NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 54
บทที่ 54 แผนการของหลี่ต๋าคาง
จางกงหมิงกล่าวอย่างทะเยอทะยาน ไอ้ลูกพี่หลี่ที่เตี้ยม่อต้อ มีสิทธิ์อะไรเป็นขาใหญ่ของภาคตะวันออกเมือง
หลี่ฝางยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร
เป็นขาใหญ่เขาไม่ได้ดูกันที่รูปร่าง ลูกพี่หลี่สามารถเป็นขาใหญ่ของภาคตะวันออกเมือง ต้องมีความสามารถของเขาอย่างแน่นอน
อย่างหวางเห้าที่เก่งกาจขนาดนั้น หลังจากที่ลูกพี่หลี่คิดจะฆ่าเขา เขาก็หนีไปทันทีเหมือนกัน?
เห็นได้ชัด ลูกพี่หลี่คนนี้ไม่ธรรมดา
ทว่าหลี่ฝางไม่ได้บอกเรื่องเหล่านี้กับจางกงหมิง หากตัวเองพูดไป หากจางกงหมิงกลัวแล้วถอยจะทำไง?
งั้นก็เท่ากับว่ายกก้อนหินมาทุบขาตัวเองเหรอ?
มีคนออกหน้าให้ตัวเอง หลี่ฝางก็ต้องดีใจอยู่แล้ว เขาหัวเราะแล้วกล่าว: “พี่หมิง หาที่นั่งก่อนดีกว่า ผมไปเอาเหล้าให้พวกพี่เอง”
จางกงหมิงตอบรับ หันหน้าไปมองหลินชิงขิง ขมวดคิ้วแล้วถาม: “ชิงชิง น้องชายเธอเป็นบริกรอยู่ที่ Recalling the past”
หลินชิงชิงเป็นลูกสาวของลูกพี่หลิน พูดไปแล้ว หลินชิงชิงที่อยู่ในยุทธภพมีฐานะที่สูงทีเดียว
“ใช่” หลินชิงชิงก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แต่ก็ได้พยักหน้า ถึงอย่างไรหลี่ฝางก็ใส่ชุดของบริกรอยู่
หากไม่ใช่บริกร ทำไมถึงต้องใส่ชุดบริกรด้วยละ?
ไม่นานนัก หลี่ฝางก็ได้พาคนนำเหล้าหลายแบบมา พวกXO พวก Royal Salute พวก Rémy Martin สิ่งที่ควรมีก็มีหมดแล้ว
วางลงบนโต๊ะของจางกงหมิง หลี่ฝางพูดอย่างเป็นกันเอง: “พี่หมิง ปลดปล่อยให้เต็มที่เลย คืนนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ลงบิลผม”
จางกงหมิงสะดุ้งตกใจ เป็นแค่บริกรคนหนึ่งในร้านเหล้าทำไมถือมือเติบขนาดนี้?
เมื่อกี้เขายังรู้สึกดูถูกหลี่ฝางเล็กน้อย รู้สึกหลี่ฝางไม่คู่ควรเป็นน้องของหลินชิงชิง ตอนนี้ดูแล้ว หนุ่มน้อยคนนี้น่าจะเป็นพวกที่ไม่ชอบเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของตัวเอง
“งั้นพี่ก็ต้องขอบคุณน้องฝางแล้ว” จางกงหมิงยิ้มๆ แล้วกล่าว
“พี่หมิง อย่าเกรงใจกับผม” หลี่ฝางยิ้มๆ อย่างไรเสียพวกจางกงหมิงก็มาช่วยตัวเองจัดการลูกพี่หลี่ เผชิญหน้ากับผู้มีพระคุณ หลี่ฝางก็ไม่ขี้เหนียวอยู่แล้ว
เวลานี้ หลี่หลงก็ได้มาคนมาถึงRecalling the past
มองเห็นหลี่ฝาง หลี่หลงก็เดินเข้ามาโดยตรง: “ไม่คิดว่านายจะหลบอยู่ที่นี่จริงๆ”
“ฉันขอถามนาย หวางเห้าไปไหนแล้ว!” หลี่หลงถามอย่างสงสัย
หลี่ฝางส่ายหัว: “ฉันไม่รู้”
“แม่งเอ๊ย พวกแกจากไปด้วยกัน เขาไปไหน แกจะไม่รู้เลยเหรอ?” หลี่หลงยื่นมือออกมา กระชากคอเสื้อของหลี่ฝาง “หวางเห้าแทงลูกน้องสองคนของฉัน ทางที่ดีรีบบอกฉันมาว่าเขาอยู่ที่ไหน ไม่อย่างนั้นฉันจะทรมานแกจนตาย”
หลี่ฝางลนลานแล้ว รีบหันหน้าตะโกนไปทางจางกงหมิง: “พี่หมิง!”
