NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 505
บทที่ 505 ดวงดาวของส้าวส้วย
เมื่อมองตามสายตาของโหจื่อไป หลี่ฝางก็มองเห็นผู้หญิงสวมกระโปรงแดงคนนึง
สีแดงของกระโปรงผู้หญิงคนนั้น เหมือนกับสีแดงของเลือดมากกว่า
เธอยืนอยู่ด้านหน้ารถAston Martinสีแดง มันทำให้ภาพพื้นหลังที่เห็นดูงดงาม
สายตาของเธอจ้องไปที่ส้าวส้วยอย่างร้อนแรง ส้าวส้วยเห็นเธอ กลับตื่นตระหนกและร้อนตัว
“ไอ้โง่ ทำไมถึงพาเธอมาล่ะ?” ส้าวส้วยมองโหจื่ออย่างไม่สบอารมณ์ แล้วด่าเขาไปเสียงเบา
“อาจารย์ ถ้าจะด่าไปด่าลุงเฉียนโน่น เป็นลุงเฉียนที่โทรหาแม่มด ให้เธอมาที่นี่” โหจื่อพูดอย่างน้อยอกน้อยใจ: “ผมทำแค่ นำทางเธอมาที่นี่ พาเธอมาหาอาจารย์แค่นั้น”
“อาจารย์ก็รู้ความสามารถของแม่มด ถึงแม้ผมจะไม่นำมา เธอก็หาอาจารย์เจอ นอกจากอาจารย์จะหนีออกนอกประเทศ”
โหจื่อหัวเราะฮี่ฮี่: “ไปและ”
โหจื่อพูดจบ ก็วิ่งขึ้นรถBugatti Veyron แล้วขับหนีไป
ส้าวส้วยถอนหายใจ แล้วเดินเข้าไปทางผู้หญิงสวมกระโปรงแดง
หลังจากโหจื่อไปแล้ว รถหรูที่จอดเต็มถนน ก็ตามเขาไป
จึงเหลือแค่ผู้หญิงสวมกระโปรงแดงและรถAston Martinคันนั้น
“นายไม่หนีแล้วเหรอ?”
ส้าวส้วยมองผู้หญิงสวมกระโปรงแดง พลางพูด: “หรือว่าไม่กลัวพวกเขาจะตามมาหาถึงที่หรือไง?”
“ไม่กลัว”
หญิงสวมกระโปรงแดงยิ้มเจ้าเล่ห์: “ฉันจะบอกนายให้ ฉันไปพบกับหลอซ่ามาแล้ว ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป พวกเราถือว่าเป็นคนองค์กรเดียวกันแล้ว”
“ดังนั้น นายต้องรักษาความปลอดภัยของฉันให้ดี นี่คือคำสั่งของหลอซ่า”
ส้าวส้วยขมวดคิ้วจนหน้าย่น: “นี่มันเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ทำไมฉันถึงไม่รู้?”
หญิงสวมกระโปรงแดงยังคงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์: “เมื่อครู่นี้……”
“ฉันเพิ่งมาถึงเมืองเอก มาถึงเมื่อตอนหกโมงเช้า แต่งหน้าแต่งตัวอยู่ครู่ ก็ออกมาเจอนายทันที”
หญิงสวมกระโปรงแดงมองส้าวส้วยพลางถาม: “ปลื้มมากใช่มั้ย?”
“ไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด กลับกันฉันกลัวนิดหน่อย”
ส้าวส้วยไม่ได้โกหก มันจริง ตั้งแต่เขาเจอหญิงสวมกระโปรงแดงครั้งแรก บนหน้าเขาไม่เคยแสดงให้เห็นถึงความดีใจหรือผ่อนคลายเลย
“เมื่อเทียบกับพวกเราทั้งหมดเธอเป็นตัวสร้างปัญหากว่าเยอะ”
ส้าวส้วยมองหญิงสวมกระโปรงแดงอย่างไม่เข้าใจ: “ทำไมลูกพี่ใหญ่ถึงได้รับตัวสร้างปัญหาอย่างเธอไว้นะ?”
