NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 57
บทที่ 57 หลินชิงชิงสงสัยหลี่ฝาง
หลี่ฝางรู้สึกรำคาญและโมโห เซี่ยลู่อีเวรนี่ เอาตนเองมาเป็นตัวสำรองเหรอ!
ตู้เฟยนอกใจเธอ ถึงกลับมาหาตนเอง ไปทำอะไรมาตั้งนาน
ตอนนั้นหลี่ฝางคิดว่าจะลากเซี่ยลู่เข้าบัญชีดำแล้ว เมื่อก่อนเธอเคยทำอะไรไว้กับตนขนาดนั้น ในวันนี้กลับมาถามว่าตนยังชอบเธออยู่ไหม ยังหน้าด้านมาถามคำนี้อีกนะ
แต่พอกำลังคิดจะไม่สนใจเธออีกต่อไป ในสมองของหลี่ฝางกลับนึกอะไรได้มาอย่างหนึ่ง ตอบกลับให้เซี่ยลู่คำหนึ่งว่า: ยังชอบอยู่นิดหนึ่ง
คำนี้ทำให้เซี่ยลู่ดีใจมาก เซี่ยลู่บอกว่า: ดีจังเลย ฉันรู้ว่านายยังชอบฉันอยู่
ได้พูดคุยกับเซี่ยลู่อยู่พักหนึ่ง หลี่ฝางรู้สึกง่วงมาก จึงปิดมือถือนอนหลับไป
หลี่ฝางหลอกเซี่ยลู่ว่าตนยังชอบเธออยู่นิดๆ ก็เพราะอยากให้เธอคิดไปเอง
หลี่ฝางคิดว่า รอให้ตอนไหนที่ตนเองไม่ใช่เวอร์จิ้นแล้ว หาโอกาสชวนเซี่ยลู่ออกมา เพราะยังไงเซี่ยลู่เป็นผู้หญิงที่ตนเคยแอบชอบมานานหลายปี ในใจของหลี่ฝางก็ยังค้างคาใจอยู่
เพราะเรื่องของลูกพี่หลี่ หลี่ฝางอยากจะลาหยุดสองสามวัน แต่คิดไปคิดมา ถึงแม้ว่าลูกพี่หลี่จะเก๋งขนาดไหน ก็ไม่กล้าทำอะไรตนเองในโรงเรียนหรอกมั้ง?
อีกอย่าง ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ อย่างมากตนก็แจ้งตำรวจได้ ตอนที่พยายามตีสนิทสวีจื่อโห้เมื่อคืน หลี่ฝางก็ได้รู้จักกับหม่าเทียนแล้ว
หม่าเทียนรู้ว่าฐานะของตนเอง ต้องช่วยตนเองแน่นอน
คิดเช่นนี้แล้ว หลี่ฝางจึงโบกรถไปโรงเรียน
พอไปถึงห้องเรียน เกาเสิ้งมองหน้าหลี่ฝาง หัวเราะเยาะและพูดว่า: “นายถูกไล่ออกแล้วนี่ ยังมาอีกทำไม เก็บข้าวของเหรอ? ”
“กูอยากกลับก็กลับ เกี่ยวอะไรกับมึง” หลี่ฝางจ้องหน้าเกาเสิ้งอย่างไม่พอใจ อ้าปากขึ้นมาก็ด่า: “พูดมากอีกทีเดี๋ยวกูตบปากมึงซะเลยนิ เชื่อไม่เชื่อ? ”
เกาเสิ้งก็ไม่ได้กลัว พูดเสียงดังๆ : “หลี่ฝาง แม่งมึงยังกล้าอวดดีอีกเหรอ ตอนนี้ลูกพี่หลี่กำลังหาตัวมึงอยู่นะเว้ย ถ้าหาเจอต้องเอามึงตายแน่ๆ ”
“นั่นสิ พี่สาวมึงคือหลินชิงชิงแล้วไง โรงเรียนมัธยมตงไห่เป็นเขตของเมืองภาคตะวันออก เป็นพื้นที่ของลูกพี่หลี่เว้ย”
