NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1043 สถานภาพของหลี่ฝาง
“ใครอนุญาตให้คุณลาออก!” หยางฉงเอ่ยปากพูดด้วยเสียงดุดัน “ฉันเป็นคนสั่งให้เขาทำร้ายหลิวเห้าปอเอง มีอะไรก็มาลงที่ฉันนี่!”
“ลูกสาวของบ้านตระกูลหยาง เก่งกาจมาก! เก่งกาจจริงๆ!” พ่อหลิวโกรธจนไม่ไหวแล้ว ตะโกนเรียกออกไปว่า “ยอมรักษาความปลอดภัยล่ะ! ไปตายที่ไหนกันหมดแล้ว? ยังไม่รีบไสหัวออกมาจับไอ้อันธพาลที่ทำร้ายคนนี้ไปเดี๋ยวนี้!”
พ่อหยางก็เดินออกมาจากฝูงชน แล้วพูดว่า “เจ้าหลิว คุณใจเย็นๆก่อนนะ ในนี่อาจจะมีอะไรที่เข้าใจผิดก็ได้ ฉันขอไปสืบดูให้แน่ชัดก่อน แล้วจะให้เสี่ยวฉงไปขอโทษเห้าปอทีหลัง คุณว่าดีไหมล่ะ?”
“ได้ ฉันก็เห็นแก่หน้าคุณหรอกนะ” พ่อหลิวก็สงบนิ่งไปสักครู่ แล้วพูดอย่างดุดันว่า “รีบจัดการให้เห้าปอแต่งงานกับเสี่ยวฉงให้เร็วที่สุด! ยังมีไอ้เด็กเวรที่ทำร้ายคนคนนั้น ฉันจะ จัดการกับเขาให้สาสมเลยทีเดียว!”
“ไม่มีปัญหา” พ่อหยางก็มองดูหลี่ฝาง ตอบตกลงอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว
ถึงแม้หลี่ฝางจะร้ายกาจมากก็จริง แต่ว่าพ่อหยางก็ยังเคยเห็นที่ร้ายกาจมากกว่านี้มาแล้ว แน่นอนที่จะต้องจำหน่ายหลี่ฝางออกไป
“มีสิทธิ์อะไร! ฉันไม่ตกลง!” หยางฉงตะคอกด้วยความโมโห “พ่ออย่าคิดจะมากำหนดชีวิตการแต่งงานของฉันเลย!”
“ที่นี่แกไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรทั้งนั้น! ไสหัวกลับบ้านไปเลย!” พ่อหยางพูดกับหยางฉง ด้วยความโมโห “แล้วต่อจากนี้แกก็อยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปไหนทั้งนั้น รอหลังจากงานหมั่นเสร็จแล้วค่อยไปบริษัท!”
“พ่ออย่าหวังเลย!”
ในขณะนี้เอง ก็ดึงดูดความสนใจกลุ่มคนพวกนักธุรกิจชาวต่างชาติเข้ามาด้วย
นักธุรกิจชาวต่างชาติพวกนั้นก็เดินเข้ามาแล้ว คนที่ชื่อโฮ่เอ่อคนนั้น พอมาถึงก็สบตากับหลี่ฝางพอดี ทำให้เขาตกใจจนเขาอ่อนทันที
หลี่ฝางก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าชาวต่างชาติคนนี้รู้สึกกลัวเขามาก หรือว่าเขาเคยรู้จักตัวเองมาก่อน?
