NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1042 หาเรื่องเอง
ในเวลานี้เอง หยางฉงก็เดินเข้ามาจากที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก แล้วเอ่ยปากพูดว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
เจางยู่มองดูหยางฉง พูดด้วยรอยยิ้มที่เหมือนไม่ยิ้มว่า “คุณหนูหยาง ฮ่าๆ ฉันกับคู่หมั้นของคุณหลิวเห้าปอเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่ว่ามีคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรมั่วเข้ามาในงานเลี้ยง ฉันเลยให้ยามรักษาความปลอดภัยไล่เขาออกไปก็เท่านั้นเอง”
ฐานะของจางยู่คนนี้ น่าจะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เป็นถึงทายาทคนเดียวของบริษัทเฉินเย่
เมื่อพูดถึงด้านสินทรัพย์เงินลงทุนนั้น บริษัทเฉินเย่ถึงแม้จะสู้ตระกูลหยางไม่ได้ก็ตาม แต่ว่าจางยู่คนนี้เป็นลูกโทนของผู้อำนวยการใหญ่บริษัทเฉินเย่ ก็ย่อมเหนือกว่าเธออย่างมากทีเดียว
ไม่คิดอยากจะผิดใจกับอีกฝ่ายหนึ่ง หยางฉงได้แต่เก็บความโกรธไว้แล้วพูดว่า “คุณชายจาง เขาเป็นเพื่อนชายของฉันเอง มาเป็นเพื่อนฉันในงานเลี่ยงครั้งนี้ เพียงแต่ไม่ชอบใส่ชุดสูท จึงใส่ชุดลำลองธรรมดามาในงานเท่านั้นเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางฉงแล้ว หลิวเห้าปอโกรธจนแทบจะบ้าคลั่ง
“หยางฉง ในสายตาของคุณยังมีคู่หมั้นอย่างฉันอยู่อีกหรือเปล่า?” หลิวเห้าปอโกรธจนเสียสติจนตะคอกเสียงดังใส่
หยางฉงพูดตอบโต้กลับไปอย่างไม่เกรงใจเลยว่า “หลิวเห้าปอ คุณหยุดทำลายชื่อเสียงของฉันจนป่นปี้เสียที! รู้จักอายเสียบ้าง พวกเราสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย!”
จางยู่ที่อยู่ด้านข้างก็จงใจพูดขึ้นว่า “แปลกจังเลย เมื่อกี้คนนี้บอกว่าตัวเองเป็นคนขับรถ ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมกลายเป็นเพื่อนชายของคุณหนูหยางไปได้ล่ะ?”
หลี่ฝางลุกขึ้นยืน ถามด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “เพื่อนชายของหยางฉงจะเป็นคนขับรถไม่ได้เหรอไง?”
“แกหุบปากไปเลย” หลิวเห้าปอโกรธจนแทบระเบิด ชี้หน้าหลี่ฝางอย่างดุดันแล้วพูดว่า “อยู่ที่นี่แกไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรทั้งนั้น!”
เพี๊ยะ!
ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของเขา หลี่ฝางก็ตบหน้าไปหนึ่งฉาก
หลิวเห้าปอถูกตบจนมึนงงไปหมด มองหน้าหลี่ฝางอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“แกกล้าตบฉันเหรอ?”
“ตบแกแล้วยังไงล่ะ?” หลี่ฝางทำตาหรี่ เดิมทีที่คิดว่าอยากจะให้ผ่านพ้นคืนนี้ไปอย่างสงบเงียบ แต่คิดไม่ถึงว่าไอ้หมอนี่ตามมายั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่า ถูกบีบคั้นจนทนไม่ไหวจึงต้องลงมือกับเขา
ผู้คนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นก็คิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางถึงกับลงมือทำร้ายคนเช่นนี้ นี่มันดุดันเกินไปแล้ว!
จางยู่ที่เมื่อครู่ยังแสดงท่าทีโอหังอวดบารมีอยู่ก็ค่อยๆถอยหลังไปหลายก้าว เขาก็ไม่อยากที่จะถูกตบเป็นรายต่อไป
ถูกคนตบหน้าต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดี
ตอนนี้ ก็มีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่สนใจความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตรงนี้แล้ว ต่างเข้าไปมุงดูความครึกครื้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หลิวเห้าปอใช้มือปิดหน้ายืนงงอยู่หลายวินาที ในที่สุดดูเหมือนจะได้สติคืนมาแล้ว จึงแหกปากตะโกนเสียงดังไปว่า “แกกล้าตบฉันเหรอ? ฉันจะให้แกเจอดีเสียบ้าง! พี่หยาง!”
ผู้ชายร่างสูงใหญ่บึกบึนแข็งแรงสูงราวประมาณสองเมตร รีบวิ่งมาจากที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
“คุณชายครับ มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ!”
“ฉันถูกคนทำร้าย!” หลิวเห้าปอยื่นมือไปชี้หน้าหลี่ฝาง แล้วพูดด้วยเสียงเข้มว่า “จัดการเก็บไอ้หมอนี่ให้ฉันที!”