“อยู่ในเขตเมืองภาคตะวันออก ลูกพี่หลี่ก็คือพญายมราช เขาอยากให้ใครตาย คนนั้นต้องตาย” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมาด้วย
พูดจบ ทั้งสองหัวเราะเยาะกันอย่างสนุกเมามันและมองหน้าหลี่ฝาง
“เมื่อคืนพี่เฟยตามหามึงไปทั่ว มึงหนีไปอยู่ไหน? ได้ยินว่าหามึงเจอแถวๆ เขตไฟแดง มึงกำลังทำอะไรกับสาวๆ อยู่นี่นา ใช่เรื่องจริงไหม? ” จางเสี่ยวเฟิงพูดและยิ้มอย่างดุร้าย
ได้ยินข่าวคราวนี้ ในห้องก็เสียงดังขึ้นมาลั่นห้อง ต่างก็พูดคุยถึงเรื่องที่หลี่ฝางไปเที่ยวหาผู้หญิงโสเภณี
หลี่ฝางหน้าแดงขึ้นมาทันทีทันใด
เพราะเรื่องเที่ยวผู้หญิงมันน่าอับอายมาก
หลี่เสี่ยวเสี่ยวเดินเข้ามาถาม: “หลี่ฝาง ที่จางเสี่ยวเฟิงพูดเป็นเรื่องจริงๆ เหรอ นายคงไม่เหงาจนต้องไปเที่ยวหาสาวขนาดนั้นหรอกมั้ง”
“ถ้านายมีความต้องการก็บอกฉันได้นี่ ทำไมต้องไปหาผู้หญิงโสเภณี พวกเค้าสกปรกขนาดไหน” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดเสียงเบาๆ และนั่งลงข้างๆ หลี่ฝาง
หลี่ฝางไม่มีคำอธิบายใดๆ ได้แต่อยู่เงียบๆ
ก่อนจะถึงเวลาเข้าเรียน ตู้เฟยมาถึงพอดี เขากลับมาเก็บข้าวของตนเอง จากนั้นเดินออกไปนอกห้อง
“พี่เฟย นี่พี่กำลังทำอะไร? ” จางเสี่ยวเฟิงดึงตัวเขาไว้ ถามด้วยหน้าตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“กูไม่เรียนแล้ว” ตู้เฟยตอบด้วยน้ำเสียงแหบเบาๆ
“ไม่เรียนแล้ว? ผมได้ยินมาว่าช่วงนี้พ่อของพี่มีโครงการใหญ่ พี่จะกลับไปเรียนทำธุรกิจกับพ่อเหรอ” เกาเสิ้งพูดด้วยสีหน้าที่อิจฉา
“ลูกหลานคนรวยนี่ดีจริงเลยนะ แม้แต่เตรียมสอบเข้ามหาลัยก็ไม่ต้องเตรียมอะไร ไปทำงานที่บริษัทของพ่อแม่ก็พอ” ในห้องเรียนมีคนพร่ำบ่นคำนี้ออกมา
ในขณะนั้น อาจารย์หลิวได้พาผู้อำนวยการโรงเรียนมาที่ห้องเรียน
“ตู้เฟย ทำไมนายยังอยู่ที่นี่ ฉันไล่นายออกแล้วไม่ใช่เหรอ? ” ครูใหญ่มองหน้าตู้เฟยและถามเขา
“ผมกำลังจะไปครับ”
“ท่านครูใหญ่ครับ ท่านเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าครับ คนที่ท่านไล่ออกเมื่อวานคือหลี่ฝางไม่ใช่หรือครับ” จางเสี่ยวเฟิงตะลึงไปสักพักและจ้องมองหน้าผู้อำนวยการโรงเรียน
ท่านครูใหญ่ถูกจางเสี่ยวเฟิงถามเช่นนี้ รู้สึกละอายเล็กน้อย: “นายทำไมพูดมากขนาดนี้ หุบปากของนายซะ!”
