NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1066 สถานที่ที่น่าหวาดกลัว
เมื่อปรมาจารย์อู๋ได้ฟังคำนี้ สีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร แต่เขาอยู่กับเฟ่ยเหวินเย่ามาตั้งหลายปี คนรอบล้อมตัวเขานั้นต่างเรียกเขาว่าปรมาจารย์อู๋ ตอนแรกวันนี้จะช่วยชายธรรมดาด้วยความเมตตา คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่รักษาน้ำใจขนาดนี้
ในตอนนั้น ปรมาจารย์อู๋เองก็ไม่อยากจะเสียอารมณ์มากแล้ว ก่อนจะยื่นมือไปกดไหล่ของหลี่เหวย
ในขณะนั้นเอง ก็มีความกดดันอย่างหนักหน่วง กดอยู่บนตัวของหลี่เหวย
ปรมาจารย์อู๋ไม่อยากทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้น เพียงแค่อยากให้หลี่เหวยคุกเข่ายอมรับผิด แต่แรงของเขานั้นไม่ใช่แรงที่คนธรรมดาจะรับได้
ในตอนนั้นเอง หลี่เหวยก็ทนต่อไปไม่ไหว จึงงอขาทั้งสองข้าง จนแทบจะคุกเข่าลงกับพื้นแล้ว
หลี่เหวยไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เลยพยายามฝืนไม่ให้ตัวเองต้องคุกเข่าลงไป แต่เขาจะต้านทานปรมาจารย์อู๋ผู้มีชื่อเสียงได้เหรอ?
จากนั้นไม่นาน หลี่เหวยก็ต้านทานต่อไปไม่ไหว เลยคุกเข่าลงกับพื้น
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าหลี่เหวยจะคุกเข่าลงกับพื้นแล้วเอาหัวโขกนั้น จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ที่น่ากลัวขึ้น นั่นคือการระเบิดออกจากตัวของหลี่ฝาง จนทำให้ในนี้ถูกล้อมเป็นวงในทันที
คนที่ล้อมวงอยู่นั้นไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก เพียงแค่รู้สึกเหมือนกับว่าแสงรอบๆ นั้นมันค่อยๆ มืดลง อุณหภูมิของอากาศเองก็ลดลง จนทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บ
สำหรับปรมาจารย์อู๋ โลกทั้งใบตรงหน้ามันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
สิ่งที่เห็นนั้น เป็นกองศพและทะเลสีเลือด นอกจากนี้ยังมีฟ้าและดินที่มีสีเลือดดูน่ากลัวอย่างเปรียบเทียบไม่ได้ มันทำให้ปรมาจารย์อู๋นิ่งตัวแข็งไป เหมือนกับภูเขาน้ำแข็ง
“ทำไมจู่ๆ ถึงได้หนาวเย็นขนาดนี้ล่ะ?” มีคนบ่นเสียงเบาขึ้นมา
คนมากมายหลายร้อยพันตรงนี้ต่างรู้ได้ว่ามันเกิดอะไรผิดปกติขึ้นมา เพราะบรรยากาศรอบๆ ตัวของหลี่ฝางนั้นปกคลุมแหล่งสมบัติเงินทองเอาไว้ ขนาดคนที่เฝ้าประตู ยังต่างลุกขึ้นมาด้วยความตื่นตา ก่อนจะมองเข้าไปด้านในด้วยความกลัว
แต่เลขาฯหลิวกับเฟ่ยเหวินเย่า พวกเฮียเว่ย สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าบรรยากาศที่น่ากลัวนั้นมันออกมาจากหลี่ฝาง ในขณะนั้น ความเคารพที่พวกเขามีต่อหลี่ฝางก็พุ่งทะยานถึงจุดสูงสุด
แต่เมื่อเห็นปรมาจารย์อู๋ตัวสั่นไปทั้งตัว เฟ่ยเหวินเย่ากำลังลังเลว่าจะออกหน้าขอร้องดีไหม
ถึงอย่างไรปรมาจารย์อู๋ก็ตามเขามาหลายปี ถือว่าเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ
เพียงแต่หลี่ฝางในตอนนี้น่ากลัวเกินไป เขาไม่รู้เลยว่าถ้าเกิดว่าตัวเองเปิดปากโน้มน้าว มันจะเกิดอะไรขึ้น
ในที่สุด เฟ่ยเหวินเย่าก็อดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดขึ้น
“คุณหลี่!ปรมาจารย์อู๋เองก็ไม่ได้ติดใจอะไร ไม่ได้เกลียดเพื่อนของคุณ คุณดูหน่อยว่าจะสามารถปล่อยป้าของเขาได้ไหม ฉันจะหาการตอบกลับที่คุณพอใจให้เอง เป็นอย่างไรล่ะ?”