“เหี้ย!” จางกงหมิงวางแก้วเหล้าในมือลง ก็ลุกขึ้นทันที
จำนวนคนที่จางกงหมิงพามา ไม่ได้น้อยไปกว่าของหลี่หลง จางกงหมิงมองหลี่หลงอย่างวางก้าม: “ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมาจากไหน รีบปล่อยน้องชายฉันเลย”
“จางกงหมิง?” หลี่หลงขมวดคิ้วเล็กน้อย: “นายมันนักเลงภาคตะวันตกเมือง มาแส่เรื่องของภาคตะวันออกเมืองทำไม”
“หลี่ฝางเป็นน้องฉัน เรื่องของน้อง จะเรียกว่าแส่ได้อย่างไร?” จางกงหมิงหัวเราะอย่างเย็นชากล่าว
“หลี่ฝางทำร้ายลูกน้องของพ่อฉันไปไม่น้อย พ่อฉันระบุชื่อให้จัดการมัน จางกงหมิง หากนายรู้กาลเทศะละก็ ฉันเตือนนายอย่ามายุ่งเรื่องนี้เลย ระวังตัวเองจะหาเรื่องใส่ตัว” หลี่หลงพูดข่มขู่
“เย็ดแม่เอ๊ยไอ้เด็กเมื่อวานซืน กล้ามาขู่ฉันเหรอ ขนของตัวแกขึ้นเต็มหรือยังหา?” จางกงหมิงยื่นมือออกไป ผลักหลี่หลงออก
พริบตาเดียว คนของหลี่หลงและจางกงหมิงก็ยืนเผชิญหน้ากัน คนทั้งสองฝ่ายต่างเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กัน
เวลานี้ ลุงเฉียนได้เดินเข้ามา กระแอมไปหนึ่งที
“ทุกท่าน พวกท่านมาเที่ยวหรือมาต่อยตีกัน?” ลุงเฉียนถามอย่างเรียบเฉย
“หากมาชกต่อยล่ะก็ รบกวนออกไปต่อยกันข้างนอก หากมาเที่ยว ก็รบกวนทุกท่านกลับไปนั่งยังโต๊ะของตัวเอง อย่ารบกวนการทำมาค้าขายของเรา” ลุงเฉียนพูดจบ ก็มองไปที่หลี่หลงและจางกงหมิง
“แน่นอน หากนายสองคนไม่ให้เกียรติบาร์ของเรา ก็สามารถที่จะต่อยตีกันในนี้เลย”
หลังจากที่ลุงเฉียนพูดประโยคนี้จบ จางกงหมิงก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว: “ใครที่กล้าตีกันใน Recalling the past ก็เท่ากับว่าเอาดินกลบหัวองค์ไท้ส่วยเอี้ย” “วางใจเถอะครับ หากจะตีกัน พวกเราก็จะออกไปตีกันข้างนอก จางกงหมิงมองลุงเฉียน หัวเราะกล่าว”
ลุงเฉียนตอบกลับจางกงหมิงด้วยเสียง อืม จากนั้นก็มองไปที่หลี่หลง: “นายละ?”
หลี่หลงก็กลัวแล้ว กล่าวว่า: “พวกเราก็มาเที่ยวเหมือนกัน”
ลุงเฉียนยิ้มอย่างพอใจ: “ในเมื่อมาเที่ยวกัน งั้นก็ดี งั้นก็ดี”
“เสี่ยวฝาง เมื่อกี้มีคนหาเรื่องนายใช่มั้ย?” จากนั้น ลุงเฉียนก็มองไปที่หลี่ฝาง แล้วถาม
หลี่ฝางเหลือบมองหลี่หลงแวบหนึ่ง ใบหน้าของหลี่หลงกลับมีความหวาดกลัวเล็กน้อย
หลี่ฝางส่ายหัว ก็เดินตามลุงเฉียนไปที่โต๊ะแคชเชียร์
จางกงหมิงกลับไปถึงยังโต๊ะของตัวเอง และหลี่หลง ก็ได้ไปที่โต๊ะของโจวเจ๋กับส้งเสียง
“ลุงเฉียน เมื่อกี้มันอะไรกัน ดูท่าทางของพวกเขา พวกเขาต่างกลัวลุงไม่น้อยเลย” เวลานี้ หลี่ฝางถามอย่างอดไม่ได้
พวกเขาไม่ได้กลัวลุง แต่กลัวอีกคนหนึ่ง ลุงเฉียนหัวเราะเห่อๆๆ
“ใครเหรอ?” หลี่ฝางถามต่อ
“เขา” ลุงเฉียนได้ชี้ไปที่มุมหนึ่ง มีคนสองสามคนที่ท่าทางผู้ดีนั่งอยู่ที่มุมนั้น
“สวีจื่อโห้?” หลี่ฝางอ้าปากค้าง มองสวีจื่อโห้อย่างแปลกใจ: “ลุงเฉียน เขาทำไมถึงมาที่แบบนี้ได้?”
“เรื่องนี้ คุณควรที่จะไปถามคุณพ่อคุณ” ลุงเฉียนหัวเราะกล่าว: “ไม่มีใครที่จะฉลาดไปกว่าจิ้งจอกเฒ่าอย่างคุณพ่อคุณแล้ว”
“คุณพ่อคุณนัดสวีจื่อโห้มาที่บาร์ ตัวเองกลับไม่มา” ลุงเฉียนกล่าว: “ก็มีเพียงเขา ที่กล้าผิดนักสวีจื่อโห้”
“แล้วทำไมเขายังไม่ไปละ?” หลี่ฝางถามอีก
“มาก็มาแล้ว ทำไมต้องรีบกลับด้วยล่ะ สวีจื่อโห้ไม่ใช่คนโง่ เขาต้องเข้าใจจุดประสงค์ของคุณพ่อคุณอยู่แล้ว คุณพ่อคุณเชิญเขามาดื่มเหล้าที่บาร์ นอกเสียจากเชิญมาข่มขู่เสื้อสิงห์พวกนั้น”
“คุณคิดดู สวีจื่อโห้ยังให้เกียรติมาที่Recalling the pastของเรา ตัวละครตลกอย่างลูกพี่หลี่ ยังจะกล้ามาก่อเรื่องที่บาร์อีกมั้ย? หากเขากล้าที่จะก่อเรื่อง ก็เท่ากับก่อเรื่องภายใต้สายตาของสวีจื่อโห้ไม่ใช่เหรอ?”
“ดังนั้น เมื่อกี้คนสองพวกนั้น ไม่ได้กลัวลุง แต่กลัวสวีจื่อโห้”
ลุงเฉียนยิ้มๆ แล้วกล่าว: “หากพวกเขากล้าที่มีเรื่องในบาร์ของเรา ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็จะถูกจับเข้าคุก”
หลี่ฝางหัวเราะเห่อๆ รู้สึกว่าพ่อของตัวเองช่างเจ้าเล่ห์นัก อีกอย่าง ลุงเฉียนคนนี้ก็พูดจาโอ้อวดเหลือเกิน กล้าเปรียบเทียบลูกพี่หลี่เป็นตัวละครตลก เขาเป็นถือฮ่องเต้ใต้ดินของภาคตะวันออกเมือง จะเป็นตัวตลกได้อย่างไร
“เสี่ยวฝาง นายไปดื่มเป็นเพื่อนสวีจื่อโห้หน่อยมั้ย” ลุงเฉียนกล่าว
หลี่ฝางก็ตอบ อืม มองไปที่ลุงเฉียน: “สวีจื่อโห้รู้ฐานะที่แท้จริงของผมหรือเปล่า?”