“นั่นไม่ได้เป็นเพราะนายเหรอ?”
“ได้ยินมาว่านายอกหัก ดังนั้นฉันจึงมาปลอบโยนดวงใจที่เจ็บช้ำของนายไง”
“ครั้งนี้ที่พี่สาวมา ก็เพื่อมารักษาแผลใจของนาย”
หญิงสวมกระโปรงแดงพูด: “ตอนนั้นนายไม่ยอมตกลงคบกับฉัน ก็เพราะในใจของนายปล่อยวางผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ แต่วันนี้ผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่แค่มีผู้ชายที่ชอบแล้ว แถมยังมีลูกอีกด้วย ครั้งนี้นายปล่อยวางได้แล้วใช่มั้ย?”
“ทำไม อยากเป็นชายที่ไร้หัวใจ?”
“นายอย่าลืมล่ะ ฉันเคยเป็นคนที่ท้องลูกของนายนะ” หญิงสวมกระโปรงแดงยู่ปาก
“เธออย่าพูดมั่วๆ ……เธอท้องลูกของฉันตอนไหน?” บนหน้าของส้าวส้วย เปลี่ยนเป็นเอือมระอาทันที
“พวกเราเคยนอนด้วยกันแค่ครั้งเดียวเอง ทำไมถึงบังเอิญขนาดนั้น?” น้ำเสียงของส้าวส้วย ยิ่งพูดยิ่งต่ำ ความมั่นใจ ยิ่งพูดยิ่งเยอะ
“มันก็บังเอิญอย่างนั้นแหละ” หญิงสวมกระโปรงแดงยื่นมือไปช้อนคอของส้าวส้วยขึ้น ไม่รู้ว่าส้าวส้วยตื่นเต้นเกินไป หรือว่าอะไร เขากลับไม่หลบ
“ใช่แล้ว นั่นเหมือนจะเป็นครั้งแรกของนายนี่”
หญิงสวมกระโปรงแดงยิ้มอย่างพอใจ และเป่าลมเบาๆ ที่ข้างหูของส้าวส้วย
“ไม่เลว ใจแข็งขึ้นเยอะเลยนี่ ก่อนหน้านี้นายทนการยั่วยวนแบบนี้ไม่ไหวนี่” หญิงสวมกระโปรงแดงมองส้าวส้วยอย่างโมโหเล็กน้อย: “นายมั่วผู้หญิงแล้ว?”
“เปล่า” ส้าวส้วยส่ายหน้า: “ฉันแค่ผ่านการฝึกฝนพิเศษมาแค่นั้น”
“ฝึกพิเศษ?” หญิงสวมกระโปรงแดงถามอย่างสงสัย: “มันคืออะไร?”
ส้าวส้วยไม่พูด แต่หลี่ฝางรู้อยู่นิดหน่อย
ครั้งก่อนที่สุ่ยหยุนเทียน ส้าวส้วยเรียกผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่ที่สุดมา แต่ไม่ทำอะไรเลย แค่เรียกให้เธอเต้นต่อหน้าเขา
ตอนนั้นส้าวส้วยบอกว่าเขากำลังฝึกความอดทนอยู่ ตอนนั้นหลี่ฝางคิดว่าส้าวส้วยบ้าไปแล้ว
ที่แท้ ส้าวส้วยทำเพื่อจะต่อต้านหญิงสวมกระโปรงแดงนี่เอง
“งั้นก็ดี”
หญิงสวมกระโปรงแดงยิ้ม แล้วพูด: “ใครกล้าแตะต้องผู้ชายของฉัน ฉันจะเชือดมันโยนให้หมากิน”
“เธอเกลียดหมาที่สุดไม่ใช่ไง?” ส้าวส้วยหัวเราะหึ
“แต่ฉันเกลียดผู้หญิงที่แตะต้องนายมากกว่า” หญิงสวมกระโปรงแดงพูด
“งั้นเธอล่ะ? เธอก็เคยแตะต้องฉัน” ส้าวส้วยพูดต่อ
หญิงสวมกระโปรงแดงชะงักอยู่ครู่ แล้วยิ้ม: “มีใครที่ไหนเกลียดตัวเองกัน”
“มีตั้งหลายคน” ส้าวส้วยพูด
“แต่ฉันไม่” หญิงสวมกระโปรงแดงพูดต่อส้าวส้วย
“เธอไม่ควรมาที่นี่ ฉันไม่สามารถปกป้องเธอได้ตลอด24ชม.ถ้าคนของสำนักหยิ่งซา รู้ว่าเธออยู่ที่นี่ ต้องมาหาเธอแน่ๆ” ส้าวส้วยมองหญิงสวมกระโปรงแดงพลางพูด
“เสี่ยวส้วยส้วยของฉัน นายเป็นห่วงฉันเหรอ?” ร่างของหญิงสวมกระโปรงแดงยิ่งชิดเข้าไปอีก พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนยิ่งขึ้น
“ไม่ใช่ ฉันแค่ไม่อยากให้เธอสร้างปัญหาให้ฉันแค่นั้น” ส้าวส้วยพูดปฏิเสธ
“เห้อ พวกผู้ชายนี่นะ ปากไม่ตรงกับใจ”
หญิงสวมกระโปรงแดงส่ายหน้า แล้วพูดอย่างไม่แฮปปี้: “ไม่ว่านายจะพูดยังไง ฉันก็มาแล้ว ไม่ไปแล้ว”
“ฉันโทรหาหลิงหลงแล้ว อีกแป๊บนึง ฉันจะไปทำงานที่ร้านกาแฟของเธอ”
หญิงสวมกระโปรงแดงพูดจบ ก็มองไปทางหลี่ฝาง และเดินเข้าไปหาเขา
“นี่คือคุณชายน้อยเหรอ? หน้าตาเหมือนลูกพี่ใหญ่เลยจริงๆ” หญิงสวมกระโปรงแดงลูบหน้าของหลี่ฝาง ตอนนั้น หน้าของหลี่ฝาง กลับแดงขึ้นมาทันที
“น่ารักจริงๆ”
หลี่ฝางเงยหน้าถาม: “พี่สาว พี่เป็นอะไรกับส้าวส้วยเหรอ เห็นพวกพี่สองคน ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาเลย”
“พี่เป็นผู้หญิงของเขา เขาเป็นผู้ชายของพี่”
หญิงสวมกระโปรงแดงแนะนำตัวเอง: “ฉันชื่อฉีฉี นายเรียกฉันว่าพี่ฉีฉีก็ได้”
“พี่ฉีฉี?”
“ใช่แล้ว ชื่อจีนของฉันชื่อว่ากู่หยุ่งฉี แปลว่าเชียร์ให้มีความกล้าเต็มเปี่ยม” หญิงสวมกระโปรงแดงพูด
ส้าวส้วยเดินเข้ามา: “อย่าพูดมั่วๆนะ ยัยแม่มด พวกเราเป็นแค่เพื่อนธรรมดาแค่นั้น”
“เพื่อนธรรมดา? ถ้าเป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆ ทำไมตอนกลางคืนนายต้องถอดเสื้อผ้าฉัน?” หญิงสวมกระโปรงแดงถามกลับ
“คืนนั้นเธอบาดเจ็บ” ส้าวส้วยพูด พลางทำหน้าเข้ม
“ถึงจะบาดเจ็บนายก็ฉวยโอกาสไม่ได้นี่”
หญิงสวมกระโปรงแดงพูดจบ ยังหันไปถามหลี่ฝาง: “คุณชายน้อย ว่าจริงมั้ย?”
“ใช่” หลี่ฝางพยักหน้า
ส้าวส้วยจ้องหลี่ฝางเขม็ง: “เจ้านาย พวกเรากลับกันเถอะ ต้องเข้าเรียนแล้ว”
“ไม่รีบ พวกนายคุยกันเยอะๆ หน่อยก็ได้” หลี่ฝางพูดอย่างไม่รีบ
หญิงสวมกระโปรงแดงพูด: “ใช่มัย คุณชายน้อย ไปร้านกาแฟมั้ย พี่สาวเลี้ยงกาแฟพวกนายเอง?”
