NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1112 ลูกหลานตระกูลซู
“ทำไม!” หลี่ฝางยังไม่ทันพูดอะไร หยางฉงที่ยากจะหยุดน้ำตาเอาไว้ได้ก็พูดขึ้นก่อน “เขาเป็นฉันแฟน!”
คำพูดของหยางฉง ทำให้คนบริเวณนั้นเงียบลงอีกครั้ง
ถึงอย่างไร เมื่อครู่พวกเขาก็กำลังคาดเดากัน แต่ตอนนี้หยางฉงเป็นคนยืนยันเอง ความรู้สึกนี้ มันไม่เหมือนกันเลยล่ะ!
มีคนมากมายปวดใจ คิดว่าบางทีตัวเองอาจจะใจกล้าไม่มากพอ ถ้าเกิดตัวเองเข้าจีบเร็วกว่านี้ ไม่แน่ว่าตอนนี้คนที่กอดเจ้านายสาวอยู่อาจจะเป็นเขาก็ได้!
ในขณะที่คนเหล่านี้กำลังพูดกันขึ้นมา ชายแก่ที่รับซูจื้อเย่เอาไว้ ก็พูดกับหลี่ฝางอย่างเย็นชา “คนอายุยังน้อย ไม่ต้องลงมือรุนแรงขนาดนี้ก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”
“ทำไม นายคุณตายแล้วเหรอ?หรืออะไหล่ในร่างกายมันมีอะไรหายไป?” หลี่ฝางพูดอย่างเล่นแง่
คำพูดของหลี่ฝางทำให้พูดไม่ออก คนแก่โกรธขึ้นมา พลางพูดเสียงเย็นชา “อายุยังน้อยไม่รู้หรอกว่าโลกมันกว้างขนาดไหน เลยมีปัญหากับคนอื่นเพราะผู้หญิง มันมีแต่จะทำให้จบชีวิต!”
ซูจื้อเย่เองก็เย่อหยิ่งขึ้นมา “ไอ้กระจอก ฉันว่าแกรีบไสหัวออกไปเหอะ ไม่อย่างนั้น อย่าไปเสียใจทีหลังตอนเข้าโรงพยาบาลนะ!”
เมื่อได้ยินคำนี้ หลี่ฝางที่มีแววตากวนประสาท ก็เปลี่ยนเป็นแววตาเย็นชาขึ้นมา
“ฉันกลับอยากจะเห็นว่าพวกคุณมีดีอะไรเหมือนกัน!”
ซูจื้อเย่โกรธขึ้นมา ก่อนจะส่งซิกให้บอดี้การ์ดสองคน บอดี้การ์ดสองคนนั้นก็เดินเข้ามาหาหลี่ฝางด้วยแววตาไม่เป็นมิตร
ส่วนตอนที่พวกเขาเดินเข้ามา แรงกดดันที่น่ากลัวนั้นถาโถมเข้ามาหาพวกเขา พลางมีแววที่เย็นชา ในตอนนั้น ก็ทำให้ทั้งสองคนคุกเข่าลงกับพื้น พลางลุกไม่ขึ้น
ซูจื้อเย่เห็นฉากนี้ก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เลยด่าออกไป “คนไร้ประโยชน์อย่างพวกแกทำอะไรน่ะ!”
ส่วนคนแก่ข้างๆ ซูจื้อเย่นั้น กลับมีสีหน้าแข็งนิ่งไป
เพราะเขารู้สึกได้ว่ามันมีแรงบางสิ่งมากระทบ หลี่ฝางที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขานั้น เหมือนกับจู่ๆ มดก็กลายเป็นมังกรขนาดใหญ่ เมื่อเรื่องพลิก ทำให้ในใจของเขาเย็นเฉียบขึ้นมา
ส่วนซูจื้อเย่นั้นยังคงด่าไม่หยุด ก็ไม่เหลือมารยาทที่แสร้งทำเมื่อครู่แล้ว พลางขู่หลี่ฝางด้วยท่าทีโหดร้าย “ไอ้ชาติหมา ไว้หน้าแต่ไม่เอาไว้ใช่ไหม?เชื่อไหมว่าฉันจะให้คุณไม่เห็นแสงอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้อีก!”
ซูจื้อเย่ที่ตกกระไดพลอยโจนไปด้วย ในตอนนี้ก็ไม่มีเวลามาเสแสร้งแล้ว คิดเพียงอยากจะระบายความโกรธออกมาเท่านั้น
ส่วนคนที่อยู่รอบๆ นั้นเองก็มีจำซูจื้อเย่ในแบบที่เปลี่ยนไป แววตาของหญิงที่มองพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นขยะแขยงขึ้นมา
จู่ๆ ซูจื้อเย่ที่กำลังจะพูดต่อก็ถูกคนแก่กระชากกลับไป ก่อนจะเก็บคำที่อยากจะพูดเอาไว้
ซูจื้อเย่ในตอนนั้นก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ก่อนจะตะโกนใส่คนแก่ด้วยความโกรธ “ลุงหลิว คุณทำอะไรน่ะ!”
