NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 466
บทที่ 466 เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในห้องเรียน
“หยุดเถอะ หวางเห้า”
หลี่ฝางหันไปตะโกนกับหวางเห้า
หวางเห้าได้ยิน ก็หยุดมือทันที
“เจ้านาย คุณหายโกรธหรือยัง ”หวางเห้าตบมือไปมา ถามขึ้นแต่ใบหน้ายังคงมีสีหน้าตื่นเต้น
หลี่ฝางสีหน้าเย็นชา ยกแขนขึ้น ตบไปที่หน้าของหวางเห้า
“นายคิดจะทำอะไรกันแน่”หลี่ฝางมองหวางเห้า แล้วถามขึ้น
สีหน้าหวางเห้า ขาวซีดทันที
“นายยังจำได้ไหมว่าฉันเคยพูดอะไรกับนาย นายอยู่ในวงการสีเทาก็จริง แต่ฉันก็เคยเตือนไว้แล้ว ว่าต้องเป็นคนดี ส่วนคนเลว นายจะรักแกยังไงก็ได้ หรือนายจะเล่นให้ตาย ฉันก็ช่วยแกเต็มที่ แต่คนที่ซื่อสัตย์ นายอย่ารังแกเด็ดขาด เพราะมันผิดกฏ”
“นายทำผิดกฎไม่ได้ ลูกน้องนาย ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองหวางเห้า “เพราะว่าไอ้นี่มันช่วยแกหาเงินได้ แกก็เลยเก็บมันเอาไว้ หวางเห้า นี่เงื่อนไขแกมันต่ำมากขนาดนั้นเชียว”
“นายรู้หรือเปล่า เขาทำเรื่องเลวร้ายอะไร ก็เท่ากับนายเป็นคนทำ”
“มากกว่านั้น คือเท่ากับฉันเป็นคนทำ”
หลี่ฝางถามขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หวางเห้าก้มหน้าไม่พูดอะไร
“แม้จะขาดคนแค่ไหน ก็ทำอย่างนี้ไม่ได้”
“คนแบบนี้ จะรับไว้ไม่ได้”
หลี่ฝางมองหวางเห้าและพูดขึ้น “นี่เป็นการแจ้งเตือนนายครั้งสุดท้าย ถ้าคราวหน้านายยังทำผิดเหมือนเดิมอีก ฉันจะจัดการแกกับทั้งหมดที่แกมี ”
หวางเห้าพยักหน้า พูดว่า“ได้”
หลี่ฝางไม่ได้อยากจะสั่งสอนหวางเห้า อีกอย่าง ตัวเองก็เป็นแค่นักศึกษา ว่ากันตามจริง หวางเห้านับว่าเป็นพี่ใหญ่ของเขาได้เลย
ตนจะตบหน้าพี่ชายของตัวเองได้ยังไง
แต่ว่า ถ้าหากเขาไม่ลงมือ เช่นนั้น ศักดิ์ศรีของเขาล่ะอยู่ไหน
ภายหน้า ใครจะรับประกันได้ว่าหวางเห้าจะไม่ทำผิดซ้ำอีก
หลิวต้าหนึงเดินเข้ามาช้าๆ มองหลี่ฝางแล้วก้มหน้าพูดว่า “คุณก็คือคุณชายหลี่สินะ ผมมีตาหามีแววไม่ ไปล่วงเกินคุณเข้า”
“ขอบคุณน้ำใจที่กว้างขวางของคุณ ที่ปล่อยผมไป……”
หลิวต้าหนึงยังไม่ทันพูดจบ หลี่ฝางก็หัวเราะขึ้นมา “ปล่อยนายเหรอ หลิวต้าหนึง ฉันบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะปล่อยนายไป”
สีหน้าของหลิวต้าหนึง อึ้งอยู่ชั่วครู่
หลิวเฉินลุกขึ้นมาจากพื้น เบิกตามองหลี่ฝาง “หลี่ฝาง นี่หมายความว่าไง นายให้ฉันคุกเข่าแล้ว นายจะทำอะไรอีก”
หลิวเฉินมองหลี่ฝางด้วยความโกรธ แทบจะระเบิด
แต่หลี่ฝางนั้น ก็แค่ยิ้ม “ตั้งแต่ต้นจนจบชั้นก็ไม่เคยพูดว่าจะปล่อยพวกนายไป”
“อีกอย่าง นายคุกเข่าขอโทษ ฉันก็ต้องให้อภัยอย่างงั้นเหรอ เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้นเอาซะเลย”
“พ่อนายอยู่ในวงการนี้ เขาน่าจะเข้าใจเหตุผลนี้ดี ไม่ใช่ว่าทุกเรื่อง จะใช้การคุกเข่าขอโทษแล้วจะหาย”
หลี่ฝางส่ายหน้า เอ่ยเรียบๆ “เมื่อกี้ที่เรียกนายขึ้นมา ก็แค่อยากจะบอกว่า คุกเข่าให้ฉัน ก็ไร้ประโยชน์……”