เมื่อพูดแบบนี้ออกไป ในใจของเฟ่ยเหวินเย่าก็ตึงเครียดเป็นอย่างมาก
หลี่ฝางได้ฟังคำของเฟ่ยเหวินเย่า ในใจกลับเกิดความประหลาดใจไม่น้อยเลย
เพราะเขาตัดสินเฟ่ยเหวินเย่าไปตั้งแต่แรกแล้ว เขาน่าจะเป็นคนที่เห็นผลประโยชน์เป็นหลัก คิดไม่ถึงเลยว่าท่ามกลางการกดขี่ของตัวเองในตอนนี้ ยังจะกล้ามาขอร้องแทนคนอื่น
ดูเหมือนกับว่าตัวเองจะมองคนผิดไปตั้งแต่แรก หลี่ฝางเลยอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวในใจ
“งั้นก็ดี ฉันจะให้โอกาสคุณสักครั้ง”
เพราะคำขอของเฟ่ยเหวินเย่า หลี่ฝางเลยไม่ทำให้ปรมาจารย์อู๋ลำบากใจ เลยเก็บบรรยากาศนั้นเอาไว้ให้ดังเดิม
ในตอนนั้นเอง แสงรอบๆ ก็กลับมาเป็นปกติ แต่คนรอบๆ นั้นกลับรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก และจู่ๆ ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ถึงแม้ผู้คนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับโล่งใจอย่างประหลาด เหมือนกับว่าหนีขโมยมาได้แล้วอย่างนั้นเลย
“คุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลี่ฝางเดินมาพยุงหลี่เหวย
แต่เมื่อเห็นว่าเป็นหลี่ฝางมา ในใจของหลี่ฝางก็ดีใจเป็นอย่างมาก
“พี่หลี่ คุณมาแล้วเหรอ!”
เมื่อเห็นหลี่ฝาง เขาก็รู้สึกว่าความร้ายกาจนั้นมันหายไปไม่น้อย
แต่นิ่งหรงหรงในตอนนี้เองก็เห็นหลี่ฝาง เลยเดินเข้ามาด้วยความเซอร์ไพรส์
คืนนี้เขาตามหลี่ฝางแล้วชนะมาตั้งไม่รู้กี่รอบแล้ว ตอนนี้ได้เห็นหลี่ฝาง ก็เลยรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ขนาดความไม่พอใจเมื่อครู่ ยังปล่อยมันไว้ทางด้านหลังเลย
แต่เมื่อคุณชายโล่ที่เผชิญหน้าอยู่เห็นฉากนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นดูไม่ได้
เขาอยากจะดึงนิ่งหรงหรงมา เพราะไม่อยากให้ผู้หญิงของตัวเองเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่น
เพียงแค่ยังไม่รอให้เขาทำอะไร ก็เห็นปรมาจารย์อู๋ที่ยืนอยู่ไม่ขยับเมื่อครู่เดินเข้ามากะทันหัน ก่อนจะเกิดเสียง “ตุ่บ” พลางคุกเข่าต่อหน้าหลี่ฝาง
ท่าทีนี้ ทำให้คนอื่นๆ ต่างตกใจกันไปหมด และก็ทำให้คุณชายโล่งงเป็นไก่ตาแตก
แต่นั่นเป็นปรมาจารย์อู๋นะ!
เขานั้นเป็นคนที่คนจับตามอง เป็นคนระดับสูงของเมืองจินซาน ใครได้เจอต่างก็เรียกเขาว่า “ปรมาจารย์อู๋” ไม่ใช่เหรอ?คนอย่างเฟ่ยเหวินเย่าถึงจะดึงเขาเอาไว้ได้ ขนาดพ่อของตัวเองยังปะทะคารมกัน ไม่สนใจไม่ได้
แต่ทำไมคนอย่างปรมาจารย์อู๋ ถึงมาคุกเข่าลงตรงหน้าหลี่ฝางที่ไร้หัวนอนปลายเท้ากันนะ?
คุณชายโล่มองหลี่ฝางเล็กน้อย ก็เห็นแต่ความอับจนไร้ศักดิ์ศรีเท่านั้น
เสื้อผ้าที่รวมกันทั้งตัวไม่น่าจะเกินสามร้อย ดูไม่เข้ากับสถานการณ์ตรงนี้เลย แถมยังทำให้น่าสงสัยว่าเขาใช้วิธีไหนในการเข้ามาได้
มันเหมือนกับคนกระจอกที่ต่อยตีกับตัวเองเลย!
คุณชายโล่อยากถามว่าปรมาจารย์อู๋บ้าไปแล้วหรือเปล่า เลยอ้าปากแต่กลับพูดอะไรไม่ออก
ปรมาจารย์อู๋หรือตัวเองกันแน่ที่เป็นบ้า?
คุณชายโล่ส่ายหัวไปมาด้วยความไม่เชื่อ เพราะอยากให้ตัวเองมีสติกว่านี้
แต่ความจริงที่น่ากลัวกลับเป็นแบบเดิม ฉากตรงหน้านั้นมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย