NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 51
บทที่ 51 เซี่ยลู่มาซื้อความเมา
จะให้หลินชิงชิงวางใจได้อย่างไร
“ฉันกลับไปขอร้องพ่ออีกครั้งดีมั้ย ฉันไม่อย่าจะเชื่อฝีมือของกลุ่มคนที่อยู่ในบาร์ คนแค่นี้ จะสู้กับลูกพี่หลี่ได้อย่างไร” หลินชิงชิงขมวดคิ้วพูด
“พี่ชิง อย่ามองว่าในบาร์มีคนแค่สิบกว่าคนนะ แต่ในสิบกว่าคนนี้ ออกมาแค่คนเดียว ก็สามารถจัดการลูกพี่หลี่ได้อย่างแสนสาหัสแล้ว” เจ้าหัวแบนพูดอย่างใจเย็น
“เสี่ยวโจว นายขี้โม้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?” หลินชิงชิงเหลือบตามองเจ้าหัวแบบแวบหนึ่ง
“พี่ชิง ผมอยู่กับพี่มาตั้งหลายปี พี่เคยเห็นผมขี้โม้เหรอ?” เจ้าหัวแบนจ้องมองRecalling the past ด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
“คนในนี้ แต่ละคนล้วนคลานออกมาจากความตายทั้งนั้น ลูกพี่หลี่ที่ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ในสายตาพวกเขา ไม่มีค่าให้พูดถึงเลย” เจ้าหัวแบนกล่าว
“พวกเขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลินชิงชิงตกใจ เธอรู้สึกว่าเจ้าหัวแบนเหมือนจะไม่ได้โม้
“อย่างน้อยพวกเขาล้วนเก่งกว่าผม” เจ้าหัวแบนกล่าว
………….
หลี่ฝางลงจากรถ แล้ววิ่งเข้าไปในบาร์
เขาวิ่งเข้าไปในบาร์แวบแรก ก็เห็นบริกรคนหนึ่งในมือถือมีดไว้ กำลังเหวี่ยงมีดไปมาอยู่ในกลางอากาศ
เมื่อบริกรหันหน้ามามองหลี่ฝางแวบหนึ่ง ก็ได้เก็บมีดลง
“เถ้าแก่ ทำไมวันนี้มาเช้าจัง เรายังไม่ได้เปิดให้บริการเลย” บริกรยิ้มๆ เดินมาตรงหน้าของหลี่ฝาง
“ฉันมาหาผู้จัดการ” หลี่ฝางพูดโดยตรง
“ผู้จัดการ? ผู้จัดการพักผ่อนอยู่ชั้นบน ผมไปตามเขาให้คุณ” บริกรพูดอย่างสุภาพ
“ช่วยบอกเขา ฉันจะรอเขาที่ห้องทำงาน” หลี่ฝางพยักหน้าไปหนึ่งที
หลี่ฝางไม่ใช่คนโง่ ดูจากท่าทางของบริกรที่ปฏิบัติต่อตัวเองก็สามารถดูออก ฝ่ายตรงข้ามรู้ฐานะของตัวเองอย่างชัดเจน
“เอาล่ะ นายไม่ต้องแกล้งต่อหน้าฉันอีกแล้ว นายน่าจะรู้ฐานะของฉันแล้วใช่มั้ย?” หลี่ฝางมองไปรอบๆ เห็นว่าไม่มีลูกค้าอยู่ ก็ไม่คิดที่จะปิดบัง
“เถ้าแก่ ผมไม่ได้แกล้ง ผมก็เรียกคุณว่าเถ้าแก่มาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ?” บริกรหัวเราะแฮ่ๆ
“นายชื่ออะไร?” หลี่ฝางถามไปอย่างนั้น
“ผมเหรอ ผมชื่อส้าวส้วย”