“มานี่สิ!” หลี่ฝางชี้ไปยัง โฮ่เอ่อแล้วตะโกนเรียก
เมื่อเห็นหลี่ฝางที่เงียบเฉยมาตลอดกลับอาละวาดขึ้นมาอย่างกะทันหัน สายตาทุกคนก็จ้องมองไปตามทิศทางที่หลี่ฝางชี้ไป ก็เห็นว่าโฮ่เอ่อเดินออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“คุณหลี่ครับ สวัสดีครับ”
“คุณจำฉันได้เหรอ?” มองดูสีหน้าของโฮ่เอ่อที่หวังประจบเอาใจ หลี่ฝางก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้น
“อยู่ อยู่บ้านตระกูลชิวได้รับเกียรติไปชื่นชมท่าทางอันองอาจสง่างามของท่านหลี่ ฮ่าๆ……” โฮ่เอ่อหัวเราะแห้งๆ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก
คนอื่นไม่รู้ แต่เขารู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้ามันช่างน่ากลัวขนาดไหน!
นั่นเป็นคนที่พอพูดไม่ถูกใจก็จะทำร้ายชีวิตคนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เลยล่ะ!
ตอนนั้นกลุ่มนักธุรกิจของพวกเขาก็ได้ร่วมมือกับตระกูลชิวด้วย ตระกูลชิวจัดงานศึกชิงจ้าวยุทธภพขึ้น ก็ได้เชิญพวกเขาไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย
เดิมทีก็แค่อยากจะโชว์ฝีมือของตัวเองเท่านั้น จะได้แสดงฐานะที่มั่นคงของตัวเองมากขึ้นในการร่วมมือทำธุรกิจด้วยกัน คิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางกลับโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ตระกูลชิวต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
ความน่าสะพรึงกลัวของหลี่ฝางในวันนั้น มันฝังลึกอยู่ในใจไม่รู้ลืมของโฮ่เอ่อเลยทีเดียว
เมื่อเห็นโฮ่เอ่อแสดงความนอบน้อมต่อหลี่ฝางเช่นนี้ ผู้คนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นก็ตกใจจนอ้าปากค้าง
การจัดงานเลี้ยงครั้งนี้เดิมทีต้องการจัดขึ้นก็เพื่อจะได้เจรจาธุรกิจร่วมกับนักธุรกิจชาวต่างชาติกลุ่มนี้ โฮ่เอ่อก็เป็นผู้นำกลุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติกลุ่มนี้ด้วย เป็นคนที่ใครๆก็อยากจะเข้าไปเสนอหน้าเอาใจทั้งนั้น
แต่ตอนนี้โฮ่เอ่อกลับแสดงท่าทีที่นอบน้อมต่อหลี่ฝางเช่นนี้…….”
แล้วสถานภาพของหลี่ฝางจะเป็นอะไรได้ล่ะ? ผู้คนที่อยู่รอบๆก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิด
หยางฉงยืนมองดูเรื่องทั้งหมดด้วยความมึนงง ดูเหมือนว่าตอนนี้ยังไม่ได้สติกลับคืนมาจากฉากที่ได้เห็นเมื่อครู่นี้
หลิวเห้าปอที่อยู่ข้างๆก็ยิ่งหน้ามืดตาลาย อยากจะรีบสลบให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา
พ่อหลิวและพ่อหยางทั้งสองคนก็ยิ่งไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย มองดูหลี่ฝางด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ ราวกับว่าตอนนี้ตัวเองยังอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ
ในที่สุด พ่อหยางก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณโฮ่เอ่อคุณรู้จักกับ……..คุณหลี่ท่านนี้เหรอ?”
“พวกคุณถึงกับไม่รู้จักคุณหลี่เลยเหรอ?” โฮ่เอ่อกลับแสดงท่าทีที่เซอร์ไพรส์อย่างมาก ดูเหมือนว่าถ้าไม่รู้จักหลี่ฝางจะเป็นปัญหาที่รุนแรงเลยทีเดียว
“คุณหลี่เป็นถึงสุดยอดปรมาจารย์กำลังภายในของประเทศจีนพวกคุณเลยนะ!”