“คนอย่างฉันทำงาน อย่างยุติธรรม”
“คนอื่นปฏิบัติต่อฉันยังไง ฉันก็จะปฏิบัติแบบนั้นคืน”
หลี่ฝางมองหลิวเฉินกับหลิวต้าหนึงสองพ่อลูก “เมื่อกี้พวกนายอยากจะหักขาสองข้างของฉันใช่ไหม”
“ไม่ใช่ คุณชายหลี่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมก็แค่จะหาความยุติธรรมให้ลูกชายผมเท่านั้น จะหักขาของคุณได้ยังไง ”หลิวต้าหนึงรีบแก้ตัวทันที
“หลิวต้าหนึง อย่าคิดว่าฉันโง่นะ”
หลี่ฝางส่ายหน้าไร้คำพูด มองหวางเห้า “นายรู้แล้วใช่ไหมว่าต้องจัดการยังไง”
“รู้แล้ว เจ้านาย”
หวางเห้าพยักหน้า รีบลงมือทันที เล็งไปที่ขาของหลิวต้าหนึง เตะไปตรงๆ
หวางเห้าเคยชกมวยใต้ดินมาก่อน ฝีมือย่อมไม่ธรรมดา
ลูกเตะของเขา ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง หรือว่าตำแหน่ง ล้วนเหมาะเจาะพอดิบพอดี
ได้ยินเพียงเสียงกร๊อบ หลิวต้าหนึงก็คุกเข่าไปกับพื้นทันที ใบหน้ามีเหงื่อไหล
จากนั้น หวางเห้ากำลังจะเตะขาอีกข้างของหลิวต้าหนึงหัก
หลี่ฝางรีบพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ พวกเขาสองพ่อลูกขาคนละข้างก็พอ”
“ได้”
หวางเห้าพยักหน้ารับ จากนั้นก็เดินตงไปทางหลิวเฉิน
และตอนนี้เองที่หลิวต้าหนึงรีบดึงแขนของหวางเห้าเอาไว้ พูดว่า “พี่เห้า เด็กยังเล็ก พี่หักขาผมทั้งสองข้างเถอะ ปล่อยเขาไปสักครั้ง”
หวางเห้าลังเลสักครู่ มองไปทางหลี่ฝาง
หลี่ฝางพยักหน้า “ฉันขอแค่ขาสองข้าง ไม่ว่าจะเป็นของใครก็ตาม”
หวางเห้าเข้าใจความหมายของหลี่ฝาง และก็ทำตามประสงค์ของหลิวต้าหนึง เตะอีกหนึ่งที ไปที่ข้อเท้าของหลิวต้าหนึง
เสียงดังกร๊อบ หลิวต้าหนึงหาหักทั้งสองข้าง
ส่วนหลิวเฉิน ก็นั่งลงทันที ร้องไห้ขึ้นมา
เห็นฉากนี้เข้า หลี่ฝางก็รู้สึกว่าตัวเองโหดเหี้ยมไป
ที่จริงเขาสามารถปล่อยพ่อลูกคู่นี้ไปได้ หลิวเฉินรู้ฐานะของเขาแล้ว แน่นอนว่าต้องไม่กล้าเป็นศัตรูกับเขา
“คืนนี้หลังเลิกเรียน ฉันจะไปหานาย แล้วก็จะแนะนำคนให้นายรู้จักด้วย”หลี่ฝางพูดกับหวางเห้า
พูดจบ หลี่ฝางก็หันหน้าเดินกลับเข้าไปในมหาลัย
ระหว่างทาง หลี่ฝางกำลังคิดว่า ตัวเองไม่ค่อยมีเมตตาหรือเปล่า
โดยไม่รู้ตัว หลี่ฝางก็เดินมาถึงโรงอาหารเพื่อกินข้าวแล้ว
ตอนที่หลี่ฝางหันหน้าไปแล้วพบว่าส้าวส้วยถือกับข้าวสองชุดเดินมา หลี่ฝางก็รู้สึกตกใจ
“ผมตามอยู่ด้านหลังคุณตลอด แต่คุณมองไม่เห็นเท่านั้นเอง”
ส้าวส้วยหัวเราะ ถามขึ้น “เป็นอะไรไป มีเรื่องในใจเหรอ”
“ไม่มีอะไร เมื่อกี้ทำเรื่องหนึ่งลงไป ฉันไม่รู้ว่าทำถูก หรือว่าผิด”หลี่ฝางรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์
หลี่ฝางคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่ายาก
รวมถึงที่เขาตบหวางเห้า หลังจากตบแล้ว ก็คิดได้ว่า ตัวเองสมควรตบหรือไม่ หลังจากเรื่องนี้ หวางเห้าจะโทษเขาหรือเปล่า
ยังมีหลิวต้าหนึง ตนควรปล่อยเขาไปหรือเปล่า
ถ้าทำอย่างนี้ เขาก็สำนึกผิดแล้ว และก็จะซาบซึ้งตนอีกด้วย
ไม่แน่เขาอาจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองซะใหม่ เพื่อรับใช้ตน