“นายแก่กว่าฉัน ฉันเรียกนายว่าพี่ส้วยดีกว่า” หลี่ฝางหัวเราะเห่อๆ
“ไม่บังอาจ คุณเป็นลูกชายของลูกพี่ คุณจะมาเรียกผมว่าพี่ได้ยังไง คุณเรียกผมว่าเสี่ยวส้วยก็พอ” ส้าวส้วยกล่าว
“นายรีบไปเรียกผู้จัดการมาเถอะ บอกกับเขา ฉันประสบปัญหาแล้ว” หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่มีอารมณ์
“เถ้าแก่ ปัญหาของคุณ ใช่ลูกพี่หลี่หรือเปล่า?” ส้าวส้วยยิ้มๆ แล้วถาม
“นายรู้ได้ยังไง?” มองส้าวส้วยอย่างแปลกใจ หลี่ฝางรู้สึกว่านายคนนี้เหมือนเป็นพยาธิที่อยู่ในท้องของตัวเองเลย
ส้าวส้วยยิ้มอย่างมีเลศนัย: “หากปัญหาของคุณเป็นลูกพี่หลี่ล่ะก็ งั้นก็ไม่ต้องเรียกผู้จัดการแล้ว”
“ผมสามารถช่วยคุณจัดการได้” ส้าวส้วยตบที่อกตัวเองแล้วกล่าว
“นายแน่ใจ?” หลี่ฝางมองเขาอย่างสงสัย: “นายไม่ได้โม้ใช่มั้ย?”
“ฉันจะบอกนายนะ เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะด่วนมาก ฉันทำให้ลูกน้องของลูกพี่หลี่ต้องเข้าโรงพยาบาล ลูกพี่หลี่คนนี้จะคิดบัญชีมั่วซั่วนี้ที่ฉัน ตอนนี้เขากำลังตามหาฉันทั่วสารทิศ ยังพูดอีกว่า หากเจอตัวฉัน จะทรมานฉันให้ตาย” หลี่ฝางกล่าว
“เรื่องเล็ก เรื่องเล็ก” ส้าวส้วยยิ้มอย่างใจเย็น
“แม่งเอ๊ย ฉันจะถูกฆ่าแล้ว ยังเรื่องเล็กอีกเหรอ นายประสาทหรือเปล่า!” หลี่ฝางเห็นท่าทางที่เฉยเมยของส้าวส้วย ก็อยากจะบ้าตาย
เวลานี้ หลี่ฝางมีความรู้สึกที่อยากจะไล่ส้าวส้วยออกไปจากRecalling the past
ขณะที่คุยกันอยู่ เซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียวก็ได้เดินเข้ามาในบาร์
“เธอสองคนมาได้ไง?” เห็นเธอสองคน หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ
“มาที่บาร์ก็ต้องมาดื่มเหล้าสิ” เซี่ยลู่เหลือบมองหลี่ฝางแวบหนึ่ง: “พวกเราก็อยากจะถามนายเหมือนกัน นายทำไมถึงอยู่ที่นี่”
“ฉัน……..ฉันมาสมัครเป็นบริกร” หลี่ฝางพูดอย่างลนลาน
“ผลาญเงินหมดแล้วสินะ บอกนายโอ้อวดให้มันน้อยๆ หน่อยก็ไม่ฟัง” หลิวเฉียวเฉียวส่ายหัว มองหลี่ฝางด้วยสายตาที่ไม่อยากจะพูด
“เอาล่ะ เธอสองรีบหาที่นั่งดีกว่า อยากดื่มอะไร ฉันบริการเธอสองคนเอง” หลี่ฝางไม่อยากฟังคำพูดเหน็บแนม ตัวเองไม่ใช่ว่าไม่มีเงินจริงๆ ก็แค่ไม่อยากจะเปิดเผยเท่านั้น