“ผมไม่ไปดีกว่า ส้าวส้วย นายไปเป็นเพื่อนพี่ฉีฉีเถอะ”
หลี่ฝางยิ้ม แล้วพูด: “พี่ฉีฉี บ๊ายบาย”
“ใช่แล้ว ผมชื่อเสี่ยวฝางอย่าเรียกผมว่าคุณชายน้อยอะไรนั่นเลย มันดูแต๋วไป” หลี่ฝางพูดกับพี่ฉีฉี
“เสี่ยวฝาง”
พี่ฉีฉียิ้มอ่อน แล้วพูดด้วยสีหน้าขอบคุณ: “ขอบคุณนะ”
ส่วนส้าวส้วย กลับมองไปที่หลี่ฝางอย่างขื่นขม
หญิงสวมกระโปรงแดงเข้าไปควงแขนของส้าวส้วย แล้วเดินไปทางร้านกาแฟที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนหลี่ฝางก็ไปกับโก่เอ๋อและลู่หลุ่ย เข้าไปในมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่
ขณะที่หลี่ฝางจอดรถเสร็จ ขณะกำลังจะเตรียมออกจากลานจอดรถ ชายสวมแว่นดำก็โผล่มา
“พี่ ทำไมถึงทำตัวเป็นผีเลย ตามติดแจเลย” เมื่อเห็นชายสวมแว่นดำ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของโก่เอ๋อ ถูกเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง ในชั่วพริบตา
“มานี่เลย มาคุยกันหน่อย”
ชายสวมแว่นดำพูดจบ ก็ดึงเธอออกไปอย่างไม่ทน
“เรื่องนี้ เกรงว่าจะยุ่งยากแล้ว ฉันตรวจสอบมาชัดเจนแล้ว ซือถูเฟยนั่นมีพูดหญิงชื่อว่าชิงฮัวอยู่จริงๆ แถมยังมีลูกด้วยกันแล้ว เมื่อตรวจสอบเรื่องนี้ได้ ฉันก็โทรหาคุณปู่ทันที เธอลองเดาว่าผลลัพธ์เป็นยังไง?” ชายสวมแว่นดำถามโก่เอ๋อ
“อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องกลั้นไว้ และก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีเรื่องอะไร” โก่เอ๋อมองชายสวมแว่นดำ แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ชายสวมแว่นดำยู่ปาก ก็ไม่ได้มีประสบการณ์เหมือนกันโก่เอ๋อ ถึงยังไงเธอก็คือน้องสาวแท้ๆ ของเขา
“คุณปู่รู้เรื่องนี้นานแล้ว แต่ว่าความหมายของคุณปู่คือ ไม่ต้องไปติดตามแล้ว” ชายสวมแว่นดำทำหน้าเข้มพลางพูด: “ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ตระกูลซือถู เหมือนกับว่ามีของที่คุณปู่อยากได้อยู่”
“หมายความว่าไง? ความหมายของพี่คือ คุณปู่ของพวกเรา ขอร้องครอบครัวซือถูไม่สำเร็จ? ฉันจำได้ ตอนที่ท่านยังหนุ่มตระกูลซือถูเคยอ้อนวอนขอชีวิตคุณปู่ครั้งนึง เพื่อเป็นการตอบแทน คุณปู่จึงตัดสินใจแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์นี่” โก่เอ๋อขมวดคิ้วพลางพูด
ชายสวมแว่นหัวเราะเหอะๆ : “นี่เธอก็เชื่อเหรอ คุณปู่ของพวกเราเป็นคนยังไง เธอยังไม่รู้เหรอ? เขาเป็นคนไร้ความรู้สึกขนาดไหน”
“ถึงยังไง เรื่องของเธอ พี่ก็ช่วยไม่ได้แล้ว เธอช่วยพี่เรื่องนึงสิ น้องสาวที่น่ารักของพี่” ชายสวมแว่นมองโก่เอ๋ออย่างประจบสอพลอ