NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1058 ไม่เสแสร้งแล้ว ฉันจะบอกความจริงก็ได้
ท่าทางน่าสังเวชของเว่ยหุย ทำให้ลูกน้องของเฮียเว่ยอดที่จะสงสารไม่ได้ แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดอะไร และยิ่งไม่กล้าขอร้องอ้อนวอนแทนเว่ยหุย
วันนั้นหลังจากที่เฮียเว่ยกลับมาจากงานเลี้ยงค็อกเทล ก็ได้คุยโวเรื่องที่ได้เจอหลี่ฝางกับพวกลูกน้องอยู่บ่อยครั้ง ท่าทางเคารพนับถือในระหว่างที่กล่าวนั้น ทำให้พวกลูกน้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าเฮียเว่ยมีท่าทียังไง
“เอาละ จบแค่นี้แล้วกัน ต่อไปก็อบรมสั่งสอนน้องชายของนายให้ดี อย่าให้เขาก่อเรื่องตามอำเภอใจอีก ฉันไปก่อนล่ะ” หลี่ฝางกล่าวจบ ก็หมุนตัวเดินออกไปจากผับ
ในเมื่อแก้ปัญหาเสร็จแล้ว งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป
หลังจากที่หลี่ฝางออกจากผับไป ในที่สุดเฮียเว่ยก็ผ่อนคลายลง และรีบเข้าไปพยุงเว่ยหุย เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาก็อดที่จะสงสารไม่ได้
เฮียเว่ยกล่าวแนะนำสั่งสอนขึ้นมา: “นายอย่าโทษพี่เลย ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้ เกรงว่าคืนนี้พวกเราคงต้องจบเห่ทั้งสองคนแน่ คุณหลี่คนนั้น ไม่ใช่คนที่พวกเราจะล่วงเกินได้ นายจำไว้ให้ดี ต่อไปถ้าเจอหลี่เข้า จะต้องแสดงความเคารพนอบน้อมเป็นอย่างมากออกมา เข้าใจไหม?”
เมื่อเว่ยหุยได้ยินพี่ชายของตัวเองพูดแบบนี้ ถึงแม้ยังคงไม่รู้ว่าหลี่ฝางเป็นใครมาจากไหน แต่ก็นับว่าเขาได้รู้ถึงความน่ากลัวของหลี่ฝางแล้ว จึงรีบพยักหน้าทันที
ส่วนจางเฉิงที่แอบดูเรื่องสนุกอยู่ที่มุมห้องในตอนนี้นั้นได้ตะลึงงันไปโดยสิ้นเชิง
นี่ใช่เฮียเว่ยที่ร่ำลือในสังคมสายงานเดียวกันว่าโหดเหี้ยมเลือดเย็นคนนั้น?
จางเฉิงเข้าใจขึ้นมาอย่างเลือนรางแล้วว่า หลี่ฝางเป็นการดำรงอยู่ที่เขาไม่อาจล่วงเกินได้
ในตอนนี้พวกโจวหมิงยังคงรอหลี่ฝางอยู่ที่ด้านนอกอย่างร้อนรน
“ทำยังไงดี พวกเราแจ้งตำรวจดีไหม?”
ทุกคนมองดูเฮียเว่ยพาคนบุกเข้าไปในผับอย่างฮึกเหิมตาเป็นมัน แต่ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ออกมา ภายในใจนั้นเป็นกังวลมากจริง ๆ
ทุกคนต่างก็เห็นกับตาว่าเฮียเว่ยได้พาคนเข้าไปกลุ่มใหญ่ แต่ก็ยังไม่เห็นหลี่ฝางออกมาสักที ต่างก็เป็นห่วงสุด ๆ
“หลี่ฝางคงไม่ถูกพวกเขา……” ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวเสียงสั่น
“เป็นไปไม่ได้ เฮียเว่ยเป็นคนระดับไหนกัน เขาไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นหรอก” โจวหมิงเอ่ยขึ้นมาทันที
“ผมว่านะ พวกเรารวบรวมเงินกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ดีไหม?” หลี่เหวยกล่าวอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด
“คุณคิดว่าจ่ายเงินไปตอนนี้จะมีประโยชน์ไหม? ต่อให้มีประโยชน์ จำนวนเงินที่สามารถจบเรื่องนี้ได้ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราจะมีกำลังหามาได้” จางเสว่ส่ายหัวกล่าว
หลังที่รู้ว่าเป็นเฮียลั่วเธอก็รู้ว่าพวกเธอไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ดังนั้นเธอจึงได้โทรหาหยางฉงไปนานแล้ว
จางเสว่คิดว่า ต่อให้อีกฝ่ายเป็นเฮียลั่ว ก็น่าจะเห็นแกหน้าหยางฉงอยู่บ้าง
“งั้นทำยังไงล่ะ?” โจวหมิงต่อยเข้าไปที่เสาไฟที่อยู่ด้านข้างอย่างจัง ในดวงตามีแววตำหนิตัวเองและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปผ่านไปแวบหนึ่ง
“ผมนึกออกแล้ว! พี่ส้งของพวกเราเหมือนจะรู้จักกับเฮียเว่ย พวกเราลองถามพี่ส้งดูดีไหม!” ทันใดนั้นหานจื้อเย่ก็พลันเอ่ยขึ้นมา
“ใช่!” ทุกคนดวงตาเป็นประกายขึ้นมา พวกเขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาจริง ๆ : “ผมจะถามพี่ส้งตอนนี้เลย!”
