NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1036 โล่กำบัง
“ขอบคุณพวกคุณมากที่ช่วยฉันไว้” หลี่ฝางพูดขอบคุณทั้งสองคนนั้น
“ขอบคุณอะไรกัน ถ้าไม่ไหวจริงๆ คุณก็ยอมถวายตัวให้เลยซิ!” หวางซีเหยาพูดกระเซ้าพลางหัวเราะ
“เหยาเหยา!” หยางฉงเห็นหลี่ฝางถูกหวางซีเหยาแซวจนพูดอะไรไม่ออก จึงได้พูดปรามหวางซีเหยาไป
“คุณคิดวางแผนอนาคตไว้แล้วยังล่ะ?” หยางฉงถามหลี่ฝาง
“ยังเลย ฉันคิดจะหาที่อยู่แน่นอนก่อน เรื่องอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” หลี่ฝางพูดอย่างสุขุมเยือกเย็น
“เอาอย่างนี้ไหมล่ะ” หยางฉงคิดดูแล้วก็พูดว่า“คุณก็อยู่ที่เมืองจินซานชั่วคราวก่อนก็แล้วกัน ฉันจะช่วยหางานให้คุณเอง”
“ใช่เลย! เจ๊ใหญ่ฉันจะต้องช่วยคุณได้แน่!” หวางซีเหยาพูดด้วยความดีใจ
“คุณลองคิดดูว่าถนัดงานด้านไหนบ้าง?” หยางฉงถาม
หลี่ฝางได้ยินแล้ว ก็ตบศีรษะตัวเองด้วยความกลัดกลุ้ม เสียดายที่คิดอะไรไม่ออกเลย
เมื่อเห็นท่าทางที่เจ็บปวดของหลี่ฝางแล้ว หยางฉงจึงรีบห้ามไม่ให้เขาใช้ความคิดต่อไปอีก แล้วถามว่า “คุณขับรถเป็นไหมล่ะ?”
“เป็น!” หลี่ฝางคิดดูแล้ว พยักหน้าด้วยความมั่นใจ “แต่ฉันไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรเลยนะ”
“ไม่มีปัญหา เรื่องเอกสารฉันจัดการให้ได้ คุณก็มาเป็นคนขับรถให้ฉันก็แล้วกันดีไหมล่ะ?” หยางฉงถาม
“งั้นก็พลอยเป็นมือปืนไปด้วยสิ คอยไล่พวกผู้ชายเฮงซวยที่คอยคิดไม่ซื่อกับเจ๊ใหญ่ฉันไปให้หมดเลย!” หวางซีเหยายืนสะบัดกำปั้นอยู่ข้างๆ
“ได้!” หลี่ฝางพยักหน้า ตอบตกลงโดยไม่ลังเลเลย
อีกฝ่ายยอมที่จะช่วยเหลือตัวเอง ก็เป็นบุญวาสนาอย่างใหญ่หลวงแล้ว ไม่เช่นนั้นละก็ แม้แต่อีกประเดี๋ยวจะไปไหนก็ยังไม่รู้เลย
“ขอบคุณครับ เจ้านายหยาง” หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้ม
“อย่าเรียกฉันว่าเจ้านายหยางเลย” หยางฉงคิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางยังรู้จักพูดแซวเล่นอีก อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เรียกชื่อฉันโดยตรงก็ได้นะ”
“ยังมีฉันด้วย คุณก็เรียกฉันว่าเหยาเหยาก็ได้นะ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มหรอก” หวางซีเหยายิ้มแล้วพูดเสริมขึ้น
“ได้เลย ฉันแซ่หลี่ พวกคุณเรียกฉัน เรียกฉันว่า…”
หลี่ฝางรู้สึกค่อนข้างลำบากใจ เพราะเขาจำชื่อของตัวเองไม่ได้เลย
“พวกฉันก็เรียกคุณว่าพี่หลี่ก็แล้วกันนะ” หวางซีเหยาดูออกว่าหลี่ฝางกำลังเคอะเขิน จึงรีบพูดขึ้น
“อึ่ม” หลี่ฝางพยักหน้า ถึงแม้รู้สึกเคอะเขินบ้างก็ตาม แต่ก็ต้องตอบตกลงตามนั้นไปก่อน
หลังจากคุยเรื่องเป็นการเป็นงานจบแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนก็ใกล้ชิดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พูดคุยไปพลางรับประทานอาหารไปพลาง สนุกสนานครื้นเครง ช่างมีความสุขเหลือเกิน
ขณะที่จวนจะรับประทานอาหารเสร็จแล้วนั้น เสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก
ทั้งสามคนยังไม่ทันลุกขึ้นเลย คนข้างนอกก็เปิดประตูเดินเข้ามาเลย
“เสี่ยวฉง เป็นคุณจริงด้วย เมื่อกี้เดินผ่านมาพอดีได้ยินเสียงของคุณ ก็เลยคิดจะเข้ามาดูหน่อย เป็นยังไงบ้างล่ะ ไม่ได้รบกวนคุณใช่มั้ย?”
ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มอายุราวยี่สิบเจ็ดแปดปี พอเดินเข้ามาก็พูดเองเออเองคนเดียว
ชายหนุ่มคนนี้ดูไปแล้วก็รูปหล่อพอสมควร ใส่ชุดเสื้อสูทเรียบแปล้ ทำให้เขาดูสมาร์ตเท่มีสง่าราศี
เพียงแต่ว่าคำพูดของเขาไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก ทำให้ฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นการหาเหตุผลข้ออ้างชัดๆ
“ฮาๆ คุณชายหลิวก็มากินข้าวสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอ? ยังบังเอิญมาเจอกับฉันด้วย?” หยางฉงพูดประชดไป จากนั้นก็ไม่ไปสนใจชายคนนั้นอีก แล้วพูดว่า“พวกเราไปกันเถอะ เหยาเหยา พี่หลี่”
“อย่าพึ่งรีบไปสิ เพิ่งจะกินข้าวอิ่ม ไปเที่ยวด้วยกันไหมล่ะ?” ชายหนุ่มไม่สนใจคำพูดประชดของหยางฉง ก็ยังคงพูดตื๊อเหมือนเดิม
“เพื่อนคนนั้นคือใครเหรอ?” เขาหันไปมองหลี่ฝาง
“ไม่ต้องหรอก ลาก่อน” หยางฉงพูดปฏิเสธแล้วลากหลี่ฝางออกไปข้างนอก
ชายหนุ่มก็รีบไปขวางอยู่ตรงหน้าประตู พูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆว่า “อยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่างน้อยก็ควรเห็นแก่หน้าฉันบ้างนะ ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะไม่ดีหรอก”
“คุณกำลังพูดล้อเล่นหรือเปล่า?” หยางฉงแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า“ที่นี่นอกจากคุณแล้วก็ไม่มีคนอื่นอีกแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว ชายหนุ่มสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ดูเหมือนจะทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พูดด้วยเสียงต่ำว่า “เสี่ยวฉง คุณก็กำลังจะเป็นคู่หมั้นของฉันแล้ว คำพูดบางอย่าง อย่าซี้ซั้วพูดไป”
“คู่หมั้นเหรอ? แกฝันไปเถอะ!” หยางฉงพูดด้วยความโกรธว่า “จะบอกแกให้รู้ไว้นะ หลิวเห้าปอ ฉันมีเพื่อนชายแล้ว แกก็ตายใจเสียเถอะ!”
พูดจบ หยางฉงก็ควงแขนของหลี่ฝางไว้ จ้องหน้าหลิวเห้าปอตาขวาง พร้อมกับลากหวางซีเหยา แล้วกำลังจะเดินจากไป
เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของหยางฉงที่แสดงออกเช่นนี้ สีหน้าท่าทีของหลิวเห้าปอก็เปลี่ยนเป็นมืดดำอย่างรวดเร็ว
หวางซีเหยาก็ตื่นตกใจอย่างมาก ขณะเดียวกันก็มองไปยังหยางฉงด้วยความเป็นห่วง
หลี่ฝางกลับยิ้มฝืดๆ รู้ว่าตัวเองกลายเป็นโล่กำบังไปแล้ว
ขณะที่ทั้งสามคนเดินออกจากห้องจองพิเศษนั้น หลิวเห้าปอที่อยู่ข้างหลังบันดาลโทสะขึ้นมาทันที
“หยางฉง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เขาบุกเข้าไปด้วยสีหน้าที่โกรธจัด
“ หลิวเห้าปอ คุณคิดจะทำอะไรอีก?” หยางฉงถามอย่างเรียบเฉย
“หยางฉง คุณคิดว่าคุณเป็นใคร! เกิดมาเป็นคนในตระกูลสูงศักดิ์ คุณคิดว่าการแต่งงานของคุณจะตัดสินใจเองได้เหรอ?” หลิวเห้าปอตะโกนพูดอย่างไม่ไว้หน้า
“ไอ้เวรตะไลนี่เป็นใครกันแน่! เป็นคนที่คุณไปหามาเพื่อยั่วโมโหฉันเหรอ?” เขาชี้หน้าด่าหลี่ฝาง
หลี่ฝางกำลังจะลงมือตามจิตสำนึกของตัวเอง แต่ก็รีบควบคุมอารมณ์หุนหันพลันแล่นเช่นนี้ไว้ ขณะเดียวกันในใจก็แอบสงสัยอยู่ว่า
หรือว่าตัวเองเมื่อก่อนเคยเป็นมือปืนจริงๆหรือ?
“ฉันขอพูดอีกครั้งนะ เรื่องของฉันไม่มีใครห้ามได้ทั้งนั้น!” หยางฉงก็โกรธเช่นกัน พลางตะโกนแล้วถอยไปทีละก้าว“ยังมีอีกนะ เขาจะเป็นใครไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณอย่ามายุ่ง!”
น้ำเสียงหยางฉงแฝงไปด้วยอาการที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ดูเหมือนว่าทนต่อความอัดอั้นตันใจในอดีตต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ในที่สุดก็ได้ระเบิดออกมาในเวลานี้