NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1114 สถานการณ์ของตระกูลหยาง
เช้าตรู่ ของวันที่สอง หลี่ฝางกับหยางฉงก็ไปที่คฤหาสน์ของตระกูลหยาง
ตระกูลหยางทั้งตระกูล อันที่จริงมันเริ่มพัฒนามาจากปู่ของหยางฉงนั่นก็คือหยางเซี่ยวหู่
ตอนนั้นคุณท่านหยางได้รับชัยชนะในสงคราม เลยมีฐานะที่สูงส่ง ส่วนตระกูลหยาง ก็เพราะมีชื่อของคุณท่านหยาง เลยประสบความสำเร็จในวันนี้ได้
แต่น่าเสียดาย ที่คุณท่านอายุมากแล้ว เลยลงจากตำแหน่งไปเมื่อปีกลาย ชื่อเสียงของตระกูลหยางเองก็ลดลงเรื่อยๆ
รุ่นที่สองของตระกูลหยางยังค่อนข้างโดดเด่น คนหนึ่งอยู่ในระบบการปกครอง อีกคนอยู่วงการธุรกิจ มีเส้นสายไม่น้อย ถึงแม้จะเทียบกับคุณท่านหยางเซี่ยวหู่ในตอนนั้นไม่ได้ แต่ก็ยังพอจะค้ำตระกูลหยางเอาไว้ได้
แต่พอเป็นรุ่นต่อไป ส่วนมากก็เป็นลูกหลานไร้ราคา วันเอาแต่ผลาญเงินทองเที่ยวผู้หญิง จนสมบัติของบ้านหมดไป
อย่างหยางฉงนั้น ถือว่าเป็นคนในรุ่นที่สามที่โดดเด่นมากแล้ว
แต่สิ่งที่สำคัญกับตระกูลหยางมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ร่างกายของนายท่านหยางแย่ลงเรื่อยๆ ช่วงนี้นอนป่วยอยู่ในห้องตลอด ไม่รู้ว่าจะจากไปตอนไหน แต่เขากลับยังไม่ยอมปล่อยตำแหน่งเจ้าบ้านสักที
พี่น้องรุ่นที่สองนั้น ต่างอยากจะได้เป็นเจ้าของบ้านทั้งนั้น เลยรอคุณท่านเปิดปากพูดสักที
ในวันนี้บรรดาพี่น้องทั้งสี่ คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือพี่ใหญ่หยางจื้อเฉิง เป็นคนสร้างรากฐานเกี่ยวกับการปกครอง และก็เป็นคนที่มีแววจะได้เป็นเจ้าบ้าน
เมื่อหลี่ฝางกับหยางฉงทั้งสองมาถึงที่ตระกูลหยาง หยางเซี่ยวหู่ก็กำลังนอนอยู่บนเตียง ด้านข้างนั้นก็เป็นคนที่กำลังตรวจร่างกายให้เขาอยู่
ส่วนคนทั้งสี่ที่เป็นรุ่นที่สองของตระกูลหยาง ก็ยืนอยู่ข้างๆ เตียงของหยางเซี่ยวหู่ โดยมองคนที่นอนอยู่บนเตียง ลมหายใจรวยรินอย่างหยางเซี่ยวหู่
รบราฆ่าฟันมาครึ่งชีวิต ตอนอายุยังน้อยถือว่าโหดพอตัวอย่างหยางเซี่ยวหู่ ในตอนนี้กลับมีท่าทีอ่อนแรง ทำให้คนถอนหายใจไม่ไหว
ผ่านไปสักพัก ก็มีเสียงเก็บอุปกรณ์ในมือ ก่อนจะบอกลากับคนทั้งสี่ที่อยู่ข้างเตียง พลางเดินออกไปด้านนอก
“หมอหู ร่างกายของพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?”
พี่ใหญ่หยางจื้อเฉิงรีบตามเข้าไปถาม
หยางจื้อเฉิงอายุมากกว่าห้าสิบ ร่างกายมีความเป็นบัณฑิต ดูเข้าถึงง่ายเป็นอย่างมาก เมื่อได้รับการฝึกฝนจากในราชการจนมีความเข้มงวดรวมเข้ามาด้วย ทำให้คนรู้สึกเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยินหยางจื้อเฉิงถามแบบนี้ หมอหูก็พูดขึ้นอย่างลำบากใจ “ตอนคุณท่านอายุยังน้อยบาดเจ็บฟกช้ำมามากเกินไป ถึงแม้จะได้รับการปรับเลือดลมมานานหลายปี แต่ถึงอย่างไรเลือดลมไม่ดีแล้ว แต่เกรงว่า……จะวางใจไม่ได้!”
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของทั้งสามก็เปลี่ยนไป ปกติพี่สี่หยางเซิ่งก็อารมณ์ไม่ได้ดีอยู่แล้ว ในตอนนี้ยิ่งอดไม่ได้ที่จะด่าออกมาตรงๆ “คนไร้ประโยชน์อย่างคุณ ดูแลคนป่วยให้หายก็ไม่ได้ เราเสียเงินไปมากขนาดนี้เพื่อเชิญคุณมาเลยนะ!”
รุ่นที่สองในสี่คนนี้ ก็มีแต่หยางเซิ่งที่ยังเสเพลขนาดนี้ ตอนนี้อายุราวๆ สี่สิบกว่าแล้ว ยังทำตัวเหมือนตอนอายุน้อยๆ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
เมื่อได้ยินเสียงด่าของหยางเซิ่ง พี่ใหญ่หยางจื้อเฉิงก็โกรธขึ้นมา “ไอ้สารเลว!รีบขอโทษหมอหูเดี๋ยวนี้!”
คุณท่านหยางไปปั๊บ ตระกูลหยางก็เผชิญเรื่องเลวร้ายมากมาย ตอนนี้เป็นเวลาฉุกละหุกของตระกูลหยาง หยางจื้อเฉิงจะปล่อยให้เขาไปมีเรื่องกับคนอื่นแบบนี้ได้อย่างไร
ในสถานการณ์แบบนี้ฝีมือของหมอหูนั้นเรียกได้ว่าระดับเทพ มีคนมากมายยอมรับในตัวเขา ถ้ามีเรื่องกับเขา มันจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวกว่าการมีเรื่องกับตระกูลหนึ่งเสียอีก
เพราะมีเรื่องกับหมอมีชื่อเสียงที่ปรารถนาดีเป็นอย่างมาก อิทธิพลของตระกูลเหล่านั้นก็สามารถใช้โอกาสในการออกโรงให้หมอหู แล้วโจมตีตระกูลหยาง แต่ตระกูลหยางในตอนนี้ รับการโจมตีแบบนี้ไม่ไหวแล้ว
หยางจื้อเฉิงนั้นเคร่งครัดเป็นอย่างมาก หยางเซิ่งไม่กล้าไม่เชื่อฟัง เลยทำได้เพียงขอโทษอย่างไม่เต็มไป แล้วถูกหยางจื้อเฉิงตะคอก ก่อนจะเดินไปส่งหมอหู
หมอหูออกไปไม่นาน หยางเซี่ยวหู่กลับฟื้นขึ้นมาก่อนจะถาม “หยางฉงกลับมาหรือยัง?”
พ่อของหยางฉงอย่างหยางเทียนเฉิงรีบเข้ามาตอบ “เธอออกมาตั้งแต่เช้าเลย หลี่ฝางมากับเธอ น่าจะใกล้ถึงแล้ว”
เมื่อหยางเซี่ยวหู่ได้ฟังดังนั้น ก็พูดขึ้นด้วยความยินดี “โอเคๆ !”
จู่ๆ พี่สี่อย่างหยางเซิ่งก็พูดแทรกขึ้นมา “พ่อ ตอนนี้คุณควรจะส่งต่อเรื่องทั้งหมดได้แล้วนะ”
“หยุดพูด!คุณพูดบ้าอะไร!” พี่สามอย่างหยางเทียนลี่รีบตะคอก ก่อนจะทำให้พี่สี่หุบปากด้วยใบหน้าน้อยใจ
อันที่จริง พี่สี่เข้าข้างพี่สามมาตั้งนานแล้ว คำพูดนี้คือคำที่หยางเทียนลี่ให้หยางเซิ่งพูดขึ้น
หยางเซี่ยวหู่เป็นเหมือนฮีโร่ จะมองความคิดของลูกชายไม่ออกได้อย่างไร?
ใจเลยรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมา จากนั้นคุณท่านก็ค่อยๆ พูดออกมา “ได้สิ ในเมื่อพวกคุณอยากให้ฉันส่งต่อแล้ว ฉันก็จะบอกสักหน่อย”
อันที่จริง หยางเซี่ยวหู่นั้นไม่พอใจกับลูกทั้งสี่
พี่ใหญ่มีตำแหน่งสำคัญๆ แต่กลับเป็นแค่ระดับล่างเท่านั้น ไม่มีแววจะต้องเลื่อนยศ
พี่สองนั้นไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมาย
พี่สามกลับมีหัวธุรกิจ แต่ชอบเสี่ยงดวง สักวันคงจะหมดตัว
พี่สี่นั้นไม่เอาไหน ไม่ต้องพูดถึงก็ได้
ลูกชายทั้งสี่ ใครที่ได้เป็นเจ้าบ้านคนต่อไปก็ไม่มีทางรักษาธุรกิจของบ้านเอาไว้ได้
ตอนนี้คนที่สามารถดูแลธุรกิจได้ คิดไปคิดมาก็คงจะมีแต่หยางฉงที่เป็นรุ่นที่สามเท่านั้น
ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพราะชื่อชื่อเดียว หลี่ฝาง
สิ่งที่หยางเซี่ยวหู่พูดออกมานั้น มันทำให้คนของตระกูลหยางมีท่าทีแปลกไป
แต่คนทั้งหมดนั้นเงียบลงไปหมด พลางสบตากัน เหมือนกำลังรออีกฝ่ายเปิดปากพูดขึ้น