“ฉันมาที่ห้องเรียนในครั้งนี้ เพื่อมาขอโทษนายหลี่ฝาง จากที่เราตรวจสอบเรื่องที่มีนักเรียนตีกัน เหตุเกิดเพราะนายตู้เฟยเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน ส่วนหลี่ฝางเขาแค่ป้องกันตนเองเท่านั้น”
“แล้วก็ พวกนายสองคนลุกขึ้นยืน” ครูใหญ่ชี้นิ้วไปที่เกาเสิ้งและจางเสี่ยวเฟิง: “นายสองคนกลับไปทบทวนตนเองหนึ่งอาทิตย์ เดี๋ยวโทรศัพท์เรียกผู้ปกครองมารับพวกนายด้วย”
“ท่านครูใหญ่ครับ พวกผมทำอะไรผิดหรือครับ ทำไมต้องให้พวกผมกลับไปทบทวนที่บ้านด้วย? ” เกาเสิ้งลุกขึ้นมาโต้ตอบ
“นายสองคนร่วมมือกับตู้เฟยรังแกนายหลี่ฝาง รวมกลุ่มสร้างพรรคพวกในห้องเรียน ไม่ไล่นายสองคนออกก็ดีแล้ว” ครูใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
พูดจบผู้อำนวยการก็เดินออกจากห้องเรียนไป
ในขณะนั้น ในห้องเสียงดังลั่นแทบแตก
“ครูใหญ่ถึงกับมาขอโทษหลี่ฝางถึงห้องเรียนด้วยตนเอง? ฉันยังไม่ตื่นหรือเปล่าเนี่ย”
“อีกอย่าง ตู้เฟยถูกไล่ออก ครั้งก่อนเขาตีกับคนอื่นจนขาหักยังไม่เห็นเป็นเรื่องเลย ครั้งนี้แค่ชกต่อยกับหลี่ฝาง ก็ถึงกับโดนไล่ออกเลยทีเดียวหรือ”
“พระเจ้า ตกลงเบื้องหลังหลี่ฝางมีใครหนุนหลังกันแน่? ”
แค่ครู่เดียว หลี่ฝางกลายเป็นผู้ที่ถูกเพื่อนๆ พูดคุยกันทั้งห้อง
ตู้เฟยไปแล้ว ก่อนไปยังจ้องมองหน้าหลี่ฝางด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
หลี่ฝางขมวดคิ้วขึ้น สายตาที่ตู้เฟยมองตนเองเมื่อสักครู่นี้ ทำไมเต็มไปด้วยความน่ากลัว?
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ถึงเวลาพักเที่ยง หลินชิงชิงมาหาหลี่ฝางที่โรงเรียน
หลินชิงชิงเหมือนสัตว์ประหลาดที่กำลังจ้องมองหลี่ฝางอยู่ ทำให้หลี่ฝางรู้สึกไม่สบายทั้งตัว
หลี่ฝางดูออกเหมือนว่ามีอะไรผิดปกติ จึงถามกลับไปว่า: “พี่ชิงชิง พี่มาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ? ”
หลี่ฝางส่ายหัวแล้วถามใหม่อีกครั้ง: “มีเรื่องใหญ่อะไรหรือเปล่าครับ? ”
“ลูกพี่หลี่ตายแล้ว” หลินชิงชิงถอนหายใจลึกๆ และพูด
หลี่ฝางตกใจจนขนลุกซู่และตัวสั่นไปทั้งตัว: “ไม่ใช่มั้ง? เมื่อคืนลูกพี่หลี่ยังดีๆ อยู่เลยนิ ทำไมแค่คืนเดียว ก็ตายซะแล้วล่ะ”
ในใจของหลี่ฝางตกตะลึงอย่างมาก แต่ก็รู้สึกดีใจนิดๆ
ลูกพี่หลี่ตายแล้ว งั้นตนเองก็ปลอดภัยแล้วสิ?
“นายรู้หรือเปล่าว่าลูกพี่หลี่ตายยังไง? ” หลินชิงชิงจ้องหน้าหลี่ฝางและถาม
หลี่ฝางยิ้มๆ และหัวเราะ: “ผมจะไปรู้ได้ยังไงกัน ถ้าไม่ใช่พี่มาบอก ผมยังไม่รู้เลยว่าลูกพี่หลี่ตายแล้ว”
“หลี่หลงเปิดเผยต่อสาธารณะว่า พ่อของตนเองตายเพราะเกิดอุบัติเหตุ แต่จริงๆ แล้ว ลูกพี่หลี่ถูกคนฆ่าตาย อีกอย่างยังตายในพื้นที่ของตนเองอีกด้วย” หลินชิงชิงพูดและขมวดคิ้วด้วย: “ในพื้นที่นั้น ยังมีลูกน้องของลูกพี่หลี่เป็นร้อย ผู้ร้ายฆ่าลูกพี่หลี่ตายภายในพื้นที่ตนเอง อีกทั้งยังหลบหนีออกไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งร่องรอยของเบาะแสไว้แม้แต่นิดเดียว”
“ไม่มีใครเห็นหน้าตาของผู้ร้าย แม้แต่เงาก็มองไม่เห็น” หลินชิงชิงพูด
“พี่สาว พี่พูดโอเวอร์เกินไปแล้ว คนอะไรเก่งขนาดนี้ ฆ่าคน ยังสามารถไม่ทิ้งร่องรอยไว้สักนิด? ” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ขึ้นมา รู้สึกว่าหลินชิงชิงพูดเกินไป
“พูดจริงๆ ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อนะ นี่คือคนที่เห็นกับตาพูดเองเลยนะ”
หลินชิงๆ หัวเราะและพูดต่อ: “ที่จริงข้างกายของลูกพี่หลี่ ก็มีลูกน้องของพ่อฉันที่ส่งไปเป็นสายสืบอยู่ ในวันนี้ลูกพี่หลี่ตายแล้ว สายสืบก็ต้องกลับมาอยู่ข้างกายพ่อของฉันต่อไป สิ่งที่ฉันพูดไปเมื่อสักครู่นี้ เขาเป็นคนเห็นกับตาตัวเองทั้งหมดเลยนะ”
“ไม่ว่าจะยังไง ลูกพี่หลี่ตายแล้วก็ดี” หลี่ฝางดีใจมาก
“พี่ครับ เรื่องแบบนี้โทรมาบอกผมก็ได้ ไม่ต้องวิ่งมาถึงที่หรอกน่า” หลี่ฝางบอก
หลินชิงชิงส่ายหัวและหัวเราะ: “ที่จริงคือฉันอยากจะมานายว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนายหรือเปล่า ตอนนี้ดูๆ แล้ว นายไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย”
“เกี่ยวข้องกับผม? พี่คิดมากไปแล้ว การตายของลูกพี่หลี่ จะเกี่ยวกับผมได้ยังไง? ” หลี่ฝางหัวเราะแล้วก็โต้ตอบกลับไป
“ลูกพี่หลี่ปล่อยข่าวออกมาว่าจะจับตัวนายไปแก้แค้นให้พี่น้องของเขา แต่ปรากฏว่ากลางคืนเขาก็ตายไปพอดี นายว่าเรื่องนี้คนที่น่าสงสัยที่สุดมันน่าจะเป็นนายหรือเปล่า? ” หลินชิงชิงยักคิ้วและกล่าว
“แต่นายไม่ต้องเป็นห่วง คนของลูกพี่หลี่เคยตรวจสอบนายแล้ว พวกเค้าไม่ได้สงสัยในตัวนาย” หลินชิงชิงหัวเราะและพูด: “เสี่ยวโจวเป็นคนพูด ว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับนาย ดังนั้นฉันจึงวิ่งมาลองถามนายดู”
“พี่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมเลยสักนิดเดียว เมื่อคืนผมนอนอยู่ในร้านเหล้าทั้งคืน……เดี๋ยว ร้านเหล้า!” หลี่ฝางพูดถึงร้านเหล้า ก็นึกถึงคนคนหนึ่งทันที!
ส้าวส้วย!
หรือว่า ส้าวส้วยไม่ได้พูดเล่นกับตน ที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง?
ทันใดนั้น บนหน้าของหลี่ฝางมีเหงื่อไหลลงมาเต็มหน้า