NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 452
บทที่ 452 ของขวัญสุดพิเศษ
ในฐานะนักรบรับจ้าง และยังเป็นคนขององค์กรนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก ยังไม่ทันได้เริ่มสู้ ก็จะหนีซะแล้ว เรื่องแบบนี้ มันน่าขายหน้าเกินไป
ถึงแม้จะสามารถหนีออกไปได้ แต่สำนักหยิ่งซา ก็ต้องไล่ฆ่าเขาอยู่ดี
สำนักหยิ่งซา ไม่ยอมให้คนที่หนีไปมีชีวิตรอดหรอก
น้องรองกับน้องเล็กมองตากัน แล้วพยักหน้า: “ได้ งั้นก็สู้ตาย”
หลี่ต๋าคางหยิบบุหรี่ขึ้นมา แล้วจุดให้ตัวเอง: “โหจื่อ นายว่าอาจารย์ของนายเมื่อไหร่จะจำกัดพวกลูกกระจ๊อกนี่ให้หมดสักที?”
“ลูกพี่ใหญ่สูบบุหรี่มวนนี้เสร็จ ผมคิดว่าน่าจะประมาณนั้น” โหจื่อหัวเราะ พูดด้วยสีหน้าชิวๆ
ได้เห็นฝีมือที่แท้จริงของอาจารย์ตนเอง โหจื่อก็รู้สึก ตื่นเต้นเอามากๆ
นานมากแล้ว ที่โหจื่อไม่ได้เห็นส้าวส้วยออกโรง
โหจื่อเลิกคิ้ว: “ลูกพี่ใหญ่ เมื่อไหร่ทานจะออกโรงสักที ให้ผู้น้อยได้เห็นเป็นบุญตา?”
หลี่ต๋าคางหัวเราะ: “เมื่อมีโอกาส”
“สำนักหยิ่งซาเล็งฉันไว้อยู่”
หลี่ต๋าคางถอนหายใจ: “ที่จริงแล้ว ฉันก็ไม่ได้อยากลงมือกับสี่ผีแห่งหยางโจวหรอก”
“เฮ้อ แต่พวกมันรนหาที่ตายเอง”
ขณะที่กำลังพูด พี่ใหญ่ของสี่ผีแห่งหยางโจว ก็ได้ยกดาบขึ้นมาแล้ว
ดาบเล่มนี้ แกว่งได้ดีกว่าหมาทิเบตันมาก
รวดเร็ว เพียงพริบตา
ส้าวส้วยถูกทำให้ถอยหลังไปเกือบสิบก้าว ส่วนน้องรองและน้องเล็กก็ไปอยู่ที่ด้านหลังของส้าวส้วยแล้ว เตรียมลอบโจมตี
น้องรองและน้องเล็กอยู่ซ้ายคนขวาคน และพุ่งเข้าไปหาส้าวส้วย
ทั้งสองคนชูหมัดที่กำแน่น แล้วชกไปทางหน้าทางซ้ายและขวาของส้าวส้วย
ใช้ตามองหมัดของพวกเขาพุ่งเข้าไปถึงบริเวณใบหน้าของส้าวส้วยแล้ว แต่จู่ๆ ส้าวส้วยก็ไม่อยู่แล้ว
กำปั้นทั้งสองของน้องรองและน้องเล็ก ในตอนนั้นก็ดึงกลับไม่ทันแล้ว
หมัดของทั้งสอง ถูกชกไปที่หน้าของอีกฝ่ายอย่างจัง
ปั้ก ปั้ก
หลังจากที่ทั้งสองแลกหมัดกัน ฟันก็กระเด็นหลุดออกมาหลายซี่
“น้องเล็ก นายบ้าไปแล้วเหรอ นายต่อยฉันทำไม?” น้องรองด่าขึ้นเสียงดัง
“เชี่ย นายสิเป็นบ้าเหรอ นายก็ต่อยฉันเหมือนกันนะ!” น้องเล็กพูดย้อน
“ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตีกันเอง”
พี่ใหญ่เดินเข้ามา เขาถือดาบไว้ และมองส้าวส้วย: “ฆ่ามันก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ฆ่าฉัน?”