“ทั้งเมืองตงไห่ นอกจากพวกเราในบาร์ มีไม่กี่คนที่จะรู้ฐานะที่แท้จริงของคุณ” ลุงเฉียนพูดจบ กล่าวชื่นชมหลี่ฝางไปประโยคหนึ่ง หนุ่มน้อยปกปิดได้ไม่เลวเลยนะ ไม่ได้เปิดเผยฐานะของตัวเองออกมาเสียที
“ที่จริงแบบนี้ดีที่สุดแล้ว หากฐานะของคุณถูกเปิดเผย อาจจะมีอันตรายก็เป็นได้” ลุงเฉียนกล่าว
หลี่ฝางถาม: “อันตรายยังไงเหรอ?”
ที่หลี่ฝางปกปิดฐานะตัวเองนั้น ก็เพราะจะแต่งหมูหลอกกินเสือ (แกล้งโง่ต่อหน้าคนฉลาดเพื่อเอาผลประโยชน์) เขารู้สึกว่าแกล้งเป็นแบบนี้ถึงจะเกิดประโยชน์ แต่การเปิดเผยฐานะที่แท้จริงกลับมีอันตราย?
“อันตรายเยอะจะตาย ผมจะบอกคุณให้นะ คนหากมีเงินแล้ว ก็ต้องเผชิญภัยคุกคามต่างๆ ต้องรู้จักระวังคู่แข่ง ต้องระวังถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่……..ไม่อย่างนั้น คนรวยจะจ้างบอดี้การ์ดทำไม?” ลุงเฉียนหัวเราะกล่าว
“ผมไปดื่มเหล้ากับสวีจื่อโห้ ไม่เท่ากับว่าไปเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของตัวเองหรอกเหรอ?” หลี่ฝางกล่าวอย่างกังวล
“เปิดเผยให้เขารู้ไม่เป็นไร เขาไม่ทำร้ายคุณ อีกอย่าง ตอนที่คุณมีปัญหาที่มหาวิทยาลัย ไม่ใช่เขาเหรอที่ช่วยคุณจัดการ? ลุงเฉียนยิ้มแล้วกล่าว: “เขาน่าจะรู้ฐานะที่แท้จริงของคุณนานแล้ว”
หลี่ฝางคิดในใจ ก็จริง สวีจื่อโห้ช่วยตัวเองหลายครั้งแล้ว ตัวเองควรที่จะไปทำความเคารพเขาหน่อย
หลี่ฝางเดินไปด้านหยิบเหล้าดีมาสองขวด เตรียมตัวที่จะไปขอบคุณสวีจื่อโห้นั้น ส้าวส้วยก็กลับมา
ส้าวส้วยก็ตบที่บ่าของหลี่ฝาง ยิ้มๆ แล้วกล่าว เถ้าแก่ ผมได้ช่วยคุณจัดการลูกพี่หลี่ไปแล้ว
“ขี้โม้ห่าอะไร”
หลี่ฝางได้ถอยชุดบริกรบนตัวเขาให้กับส้าวส้วย พูดอย่างอารมณ์เสีย: “ฉันได้บอกลุงเฉียนแล้วให้บันทึกขาดงานนายหนึ่งวัน หักค่าแรงสามวัน”
“ยังดีที่นายกลับมาทำงานทำ ก็จะไม่หักค่าแรงนายละ” หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบเฉย
“เถ้าแก่ ทำไมคุณไม่เชื่อผมล่ะ” ส้าวส้วยพูดด้วยสีหน้าที่ถูกปรักปรำ ผมได้จัดการลูกพี่หลี่ไปแล้ว