NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1035 สูญเสียความทรงจำ?
“จมน้ำ?” หลี่ฝางยันตัวลุกขึ้นมาช้า ๆ เขาส่ายหัวด้วยความทรมานเล็กน้อย
ในสมองของเขานั้นสับสนไปหมด เหมือนมีภาพเหตุการณ์บางอย่างแวบผ่านไป แต่กลับมองไม่ชัดเจน
หยางฉงจ้องมองหลี่ฝาง เธอดูออกว่าหลี่ฝางเหมือนค่อนข้างจะทรมาน จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง: “คุณเป็นอะไร? ทรมานมากเหรอ?”
หลี่ฝางใช้มือทั้งสองข้างกุมขมับ: “ผม……เหมือนผมจะจำอะไรไม่ได้เลย”
“ไม่เป็นไร คุณอาจจะจมน้ำแล้วหัวกระแทกก็ได้ คุณอย่าพึ่งรีบ ค่อย ๆ คิด”
หลี่ฝางลองผ่อนคลายลง จากนั้นอาการปวดหัวก็ค่อย ๆ ลดลงเหมือนกัน เขายิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว: “ขอบคุณพวกคุณมาก ผมดีขึ้นมากแล้ว อ้อใช่แล้ว ที่นี่คือที่ไหนเหรอ?”
“ที่นี่คือเมืองจินซาน นายจำเรื่องพวกนี้ได้ใช่ไหม?”
“ผมยังพอจำได้……เรื่องราวพื้นฐานเหล่านี้ผมจำได้ ไม่ได้กลายเป็นคนปัญญาอ่อนไป” หลี่ฝางกล่าวล้อเล่น
“แต่ว่า……” หลี่ฝางกล่าวด้วยความสงสัย: “แต่ว่าความทรงจำเกี่ยวกับตัวผมเองเหมือนว่าผมจะจำไม่ได้เลย”
หยางฉงกล่าวปลอบใจเขา: “ไม่เป็นไร สองสามวันนี้คุณอยู่กับพวกเราก่อน ค่อย ๆ คิด พวกเราจะช่วยคุณเอง”
หลี่ฝางตอบอย่างเบลอ ๆ : “ขอบคุณมาก สองสามวันนี้รบกวนพวกคุณแล้วนะ” ระหว่างนั้นเอง ดวงตาของเขาก็พลันเปล่งประกายขึ้นมา เหมือนกับมีอะไรที่สำคัญบางอย่างผ่านแวบไปต่อหน้าเขา
“ผม……เหมือนว่าผมจะแซ่หลี่……” หลี่ฝางกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“แซ่หลี่?” หยางฉงกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ตอนนี้คุณจำได้แล้วว่าตัวเองแซ่อะไร อธิบายได้ว่าการสูญเสียความทรงจำของคุณเป็นเพียงแค่อาการชั่วคราว ตอนนี้คุณเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก ฉันว่าคุณควรพักผ่อนก่อนดีกว่า พักผ่อนดีแล้ว ความทรงจำก็จะค่อย ๆ กลับมาเอง”
“พี่สาวของฉันร้ายกาจมากเลยล่ะ ในเมื่อคุณฟื้นมาแล้ว สำหรับเรื่องตัวตนของคุณ เธอช่วยสืบให้คุณได้นะ”
หวางซีเหยาที่อยู่ด้านข้างสองแขนกอดอกพลางกล่าวโอ้อวด:
“งั้นต้องขอบคุณพวกคุณมากจริง ๆ” หลี่ฝางกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
“เกรงใจมากไปแล้ว คุณหลี่ พวกเราสามารถพบกันแบบนี้ แสดงว่าพวกเรามีวาสนาต่อกัน คุณยังไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พักผ่อนก่อนเถอะ”
หยางฉงกล่าวจบก็เดินออกไปพร้อมกับหวางซีเหยา
หลังจากที่พวกเธอจากไป หลี่ฝางก็ได้นอนคิดทบทวนอยู่บนเตียงคนไข้อีกเป็นเวลานาน แต่ทว่าก็ยังคิดอะไรไม่ออกเลย
หมอได้ช่วยตรวจร่างกายให้กับหลี่ฝางอีกครั้ง ยังคงไม่พบอะไรผิดปกติเหมือนเดิม
หลี่ฝางเองก็ไม่อยากจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล สูญเสียความทรงจำไปทำให้เขาสับสนกับตัวตนของเขาเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกรีบร้อนที่จะตามหาความทรงจำกลับมา
หนึ่งวันต่อมา หลี่ฝางไม่อยากจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาลจริง ๆ เขารีบร้อนที่จะออกจากโรงพยาบาล คุณหมอตรวจร่างกายให้เขาทั้งภายในและภายนอกอีกรอบ หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าทุกอย่างปกติดี หลี่ฝางก็ได้ออกมาจากโรงพยาบาล
อีกด้านหนึ่ง ในห้องผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลลับแห่งหนึ่ง กู่ยี่เทียนนอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียว ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างเตียงคนไข้มองดูเขาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ: “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“ตอนนั้นผมได้ใช้พลังไปจนหมด ในวินาทีสุดท้าย หลี่ฝางก็ได้ใช้พลังที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยของเขาผลักผมออกมา ตัวเขาเองกลับ……กลับถูกดูดเข้าไปในกระแสพลังงาน จากนั้น ผมก็ได้ถูกพวกมังกรฟ้าหาเจอ พวกเราตามหาในที่ที่พอจะตามหาได้จนทั่ว แต่ก็ไม่เจอหลี่ฝาง”
กู่ยี่เทียนเทียนหยุดไปสักพัก แล้วกล่าวต่อ: “แต่ว่าหลี่ฝางดวงแข็งมาก ผมเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่! สถานที่แห่งนั้นแปลกประหลาดมาก เหมือนกับจะมีฟังก์ชันถ่ายโอนอยู่ตลอดเวลา ผมถูกพบที่ภูเขาหลีซาน หลี่ฝางอาจจะถูกส่งตัวไปในที่ที่ไกลกว่าก็ได้!”
