่ตระกูลใหญ่ไปไม่น้อย”
“เวลานี้ สี่ตระกูลใหญ่ส่งคนไปหาถึงที่ อยากจะจัดการท่านจวนกับลูกพี่ แต่ไม่ว่าจะเป็นท่านจวนหรือว่าลูกพี่ ต่างก็เป็นคนที่โอหังสุดๆ จะไปยอมให้คนอื่นจัดการได้ไง?”
“สี่ตระกูลใหญ่เสนอทรัพยากรให้พวกเขา ท่านจวนกับลูกพี่ไม่ได้รับไว้ แน่นอนว่า ก็ไม่ยอมจ่ายเงินพวกเขาด้วยเช่นกัน”
“และในช่วงเวลาจากนั้น สี่ตระกูลใหญ่ก็เริ่มแอบลอบกัดท่านจวนกับลูกพี่ ในช่วงที่สู้นี้ก็มีทั้งแพ้และชนะ”
“ในตอนนี้เอง นักธุรกิจไม่น้อยมาหาท่านจวน หลบภัยกับท่านจวน มาหาการคุ้มกันจากท่านจวนและลูกพี่ พวกเขาไม่อยากจ่ายเงินให้สี่ตระกูลใหญ่”
“ท่านจวนกับลูกพี่รับปากคำขอร้องของคนพวกนี้ ความเกลียดชัง ก็เริ่มขยายกว้างจากตอนนี้”
“จากนั้น ประลองฝีมือกันอยู่เกือบหนึ่งปี ในหนึ่งปีนี้ สี่ตระกูลใหญ่ไม่หยุดแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่สง่างามของตัวเอง พวกเขาแข็งแกร่งมากจริง สำหรับพวกเราที่ตอนนั้นเป็นศัตรูแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเอาชนะพวกเขาได้”
“กระทั่งว่า แม้แต่ว่าสี่ตระกูลใหญ่พักอยู่ที่ไหน ซ่องโจรอยู่ที่ไหน พวกเราก็ไม่รู้เลย”
“สุดท้ายไม่ต้องพูดมากคุณก็รู้ ท่านจวนจึงต้องลาตำแหน่งไปเช่นนี้ ส่วนลูกพี่ ก็พาพวกเราหนีไป”
“ผมพวกลักลอบไปที่ชายแดนชั่วข้ามคืน ที่ชายแดน ลำบากมากๆ ตอนที่หิวก็ไม่มีข้าวกิน ตอนที่กระหายก็ไม่มีน้ำดื่ม ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ดีไปกว่าคุณเท่าไหร่นัก อย่างเดียวที่โชคดีกว่าคุณ ก็คือพวกเราเคียงข้างไปด้วยกัน”
“ผู้ชายยังดี แต่หลิงหลง ถูกจับไปสองครั้ง ครั้งแรกถูกพวกเราช่วยกลับมา ครั้งที่สอง เธอหนีกลับมาเองได้”
“ต่อมา พวกเราก็เจอคนๆหนึ่ง เขาก็คือปู่คุณ”
ส้าวส้วยพูดไป ก็หยุด
ตาของหลี่ฝางเป็นประกาย“ปู่ผม?ปู่ผมยังมีชีวิตอยู่เหรอ ไม่มีทางอ่ะ?ก่อนหน้านี้ผมไปที่ชนบทแล้วก็ถามมาแล้ว ปู่ผมตายไปนานแล้ว ผู้ใหญ่บ้านยังเห็นร่างปู่ผมถูกเผาไปกับตา หรือว่านี่ไม่จริง?”
“ไม่ใช่แท้ๆ แต่ยอมรับเป็น”
“เขามีชื่อต่างชาติ ยาวมากๆ รอวันหนึ่งจัดการสี่ตระกูลใหญ่ หรือว่าลูกพี่พาคุณไปดูไบ ถึงตอนนั้น คุณก็จะรู้ว่าเขาคือใคร เขามีชื่อเสียงมาก มีชื่อเสียงยิ่งกว่าประธานาธิบดี”
“หลี่เจียเฉิน คือชื่อที่พวกเราตั้งให้เขา เขาก็ชอบชื่อนี้มาก เขาชื่นชมพวกเรามาก พาพวกเราไปจากชายแดน แล้วก็พาพวกเราไปประเทศเขา ที่ดูไบ”
“หลี่เจียเฉินมีบ่อน้ำมัน มูลค่ากว่าหมื่นล้าน อยู่ที่ดูไบก็ไม่เท่าไหร่นักหรอก แต่ภายใต้ความช่วยเหลือของพวกเรา ตอนนี้เขากลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของดูไบแล้ว ที่จริงไม่ใช่แค่ดูไบ ถึงแม้ทั้งโลก อย่างน้อยความรวยของเขาก็อยู่สามอันดับต้นๆ”
“สามอันดับต้นของโลก?”