หลี่ฝางเพิ่งจะค้นพบว่า การเป็นลูกพี่ ไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
“คุณพูดถึงเรื่องหน้ามหาลัยเมื่อกี้เหรอ”ส้าวส้วยถาม
“นายเห็นเหรอ”หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างตกใจ
ส้าวส้วยพยักหน้า “ที่จริงผมก็อยู่ข้างๆตลอด ตอนที่หลิวต้าหนึงลงมือ ผมก็เตรียมจะออกไปแล้ว”
“แต่ผมเห็นหวางเห้ามา ก็เลยเดิมกลับ”
ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง พูดว่า “ที่จริงผมก็อยากดู ว่าเจ้านายจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”
“แล้วนายคิดว่าฉันทำได้ดีไหม”หลี่ฝางรีบถามขึ้นทันที
“คุณลงโทษหวางเห้า เบาไป คนอย่างหวางเห้า ใจร้อนอยากเห็นผลทันตา เขาทรยศต่อความคิดของคุณ หาคนโดยไม่ดูกฎเกณฑ์ คนแบบนี้ ทำเรื่องใหญ่สำเร็จยาก”
“ พวกหัวมังกุท้ายมังกร ไม่มีทางไปได้ไกล ”
“ พวกหัวมังกุท้ายมังกร”หลี่ฝางไล่ถาม “นายหมายถึงหลิวต้าหนึงเหรอ”
“ใช่ อันธพาลข้างถนนอย่างนี้ ก็แค่เก็บค่าคุ้มครอง รังแกชาวบ้านไปทั่ว เรื่องใหญ่กว่านี้ เขาทำไม่ได้แน่นอน พูดง่ายๆ ว่าคนอย่างหลิงต้าหนึง ขึ้นสังเวียนไม่ได้ ทำเรื่องใหญ่ก็ไม่ได้ ”
“มากสุดก็แค่หาเงินเล็กน้อย แต่คนแบบนี้ ง่ายมากที่เขาจะนำความเดือดร้อนมาให้หวางเห้ากับคุณ”
“หวางเห้ารับกระทั่งคนแบบนี้ แสดงว่าเขาสายตายังมองไม่ไกลพอ แม้แต่เหตุผลที่ว่าขาดแคลนยังดีกว่าได้ของด้อยคุณภาพยังไม่เข้าใจ ”ส้าวส้วยส่ายหัว พูดอย่างรู้สึกผิดหวัง
“ถ้าผมเป็นเจ้านาย หวางเห้าคนนี้ ผมจะไม่ใช้ทำงาน”
“หรือไม่ ก็ลดอำนาจเขาลง”
“พวกหวงว่างโก๋ แต่ละคนก็เก่งกว่าหวางเห้า”ส้าวส้วยพูด
“หวางเห้าช่วยฉันไว้หลายครั้ง ”หลี่ฝางส่ายหน้า รู้สึกไม่เห็นด้วยกับความคิดของส้าวส้วย
“หวางเห้าช่วยคุณ ส่วนนึงก็มาจากมิตรภาพไม่ผิด แต่ส่วนใหญ่แล้ว ก็เพราะเล็งเห็นผลประโยชน์จากตัวคุณ ถ้าหากเจ้านายไม่มีอะไรเลย เป็นแค่คนธรรมดา หวางเห้ายังจะช่วยคุณครั้งแล้วครั้งเล่าหรือเปล่า ”
“เจ้านาย วงการควรยึดถือเรื่องคุณธรรมก็จริง แต่ว่า ก็ต้องดูคน ดูเรื่องด้วย”
ส้าวส้วยพูด
“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะทบทวนความเห็นนายอีกที”
หลี่ฝางมองส้าวส้วย ถามต่อว่า “แล้วหลิวต้าหนึงล่ะ”
“เมื่อกี้ผมเคยพูดแล้ว เจ้านาย คนคนนี้ก็แค่ขยะ คุณเป็นคนใหญ่คนโต สำหรับฐานะและตำแหน่งของคุณ ในหัวไม่ควรมีเรื่องขยะให้รกสมอง อย่าว่าแต่ตีขาเขาหักเลย ถึงแม้จะเอาชีวิตเขา ก็ไม่ควรไปใส่ใจ”
ส้าวส้วยส่ายหน้ายิ้มๆ “เจ้านาย ในสมองของคุณ ควรกังวลเรื่องที่มันสำคัญกว่านี้”
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วก็ก้มหน้ากินข้าว
เมื่อกินข้าวเสร็จ ตอนที่หลี่ฝางเดินกลับไปถึงห้อง ก็พบว่าในห้องชุลมุนกันมาก
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ”หลี่ฝางถามหวางเสี่ยวโก๋
หวางเสี่ยวโก๋สูดลมหายใจลึก “เมื่อกี้ดวงตาของถังจิ้น ถูกควักออกไปแล้ว”