NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 59
บทที่ 59 เซี่ยลู่ถูกถอดเสื้อผ้า
จากการต่อรองเจรจาไปสักพัก ในที่สุดหลี่ฝางก็ยอมยืมเงินสองแสนให้จางกงหมิง ยังให้เขาเขียนสัญญายืมเงินอีกด้วย
หลังจากที่ออกจากร้านอาหาร หลี่เสี่ยวเสี่ยวกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า: “หลี่ฝาง นายยืมเงินให้ฉันด้วยสักหน่อยได้ไหม? ”
“เธอจะยืมเงินไปทำอะไร? ” หลี่ฝางถามด้วยความรำคาญ
“นายน่าจะยังจำคนที่ชื่อลู่หลุ่ยได้ บ้านของเธอกำลังลำบาก มีเรื่องร้อนใจต้องการใช้เงินก้อนหนึ่ง” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูด
หลี่ฝางหัวเราะอยู่ในใจ ไม่เชื่อคำพูดของหลี่เสี่ยวเสี่ยวเลยสักนิด
หลี่ฝางส่ายหัว ปฏิเสธ: “ผมก็เหลือแค่หนึ่งแสนหยวนแล้ว เมื่อกี้ก็ยืมออกไปหมด เธอทำไมไม่พูดแต่แรก พูดเร็วกว่านี้ผมก็ยืมให้เธอก่อนแล้ว”
หลี่ฝางไม่โง่ ถ้าเอาเงินยืมให้หลี่เสี่ยวเสี่ยวแล้ว ก็เท่ากับโยนซาลาเปาไส้หมูไปตีหมา ไปแล้วไม่มีกลับแน่นอน เงินที่ยืมให้จางกงหมิงไปหนึ่งแสน หลี่ฝางก็น่าจะไม่ได้คืนเกือบ80เปอร์เซ็นต์
แต่ยืมเงินให้จางกงหมิง อย่างน้อยก็มีประโยชน์ต่อตนเอง ต่อไปถ้าเจอปัญหาหรือมีเรื่องลำบาก สามารถขอความช่วยเหลือจากจางกงหมิงได้ ยืมให้หลี่เสี่ยวเสี่ยวจะมีประโยชน์อะไร
ไม่มีปัญญาคืนเงิน อย่างมากหลี่เสี่ยวเสี่ยวก็แค่เอาตัวเข้าแลก แต่เธอไม่มีค่ามากถึงหนึ่งแสนหรอก
ถ้าเป็นลู่หลุ่ยล่ะก็ ตนยังสามารถพิจารณาได้ ผู้หญิงคนนั้นแค่ดูก็รู้ว่ายังใสบริสุทธิ์อยู่เลย
กลับไปถึงโรงเรียนพร้อมกับหลี่เสี่ยวเสี่ยว เจอกับหลิวเฉียวเฉียวและเซี่ยลู่พอดี เซี่ยลู่ขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดี: “หลี่ฝาง นายทำไมไปยุ่งเกี่ยวกับหลี่เสี่ยวเสี่ยวล่ะ ผู้หญิงคนนี้แรด”
“เซี่ยลู่ เธอว่าใครแรด ระวังปากให้ดีหน่อย พูดมั่วอีกระวังเดี๋ยวแม่จะตบให้ปากฉีกเลยคอยดู!”