โจวหมิงแทบทนรอไม่ไหวที่จะโทรหาส้งหลง แต่ทว่าไม่นาน สีหน้าท่าทางของโจวหมิงก็แปลกประหลาดขึ้นมา
“พี่ส้งว่ายังไงบ้าง?” ทุกคนเอ่ยอย่างร้อนรน
“พี่ส้งบอกว่า……” โจวหมิงอ้าปากขึ้น และกล่าวอย่างน่าเหลือเชื่อ: “พี่ส้งบอกว่าเรื่องนี้พวกเราไม่ต้องยุ่ง พี่หลี่ไม่เป็นอะไรด้วยซ้ำ”
“หา? นี่พี่ส้งหมายความว่ายังไง” หลี่เหวยอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“ไม่ต้องยุ่งแล้ว? พี่หลี่ไม่เป็นอะไร? หรือว่าพี่ส้งได้โทรคุยกับเฮียเว่ยแล้ว?” หานจื้อเย่พลันกล่าวคาดเดาขึ้นมา
“ก็ไม่แน่ อาจจะเป็นไปได้!” ทุกคนต่างก็ทยอยกล่าวขึ้นมา
ถึงแม้ปกติแล้วส้งหลงจะไม่ค่อยพูดมาก ดูแล้วเหมือนจะเย็นชาเล็กน้อย แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่า ส้งหลงดีกับพวกเขามาก เป็นประเภทภายนอกดูเย็นชาแต่ข้างในอบอุ่น
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงรอยเท้าดังมาจากด้านหลัง
ทุกคนรีบหันกลับไปดู ก็พบว่าประตูผับได้ถูกผลักเปิดออก หลี่ฝางได้เดินออกมาอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“หรือว่าพี่ส้งได้โทรไปจริง ๆ เห็นผลเร็วขนาดนี้เชียว?” ทุกคนต่างก็พึมพำ
“พี่หลี่ พี่ไม่เป็นอะไรนะ!” โจวหมิงเดินเข้าไปรับอย่างดีอกดีใจ
“พวกนายยังไม่กลับไปอีกเหรอ” หลี่ฝางมองดูคนพวกนั้นและอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“พวกเราเตรียมบุกเข้าไปสู้ตายแล้ว จะทิ้งคุณไว้แล้วหนีไปได้ยังไง?” โจวหมิงเดินเข้ามาพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อยากจะดูว่าหลี่ฝางได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า
“แค่ก ๆ นายรักษาระยะห่างจากฉันหน่อยได้ไหม? ฉันไม่มีความรู้สึกต่อผู้ชายหรอกนะ” หลี่ฝางรีบขยับหลบ
“พี่หลี่ พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ทุกคนต่างก็ได้มุงล้อมเข้ามา และแย่งกันเอ่ยถาม: “พี่หลี่ พี่จัดการกับเฮียเว่ยได้ยังไงเหรอ?”
“ไม่มีอะไร ใช้เหตุผลกำราบคนไงล่ะ เฮียเว่ยไม่ใช่คนไร้เหตุผล แค่เล่าเรื่องราวให้เขาเข้าใจก็เรียบร้อยแล้ว” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ใช้เหตุผลกำราบคน? ทุกคนต่างก็พูดอะไรไม่ออก
ถ้าเฮียเว่ยเป็นคนมีเหตุผล จำเป็นที่พวกเขาจะต้องเป็นกังวลแบบนี้เหรอ?
เพียงแต่ว่าหลี่ฝางไม่อยากจะพูด พวกเขาเองก็ไม่ถามต่อ
เหตุการณ์ที่เผชิญในคืนนี้ทำให้ทุกคนหมดอารมณ์เที่ยวต่อ จึงแยกย้ายกันกลับไป
แต่หลี่ฝางคิดว่า คืนนี้คนพวกนี้จะต้องคาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของเขาไปต่าง ๆ นานาอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าในสมองอาจจะแต่งเรื่องอะไรขึ้นมาก็ได้
เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ในตอนที่หลี่ฝางเดินเข้าสู่ห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยในวันถัดมา มองดูสายตาอันแปลกประหลาดเหล่านั้น หลี่ฝางก็รู้ทันทีว่าคนพวกนั้นจะต้องเอ่ยถามเขาแน่