NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 92
บทที่92 หลินชิงชิงเป็นอิสระแล้ว
ถ้าบอกว่าครั้งที่แล้วแค่สงสัย งั้นครั้งนี้จางกงหมิงก็มั่นใจแล้วว่า หลี่ต๋าคางตรงหน้านี้ไม่ใช่แค่เคยฆ่าคน แต่ยังฆ่าไม่ใช่แค่คนเดียว
“แม่งเอ๊ย ทำไมตงไห่มีคนเลวได้ขนาดนี้?” จางกงหมิงมองแผ่นหลังของหลี่ต๋าคาง พูดบ่นเบาๆ
เวลานี้ พวกลูกน้องของเขาวิ่งออกมา
“ลูกพี่ใหญ่ จากที่คุณกำชับ ชาตินี้ผู้ชายสองคนนั้นจบเห่แล้ว” ลูกน้องของจางกงหมิงวิ่งเข้ามา ด้วยใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์
“ลูกพี่ใหญ่ คุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อกี๊ตอนที่ผมตัดขากับน้องชายพวกเขา พวกเขาร้องเหมือนจะตาย ร้องได้อนาถมาก” ลูกน้องของจางกงหมิงเล่าให้ฟัง
ลูกน้องอีกคนเข้ามา: “ลูกพี่ใหญ่ พวกเราจัดการได้เกินไปหรือเปล่า หลี่ฝางเขาก็ไม่เป็นอะไร ถูกเตะไปไม่กี่ที แต่พวกเราเอาฝ่ายนั้นพิการเลย เรื่องนี้พูดออกไป จะถูกคนท้าทายหรือเปล่า บอกว่าพวกเราโหดร้าย?”
“ลูกพี่ใหญ่ ทำไมพี่ไม่พูดล่ะ?”
สีหน้าของจางกงหมิงเคร่งขรึม จนลูกน้องคิดว่าเขาตะลึงไป
จางกงหมิงจึงได้สติคืนมา หันไปมองลูกน้องตัวเอง: “พวกคุณพูดอะไรนะ?พูดอีกทีซิ……”
พอรถพยาบาลขับออกไป จางกงหมิงก็สูดลมหายใจลึกๆ : “สองคนนั้นแตะต้องผม ถือว่าโชคดีไป ถ้าแตะต้องเขา ……กลัวว่าจะไม่รอดชีวิตแล้ว”
“ลูกพี่ใหญ่ เขานี่ใครเหรอพี่?” ลูกน้องของจางกงหมิงถามอย่างสงสัย
จางกงหมิงไม่พูด ได้แต่เดินไปที่ย่านร้านอินเทอร์เน็ต
ส่วนหลี่ฝาง พอสอบเสร็จ ก็หมดสติไปเพราะความอ่อนแอ ฟื้นมาอีกครั้ง เขาก็นอนอยู่บนเตียง
“พ่อ……” มองหลี่ต๋าคางยืนข้างเตียงตัวเองไม่พูดอะไร หลี่ฝางตกใจ
ฉากตรงหน้า เหมือนกับที่จางกงหมิงเล่าให้ฟังครั้งที่แล้ว
พ่อของตัวเองยืนอยู่หน้าเตียงคนป่วยจริงๆ นิ่งสงบ ไม่ขยับเลย
เห็นหลี่ฝางฟื้น หลี่ต๋าคางจึงพูด: “เรื่องนี้พ่อรู้แล้ว”
“ลูก ลูกไม่ทำให้พ่อผิดหวังเลย” ถึงแม้หลี่ต๋าคางจะมีใบหน้าไร้อารมณ์ แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความชื่นชม: “ความรั้นของลูกนี้ ต่อไปจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่”
หลี่ฝางยิ้มแห้ง: “พ่อ ผมคิดว่าพ่อจะว่าผมซะอีก”
“ใช่ เทียบสอบเอ็นทรานซ์กับชีวิตแล้ว ไม่ควรเลย ตรงนี้ลูกกลับแยกแยะไม่ได้” หลี่ต๋าคางลูบหัวหลี่ฝาง พูดอย่างเจ็บปวด: “ต่อไปอย่างโง่อย่างนั้นอีก แค่สอบเอ็นทรานซ์เท่านั้น ทำไมต้องทำเป็นสำคัญขนาดนั้น เด็กโง่”
“ผมก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นเป็นอะไรไป น่าจะไม่โอเคมั้ง ผมลำบากมาตั้งสามปี จ่ายไปตั้งมากมาย ถ้าไม่ไปสอบ ความขยันในสามปีนี้ที่พยายามมาก็ไม่ใช่ว่าสูญเปล่าหมดเลยเหรอพ่อ?”