หลี่เสี่ยวเสี่ยวชี้นิ้วด่าเซี่ยลู่ฉอดๆๆ
“ว่าเธอนั่นแหล่ะ ถ้าเธอไม่แรดแล้วคืออะไร มีใครไม่รู้ว่าเธอเคยมีพ่อเลี้ยง” เซี่ยลู่หัวเราะอย่างเย็นชา: “ตาแก่นั่นอายุถึงหกสิบแล้วล่ะมั้ง? ปรนนิบัติเธอบนเตียนได้ดีไหม? ”
หลี่เสี่ยวเสี่ยวถูกเซี่ยลู่ว่าจนหน้าแดงแสลงหู
เมื่อก่อนหลี่เสี่ยวเสี่ยวเคยมีผู้เฒ่ามาส่งจริงๆ ผู้เฒ่าแก่ๆ คนนั้นขับรถเบนซ์คันหนึ่ง มองดูแล้วก็รวยมาก อีกอย่างตอนที่มาส่งหลี่เสี่ยวเสี่ยวลงจากรถ ยังจูบเธอทีหนึ่ง ภาพนี้ถูกคนถ่ายเอาไว้ได้ แล้วโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต เพราะเรื่องนี้ทำให้หลี่เสี่ยวเสี่ยวดังไปทั้งโรงเรียน
แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว
เซี่ยลู่พูดขึ้นมาตอนนี้ ดูออกว่าทำให้แผลในใจของหลี่เสี่ยวเสี่ยวรู้สึกเจ็บปวดใจอีกครั้ง ทันใดนั้นเธอก็เดินเข้าไปตบหน้าเซี่ยลู่ทันที: “เย็ดแม่มึงนะสิ แม่มึงนั่นแหล่ะถูกตาแก่เลี้ยง”
เซี่ยลู่ก็ไม่ใช่ย่อย จับผมของหลี่เสี่ยวเสี่ยวแล้วตบตีกันขึ้นมา
เวลาที่ผู้หญิงตบตีกัน อย่างมากก็ไม่กี่ท่านั้นแหล่ะ ดึงผม กระชากเสื้อ ตบหน้า
ปกติหลี่เสี่ยวเสี่ยวเป็นคนดุมากอยู่แล้ว ตบตีขึ้นมา แน่นอนว่าเซี่ยลู่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอแน่ เพียงแค่ไม่กี่นาทีเธอก็เสียเปรียบ เสื้อผ้าถูกกระชากจนฉีกขาดหลุดลุยไปหมด ผมก็ยุ่งเหยิงจนหัวฟู
“เฉียวเฉียว เธอยังยืนเซ่ออยู่ทำไมล่ะ รีบเข้ามาช่วยฉันสิ!” ในเวลานี้ เซี่ยลู่ตะโกนเรียกหลิวเฉียวเฉียว
หลิวเฉียวเฉียวเป็นคนขี้ขลาด เธอกลืนน้ำลายตั้งนานก็ยังไม่กล้าเข้าไป
เสื้อในของเซี่ยลู่ถูกดึงออก ผิวเนื้อที่ขาวเนียน ก็โผล่ออกมาด้วย ทำให้หลิวเฉียวเฉียวร้อนใจเข้าไปห้ามทันที: “หยุดตีกันได้แล้ว หยุดตีกันได้แล้ว”
หลี่เสี่ยวเสี่ยวยกแขนขึ้นมา ตบไปที่หน้าของหลิวเฉียวเฉียว: “อีเหี้ยหลีกไปไกลๆ”
หลิวเฉียวเฉียวโดนตบไปหนึ่งที จึงไม่กล้าเข้าไปห้ามอีก ได้แต่ยืนมองอยู่ข้างๆ แต่โดยดี
“เซี่ยลู่ แกชอบหัวเราะเยาะคนอื่นไม่ใช่เหรอ? วันนี้ฉันจะให้แกรู้ซึ้งถึงความรู้สึกที่ถูกคนหัวเราะเยาะสักบ้าง!” หลี่เสี่ยวเสี่ยวหัวเราะอย่างเยือกเย็น ยื่นมือออกมาถอดเสื้อเธอออก
ในความวุ่นวายนั้นเซี่ยลู่รีบเอ่ยปากขอร้อง: “หลี่เสี่ยวเสี่ยว ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้าว่าเธอแรดอีกแล้ว”
“ช้าไปแล้ว!” หลี่เสี่ยวเสี่ยวไม่ยอมให้อภัยเซี่ยลู่
เสียงดังจื๊ด หลี่เสี่ยวเสี่ยวฉีกเสื้อเชิ้ตของเซี่ยลู่จนขาด เซี่ยลู่ตกใจจนรีบนั่งลงกับพื้น ใช้มือปิดตรงหน้าอกของตนเองไว้
หลี่ฝางมองเห็นภาพนี้แล้ว อดใจไม่ไหวถึงกับกลืนน้ำลาย
นี่มันของดีฟรีๆ เลยล่ะ
“ทุกคน มาดูนี่เร็ว!” หลี่เสี่ยวเสี่ยวหันไปตะโกนร้องรอบๆ
แค่แป๊บเดียวก็มีคนออกมาจากห้องเรียน หลี่ฝางคิดไปคิดมา รีบถอดเสื้อของตนเอง โยนไปให้เซี่ยลู่: “รีบใส่เข้าไป”
“หลี่ฝาง!” หลี่เสี่ยวเสี่ยวโมโหจนกระทืบเท้า
“หลี่เสี่ยวเสี่ยว เธอบ้าไปแล้วเหรอ เธอทำแบบนี้ ถ้าอาจารย์รู้เข้า เธอต้องถูกไล่ออกแน่” หลี่ฝางทนไม่ไหวจึงว่าเสี่ยวเสี่ยว
ตอนแรกก็แค่เรื่องหึงหวงธรรมดา นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายกลายเป็นเหตุการณ์ตบตีกันอย่างโหดร้าย
ที่คอของเซี่ยลู่ถูกมือของหลี่เสี่ยวเสี่ยวขวิดจนเป็นรอยแผลมีเลือดหลายที่ ผ่านการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้แล้ว เซี่ยลู่ยอมแพ้แต่โดยดี แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหลี่เสี่ยวเสี่ยวก็ไม่กล้าแล้ว
หลี่เสี่ยวเสี่ยวชี้นิ้วข่มขู่เซี่ยลู่: “ถ้าแกยังกล้าพูดถึงเรื่องนั้นอีก กูจะถอดแม้กระทั่งกางเกงของแกด้วย”
หลี่เสี่ยวเสี่ยวพูดจบ โมโหมากจนเดินไปทางห้องเรียนโดยตรงและไม่สนใจหลี่ฝางอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าหลี่เสี่ยวเสี่ยวโกรธที่หลี่ฝางเอาเสื้อให้เซี่ยลู่ใส่
แต่ว่า หลี่ฝางก็แค่หวังดีกับหลี่เสี่ยวเสี่ยว ถ้าหากเมื่อกี้เซี่ยลู่ไม่ใส่เสื้อผ้า ภาพนี้ถูกเพื่อนนักเรียนเห็นหมด เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
หลี่เสี่ยวเสี่ยวไม่เพียงจะถูกไล่ออก อาจจะต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย
ส่วนเซี่ยลู่ก็อายจนไม่กล้าอยู่ในโรงเรียนต่อ
“ลู่ลู่ เธอเป็นไรมากไหมอะ” หลิวเฉียวเฉียวเพิ่งจะวิ่งเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“หลีกไป!” เซี่ยลู่ตอบและจ้องหลิวเฉียวเฉียวอย่างเย็นชา: “หลิวเฉียวเฉียว แกใช่เพื่อนสนิทของฉันไหม? เมื่อก่อนตอนที่มีคนรังแกเธอ ฉันปกป้องเธอยังไง”
“เมื่อกี้หลิวเฉียวเฉียวตบตีฉันขนาดนั้น เธอทำไมไม่เข้ามาช่วยฉัน?” เซี่ยลู่พูดด้วยความโมโห
“ฉัน……ฉันไม่กล้า” หลิวเฉียวเฉียวพูดอย่างอ่อนแอ
ตอนแรกหลี่ฝางอยากจะพูดว่า ใครให้เธอทำตัวร้ายแบบนั้นล่ะ แต่พอจะเอ่ยปากพูด แต่หลี่ฝางรู้สึกวาพูดเช่นนี้ไม่ค่อยเหมาะสม
“กลับไปเรียนกันเถอะ” หลี่ฝางไม่รู้ควรพูดอะไรดี
แต่เสียงกริ่งเข้าเรียนดังขึ้นพอดี เซี่ยลู่บอกหลี่ฝางคำหนึ่งว่าขอบคุณ จากนั้นก็กลับไปที่ห้องเรียน
ตอนที่อยู่ในห้องเรียน เซี่ยลู่ส่งข้อความหนึ่งให้หลี่ฝางกะทันหัน: “สวยไหม?”
