NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1014 ไม่ว่าใคร
ถึงแม้ว่าเขาเกาฉงเมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองตง จะไม่ใช่อะไร แต่ว่าเจิ้งเหวินซิงพูดแบบนี้ออกมา นั่นก็คือการตบหน้ากันชัดๆ
แต่เกาฉงก็ไม่กล้าชักสีหน้า ยังไม่ต้องพูดถึงการข่มขู่จากตระกูลเจิ้ง แต่เจิ้งซานคนเดียว เกรงว่าก็พอที่จะทับพวกเขาทุกคนได้แล้ว
ขณะที่เกาฉงทำหน้าลำบากใจ เสียงของลู่เผิงเฟยก็ดังขึ้น
“อ๋อ? งั้นหน้าฉันล่ะ? สหายเจิ้งก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา?”
คิดไม่ถึงว่าลู่เผิงเฟยถึงกับยื่นมือเข้ามา ทันใดนั้นบนหน้าของคนรอบข้างก็มีความประหลาดใจขึ้นมาทันที
เกาฉงเป็นเจ้าของปาร์ตี้ในครั้งนี้ แน่นอนว่าเขาจะต้องออกหน้ามาห้ามการทะเลาะวิวาทครั้งนี้อยู่แล้ว แต่ทำไมลู่เผิงเฟยต้องออกหน้าด้วยล่ะ? หรือว่าอยากจะเอาใจตระกูลเกากันนะ หรือว่า……จะเป็นเพราะเจ้าตัวคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูแล้วไม่ได้เข้าพวกกับปาร์ตี้เลยอย่างหลี่ฝาง?
ผู้คนที่คิดถึงตรงนี้ ก็ค่อยๆ หันสายตาไปที่หลี่ฝาง และเริ่มคิดว่าเขามีฐานะอะไรกันแน่
เจิ้งเหวินซิงหรี่ตา น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย: “นายแน่ใจนะว่าจะขวางฉันเพื่อไอ้ขอทานนี่?”
เขารู้จักตระกูลลู่ดีอย่างมาก รู้มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป ตระกูลลู่กับผู้เฒ่า เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลเจิ้งนั้นอิจฉา
ส่วนอีกฝ่าย เมื่อได้ยินเจิ้งเหวินซิงเรียกว่า “ขอทาน” รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ฝางก็ค่อยๆ หายไป
ลู่เผิงเฟยเห็นสีหน้าของหลี่ฝางเปลี่ยนไป ก็ถอนหายใจในใจ และเอ่ยปากพูดกับเจิ้งเหวินซิง: “ฉันทำก็เพื่อนาย ถ้าหากนายไม่ฟัง งั้นก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน”
ที่จริงคิดว่าเจิ้งเหวินซิงเป็นคู่แข่ง ต่อไปไม่แน่อาจจะร่วมมือกันดีๆ ได้ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าของหลี่ฝางเปลี่ยนไป ดังนั้นก็รู้ได้ว่าต้องหุบปาก และก็หยุดเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
คราวนี้ เจิ้งเหวินซิงก็อดไม่ได้แล้ว เขาหึอย่างเย็นชาแล้วพูด: “คุณชายตระกูลลู่ ก็แค่นี้เอง เพื่อไอ้ขอทานคนนึง ก็ถึงกับปล่อยวางความร่วมมือในอนาคต ฮ่าๆ ดี!”
หลังจากพูดเยาะเย้ย เจิ้งเหวินซิงก็สั่งการ
“เจิ้งซาน เอามันให้พิการ”
วินาทีนั้น ร่างใหญ่ของเจิ้งซานก็พุ่งเข้าหาหลี่ฝางจนเกิดลมแรง
ผู้คนที่ดูอยู่มีน้อยมากที่เห็นท่าทางของเขาอย่างชัดเจน เห็นหมัดที่เขาชกไปทางหลี่ฝาง
เสียงดัง “ปัง” ดังลั่นห้องโถง โต๊ะไม้ที่คั่นระหว่างเขาสองคน ก็ถูกชกจนละเอียดทันที
แน่นอนว่าหลี่ฝางไม่ยืนโง่อยู่ตรงนั้น เขาหลบไปด้านข้างนานแล้ว
“น่ากลัว นี่คือพลังทำลายล้างของนักรบเหรอ?”
“ไม่เสียแรงที่เป็นคุณชายเจิ้ง บอดี้การ์ดข้างกายไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ”
“พระเจ้า หมัดเมื่อกี้ถ้าตกไปอยู่ที่ร่างคน ยังจะมีชีวิตอยู่มั้ยนะ?”