มือปืนของเขาหยางเฉินจ้างมาในราคาที่สูงลิ่ว มีความสามารถเก่งกาจมาก แค่จัดการหลี่ฝาง ตัวเล็กๆแค่นี้มันก็คงง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
“ไอ้เด็กเวร แกกล้าทำร้ายคุณชายพวกเราเหรอ?” หยางเฉินมองหน้าหลี่ฝางแล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “ตอนนี้แกเองก็รีบคุกเข่าลงแล้วขอโทษคุณชายพวกฉันเดี๋ยวนี้เลย ฉันอาจจะคิดทบทวนใหม่ว่าจะลงมือให้เบาลงหน่อย ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ชั่วชีวิตแกต่อแต่นี้ไปก็คง ต้องใช้ชีวิตอยู่บนเตียงตลอดไปแล้วล่ะ!”
หลี่ฝางมองดูหยางเฉินที่อยู่ตรงหน้า ในใจไม่มีความกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะว่าในใจเขามีเซนส์อย่างหนึ่งบอกว่า พละกำลังเช่นนี้ของหยางเฉิน สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องที่จิ๊บจ้อยมาก
ดังนั้นเขาจึงขี้เกียจที่จะพูดมากความ กำหมัดชกออกไปทันที
“รนหาที่ตาย!” หยางเฉินยิ้มอย่างดุร้ายแล้วยื่นมือจะไปจับกำปั้นของหลินฝันที่ชกเข้ามา
เขาคิดที่จะหักแขนของหลี่ฝางก่อน จากนั้นก็ค่อยเหยียบขาทั้งสองข้างให้หักไปเลย จะทำให้ไอ้เด็กเวรนี่คลานลงบนพื้นแล้วนอนร้องโอดโอยด้วยความสำนึกผิด!
แต่แล้วขณะที่มือของเขาสัมผัสกับหลี่ฝางในเสี้ยววินาทีนั้น พลังแรงมหาศาลที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา หยางเฉินไม่มีแม้กระทั่งโอกาสในการตอบโต้เลย ก็ถูกหมัดนี้ชกกระเด็นจนเหาะข้ามไป!
“โป้ง!”
หยางเฉินก็กระเด็นถอยหลังไปชนกับกำแพงของห้องโถง ทุกคนต่างรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างแรง ผนังกำแพงถูกชนจนร้าว หยางเฉินก็ตกลงมาบนพื้นแล้วไม่หายใจอีกเลย
“โอ๊ย! ฆ่าคนตายแล้ว!”
ภายในงานเลี้ยงนั้นก็เกิดเสียงกรีดร้องดังก้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว ทุกคนล้วนแต่หนีให้ห่างไปจากหลี่ฝางอย่างอัตโนมัติ
ทุกคนต่างก็ไม่เคยคิดเลยว่า หลี่ฝางไอ้เด็กยากจนคนนี้ถึงกับมีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้
นี่มันเหมือนจงใจแกล้งหลอกให้ตายใจชัดๆ!
แต่หลี่ฝางกลับไม่ได้จงใจแกล้งหลอกให้ตายใจ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหมัดนี้ของตัวเองจะมีพลังมากมายขนาดนี้ ดูเหมือนออกแรงมากเกินไปหน่อยแค่นั้นเอง
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ในใจหลี่ฝางกลับนึกสนุกขึ้นมา หันไปจ้องมองหลิวเห้าปอตาเขม็ง รังสีอํามหิตแผ่ซ่านออกมาพุ่งตรงไปปกคลุมหลิวเห้าปอไว้ทันที
หลิวเห้าปอตอนนี้กลับถูกหมัดนี้ของหลี่ฝางตกใจกลัวจนเสียสติไปหมด แล้วถูกหลี่ฝางทำตาเขม็งใส่อีก ยิ่งตกใจจนเข่าอ่อนนั่งลงไปกองกับพื้น ร่างกายส่วนล่างก็ส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมา
เขาตกใจกลัวจนปัสสาวะราดไปแล้ว
“ใครมาก่อเรื่อง! คุณชายหลิว? เรื่องอะไรกันแน่? ใครกล้าทำร้ายคุณชายหลิว!”
คนที่รับผิดชอบจัดงานเลี้ยงก็รีบเบียดออกมาจากฝูงชน เมื่อเห็นสถานการณ์นี้แล้วก็ตะโกนขึ้นมาทันที
“ลูกพ่อ ใครทำร้ายลูกล่ะ?” พ่อหลิวก็แหวกฝูงชนออกมา เมื่อเห็นสภาพลูกชายตัวเองเป็นเช่นนี้ เขาโกรธจนแทบจะบ้าคลั่ง
“แกเป็นแค่คนขับรถคนหนึ่ง ก็กล้ามาทำร้ายคนเหรอ?” พ่อหลิวถึงกับรู้จักหลี่ฝาง พูดตะคอกใส่ด้วยความโกรธจนเสียสติ “เป็นเพราะหยางฉงสั่งให้แกทำอย่างนี้ใช่ไหม?”
“ฉันก็แค่เห็นลูกชายแกขัดหูขัดตา เลยคิดอยากจะตื้บสักที!” หลี่ฝางพูดอย่างเรียบๆ “อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ลาออกแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหยางฉงเลย”
“แต่จงใจอวดเบ่งโอหังใส่ฉันใช่ไหม?” พ่อหลิวโกรธจนแทบบ้าคลั่ง “คอยดูนะฉันจะหาคนมากระทืบแกให้ตายไปเลย!”