“เด็กโง่ ลูกต้องจำไว้ว่า บางครั้งตอนที่ควรปล่อย ก็ต้องปล่อย” หลี่ต๋าคางสั่งสอน: “ไม่ว่าเขาจะสำคัญกับลูกแค่ไหน คุณหลงใหลเขามากแค่ไหน ถ้าการได้เขามาคือการคุกคามชีวิตลูก ลูกก็อย่าโลภ”
หลี่ฝางพยักหน้า: “ลูกชายจะจำไว้”
“จำไว้ก็ดี” หลี่ต๋าคางนั่งตรงหน้าหลี่ฝาง
“ต่อมา เราสองคนพ่อลูกก็พูดเรื่องจริงจังหน่อย” จู่ๆ หลี่ต๋าคางก็พูด
“จริงจัง?”
“สอบเอ็นทรานซ์ของลูกจบแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องเข้ามหาวิทยาลัย เท่ากับว่าต้องเข้าสู่สังคมนักเลงแล้ว” หลี่ต๋าคางยิ้ม พูด: “ควรจะวางแผนให้ชีวิตของตัวเอง”
หลี่ฝางปวดหัวเล็กน้อย เขาไม่อยากคิดเรื่องพวกนี้ มันจะดีกว่าที่จะอยู่อย่างมีความสุข
“ทำไม อยากหนีปัญหานี้เหรอ?” หลี่ต๋าคางมองความคิดลูกชายตัวเองออก
หลี่ฝางพยักหน้า: “พ่อ ให้ผมเที่ยวเล่นอีกสักสองสามปีได้ไหม รอเรียนจบ พวกเราค่อยคุยเรื่องนี้”
“โอเค งั้นเราค่อยคุยเรื่องนี้กัน”
หลี่ต๋าคางสีหน้าหม่นลง จากนั้นก็พูด: “นิสัยของพ่อลูก พ่อว่าลูกรู้ดี”
“มีแค้นไม่ชำระ ไม่ใช่สไตล์ของพวกเราตระกูลหลี่” หลี่ต๋าคางหัวเราะอย่างเย็นชา: “ตระกูลตู้รังแกลูกหลายครั้งแล้ว ถึงเวลาที่จะให้เขาได้พินาศแล้ว”
“ให้ตระกูลตู้พินาศ?” หลี่ฝางกลับสูดลมหายใจ พ่อตัวเองพูดบ้าคลั่งมากๆ ให้ตระกูลตู้พินาศเลย?
คำพูดบ้าบอแบบนี้ มีแค่พวกจักรพรรดิที่กล้าพูดเท่านั้นแหละ พวกนักเลงแบบนี้ บอกว่าจะทำให้พินาศก็ทำให้พินาศเลยได้ที่ไหนกัน
“พ่อ ล้อเล่นหรือไง ตระกูลตู้เป็นตระกูลใหญ่มีธุรกิจขนาดใหญ่ ทรัพย์สินหลายล้าน ยืนหยัดที่ตงไห่มามากกว่าสิบกว่าปี พ่อบอกจะทำให้เขาพินาศ ก็พินาศได้เลยเหรอ” หลี่ฝางกลอกตาใส่หลี่ต๋าคาง: “แล้วพ่อก็ไม่ใช่คนมีอำนาจอะไรด้วย”
“ดูถูกพ่อใช่ไหมล่ะ?” หลี่ต๋าคางหัวเราะเหอะๆ
“ลูกรักษาอาการบาดเจ็บดีๆ รอตอนที่ลูกลงจากเตียงได้ พ่อจะให้ลูกเห็นตระกูลตู้หายไปเองกับตา” หลี่ต๋าคางพูด
“จริงหรือโกหก พ่อทำลายตระกูลตู้ได้จริงๆ ?”
