NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1082 คำนับคนที่คุณเคยรังแกมาตลอด
ในเวลานี้ โชจิไม่มีอารมณ์ที่จะมาสนใจว่าฮิเดโทชิจะคิดยังไง เขารีบระงับอารมณ์ในใจของเขาลงและเดินมาตรงหน้าหลี่ฝาง
อีกทั้งในเวลานี้มีสายตาของผู้คนมากมายกำลังจับจ้องมาที่นี่แล้ว นั่นเพราะเสียงตะโกนของโชจิเมื่อครู่ ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยขึ้นมา
นั่นเพราะตัวตนของโชจินนั้น คนในงานมากมายต่างก็รู้จักเขาและย่อมให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของเขามากขึ้นเป็นธรรมดา
พวกเขาเห็นโชจิเดินมาหาหลี่ฝาง จากนั้นจู่ๆก็โค้งคำนับลงลึกให้หลี่ฝางเพื่อขอโทษโดยไม่มีท่าทีแจ้งเตือนใดๆล่วงหน้า
“ขอโทษอย่างยิ่งครับคุณท่าน วันนี้เรื่องกะทันหันเกินไป ทำให้คุณต้องขุ่นเคืองแล้ว!”
ผู้คนที่เห็นฉากนี้ ทั้งงานก็ดูเหมือนจะเงียบไปในทันที
ทุกคนต่างมองไปที่โชจิอย่างไม่เชื่อสายตา ราวกับว่าพวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ตัวตนของชายหนุ่มคนนี้คือใครกันแน่? ถึงกับสามารถทำให้โชจิผู้เป็นที่เคารพนับถือต้องคำนับมีมารยาทกับเขาแบบนี้ได้?
การโค้งคำนับจนเกือบจะพับเป็น 90 องศาแบบนี้ เป็นการกระทำที่คนรุ่นหลังมีแต่ผู้อาวุโส หรือลูกน้องมีต่อผู้บังคับบัญชาเท่านั้น!
ฮิเดโทชิและเอโกะในเวลานั้นก็ตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์เช่นกัน
พวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมโชจิถึงทำเช่นนี้
ในเวลานี้โชจิก็ยังคงไม่ยืดตัวตรงกลับมา แต่เขากลับหันหน้าไปทางฮิเดโทชิและตะโกนว่า “นี่นายทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่เข้ามาขอขมาอีก!”
ฮิเดโทชิตกตะลึงตัวค้างไปทันที จนถึงขั้นคิดว่าตนเองเกิดหูตาหลอนขึ้นมาเองแล้ว
โชจิถึงกับให้เขาเข้าไปขอขมาหลี่ฝาง?
อย่างไรก็ตามเขาเองก็มั่นใจเช่นกันว่าตัวเองได้ยินไม่ผิด แม้ว่าในใจของเขาจะต่อต้านเป็นอย่างมาก แต่ร่างกายของเขากลับไม่กล้าต่อต้าน และเขาก็อดไม่ได้ที่จะโค้งตัวลงอย่างช้าๆ
“คุณอาสึกะ ผมผิดไปแล้ว!”
แม้จะเป็นเพียงคำขอโทษ แต่ก็ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ราวกับว่าการกระทำดังกล่าว นำมาซึ่งความอับอายอย่างที่สุดแก่เขา
ในเวลานี้ สายตาของโชจิก็เปลี่ยนมาจับจ้องไปที่เอโกะ
เอโกะเมื่อเห็นฉากนี้เข้าก็แทบอยากจะหันหลังหนีไป แต่เมื่อต้องตกอยู่ภายใต้สายตาอันเย็บเฉียบของโชจิเธอก็กลับไม่สามารถก้าวย่างไปไหนได้
ถ้าเธอกล้าที่จะหนีไปในตอนนี้ หลังจากนี้จุดจบของเธอก็คงจะต้องน่าสยดสยองอย่างมากแน่
อย่างไรก็ตามการที่จะต้องให้ตัวเองมาโค้งคำนับน้องสาวที่ตนเองดูถูกมาตั้งแต่เด็กนั้น เธอก็ทำมันไม่ลง
เมื่อโชจิเห็นดังนั้นก็รีบตะคอกใส่เสียงเข้มทันที “เอโกะ!”
โชจิได้อ่านข้อมูลที่เป็นความลับมามากมาย เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษกับกลุ่มคนบางคนในโลกที่ไม่อาจเข้าไปตอแยด้วยได้ ถ้าหากเขาจำไม่ผิดคน หลี่ฝางก็คือปรมาจารย์กำลังภายในในตำนาน!
เขาไม่ต้องการไปตอแยหลี่ฝาง ชีวิตอันยิ่งใหญ่ของเขายังอีกยาวไกลนะ!
ในเวลานี้ ริโกะกอดแขนของหลี่ฝางเอาไว้เบาๆ ดวงตาฉายแววความคาดหวังเล็กน้อยวาบผ่านไป
ตนอยู่ในบ้านต้องทนรับความลำบากมากมาย มาตอนนี้ถึงกับได้รับการชดเชยขึ้นมา ดังนั้นในใจของเธอจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ในที่สุด เอโกะก็ค่อย ๆ โค้งตัวลงอย่างช้าๆ และก้มหัวไปทางน้องสาวที่ตนมักจะรังแกอยู่เสมอ
“ขอโทษด้วย…”
ในใจของเธอเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยสักนิด แม้ว่าที่ผ่านมาริโกะจะเคยพูดขอโทษกับเธอมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ตอนนี้เมื่อให้เธอต้องพูดประโยคนั้นเพื่อชดเชยออกไป เธอกลับรู้สึกอับอายอย่างสุดซึ้ง
แต่ว่า สถานการณ์นั้นแข็งแกร่งกว่าผู้คน เธอไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของโชจิ
“จุ๊จุ๊ ชายหนุ่มคนนี้ดูท่าจะมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาเลย”
“หึหึ สามารถทำให้โชจิเคารพขนาดนี้ได้ จะเป็นคนธรรมดาได้หรือไง?”
“เมื่อกี้เหมือนฉันจะได้ยินเขาพูดว่าเขาเป็นแค่คนในครอบครัวธรรมดา? ครอบครัวธรรมดาที่ไหนจะสามารถทำแบบนี้ได้?”
“ไป พวกเราไปทำความรู้จักสักหน่อย”
ในไม่ช้า รอบด้านก็เกิดการสนทนาในทุกรูปแบบขึ้นมา อีกทั้งเมื่อคนแรกเริ่มเข้าหาหลี่ฝาง ผู้คนรอบตัวเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนพวกโชจิทั้งสามคน ก็ค่อยๆถูกกลุ่มคนแยกออกไป
ในที่สุด เมื่อเขารู้สึกว่าสายตาของหลี่ฝางผละออกไป โชจิก็ค่อยโล่งใจขึ้นมา เขายืดตัวขึ้นและพูดกับฮิเดโทชิว่า “เอาล่ะ ท่านผู้นั้นไม่เอาความอีกต่อไปแล้ว”
จากนั้น เขาก็เห็นท่าทางและดวงตาที่ว่างเปล่าของฮิเดโทชิ อีกทั้งเอโกะที่อยู่ข้างๆก็ไม่ได้มีสภาพดีไปกว่าสักเท่าไหร่ แถมยังถึงขั้นแย่กว่าอีกด้วย
โชจิส่ายหัวและตบบ่าของฮิเดโทชิ อันที่จริง การถูกบังคับให้ต้องขอโทษต่อหน้าสาธารณชนแบบนั้น เปลี่ยนเป็นใครก็คงไม่รู้สึกดี
“ท่านโชจิ คุณสามารถบอกตัวตนของเขาได้ไหมครับ?” ฮิเดโทชิเอ่ยปากพูดอย่างยากลำบาก
ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่านี่ต้องเป็นคนแบบไหนกัน ถึงสามารถทำให้โชจิมาถึงขั้นนี้ได้
ถ้าหากตัวตนของหลี่ฝางสามารถทำให้เขาประหลาดใจครั้งใหญ่ได้ และสูงส่งอย่างมาก อย่างน้อยๆนี่ก็พอจะทำให้ในใจของเขารู้สึกดีขึ้นได้บ้าง
เมื่อได้ยินคำถามของฮิเดโทชิ เอโกะก็อดไม่ได้ที่จะเช็ดน้ำตาแห่งความอับอายของตนออกและรอคำตอบของโชจิอย่างเงียบ ๆ
โชจิส่ายหัว จากนั้นจึงพูดว่า “ในเมื่อท่านผู้นั้นไม่เปิดเผยตัวตนออกมา อย่างนั้นก็หมายความว่าเขาไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ ฉันจะพูดออกไปพล่อยๆไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นฉันอาจตายขึ้นมาได้ทันที”
คิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าโชจิจะพูดแบบนี้ พวกฮิเดโทชิทั้งสองคนรู้ว่าสถานะของหลี่ฝางนั้นสูงมากเสียจนพวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะรับรู้เสียด้วยซ้ำ
สถานะที่น่าหวาดกลัวแบบนี้ นอกจากจากจะทำให้พวกเขาหวาดระแวงเกรงกลัวแล้ว สายตาที่มองไปยังหลี่ฝางในตอนนี้เองก็มีความเกลียดชังและความเจ็บปวดน้อยลงเช่นกัน แต่กลับทำอะไรไม่ได้ จบเกือบถึงขั้นแฝงความเคารพขึ้นมาอยู่หลายส่วน
ชาวญี่ปุ่นมักชื่นชมบูชาผู้ที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด สำหรับพวกเขาแล้ว การก้มหัวให้แก่ผู้ที่แข็งแกร่งกว่านั้นถือเป็นเรื่องปกติอย่างมาก อีกทั้งหากคนคนหนึ่งแข็งแกร่งกว่าตัวเองอย่างมาก อย่างนั้นต่อให้ตนได้แค่รับใช้อีกฝ่าย ก็ถือว่าเป็นเกียรติของตนแล้ว