หลี่ฝางสูดลมหายใจ สามอันดับต้นของโลกหมายความว่าไง ความมั่งคั่งนี้ต้องทำลายไปถึงหนึ่งล้านล้านแน่?
“ที่จริงเมื่อหนึ่งปีก่อน พวกเราก็ความสามารถที่จะกลับมาจัดการสี่ตระกูลใหญ่แล้ว แต่ว่า หลี่เจียเฉินมีศัตรูไม่น้อย ลูกพี่ตัดสินใจช่วยหลี่เจียเฉินจัดการศัตรูทั้งหมดของเขา จากนั้นก็กลับมาอีก”
ส้าวส้วยพูดจบก็หัวเราะ“เจ้านาย นี่ก็คือเรื่องราวของพวกเรา”
“เรื่องราวของพวกคุณ ฟังดูแล้วสั้น ไม่ซับซ้อน แต่ผมรู้ ถ้าประสบผ่านมาจริงๆ จะต้องฝ่าอันตรายมาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดแน่”
“ผมรู้ว่าที่ชายแดนวุ่นวายมาก ใช้ชีวิตไม่ง่ายเลย!”
หลี่ฝางถอนหายใจยาวๆ พูดว่า“หลายๆครั้ง ในใจผมก็แค้นพ่อมาก แค้นเขาว่าทำไมไม่เอาผมไปด้วย ตอนนี้ผมจึงเข้าใจว่า เขาไม่เอาผมไปด้วย ก็เพื่อผมเอง”
“วันเวลาที่หลบหนีนั้นไม่ง่ายเลย หากพาผมไปด้วย ก็เหมือนพาภาระไปด้วย”หลี่ฝางพูด
“คุณไม่ใช่ภาระ คุณคือหัวใจของลูกพี่”ส้าวส้วยพูดอย่างจริงจัง
“ถ้าไม่ใช่คุณ ลูกพี่กับอาจารย์ เกรงว่าคงทนไม่ไหวไปนานแล้ว”ส้าวส้วยพูดกับหลี่ฝาง
ส้าวส้วยหัวเราะ“สามปีนี้พวกเราผ่านอะไรมาเยอะจริงๆ เรียกว่าฝ่าอันตรายมาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดก็จะเกินไปหน่อย ประมาณว่าใช้ชีวิตไปอย่างไร้ความหมายดีกว่า แต่ดีที่ ส่วนมากพวกเราต่างมีชีวิตอยู่ต่อ”
“เพราะว่าลูกพี่ไม่ยอมแพ้กับทุกชีวิต ถึงแม้ตายแล้ว ลูกพี่ก็จะเอาศพกลับมา”
“ติดตามลูกพี่ พวกเราไม่เคยมีใครบ่น”
“เขารู้สึกผิดต่อพวกเรามาตลอด เขาบอกว่าตอนนั้นรับพวกเราไว้ เพราะอยากให้พวกเราใช้ชีวิตดีๆ ใครจะไปคิดว่า ……”พูดไป แววตาของส้าวส้วย ก็มีน้ำตาหยดลงมา
“เหอะเหอะ ครั้งนี้สี่ตระกูลใหญ่ จะต้องแพ้อย่างอนาถแน่”
ใบหน้าของส้าวส้วย จู่ๆก็ปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชา
คุยกันอยู่นั้น ส้าวส้วยก็ขับรถไปที่หน้ามหาวิทยาลัย
“ส้าวส้วย คุณอย่าลงไป”หยุดรถลง หลี่ฝางก็หันหน้าไปพูดกับส้าวส้วย
“ยังไงซะด้านในก็พี่หลิงหลง อีกอย่างครั้งนี้คนที่นัดผม ก็คือฉินวี่เฟย เธอไม่ทำร้ายผมแน่”หลี่ฝางอยากหาโอกาสที่จะเจอกับฉินวี่เฟยสองต่อสอง
ส้าวส้วยเข้าใจความหมายของหลี่ฝาง จึงพูด“ระวังหน่อย”