เขากล่าวไป ก็ร้อนรนที่จะลุกขึ้นมา กลับถูกผู้อาวุโสกดเอาไว้: “สองสามวันนี้นายพักผ่อนก่อน อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี นายยังคิดจะไปไหนอีก?”
“ผู้อาวุโสครับ ร่างกายผมไม่เป็นอะไร เพียงแค่ถูกพลังพิเศษบางอย่างผนึกพลังเอาไว้ มีความเป็นไปได้มากที่หลี่ฝางจะเป็นเหมือนกันกับผม! ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาหลี่ฝางให้เจอ ถ้าหากให้คนอื่นรู้สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ เขาจะเป็นอันตรายมาก!”
“เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง!” ผู้อาวุโสออกคำสั่ง
“ฉันจะส่งคนไปตามหาหลี่ฝางเอง ตอนนี้สิ่งที่นายต้องทำก็คือฟื้นฟูพลังโดยเร็ว มีเพียงแบบนี้ นายถึงจะช่วยได้! สภาพของนายในตอนนี้ ต่อให้ออกไป แล้วจะมีประโยชน์อะไร?”
กู่ยี่เทียนภายในใจหนักอึ้ง พลางกล่าวตอบรับ: “ครับ!”
……
“เฮ้! ทางนี้!” หวางซีเหยาโบกมือให้กับหลี่ฝาง: “คุณนี่ใจร้อนจริง ๆ ให้คุณพักผ่อนอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนกับจะเอาชีวิตคุณแน่ะ รีบขึ้นรถสิ ไปทานข้าวที่บ้านพี่สาวของฉัน ฉลองที่คุณรอดจากความตาย!”
เห็นเพียงหวางซีเหยายืนพิงอยู่ที่รถมินิคันสีแดง ใบหน้าถูกแว่นตากันลมปิดบังเอาไว้ เหลือเพียงจมูกเล็ก ๆ และริมฝีปากที่ประณีตงดงาม ผมยาวคลุมไหล่ เสื้อเชิ้ตตัวเล็กสีขาวเบาสบายผูกปมอยู่ที่บริเวณเอว สวมคู่กับกางเกงยีนขาสั่นที่กำลังฮิตกันในตอนนี้ ทำให้หุ่นที่ดีอยู่แล้วของเธอนั้นดูเซ็กซี่อย่างสุดขีด
หลี่ฝางมองดูเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วกล่าว: “เธออายุครบสิบแปดแล้วเหรอ?”
“โถ่เอ๊ย อีกสองเดือนฉันก็จะครบสิบแปดแล้ว! อายุสิบฉันก็ขับรถเองแล้ว ไม่เป็นไรหรอก รีบขึ้นรถเร็วเข้า!”
หลี่ฝางเงียบไปสักพัก จากนั้นก็เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งอย่างว่าง่าย
ตอนนี้เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของตัวเองด้วยซ้ำ แล้วใครจะรู้ล่ะว่ามีใบขับขี่หรือเปล่า บางทีอาจจะไม่สู้ให้ยัยเด็กคนนี้ขับด้วยซ้ำ
หวางซีเหยาเป็นเด็กสาวที่ร่าเริง เธอพูดอย่างไม่หยุดมาตลอดทาง ไป ๆ มา ๆ หลี่ฝางก็ได้มีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับหวางซีเหยา เด็กสาวคนนี้ปีนี้อายุสิบเจ็ด เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง
สาวสวยคนเมื่อวานชื่อหยางฉง เป็นพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเธอ และเป็นบุตรสาวของตระกูลหยางตระกูลนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองจินซาน ถึงแม้จะอายุเพียงยี่สิบสี่ปี แต่ก็ได้เป็นผู้จัดการดูแลที่มีประสบการณ์โชกโชนแล้ว
สิบกว่านาทีหลังจากนั้น รถก็ได้ขับมาถึงร้านอาหารที่ชั้นสูงที่อยู่ตรงข้ามอาคารจินโอว
หลี่ฝางพึ่งจะออกจากโรงพยาบาล หวางซีเหยาจึงสั่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และค่อนข้างจืดมาสองสามอย่าง ในตอนที่อาหารจานแรกมาเสิร์ฟนั่นเอง หยางฉงในชุดทำงานอย่างมืออาชีพก็ได้เดินเข้ามา ดูก็รู้ว่าพึ่งทำงานเสร็จก็ได้มาเลย
“ต้องขอโทษด้วย พึ่งจบการพักร้อนไป งานค่อนข้างจะยุ่ง ยังไม่ทันได้กลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก็มาเลย คิดไม่ถึงว่าคุณจะออกมาจากโรงพยาบาลเร็วแบบนี้”