“ไม่เจียมกะลาหัวเลยจริงๆ !”
ส้าวส้วยอดไม่ได้ที่จะขำ
ในตอนนี้ พี่ใหญ่มองไปที่น้องรอง ทันใดนั้น น้องรองก็ล้วงกระเป๋า หยิบลูกแก้วสีดำขึ้นมาลูกนึง
ลูกแก้วลูกนี้ ใหญ่ประมาณเหรียญสิบบาท
พี่ใหญ่ถือดาบและพุ่งเข้ามา
ขณะที่ส้าวส้วยหลบดาบ น้องรองก็มองดูจังหวะ และโยนลูกแก้วสีดำนั้นเข้าไป
ส้าวส้วยหรี่ตาดูอยู่ครู่ เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติอยู่แล้ว เขาจึงยื่นมือ เข้าไปคว้าแขนของพี่ใหญ่ จากนั้นก็ล็อกแขนของเขา
“ลำบากนายแล้ว!”
ส้าวส้วยยิ้มอย่างเย็นชา ขณะที่พี่ใหญ่โดนล็อกอยู่
ลูกแก้วสีดำ ทั้งหมดก็ถูกเขวี้ยงไปโดนร่างของพี่ใหญ่
ลูกแก้วสีดำเมื่อกระทบกลับร่างของคน ก็จะระเบิด
พี่ใหญ่ถูกฆ่าตายตรงนั้น ทิ้งไว้แค่หยดน้ำตาของความรู้สึกผิด
“พี่ใหญ่!”
น้องรองร้องโอดครวญ พลางทำสีหน้าโหดเหี้ยม
เขาคิดไม่ถึงเลย ว่าตนจะเป็นคนฆ่าพี่ใหญ่ด้วยมือของตนเอง
“ฉัน……ฉันจะฆ่าแก!”
น้องรองกัดฟันกรอด พลางมองส้าวส้วย
น้องรองควักลูกแก้วสีดำออกมาสองลูก จากกระเป๋าของตนอีกครั้ง
และในขณะเดียวกัน มือของส้าวส้วย ก็มีลูกเหล็กเรียวเล็กอยู่สองลูก
ขณะที่น้องรองกำลังจะโยนลูกแก้วนั้น ส้าวส้วยก็นำไปก่อนหนึ่งก้าว เขวี้ยงลูกเหล็กนั่นออกไป
ลูกเหล็กนั่นเขวี้ยงมากระทบกับลูกแก้วสีดำ ทันใดนั้นลูกแก้วสีดำก็ระเบิดทันที
มือทั้งสองข้างของน้องรอง ก็เละและอาบไปด้วยเลือดเพียงชั่วพริบตา
เสียงร้องโอดครวญ ดังออกมาจากปากของน้องรอง
น้องเล็กหวาดกลัวแล้วถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นก็หันหลัง และเริ่มหนีเอาตัวรอด
“โหจื่อ”
ในตอนนั้น หลี่ต๋าคางก็เอ่ยปาก
โหจื่อพยักหน้า ขณะที่พยักหน้า กระสุนหนึ่งนัด ก็ถูกยิง ออกจากกระบอกปืนของโหจื่อ
เสียงดังปัง กะโหลดด้านหลังของน้องเล็ก ก็ถูกสอยร่วงทันที
“จบแล้ว”
หลี่ต๋าคางดีดบุหรี่ออกจากมือ ลงบนพื้น และใช้เท้าเหยียบให้ดับ
ส้าวส้วยหยิบดาบมาจากมือของพี่ใหญ่ และเดินไปยังด้านน้องของน้องรอง: “ลงไปอยู่เป็นเพื่อนพี่น้องนายเถอะ มีชีวิตเหลืออยู่ตัวคนเดียวบนโลก มันเหงานะ”
ส้าวส้วยพูด พลางเขวี้ยงดาบ แทงลงไปที่ตรงกลางคอหอยของน้องรอง
ทันใดนั้นน้องรองก็เลิกต่อสู้ทันที
ส่วนหูเฟยในตอนนี้ ได้เห็นก็ถึงกับอึ้งไปเลย
ต้องจับส้าวส้วยมั้ย?
