NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1038 ดื่มเหล้าเมาแล้ว
“ยังเลยครับ” หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้ม “กำลังทำกับข้าวอยู่ คุณเข้ามานั่งก่อนสิ”
เมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้ว ทั้งสองคนกลับไม่รู้จะพูดคุยเรื่องอะไรกันดี หลี่ฝางนึกดูแล้วก็พูดขึ้นว่า “หรือไม่คุณก็อยู่กินข้าวที่นี่เลยสิ พอดีฉันเพิ่งทำกับข้าวเสร็จ”
เดิมทีคิดว่าเป็นการหาเรื่องชวนคุยเท่านั้นเอง นึกว่าหยางฉงคงไม่ตอบตกลง แต่คิดไม่ถึงว่าหยางฉงกลับไม่ลังเลอะไรเลย แล้วพูดว่า “ดีเลย งั้นฉันก็กินที่นี่ก็แล้วกัน”
หลี่ฝางงงไปสักครู่ แล้วรีบไปหยิบจานชามมาให้หยางฉง
ทั้งสองคนนั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหาร รับประทานอาหารมื้อเย็นอย่างเงียบๆ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่พูดจาอะไรบรรยากาศก็ยิ่งเงียบสงบขึ้นทุกที
ทันใดนั้นหยางฉงก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม?”
ได้ยินหยางฉงพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ หลี่ฝางก็ฉงนเล็กน้อย แต่ก็ตั้งสติโต้ตอบคืนได้
“ได้สิ เดี๋ยวฉันจะไปซื้อให้ คุณดื่มเหล้าอะไรล่ะ?” หลี่ฝางรู้สึกว่าหยางฉงตอนนี้คงเหนื่อยมากแล้ว อาจไม่แน่ถ้าได้ดื่มเหล้าแล้วก็จะช่วยให้เธอพักผ่อนสบายมากขึ้นได้บ้าง
“ไม่ต้องไปซื้อหรอก ที่นี่มีอยู่แล้ว” หยางฉงก็ลุกขึ้นมา เดินไปที่ห้องรับแขกแล้วเปิดตู้ใบหนึ่งออกมา ภายในนั้นก็ปรากฏเหล้าสารพัดชนิดออกมาให้เห็นอย่างตระการตา
หลี่ฝางมองสังเกตดูผิวเผิน ก็พบว่ามีทั้งเหล้ามีทั้งไวน์ จึงอดไม่ได้ที่จะแอบอุทานในใจว่า สาวน้อยคนนี้ก็ยังเป็นปีศาจสุราที่แอบซ่อนตัวอยู่อีกด้วย
“มา ดื่มขวดนี้” หยางฉงก็หยิบขวดเหล้ามาขวดหนึ่งออกมา หลี่ฝางมองดูแล้ว เป็นเหล้าที่แรงถึง52ดีกรีเลยทีเดียว จึงรู้สึกเป็นห่วงหยางฉงถ้าดื่มมากไปแล้วจะเป็นผลเสียต่อร่างกายตัวเองได้
“ดื่มแค่แก้วเดียว ไม่เป็นไรหรอก” ดูเหมือนจะมองออกว่าหลี่ฝางเป็นห่วง หยางฉงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ก็ได้……” หลี่ฝางจึงได้แต่พูดตกลง
“เออใช่แล้ว ตอนนี้คุณนึกถึงเรื่องในอดีตได้บ้างหรือยัง?”
หลังจากทั้งสองคนต่างก็รินเหล้าแก้วเล็กคนละแก้วแล้ว หยางฉงก็ถามขึ้นอย่างกะทันหัน
หลี่ฝางก็ส่ายหน้า แล้วพูดอย่างจนใจว่า “ยังนึกอะไรไม่ออกเลย แต่ว่ายังไงก็ต้องขอขอบคุณที่คุณให้ฉันอยู่ด้วย”
“ขอบคุณอะไรกัน พวกเราไม่ใช่เป็นเพื่อนกันเหรอ?” หยางฉงยิ้มพลางชนแก้วกับหลี่ฝาง
ทั้งสองคนดื่มกันคนละคำสองคำ จากนั้นก็ค่อยๆเปิดประเด็นเรื่องพูดคุยขึ้นมา ยิ่งคุยก็ยิ่งมีเรื่องคุยมากขึ้น
“ใช่แล้ว พี่หลี่” อาจจะเป็นเพราะว่าสาเหตุของฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้ใบหน้าของหยางฉงก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อๆ น้ำเสียงที่พูดก็ผ่อนคลายมากขึ้น “คุณน่าจะลองเริ่มหวนรำลึกถึงความหลังตอนยังเป็นเด็กก่อน เพราะว่าความทรงจำในวัยเด็กเป็นเรื่องที่ฝังใจมากที่สุด”
หลี่ฝางก็พยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหน้า
“คิดอะไรไม่ออกเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก มาดื่มดีกว่า ตื่นมากแล้วคุณอาจจะนึกออกมาก็ได้!” หยางฉงดูเหมือนเริ่มจะเมาแล้ว หัวเราะแล้วมองไปยังเขาตลอดเวลา ดวงตาที่หยาดเยิ้มจากอาการเมาเหล้า ดูไปแล้วก็ให้ความรู้สึกที่สวยงามแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง
ตอนนี้หลี่ฝางเพิ่งจะเห็นว่า เดิมทีบอกจะดื่มเพียงแค่แก้วเดียว แต่ตอนนี้ดื่มจนเหล้าทั้งขวดนั้นจวนจะหมดแล้ว