กลางวันเซี่ยลู่ได้เลิกกับตู้เฟยแล้ว คนที่อกหัก ก็อยากจะเมากันทั้งนั้น ดังนั้นหลี่ฝางเห็นเซี่ยลู่ที่มา ไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่น้อย
หลี่ฝางรู้ เซี่ยลู่มาเพื่อซื้อความเมา
“อ่อ นี่คือได้งานแล้วเหรอ” หลิวเฉียวเฉียวพูดเยาะเย้ยหลี่ฝาง
“ไม่เลวนี่ เป็นบริกรที่นี่แต่ละเดือนรายได้ก็ไม่น้อยนะ ได้เงินดีกว่าที่ไปช่วยคนอื่นซักชุดนักศึกษาและถุงเท้ามาก อีกอย่างงานก็ดูดีด้วย พูดออกไปก็ไม่ขายหน้า” เซี่ยลู่พยักหน้าไปหนึ่งที พูดอย่างยินดี
ในสายตาของหลิวเฉียวเฉียวกับเซี่ยลู่ หลี่ฝางสามารถเป็นบริกรในบาร์ ก็ถือว่าก้าวหน้าอย่างมากแล้ว
“พวกเราสองคนไม่ค่อยมีเงิน นายก็เสิร์ฟเบียร์ให้เราเยอะหน่อยละกัน หากมีเหล้าที่ถูกหน่อย ก็เอามาให้เราหนึ่งขวด” ครั้งนี้ไม่มีตู้เฟยมาคอยเช็กบิล เซี่ยลู่ก็ไม่มีความมั่นใจในการพูด
“ได้ ฉันจะไปเอาให้พวกเธอเดี๋ยวนี้” หลี่ฝางตบบ่าของส้าวส้วยเบาๆ มาถึงด้านหลังบาร์
“เถ้าแก่ คุณช่างถ่อมตัวจริงๆ!” ส้าวส้วยหัวเราะแล้วพูด: “ทั้งๆ ที่คุณเป็นเถ้าแก่ที่นี่ ต่อหน้าเพื่อนๆ กลับบอกว่าตัวเองเป็นบริกร ซือๆ”
“อย่าพูดมากอีกเลย ช่วยเอาเบียร์บัดไวเซอร์ให้ผมหน่อย จากนั้นก็เอาเหล้ามาสองขวด อย่าแพงนะ” หลี่ฝางชำเลืองมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง
“และอย่าถูกมากไป” คิดไปคิดมา หลี่ฝางก็พูดขึ้นมาอีก
“เถ้าแก่ คุณรวยขนาดนั้น ทำไมขี้เหนียวจัง” ส้าวส้วยพูดอย่างดูถูก
หลี่ฝางคิดดูแล้ว มันก็ใช่ ตัวเองรวยขนาดนั้น แค่มูลค่าของร้านนี้ก็สองพันกว่าล้านแล้ว ทำไมยังขี้เหนียวอีก
“งั้นเอาRoyal Saluteสองขวดละกัน” หลี่ฝางพูดอย่างเมามัน
ไม่นานนัก หลี่ฝางก็ได้ยกกับแกล้ม ส้าวส้วยยกมิกเซอร์และเหล้ามาถึงด้านหน้าของเซี่ยลู่
“แม่งเอ๊ย หลี่ฝาง นายประสาทหรือเปล่า นายเอาRoyal Salute ฉันมีปัญญาดื่มที่ไหนกันละ?” เซี่ยลู่มองหลี่ฝางอย่างโมโห
“ลงบัญชีฉัน” หลี่ฝางหัวเราะ กล่าวอย่างเหยียดหยาม: “คืนนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเธอสองคน ลงบัญชีฉันทั้งหมด”
“ตกลงนายมีเงินหรือเปล่าเนี่ย?” หลิวเฉียวเฉียวมองหลี่ฝางอย่างสงสัย
หลี่ฝางนั่งลงไปข้างกายของหลิวเฉียวเฉียวอย่างเต็มก้น แล้วพูดเบาๆ : “มีความลับจะบอกพวกเธอ พวกเธออย่าพูดไปนะ”
“ความลับอะไรเหรอ?” หลิวเฉียวเฉียวกับเซี่ยลู่ต่างขยับเข้าไปฟัง
“ที่จริงก็ไม่เรียกว่าความลับ น่าจะเรียกว่ากฎที่พูดไม่ได้มากกว่า”
“คืนนี้ที่ Recalling the pastจะต้อนรับลูกค้ามากกว่าร้อยโต๊ะ ร้อยกว่าโต๊ะนี้ อย่างน้อยลูกค้าหนึ่งในสามต้องดื่มจนเมาหัวราน้ำ บริกรอย่างพวกเรา ก็จะแอบลงบิลไปให้กับลูกค้าเหล่านี้”
“อย่างเช่น เหล้าRoyal Salute สองขวดสองขวดนี้ เดี๋ยวฉันก็จะหาโอกาส ลงในบิลของลูกค้าคนอื่น ลูกค้าเหล่านั้นเมาหัวราน้ำ จำไม่ได้หรอกว่าตัวเองนั้นสั่งอะไรไปบ้าง พวกเขาจะรูดการ์ดอย่างเมามัน”
หลี่ฝางพูดจบ หลิวเฉียวเฉียวก็มองหลี่ฝางอย่างแปลกใจ: “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“ใช่ บริกรอย่างเราแอบดื่มอยู่ด้านหลังเป็นประจำ จากนั้นก็นำยอดที่ตัวเองแอบกิน แอบดื่ม ลงในบิลของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าที่สั่งเยอะๆ ไม่ได้สนใจรายละเอียดของบิลเลย ถึงขนาดไม่ดูก็มี หลี่ฝางหัวเราะอย่างได้ใจ: “เรื่องแบบนี้ พวกเราทำเป็นประจำ”
“นายเป็นบริกรของที่นี่แล้ว ต่อไปนี้พวกเรามาเที่ยวที่นี่ ก็ไม่ต้องเสียตังแล้วใช่มั้ย? เซี่ยลู่กะพริบตาใส่หลี่ฝาง?” เห็นได้ชัดว่ากำลังให้ท่าอยู่
หลี่ฝางรู้สึกรับไม่ค่อยได้ เพิ่งจะอกหักก็มาให้ท่าตัวเอง…………
พูดตามตรง ตอนนี้หลี่ฝางไม่ได้สนใจเซี่ยลู่แล้ว
หลี่ฝางพูดอย่างเรียบเฉย: “ทุกวันมันก็ไม่ได้ นานๆ ครั้งยังโอเค”
“แบบนี้ก็ได้” เซี่ยลู่หัวเราะดีใจ
หลี่ฝางช่วยเปิดเหล้า จากนั้นเตรียมตัวที่จะเดินจากไป หลิวเฉียวเฉียวก็ได้เรียกเขาไว้: “ยังไงตอนนี้ก็ยังไม่มีลูกค้า นายก็อยู่ดื่มเป็นเพื่อนพวกเราหน่อยสิ”
“สาวสวยอย่างเราสองคนชวนนายดื่ม นายยังไม่ยินดีเหรอ?” ดูหลี่ฝางมีความลังเลเล็กน้อย หลิวเฉียวเฉียวงอนจนขมวดคิ้ว
หลี่ฝางไม่ใช่ไม่ยินดี เพียงแต่เรื่องของลูกพี่หลี่ยังไม่ได้จัดการ เขามีกะจิตกะใจดื่มเหล้าที่ไหนกันล่ะ!
“หลี่ฝาง ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ ฉันคิดมาทั้งวัน เรื่องในวันนี้ ต้องขอบคุณนายจริงๆ ขอบคุณที่ใจทำให้ฉันเห็นท่าแท้ของตู้เฟย”
เซี่ยลู่พูดจบ ก็ดื่มเบียร์หมดขวดในทีเดียว
หลี่ฝางเห็นภาพนี้แล้ว รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เซี่ยลู่ดื่มยิ่งดุ หมายความว่าเจ็บปวดมาก ยิ่งเจ็บปวดมาก ก็เท่ากับว่ายิ่งรักมาก! เจ้าโง่อย่างตู้เฟยมีดีอะไรนัก