“เห้อๆ ไอ้หนูนี่ไม่รอดแน่”
……
เจิ้งซานออกหมัดที่น่ากลัวแค่หมัดเดียว ทันใดนั้นก็ทำให้แขกที่อยู่ในห้องโถง แต่ละคนกลัวว่าตัวเองจะโดนลูกหลง
ไม่นาน ก็เว้นที่ว่างให้พวกหลี่ฝางทั้งสองคน
“รีบรนหาที่ตายจังนะ?”
หลี่ฝางมองไปที่โต๊ะไม่ที่โดนชกจนพัง และขมวดคิ้วทันที
แรงแบบนี้ ถ้าหากชกโดนคนธรรมดาเข้าจริงๆ ก็ไม่ต้องเดินกันแล้ว รอฝังอย่างเดียวเลย
วินาทีนั้น ในใจของหลี่ฝางก็มีความอาฆาตเกิดขึ้น
“เจิ้งซาน เร็ว รีบจัดการมัน!”
เจิ้งเหวินซิงตะโกนพูดอย่างด้านหลังอีกครั้ง
ส่วนเจิ้งซานที่เพิ่งรู้สึกถึงแรงอาฆาตของหลี่ฝาง ในใจก็สะดุ้งทันที สามารถปลดปล่อยแรงอาฆาตมาได้แบบนี้ จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่
แต่คำสั่งของเจิ้งเหวินซิงจะไม่ฟังก็ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่โจมตีอีกครั้งเท่านั้น
ขณะเดียวกันก็กดทับความหวั่นใจในใจ หวังว่าหลี่ฝางจะไม่ใช่ยอดฝีมือที่ซ่อนความสามารถอะไรแบบนั้น
แต่ว่าไม่นาน ท่าทีที่หลี่ฝางแค่หลบไม่สวนกลับ ก็ค่อยๆ ทำให้เจิ้งซานผ่อนคลายลง
ส่วนพวกคนที่รู้ฐานะของหลี่ฝาง ก็แอบลังเลในใจเช่นกัน
ถึงยังไงพวกเขาก็รู้ถึงความสามารถของหลี่ฝาง ถึงแม้การต่อสู้นี้ในสายตาคนอื่นจะสู้กันอย่างเมามัน น่าตื่นเต้นมากๆ แต่ที่พวกเขาเห็น การต่อสู้ครั้งนี้น่าจะจบในครู่เดียวถึงจะถูก
ถึงยังไง หลี่ฝางก็มีความสามารถที่จะฆ่าเจิ้งซานได้ในวินาทีเดียว
“แปลกแหะ พี่หลี่ทำอะไรอยู่นะ?”
หลายคนที่รู้จักหลี่ฝาง ก็เริ่มแอบพูดคุยกันขึ้นมา เจิ้งจิ้นเผิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พวกเขา สีหน้าก็กลายเป็นแปลกไปขึ้นมา
วิสัยทัศน์ของเขาสูงกว่าเกาจื่อหมิงมาก แน่นอนว่าต้องมองออก ว่าหลี่ฝางจงใจไม่สวนกลับ แต่แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำแบบนั้น
ส่วนเจิ้งเหวินซิงเห็นว่านานแล้วเจิ้งซานก็จัดการหลี่ฝางไม่ได้สักที ในใจก็เริ่มทนไม่ไหว จึงอดไม่ได้ที่จะพูดเร่ง: “เจิ้งซาน อย่าลีลา รีบจัดการมันซะ!”
ในตอนนี้ในใจของเจิ้งซานก็อึดอัดสุดๆ
เขารู้ ถ้าหากดูท่าทีของทั้งสองฝ่ายในตอนนี้ ตนจะต่อยคนตรงนี้กระเด็นถึงจะปกติ
แต่อีกฝ่ายก็หลบได้ดีมาก ไม่ว่าเขาจะออกมัดจากมุมไหน อีกฝ่ายก็รับมือได้หมด ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือว่าปฏิกิริยาตอบสนอง มันไม่ใช่อย่างที่คนธรรมดาจะมีได้
สู้กันครึ่งค่อนวัน เขาแม้กระทั่งแตะอีกฝ่ายยังแตะไม่ได้เลย
“ไอ้เวร!นายอย่ากระโดดไปๆ มาๆ เหมือนหมัดได้มั้ย?” เจิ้งซานอดไม่ได้ที่จะตะคอกใส่ “ถ้าไม่งั้นนายก็ไสหัวออกไปเอง อย่ามาอยู่ที่นี่ทำให้ฉันเสียเวลา!”