ถึงยังไงเขาก็ฆ่าคนไปสามคน ต่อหน้าต่อหน้าตน โหจื่อก็ฆ่าไปคนนึง
แต่หูเฟยก็ไม่กล้า ทั้งสองคนนี้ฝีมือเก่งกาจอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากตนบอกว่าจะจับกุมพวกเขา บางทีเขายังไม่ทันได้หยิบกุญแจมือ ก็คงจะถูกโหจื่อสอยหัวร่วงแล้ว
จู่ๆ หลี่ต๋าคางก็ควักแฟ้มเอกสารออกมาจากกระเป๋าด้านใน แล้วยื่นให้หูเฟย: “ผู้บัญชาการตำรวจหู คุณเป็นผู้บัญชาการมานานหลายปีแล้ว ได้เวลาเลื่อนขั้นแล้ว”
“นี่คือ?” หูเฟยมองไปที่แฟ้มเอกสาร พลางทำหน้างงๆ
“นี่คือหลักฐานความผิดที่สี่ผีแห่งหยางโจวกระทำภายในประเทศ”
หลี่ต๋าคางหัวเราะ แล้วพูด: “พวกเขากระทำผิดหลายคดีเลยแหละ”
“เอาศพทั้งสี่นี้กลับไปที่กองบัญชาการ นายก็ได้เลื่อนขั้นแล้ว”
หลี่ต๋าคางพูดจบ ก็เดินออกไปในทันที
หูเฟยรีบเปิดแฟ้มเอกสารดูทันที ในนั้นมีคดีที่สี่ผีแห่งหยางโจวทำความผิด เขาจำมันได้ขึ้นใจ
หูเฟยได้เห็น ก็ตาเป็นประกายทันที
หูเฟยควักโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรหา คนของตนทันที: “พาคนมีที่ป่าด้านข้างบ้านตระกูลฉิน”
หลังจากวางสาย หูเฟยก็ยิ้มอย่างพอใจ
กระดูกแขนที่หักของเขา ก็ไม่มีอารมณ์ไปรักษาแล้ว
เมื่อหลี่ต๋าคางเดินออกมาจากป่า ไอ้หน้าหนวดก็เดินเข้ามา เขาอุ้มศพของหมาทิเบตันขึ้นมา และเดินตรงเข้าไปในป่าลึก
หูเฟยก็ไม่ได้ห้าม เขารู้ว่า นี่คือคนของหลี่ต๋าคาง
“พ่อฉันเอาศพของหมาทิเบตันไปทำอะไร?”
หลี่ฝางถามขึ้นอย่างสงสัย
“เจ้านาย อยากจะรู้ก็ไปถามลูกพี่ใหญ่ดูสิ นายถามฉัน ฉันจะไปรู้มั้ย” โหจื่อยู่ปากใส่พลางส่ายหน้า
ส้าวส้วยกลับมาแล้ว บนร่างเขา มีหยดเลือดอยู่หลายหยด
เป็นเลือดของสี่ผีแห่งหยางโจวที่ทิ้งไว้
“อาจารย์ ร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ” โหจื่อกรูเข้าไปประจบ
“เหรอ?”