“มูลค่าตัวพ่อของลูกหลายหมื่นล้าน จะทำลายบริษัทเล็กๆ ที่มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านไม่ได้เหรอไง?” หลี่ต๋าคางส่ายหน้า: “ตู้ต้าไห่เป็นของเล่นในมือพ่อมานานแล้ว พ่อจะให้เขาตายเมื่อไหร่ ก็ย่อมได้ทั้งนั้น”
“พ่อ งั้นพ่อก็เจ๋งกว่ายมราชน่ะสิ” หลี่ฝางพูดยิ้มๆ
“ถึงบ้านเขาจะไม่รวยเท่าเรา แต่ก็มีรากฐานมั่นคง ถ้าอยากทำลายบริษัทนี้ ในเวลาสั้นๆ กลัวว่าจะไม่ได้น่ะสิ” หลี่ฝางพูด
“วางใจเถอะ พ่อเตรียมฝังระเบิดให้เขาไว้นานแล้ว”
หลี่ต๋าคางพูด: “อีกอย่างไอ้โง่ตู้ต้าไห่นั่น ตอนนี้ก็กำลังเหยียบระเบิดที่เราฝังไว้อยู่”
“พ่อ พ่อฝังระเบิดอะไรให้ตู้ต้าไห่?” หลี่ฝางถามอย่างตื่นเต้น
“รอวันนั้นที่ลูกออกจากโรงพยาบาลก็รู้เอง” หลี่ต๋าคางกล่าวถึงจุดไคลแมกซ์: “ไม่ได้บอกลูกแล้วเหรอเมื่อกี๊ วันนั้นที่ลูกออกจากโรงพยาบาล พ่อจะให้ลูกได้เห็นความตายของตระกูลตู้”
“งั้นผมจะออกจากโรงพยาบาลตอนนี้เลย”
“อยากตายเหรอไง” หลี่ต๋าคางจ้องลูกชายตัวเอง: “เพิ่งสอนลูกไป ทำไมความจำสั้นแบบนี้”
“ไม่อดทนเลยสักนิด”
“ทำเรื่องใหญ่ ต้องมองการณ์ไกล นิสัยอย่างลูก ต่อไปจะมองการณ์ไกลได้ไง จะจับปลาใหญ่ได้ไง?” หลี่ต๋าคางพูดอย่างโกรธๆ : “บำรุงร่างกายดีๆ รักษาแผลดีแล้วค่อยออกจากโรงพยาบาล”
“โอเค งั้นพ่อจะให้ปลาใหญ่ตัวนี้หนีไปไม่ได้นะ ผมจะสับมันเองกับมือ”
รอลู่หลุ่ยมาแล้ว หลี่ต๋าคางจึงออกไป
ลู่หลุ่ยมองหลี่ฝางอย่างสงสารและโกรธอีกครั้ง: “ทำไมคุณโง่อย่างนั้น เป็นแบบนี้ ยังจะสอบอะไรอีก”
“คิดดูถ้าการสอบครั้งนี้คุณมีอันเป็นไป จะไม่เสียหายขนาดใหญ่เหรอ?”
ลู่หลุ่ยพูด: “บ้านคุณรวยขนาดนั้น มหาวิทยาลัยไหนบ้างที่เข้าไม่ได้ ถึงสอบได้ไม่ดี จ่ายเงินนิดหน่อย ก็เข้าได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นไม่เหมือนกัน ผมเข้ามหาวิทยาลัย ก็พึ่งความสามารถของตัวเอง”
หลี่ฝางไม่อยากเป็นอย่างตู้เฟยจริงๆ ใช้เงินไปซื้อโรงเรียนเพื่อให้เข้ามหาวิทยาลัยได้ แบบนั้นก็ไม่มีความหมาย
เทียบกับความรวยแล้ว หลี่ฝางรวยกว่าตู้เฟยร้อยเท่า
“คุณอย่าว่าผมเลย พ่อผมเพิ่งว่าผมไปหยกๆ” หลี่ฝางทำเป็นหน้าสลด: “อีกอย่างผมก็ไม่เป็นไรนี่”
“ถ้าเป็นไรก็สายไปแล้ว” ลู่หลุ่ยพูด
“พวกเราไม่ต้องคุยเรื่องนี้แล้ว” หลี่ฝางเปลี่ยนเรื่อง: “คุณสอบเป็นไงบ้าง”
“ก็ไม่แย่” ลู่หลุ่ยยิ้ม: “หลายวันก่อนตอนสอบเทสต์ ฉันเพิ่งสอบได้ที่เจ็ดของโรงเรียน แต่ครั้งนี้ฉันมั่นใจว่าต้องอยู่สามอันดับแรก”
หลี่ฝางยิ้มอย่างอึดอัดใจ ลู่หลุ่ยเรียนเก่งเกินไปแล้ว?
ระยะห่างกันเยอะ แบบนี้แล้ว ก็สมัครที่เดียวกันไม่ได้แล้วสิ
ไม่นานนัก จางกงหมิงกับหลินชิงชิงก็มาที่โรงพยาบาล
ตอนที่เห็นหลินชิงชิง หลี่ฝางตกใจ คิดว่าตาฝาด
“พี่ พี่มาได้ไงกัน?” ครั้งนี้หลินชิงชิงไม่ได้สวมหน้ากาก และก็ไม่ได้ใส่หมวก มาเยี่ยมหลี่ฝางที่โรงพยาบาลอย่างเปิดเผย
“มู่เสี่ยวไป๋กลับเมืองเอกแล้ว” หลินชิงชิงพูดอธิบาย: “ฉันเลยเป็นอิสระแล้ว”
“กลับแล้ว?” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วก็พูดอย่างสงสัย: “นั่นก็เรื่องดีสิ หรือหาคุณไม่เจอ ก็เลยทิ้ง?ไม่น่ามั้ง เพื่อคุณ เขาถึงกับแทงไปตั้งหลายคน ทำไมจู่ๆ ก็จะทิ้งเลยล่ะ?”
“ทิ้งบ้าอะไรล่ะ พี่ชายเขาเกิดเรื่อง”
ไม่ทันรอหลินชิงชิงตอบ จางกงหมิงก็พูด: “เมื่อคืนวาน พี่ชายของมู่เสี่ยวไป๋เกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้จะเป็นจะตายเท่ากัน”
“มองไปถึงจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ใครก็ตามที่มีตาหยั่งรู้ จะรู้ว่านี่คือการฆาตกรรม”
จางกงหมิงมองหลี่ฝางอย่างมีเลศนัย พูด: “อีกอย่างฆาตกร ก็คือหนึ่งในแปดของพวกคุณ”
“ไม่ใช่ผม!” หลี่ฝางรีบล้างความผิดให้ตัวเอง
“แน่นอนว่าไม่ใช่คุณ” จางกงหมิงกลอกตาใส่หลี่ฝาง: “และก็ไม่ใช่อีกเจ็ดคนที่เหลือ”
“ความหมายของผมคือ เบื้องหลังของฆาตกร ก็คือพวกคุณหนึ่งในแปด” จางกงหมิงจ้องหลี่ฝาง เหมือนกับหลี่ฝางคือคนที่อยู่เบื้องหลัง