คนแก่กลับไม่ได้ตอบเขา แต่หันไปประสานมือให้หลี่ฝาง “คุณ คนคนนี้คือลูกชายของภรรยาคนแรกของหนานเจียงตระกูลซูชื่อซูจื้อเย่ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครงั้นเหรอ?”
ท่าทีเมื่อครู่นั้น คนแก่เข้าใจในทันทีว่าฝีมือของหลี่ฝางนั้นมากกว่าเขามาก ดังนั้นเขาเลยไม่ยึดตัวเองอยู่ในตระกูล และจะกดหลี่ฝางเอาไว้อย่างมีนัย
หนานเจียงตระกูลซู เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ด้านยุทธภพของหนานเจียง
เมื่อเห็นลุงหลิวเกรงใจหลี่ฝางขนาดนี้ ซูจื้อเย่ก็อึ้งไปเล็กน้อย
ลุงหลิวเป็นคนมากฝีมือ เขามีตำแหน่งที่ไม่น้อยหน้าในตระกูลซู พูดได้ว่าเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนนับถือ
แต่ทำไมเขาถึงได้เกรงใจหลี่ฝางขนาดนี้?หรือว่าฝีมือของหลี่ฝาง……
ในใจของซูจื้อเย่ก็เริ่มกลัวขึ้นมามาก
หลี่ฝางไม่ได้สนใจคำพูดของลุงหลิว และก็ไม่ได้ตอบเขา แต่กลับมองไปที่ซูจื้อเย่ แววตานั้นเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อถูกหลี่ฝางจ้องแบบนั้น ซูจื้อเย่ก็รู้สึกเหมือนถูกภูเขาลูกใหญ่กดทับ แต่ลุงหลิวเองก็รีบแสดงอาการขอโทษซูจื้อเย่ เพื่อจะได้ให้หลี่ฝางไม่มีเหตุผลในการลงมืออีก
ถึงอย่างไร ซูจื้อเย่นั้นเย่อหยิ่งไปจริงๆ สำหรับคนทั่วไปนั้นมันยากที่จะทนได้ แล้วในสถานการณ์ที่หลี่ฝางเป็นคนมากฝีมือแบบนี้ล่ะ?
เมื่อเข้าใจความหมายของลุงหลิว ซูจื้อเย่ก็รีบเปิดปากพูด “ท่าน เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันเอง ขอให้ท่านเห็นแก่หน้าของตระกูลซู ให้โอกาสฉันได้ชดเชยสักหน่อย เป็นอย่างไร?”
เขาไม่ใช่คนโง่ที่คิดว่าตัวเองนั้นใหญ่คับโลก ในกลับกัน ว่าเขามองคนที่ฝีมือมากกว่า
แน่นอน ว่าเมื่อเจอคนเก่งอย่างหลี่ฝาง เขาขอโทษได้อย่างไม่กดดัน แถมยังคล่องมากอีกด้วย
แต่คนที่มองดูอยู่นั้น กลับชาไปทั้งตัวจนทำอะไรไม่ถูก
ซูจื้อเย่นั้นฟาดงวงฟาดงามาตั้งแต่แรก แถมยังให้บอดี้การ์ดของตัวเองไปสั่งสอนหลี่ฝางอีกด้วย จากนั้นบอดี้การ์ดสองคนยังไม่ทันจะทำอะไรหลี่ฝางก็ต้องคุกเข่าลงเสียก่อน
ตอนนี้ซูจื้อเย่เข้าไปขอโทษหลี่ฝาง แถมยังทำให้คนรอบๆ นั้นเริ่มสงสัย ว่าหลี่ฝางนั้นเป็นคนที่เล่นคุณไสยอะไรหรือเปล่า
แต่ส่วนของคนของแผนกรักษาความปลอดภัย ไม่แปลกใจที่ได้เห็นฉากนี้ และก็ไม่ได้คิดว่าเก่งกาจอะไรเท่าไหร่
คิดว่าพวกเขาไม่รู้ฐานะของตระกูลซู ในสายตาของพวกเขา ขนาดเฮียเว่ยเองยังต้องเกรงใจหลี่ฝาง แล้วลูกหลานเศรษฐีตัวเล็กๆ จะนับเป็นอะไรได้เหรอ?
เพียงแต่ซูจื้อเย่อยากให้เรื่อยจบ แต่หลี่ฝางกลับไม่ยอม
“โลกนี้มีเรื่องที่ง่ายขนาดนี้ด้วยเหรอ?” หลี่ฝางพูดเสียงเย็นชา
ในตอนนั้นเอง ลุงหลิวกับซูจื้อเย่ต่างตกใจยกใหญ่ เพราะเข้าใจว่าหลี่ฝางไม่อยากจะญาติดีด้วยแล้ว