“ปู่ตายก่อน จากนั้นพี่ชายก็เกิดอุบัติเหตุ จะเป็นจะตายก็ไม่รู้ ประสบการณ์แบบนี้ ก็จะทำให้คนเกิดความเปลี่ยนแปลงในฉับพลันได้”
สายตาส้าวส้วยมองหลี่ฝางอย่างซับซ้อน พูดว่า“เจ้านาย ผมไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของคุณ แต่ก็อยากโน้มน้าวคุณหน่อย”
“พูดเถอะ”หลี่ฝางถามตาม
“เมื่อก่อน ฉินวี่เฟยเหมาะกับคุณมากกว่า เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย รู้จักพิจารณาคำพูดและสังเกตสีหน้า ความรู้กว้างขวาง แต่งกับเธอ ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีของคุณ”
“แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนผมสนับสนุนฉินวี่เฟย แต่ตอนนี้ ผมว่าลู่หลุ่ยเหมาะสมมากกว่า”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ“ลู่หลุ่ยก็ดีมาก เธอก็แค่มีความเป็นผู้หญิงไปหน่อย”
“แต่ใสซื่อบริสุทธิ์มาก เธอไม่มีทางทำร้ายคุณ”
“คุณว่าฉินวี่เฟยจะทำร้ายผมไหม?”หลี่ฝางมองส้าวส้วย ถามกลับ
“ผมพูดไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่ฉินวี่เฟย แต่คุณลองเปลี่ยนความคิด ถ้าคนที่คุณรักถูกฉินวี่เฟยฆ่าตาย คุณจะแค้นไหม?”
ส้าวส้วยถามหลี่ฝางอย่างจริงจัง“คุณจะไปแก้แค้นเธอไหม?”
ประโยคของส้าวส้วย ทำเอาหลี่ฝางตะลึง
คำถามนี้ หลี่ฝางตอบไม่ได้ และก็ยากที่จะประสบเจอกับตัว
ถ้าฉินวี่เฟยทำร้ายพ่อ หรือว่าแม่ของตัวเอง หลี่ฝางจะกลายเป็นอย่างไร?
แค่คิด ก็แทบจะบ้าตายแล้ว?
คนบ้าขึ้นมา เรื่องไหนบ้างที่ทำไม่ได้
หลี่ฝางส่ายหน้า ไม่กล้าคิดต่อไป“ผมไม่สามารถจินตนาการถึงความเจ็บปวดที่สูญเสียคนรักไปได้ เพราะผมเคยเสียไปแล้วครั้งหนึ่ง”
“เห้อ”
หลี่ฝางถอนหายใจ พูดว่า“ผมไม่เคยคิดจะเป็นอะไร หรือยังไงกับฉินวี่เฟยเลย ผมแค่สงสารเธอเล็กน้อย”
ถ้าระหว่างลู่หลุ่ยกับฉินวี่เฟยต้องเลือกมาสักคน หลี่ฝางคิดว่า ความเป็นไปได้ที่ตัวเองเลือกลู่หลุ่ยนั้นมากกว่า
แต่ หลี่ฝางก็รู้สึกต่อฉินวี่เฟย
ไม่ว่ายังไงทิ้งฉินวี่เฟยแบบนี้ ต่อไปก็จะเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน จุดนี้ หลี่ฝางทำไม่ได้
“ผมลงจากรถละ”
หลี่ฝางลงจากรถด้วยความคิดจิตใจที่หนักอึ้ง พอลงจากรถ หลี่ฝางก็มองเห็นฉินวี่เฟย
ฉินวี่เฟยลงมาจากรถลินคอล์นขยายคันหนึ่ง หลี่ฝางได้แต่มองไปแวบหนึ่ง ก็รู้สึกว่าฉินวี่เฟยเปลี่ยนไป