เพื่อพูดเอาใจหลี่ฝาง เขาจงใจที่พูดเน้นคำว่า “สุดยอดปรมาจารย์กำลังภายใน” ตำแหน่งนี้ออกมา
ในเวลานี้เอง ในที่สุดฝูงชนที่มุงดูก็มีคนตะโกนออกมาว่า “เขาคือหลี่ฝาง ปรมาจารย์ กำลังภายในที่มีอายุน้อยที่สุดหลี่ฝาง!”
ปรมาจารย์กำลังภายใน!
คำคำนี้ ทำให้ทุกคนที่นั่นต่างสงบเงียบลงอีกครั้งหนึ่ง
ปรมาจารย์กำลังภายในหมายความว่าอย่างไร ส่วนใหญ่คนธรรมดาทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก แต่ว่าในสังคมคนชั้นสูงพวกนี้แล้ว อย่างน้อยก็พอรู้มาบ้างไม่มากก็น้อย
ส่วนพ่อหยางก็รู้สถานภาพของหลี่ฝางแล้ว มองดูลูกสาวตัวเองและหลี่ฝางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปทันที
จากก่อนหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามโกรธเคือง กลายเป็นชื่นชมยินดีและ เอาอกเอาใจ
เขารู้สึกว่าในที่สุดลูกสาวตัวเองก็ทำถูกต้องแล้วครั้งนี้ ขอเพียงสามารถที่จะดึงหลี่ฝางเข้ามาอยู่ในสนามรบร่วมกับตระกูลหยางได้แล้วละก็ งั้นอำนาจบารมีของตระกูลหยางก็จะพลอยฟ้าพลอยฝนยิ่งใหญ่มากขึ้นไปด้วย!
แค่ตระกูลหลิวเล็กๆตระกูลเดียวจะมาเทียบอะไรได้?
หยางฉงตอนนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยกับสายตาที่ชื่นชมของพ่อเธอ เพราะว่าเธอตอนนี้ยังไม่ได้สติกลับคืนมาเลย
ก็เหมือนกับว่าขณะที่คุณเดินไปตามถนนแล้วเห็นขอทานคนหนึ่งกำลังใจหิวตาย จึงเกิดความสงสารเลี้ยงขอทานคนนั้นกินข้าวมื้อหนึ่ง ต่อมาก็มีคนบอกคุณว่า ขอทานคนนั้น เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศยังไงอย่างนั้นเลย
ความรู้สึกของหยางฉงตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้
หลี่ฝางตอนนี้ในใจกลับคิดว่า : ดูหน้าตาท่าทางของคนพวกนี้แล้ว ฐานะของฉันน่าจะสูงส่งมาก งั้นเรื่องนี้น่าจะแก้ไขได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะ!
ท่ามกลางความเงียบสงบนั้น ในห้องโถงใหญ่ข้างนอกก็มีตำรวจกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คนที่เดินนำหน้าตะโกนถามว่า “ใครโทรศัพท์ไปแจ้งความ?”
“ผมเอง……” นักธุรกิจที่เป็นเจ้าภาพจัดการเลี้ยงครั้งนี้ก็เดินออกมา พูดด้วยสีหน้ารอยยิ้มเจื่อนๆ
อย่างน้อยเขาก็เป็นคนโทรศัพท์ไป ต่อให้ไม่อยากจะออกหน้า แต่เขาก็ต้องฝืนทนเดินออกมาเพื่ออธิบายสถานการณ์ให้ชัดเจน
เมื่อหัวหน้าคณะตำรวจได้ฟังการบอกเล่าของนักธุรกิจแล้ว มองไปยังบรรยากาศในห้องโถงก็รู้สึกแปลกประหลาดบ้างเล็กน้อย
คนที่นี่ดูแล้วไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นคนที่ถูกทำร้ายหรือเป็นคนที่ทำร้ายคนอื่นดูจากสถานภาพแล้วล้วนไม่ใช่ย่อยเลย หัวหน้าคณะก็ได้แต่จัดการอย่างระมัดระวัง เตรียมที่จะให้คนที่เกี่ยวข้องกลับไปให้ปากคำ