ตอนนั้นหลี่ฝางตะลึงไปสักพัก โต้ตอบไม่ถูก แค่ตอบเครื่องหมายคำถามกลับไปสามตัว
“ฉันบอกว่ารูปร่างหุ่นของฉัน สวยไหม?” เซี่ยลู่ส่งข้อความมาอีกครั้ง
“ก็สวยดี” หลี่ฝางนึกถึงภาพที่หอมหวนเมื่อสักครู่นี้
เมื่อก่อนเซี่ยลู่จะอ้วนเล็กน้อย แต่ช่วงนี้ไม่รู้ทำไม เธอไม่เพียงแต่จะลดความอ้วน อีกทั้งยังออกกำลังกายจนมีซิคแพคบนหน้าท้องอีกด้วย ดังนั้นหุ่นของเธอจึงสวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ
ตอนที่ใกล้เวลาเลิกเรียน หลี่เสี่ยวเสี่ยวเข้ามานั่งข้างๆ หลี่ฝางกะทันหัน: “หลี่ฝาง ฉันถามอะไรนายเรื่องหนึ่งสิ”
“ถามมาเลย”
“ถ้าฉันบอกนายว่า ฉันไม่เคยมีคนเลี้ยง นายเชื่อไหม? หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองหน้าหลี่ฝางแล้วถาม
“เชื่อ ทำไมไม่เชื่อล่ะ” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ และพูด
“จริงๆ เหรอ? ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองหน้าเสี่ยวฝาง ท่าทางตกตะลึง: “แต่มีคนถ่ายรูปที่มีความเกี่ยวพันและลึกซึ้งของฉันกับตาแก่นั่น นายเห็นรูปนั้นแล้ว ก็ยังเชื่อฉัน? ”
ตอนแรกหลี่ฝางก็คิดว่าหลี่เสี่ยวเสี่ยวมีพ่อเลี้ยง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว
“ถ้าเธอมีพ่อเลี้ยงจริงๆ งั้นก็ต้องใส่เสื้อผ้าที่มีแพงๆ มียี่ห้อ ใส่กระเป๋าที่มีแบรนด์ ไม่ใช่เหรอ? ” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ
“แล้วนายไม่อยากรู้ความสัมพันธ์ของฉันและตาแก่นั่นเหรอ? ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถามต่ออีก
“เธออยากบอกไหมล่ะ? ” หลี่ฝางถาม
หลี่เสี่ยวเสี่ยวส่ายหัว พูดเองเออเองไปว่า: “ฉันไม่มีวันจะไปเจอตาแก่นั่นอีกแล้ว ชีวิตนี้ต้องไม่มีวันไปอีกเจออีก”
“แต่ว่าหลี่ฝางนายต้องเชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้แย่มากขนาดนั้นเหมือนที่เค้าพูดกัน” หลี่เสี่ยวเสี่ยวจับมือของหลี่ฝางอย่างรีบร้อนใจ แล้วอธิบายอีกครั้ง
“เชื่อ เชื่อ” หลี่ฝางพยักหน้าและหัวเราะขึ้นมา
หลังจากที่เลิกเรียนแล้ว หลิวเฉียวเฉียวมาถึงหน้าประตูห้องของหลี่ฝาง
หลี่ฝางเดินไปตรงหน้าของเธอ จากนั้นถามด้วยความสงสัย: “เธอทำไมมาที่นี่? ”
“เซี่ยลู่ให้ฉันมาหานาย เธอบอกว่าถ้าฉันไม่มา เลิกเรียนแล้วนายต้องถูกพี่กะหรี่นั่นพาออกไปแน่” หลิวเฉียวเฉียวพูด
หลี่ฝางหัวเราะ แล้วมองหน้าหลิวเฉียวเฉียวและพูดเยาะเย้ย: “งั้นเธอหมายความว่า เธอจะไปด้วยกันกับผมเหรอ”
“เซี่ยลู่กำลังรอนายอยู่ข้างๆ บันไดแล้ว เราสามคนไปด้วยกัน” หลิวเฉียวเฉียวพูดและหน้าแดงเล็กน้อย
หลี่ฝางหันหลังกลับไปมองหลี่เสี่ยวเสี่ยว เห็นเธอกำลังโทรศัพท์กับคนอื่นอยู่
“ไปกันเถอะ” หลี่ฝางถือโอกาสดึงแขนของหลิวเฉียวเฉียว รีบเดินหนีไปเร็วๆ
“ทำไมเหมือนแอบมีชู้อย่างนั้นล่ะ หลี่ฝาง นายคงไม่ได้คบกับหลิวเฉียวเฉียวจริงๆ หรอกนะ” หลิวเฉียวเฉียวมองหน้าหลี่ฝางและขมวดคิ้ว
หลี่ฝางส่ายหัวแล้วบอกว่า: “ไม่ใช่ เป็นแค่เพื่อนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น”
เพิ่งออกจากอาคารเรียนได้แป๊บเดียว ทันใดนั้นก็มีผู้ชายหลายคนพุ่งเข้ามา แล้วจับตัวหลี่ฝางไว้: “ไอ้หนุ่ม พี่ใหญ่ของพวกเราต้องการคุยอะไรกับนายหน่อย”
“พี่ใหญ่ของพวกนายคือใคร? ”
“หลี่หลง!” คนที่จับตัวหลี่ฝางหัวเราะ: “นายน่าจะรู้จักถึงจะถูก”