ส้าวส้วยหัวเราะแห้งๆ และหยิบเสื้อของตน ขึ้นมาสวมอีกครั้ง
ในตอนนั้น หลี่ฝางก็ชื่นชมในตัวส้าวส้วยสุดๆ
เมื่อก่อน หลี่ฝางแค่คิดว่าส้าวส้วยแค่รู้จักต่อสู้บ้าง แล้วก็เคยเรียนศิลปะการต่อสู้มาหลายปี
แต่วันนี้หลี่ฝางถึงได้รู้ ส้าวส้วยคนนี้ เป็นผู้มีฝีมือชั้นสูงของโลก
ทั้งสามเดินออกมาจากป่าด้วยกัน หลี่ฝางมองไปทางบ้านตระกูลฉิน
บ้านตระกูลฉิน ไฟสว่างจ้า หลี่ต๋าคางมองไปทางบ้านตระกูลฉิน ก็เห็นหน้าคนที่คุ้นเคยไม่น้อย
“คนของสี่ตระกูลใหญ่ มาแค่มู่หรงฉางเฟิงคนเดียวเหรอ?” หลี่ต๋าคางส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
“ไปเถอะ”
หลี่ต๋าคางเดินขึ้นรถอาวดี้a4สีขาว และพาโหจื่อไปด้วย
ส่วนส้าวส้วย ก็ไปกับหลี่ฝาง
เมื่อหลี่ฝางขึ้นรถ ก็ได้เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย
นั่นคือซือถูเฟย!
“คุณชายหลี่” ซือถูเฟยมองหลี่ฝาง แล้วพูดทักทาย: “นายก็มาด้วย?”
หลี่ฝางพยักหน้า: “ฉันเตรียมตัวกลับแล้ว”
“รีบกลับไปทำไมล่ะ ถ้านายไม่เป็นอะไร หลังจากที่ฉันเข้าไปคำนับนายท่านฉินเสร็จ พวกเราไปหาที่คุยกัน” ซือถูเฟยพูด
หลี่ฝางลังเลอยู่ครู่ ที่จริงอยากจะปฏิเสธ แต่คิดไปคิดมา ซือถูเฟยคนนี้ดูไม่เหมือนคนที่จะมาทำร้ายเขา
ส่วนส้าวส้วยก็อยู่ข้างกายเขา ตนจะกลัวไปทำไม
“ได้ ฉันจะรอนาย”
หลี่ฝางก็อยากจะเห็นว่าซือถูเฟยจะมาไม้ไหน
หลังจากที่ซือถูเฟยเข้าไปในบ้านตระกูลฉิน หลี่ฝางก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรไปที่เบอร์นึง……
ส่วนในตอนนี้ มู่เจิ้งถังก็ได้กลับถึงบ้านตระกูลมู่แล้ว
เขาเพิ่งกลับมาถึงบ้านตระกูลมู่ได้ไม่นาน เขาก็ได้รับกล่องสวยงามกล่องนึง
“นี่มันคืออะไร?” มู่เจิ้งถังถามขึ้น
“ท่านจวนส่งมาครับ เขาบอกว่าจะอวยพรวันเกิดให้ท่าน นี่คือของขวัญวันเกิดทีมอบให้ท่าน” ลูกน้องคนนึงพูดขึ้น
มู่เจิ้งถังยิ้มมุมปาก: “คิดไม่ถึง ว่าท่านจวนจะให้ของขวัญคนอื่นด้วย”
“นี่มันกี่ปีมาแล้ว ที่ท่านจวนไม่ได้ให้ของขวัญคนอื่น”
มู่เจิ้งถังหัวเราะเหอะๆ ในใจเต็มไปด้วยความยินดี
มู่เจิ้งถังแกะกล่องของขวัญด้วยตัวเอง พร้อมใจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“ฉันอยากจะดูหน่อย ว่าท่านจวนมอบของขวัญอะไรให้ฉัน”
ขณะที่มู่เจิ้งถังเปิดกล่อง ทันใดนั้นถึงกับต้องเซ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ตกใจจนตัวสั่นไปทั้งร่าง
“หัวคน?” มู่เจิ้งถังพูดด้วยปากสั่นๆ
กล่องของขวัญนี้ มีหัวของหมาทิเบตันอยู่ในนั้น