NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1056 คุณหลี่ คุณก็อยู่ด้วยเหรอเนี่ย
ส่วนคนอื่น ๆ ที่มุงดูเหตุการณ์อยู่รอบ ๆ ต่างมองดูอยู่อย่างเงียบ ๆ ด้วยแววตาเย็นชา และยั่วยวน ไม่มีใครที่กล้าก้าวยืนออกมาเลยสักคน
ภายในใจของจางเสว่และโจวหมิงค่อย ๆ สิ้นหวังลง
ถ้าหากโจวหมิงเพียงแค่ต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองและได้รับความทุกข์ทรมานทางเนื้อหนัง งั้นจางเสว่จะต้องเผชิญหน้ากับฝันร้ายเช่นไร เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิด
ในขณะที่ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงแบบนั้น น้ำเสียงที่ราบเรียบก็ได้ดังขึ้นที่ข้างหูของทุกคน
“ไอ้หมูตอน ฉันให้โอกาสแกสักครั้ง ขอโทษเพื่อนฉันอย่างเคารพนอบน้อมซะ จากนั้นก้ไสหัวไปจากที่นี่ ฉันก็จะปล่อยแกไป เป็นยังไง?”
หลี่ฝางจ้องมองพี่หุยอย่างสงบพลางกล่าว
“แกว่ายังไงนะ?” พี่หุยนึกว่าตัวเองฟังผิดไป จึงถามขึ้นมาด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อ: “แกพูดอีกครั้งสิ เมื่อกี้แกเรียกฉันว่ายังไงนะ?”
“หูไม่ดีหรือไง?” หลี่ฝางขมวดคิ้วเล็กน้อย และกล่าวซ้ำอีกครั้ง: “ฉันบอกว่า ไอ้หมูตอน! ตอนนี้แกฟังชัดเจนหรือยัง?”
ทั้นใดนั้น ทั่วทั้งพื้นที่ก็ฮือฮาขึ้นมา
ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ฝางอย่างงงงวย คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าเรียกพี่หุยแบบนี้
ส่วนบนใบหน้าของพี่หุย ได้แสดงความโกรธที่เหมือนจะฆ่าคนได้ออกมาแล้ว
“เยี่ยม เยี่ยม หึ ๆ ดูเหมือนว่ามึงจะใช้ชีวิตมาพอแล้ว……”
“หัวหน้าหลี่!”
ความหวังเล็กน้อยได้ปรากฏขึ้นมาในหัวใจของโจวหมิง หัวหน้าของพวกเราร้ายกาจแบบนั้น หรือว่า จะทำตัวเป็นหมูกินเสือแกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อล้มฝ่ายตรงข้าม?
“แม่งเอ๊ย มึงพูดเหี้ยอะไร!” ลูกน้องคนหนึ่งของลูกพี่หุยพลันรู้สึกตัวขึ้นมา คว้าเอาขวดเบียร์ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาและฟาดลงไปบนหัวของโจวหมิง
แต่ทว่าวินาทีต่อมา ขวดเบียร์อีกขวดก็ได้ถูกฟาดลงไปบนหัวของลูกน้องคนนั้นด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด จนแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ
ร่างของลูกน้องคนนั้นโอนเอนไปมา “ฟุบ” และล้มฟุบลงไปกองอยู่บนพื้น ถูกฟาดจนสลบไป
“มึงแม่ง……”
ลูกพี่หุยกำลังจะตะโกนด่า วินาทีต่อมาด้านหน้าของเขาก็ได้มืดมัวไป จู่ ๆ เงาร่างของหลี่ฝางก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขา
ราวกับวิญญาณร้าย ทำให้พี่หุยที่อกสั่นขวัญแขวน ต่อยหมัดออกไปทางหลี่ฝางตามสัญชาตญาณ
แต่ทว่าเขาพึ่งจะยกกำปั้นขึ้นมา ก็เห็นว่าหมัดของหลี่ฝางได้ขยายใหญ่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ในรูม่านตาของเขา
“ตึง!”
ร่างของพี่หุยล้มหงายหลังไปทันที เลือดกำเดาไหลพุ่งออกมา เขาให้มือกุมจมูกและร้องครวญครางอยู่บนพื้น
“ลูกพี่!” ลูกน้องที่เหลืออีกสองคนลุกลี้ลุกลนเข้าไปพยุงพี่หุย แต่กลับพบว่าจมูกของเขาได้เปลี่ยนรูปร่าง ดั้งจมูกของเขาได้ถูกหลี่ฝางต่อยหักไปซะแล้ว
“รีบโทรโทรศัพท์……เรียกพี่ฉันมา……ฉันจะฆ่ามัน……”
พี่หุยพูดจาติด ๆ ขัด ๆ จากช่องว่างระหว่างนิ้วมือที่เขาใช้กุมจมูกเห็นได้ว่าฟันหน้าของเขานั้นได้ถูกต่อยหักไปหลายซี่
ลูกน้องทั้งสองคนลนลานขึ้นมาทันที ยังไม่รอให้พวกเขาเอ่ยปาก จู่ ๆ ก็มีขวดเบียร์ลอยเข้ามาอีกสองขวดและถูกฟาดจนแตกกระจายบนหัวของพวกเขา
ลูกน้องทั้งสองคนล้มลงไปพร้อมกัน
“อืม แบบนี้ดีแค่ไหน พี่น้องควรมีทุกข์ร่วมต้าน!” หลี่ฝางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“แก……แกจะทำอะไร!” พี่หุยใช้ข้อศอกพยุงตัวเอนลงไปด้านหลังอย่างหวาดผวา: “แกรู้ไหมว่าพี่ชายฉันเป็นใคร!”
“เฮียเว่ยอะไรนั่นนะเหรอ?” หลี่ฝางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจเลยสักนิด: “แกเป็นไอ้หมูตอน พี่ชายแกคงไม่ใช่ไอ้หมูตอนเหมือนกันหรอกนะ? เมื่อกี้แกจะเรียกเขาไม่ใช่เหรอ? เรียกซะสิ!”
“แก……แกเก่ง แกรอเดี๋ยวเหอะ!” พี่หุยหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออกทันที
หลี่ฝางกลับหยิบขวดเบียร์ขึ้นมาด้วยท่าทางเฉยเมย พลางดื่มเบียร์พลางมองดูพี่ฮุยโทรโทรศัพท์ ท่าทางสบาย ๆ
ในเวลานี้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ได้เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา
“ไอ้หนุ่มนั่นอายุน้อยไม่รู้อีโหน่อีเหน่จริง ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร”
“เฮ้อ ชอบอวดเก่ง ก็ต้องได้รับบทเรียน”
“อีกสักประเดี๋ยวก็จะมีเรื่องสนุก ๆ ดูแล้ว ไม่แน่ไอ้หนุ่มนั่นอาจจะถูกอัดจนฉี่ราดก็ได้”
……
“หัวหน้า คุณรีบหนีไปก่อนดีไหม!” เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คนที่อยู่โดยรอบ โจวหมิงก็ได้ตื่นขึ้นมาจากความดีใจ และเริ่มเป็นกังวลแทนหลี่ฝางขึ้นมา
เพราะไม่ว่ายังไง นี่ก็เป็นถึงน้องชายของเฮียเว่ยเชียวนะ!
“หัวหน้า เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะผม ห้าล้านหยวน เดี๋ยวผมออกเอง!” โจวหมิงกัดฟันกล่าว
“ห้าล้านหยวน? หึ ๆ ๆ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่เงินจะแก้ไขปัญหาได้แล้ว!” เมื่อโทรโทรศัพท์เสร็จ พี่หุยก็” ได้ร้องเอะอะขึ้นมาอีกครั้ง: “พวกแกทุกคน ฉันจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว!”
จู่ ๆ หลี่ฝางก็หัวเราะขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดประโยคนี้ของพี่หุย เขาคงลืมเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไปแล้ว
“โจวหมิง พวกนายกลับไปก่อนเถอะ”
เขาไม่อยากให้คนพวกนี้เห็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอีกสักครู่หรอกนะ ไม่งั้นพรุ่งนี้คงไม่ต้องไปที่บริษัทอีกแล้ว
“ผมไม่ไป! หัวหน้า ผมจะอยู่แบกรับกับคุณ! เฮียเว่ยจะฆ่าจะแกงผมก็จะทนรับทั้งนั้น!”
ถึงแม้ภายในใจของโจวหมิงจะกลัวสุดขีด แต่เขาก็ยังคงปากแข็งอยู่เหมือนเดิม
คนอื่น ๆ ต่างก็เงียบไป มีบางคนที่ถึงแม้อยากจะกลับไป แต่ก็กลัวเพื่อนร่วมงานจะดูถูกเอา จึงได้เพียงอยู่ที่นี่อย่างเงียบ ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก พวกนายกลับไปเถอะ ฉันจะคุยกับเฮียเว่ยคนนั้นเอง” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ด้วยฝีมือของฉัน ต่อให้เกิดเรื่องอะไรก็หนีไปได้ทุกเมื่อ ถ้าพวกนายยังอยู่ฉันคงหนีไปไม่ได้”
พวกโจวหมิงนึกถึงฝีมือของหลี่ฝางขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงไปชั่วขณะ
บางที พวกเขาอยู่ที่นี่อาจจะเป็นตัวถ่วงของหลี่ฝางจริง ๆ ก็ได้
“หัวหน้า……พวกเราจะรอคุณอยู่ข้างนอก”
“โอเค”
ทุกคนมองดูท่าทางผ่อนคลายของหลี่ฝาง เหมือนกับว่าได้วางใจลงบ้างแล้ว จึงทำได้เพียงออกไปก่อน
มีหลี่ฝางอยู่ พี่หุยก็ไม่กล้าที่จะขัดขวาง จนกระทั่งทุกคนได้ออกไปกันหมดแล้ว พี่หุยถึงได้กล่าวขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม: “ไอ้หนุ่ม แกคอยดูเถอะ!”
เขาได้ตัดสินใจที่จะรอพี่ชายของเขามาแล้ว กำราบไอ้หนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยไปลากตัวตัวผู้หญิงก่อนหน้านั้นมา
เวลาค่อย ๆ ผ่านไป ผู้คนต่างได้ออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังมีพวกคนที่ไม่กลัวตาย ยังไงก็จะต้องอยู่ดูเรื่องสนุกนี้ให้ได้
ทุกคนต่างก็คิดว่าหลี่ฝางจะต้องเละเป็นโจ๊กแน่ ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนที่คิดจะบันทึกภาพตอนที่หลี่ฝางถูกอัดเอาไว้ เพื่อสนองความชอบใช้ความรุนแรงของตัวเอง
“ดูสิว่าอีกเดี๋ยวแกจะตายยังไง!” บนใบหน้าชั่วร้ายของจางเฉิงที่หลบอยู่ที่มุมห้องมีรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมปรากฏขึ้นมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกหลี่ฝางเมื่อสักครู่ ได้ถูกจางเฉิงที่บังเอิญอยู่ที่นี่เห็นเข้าอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นบนถนนสายธุรกิจเมื่อหลายวันก่อน ทำให้หลายวันมานี้จางเฉิงค่อนข้างจะอึดอัด เขาไม่เข้าใจ ว่าทำไมแค่ไอ้หมอนั้นถลึงตาจ้องมองก็ทำให้เขาเข่าอ่อนไปซะแล้ว
ขายหน้าครั้งใหญ่แบบนี้ แต่กลับไม่รู้ว่าจะแก้แค้นยังไง ก็ทำให้จางเฉิงอึดอัดมากเหมือนกัน
ก็เพราะอารมณ์ไม่ดี เขาถึงได้มาดื่มเหล้าที่นี่ จากนั้นเขาก็ได้เห็นเหตุการณ์นี้เข้า
ทันใดนั้น จางเฉิงก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมา อยากจะดูว่าจุดจบของหลี่ฝางในวันนี้จะเละขนาดไหน