“คุณดื่มมากไปแล้ว” หลี่ฝางกดแก้วเหล้าของหยางฉงเอาไว้แล้วพูดว่า “เอาเถอะ พอแค่นี้ก่อนนะ คุณควรจะกลับไปได้แล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก ก็เหลือเพียงแค่นี้เอง ดื่มต่อ ดื่มให้หมดไปเลย ดื่มหมดแล้วฉันถึงจะกลับไป” การพูดการจาของหยางฉงรู้สึกไม่ค่อยคล่องแล้ว แต่ก็ยังยืนยันที่จะดึงแก้วเหล้ากลับมา แล้วชนแก้วกับหลี่ฝาง จากนั้นก็ดื่มจนหมดแก้ว
หยางฉงตอนนี้แม้แต่นั่งก็ยังนั่งไม่นิ่งเลย ส่ายไปส่ายมาตลอดเวลา ดูเหมือนพร้อมที่จะหงายหลังล้มตึงลงได้ในชั่วพริบตา
หลี่ฝางรีบเข้าไปพยุงตัวเธอไว้ แล้วพาเธอไปนั่งลงบนโซฟา เพื่อให้เธอนั่งพิงโซฟาสักครู่หนึ่ง
“คุณยังรู้สึกดีอยู่หรือเปล่า?” หลี่ฝางไปริมน้ำอุ่นเอามาให้แก้วหนึ่ง ว่างอยู่บนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ตรงหน้าหยางฉง
“ไม่เป็นไร ฉัน……ฉันเพียงแต่ไม่อยากจะ……..ไปเกี่ยวดองอะไรกับไอ้เฮงซวย……เฮงซวยนั่น แต่ว่าที่บ้าน…….ทำไมจะต้องบีบบังคับฉันด้วย? เป็นเพราะว่าตระกูลหลิวมีเงิน……ยอมช่วยชดใช้สิ่งที่สูญเสียให้กับตระกูลเราเหรอ?”
หยางฉงพูดอย่างติดๆขัดๆ ดูเหมือนจะทนไม่ไหวอีกแล้ว จากนั้นลำตัวก็ล้มลงไปอยู่ในอ้อมกอดของหลี่ฝาง แล้วหลับสนิทไปเลย
หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพยุงตัวหยางฉงขึ้นมา
“ความทรงจำของฉันเองก็ยังไม่ทันฟื้นคืนมาเลย ช่วยคุณไม่ได้มากเท่าไหร่จริงๆ แต่ว่า ฉันก็รับรองกับคุณได้เลย ขอเพียงสามารถช่วยคุณได้ ฉันก็จะไม่ปฏิเสธเลยแม้แต่นิดเดียว”
ในใจแอบพูดกับตัวเองเช่นนี้ หลี่ฝางค่อยๆอุ้มหยางฉงขึ้นมา วางเธอลงไปบนเตียงในห้องนอน แล้วห่มผ้าให้เธอจากนั้นก็เดินออกไป
หลังจากเก็บกวาดห้องรับแขกแล้ว หลี่ฝางก็นอนหลับอยู่บนโซฟา
ผ่านไปแล้วหนึ่งคืน
เมื่อถึงเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ขณะที่พระอาทิตย์กำลังทอแสงขึ้นมานั้น หยางฉงก็เริ่มตื่นขึ้นมา ก็พบว่านี่เป็นอพาร์ทเม้นท์ของตัวเองที่เคยพักอยู่เป็นประจำ เพิ่งจะผ่อนคลายลงไปบ้าง แต่กลับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาทันที
เธอจึงรีบลุกขึ้นยืน เห็นว่าเสื้อผ้าก็ยังใส่อยู่เหมือนเดิม ภายในร่างกายตัวเองก็ไม่มีอะไรที่ผิดแปลกไป จึงค่อยรู้สึกโล่งอก
เดินออกจากห้องนอน หยางฉงก็ได้กลิ่นหอมโชยมาทันที เป็นเพราะว่าเมื่อคืนดื่มเหล้ามากเกินไปทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนกระเพาะเริ่มเกร็งมากขึ้น
“ตื่นแล้วเหรอครับ?” หลี่ฝางเดินออกมาจากห้องรับแขก แล้วทักทายกับหยางฉง “ฉันทำอาหารไว้แล้ว มากินด้วยกันสิ เมื่อคืนคุณดื่มเหล้ามากเกินไป กินอะไรรองท้องก่อนกระเพาะจะได้รู้สึกดีขึ้น”
ตอนนี้ในมือหลี่ฝางก็ยกโจ๊กสองชามออกมา ส่วนบนโต๊ะอาหารก็ยังมีอาหารเช้าที่เพิ่งไปซื้อมาเมื่อครู่นี้
“ขอบคุณนะ” หยางฉงพยักหน้า สีหน้าแดงเล็กน้อย
เธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองดูเหมือนพูดอะไรออกมามากมาย แต่ก็จำไม่ได้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องอะไรกันแน่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าได้พูดเรื่องที่ไม่ควรจะพูดออกมาหรือเปล่า
เกิดเผลอพูดความลับในใจออกมาละก็ งั้นเธอคงต้องขายหน้าอย่างแน่นอนเลย
หลี่ฝางมองเห็นท่าทางของหยางฉงแล้ว ก็แอบยิ้มในใจเล็กน้อย
บางที อาจจะต้องอาศัยฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้วพูดระบายความในใจออกมาบ้าง ก็สามารถทำให้คนผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยจริงๆ