NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1115 คำขอของคุณท่านหยาง
ในตอนนั้นเอง ภรรยาของพี่สามก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาก่อน
“จะเป็นเจ้าบ้าน ก่อนอื่นก็ต้องหาเงินเก่งๆ ต้องเลี้ยงคนในครอบครัวได้ไม่ใช่เหรอ?พวกคุณคิดดู คนที่หาเงินได้เก่งที่สดในบ้านของพวกเรา นอกจากเทียนลี่ ก็ไม่มีใครแล้วใช่ไหมล่ะ?”
เมื่อได้ยินคำนี้ ภรรยาของพี่ใหญ่หยางจื้อเฉิงก็ไม่พอใจ “ถ้าไม่มีจื้อเฉิง คุณหาเงินมาได้มากแค่ไหนแล้วจะรักษาเอาไว้ได้เหรอ?”
“ฉันคิดว่าควรจะมีเงินก่อน ได้กินข้าว ถึงจะคิดอย่างอื่นออกนะ” พี่สี่หยางเซิ่งเองก็มีภรรยาที่พูดขึ้นสนับสนุนพี่สาม
ส่วนพี่สองอย่างหยางเทียนเฉิงกลับมองด้วยสายตาเย็นชา ไม่พูดอะไร
“หุบปาก!”
เมื่อเห็นคนกลุ่มนั้นเถียงกันจนแทบจะต่อยกัน ในที่สุดคุณท่านหยางเซี่ยวหู่ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
เมื่อได้ยินเสียงที่โกรธเคืองขนาดนี้ ทุกคนก็เงียบปากลง ก่อนจะอึกอัก ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“คนไร้ประโยชน์อย่างพวกคุณ ถึงฉันจะส่งต่อตระกูลหยางให้พวกคุณ พวกคุณก็คิดว่าจะรักษาเอาไว้ได้งั้นเหรอ?” หยางเซี่ยวหู่เลยเลือกที่จะสั่งสอนเสียตั้งแต่ตอนนี้ “ตอนนี้มันเวลาอะไรกัน เอาแต่ทะเลาะกันไปเรื่อย!”
กลุ่มคนต่างปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอะไร ทั้งหมดนั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคน
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงดังเข้ามา
“ปู่!”
เสียงนั้นเอง ทำให้เสียงของคุณท่านที่ตำหนิอยู่นั้นหยุดลง แถมสีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นอ่อนโยนขึ้น
เพียงไม่นานคนเหล่านั้นก็เห็น หยางฉงเดินเข้ามากับชายแปลกหน้า
ชายแปลกหน้าคนนั้นคือหลี่ฝาง แต่ตอนนี้มีเพียงหยางเซี่ยวหู่กับหยางเทียนเฉิงเท่านั้นที่รู้ตัวตนของเขา ดังนั้น เมื่อคนอื่นๆ เห็นอีกคนที่มากับหยางฉง เลยมองด้วยแววตาไม่พอใจ
เมื่อเห็นภรรยาของหยางเทียนลี่จูเหม่ยหยู่ก็พูดตำหนิขึ้นมา “เสี่ยวฉง ทำไมคุณกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลหยางกับคนแปลกหน้า?”
“เขาเป็นแฟนฉันเอง” หยางฉงพูดชัด
“หึ ต้องแต่งงานก่อนถึงจะนับเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหยาง” จูเหม่ยหยู่เลยพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ “ตอนนี้เอาแต่พยายามปีนป่ายขึ้นมา อยากจะเป็นคนของตระกูลหยาง คิดว่าเข้ามาเป็นคนในตระกูลหยางมันง่ายมากนักเหรอ!”
“เหม่ยหยู่!” หยางเทียนลี่รีบตวาดออกไป
แต่อันที่จริงคนไม่น้อยในที่นี้ก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะไม่พูดออกมา แต่แววตาที่มองไปทางหลี่ฝางก็มีความไม่พอใจอยู่ไม่น้อย
“พวกแกมันสารเลว!” คุณท่านหยางเซี่ยวหู่โกรธจนแทบกระอักเลือด เลยตวาดออกไป “ตระกูลหยางเชิญคุณหลี่มาได้ นับว่าเป็นเกียรติของตระกูลเป็นอย่างมาก!พวกแกไสหัวออกไปให้หมด!ไสหัวออกไป!”
เมื่อเห็นคุณท่านโกรธอีกครั้ง หยางจื้อเฉิงก็ทำได้เพียงบอกให้ทุกคนออกไปก่อนอย่างจนปัญญา
หลังจากที่คนอื่นๆ ออกไปหมดแล้ว หยางเซี่ยวหู่ก็ค่อยๆ นั่งลง ก่อนจะถอนหายใจใส่หลี่ฝาง “ขอโทษด้วย คุณหลี่ ฉันไม่มีความสามารถ เลยต้องทำให้กระทบถึงคุณ”
“คุณท่าน คุณไม่ต้องเกรงใจฉันขนาดนั้นหรอก” หลี่ฝางพูด จากนั้นก็จับมือของหยางฉงเบาๆ แสดงท่าทีของตัวเอง
คำพูดเมื่อครู่นั้น คนบางคน ไม่ได้เข้าตาเขาเสียด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นหลี่ฝางจับมือกับหยางฉง หยางเซี่ยวหู่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
เขาเคยพยายามเข้าใจหลี่ฝาง รู้ว่าหลี่ฝางนั้นเป็นคนอย่างไร และรู้เข้าไปใหญ่ว่าในเวลาสั้นๆ ของหลี่ฝางนั้น สามารถเอาชนะคนมากมาย และขึ้นไปบนจุดสูงสุดได้ ลูกหลานในบ้านนั้น ถ้าเทียบกับหลี่ฝาง ต่างกันราวฟ้ากับเหว
เกรงว่าตระกูลหยางทั้งหมด นอกจากหยางฉงแล้ว หลี่ฝางก็ไม่ได้สนใจคนอื่นๆ อีกเลย
ยังดี เพราะหยางฉง หลี่ฝางเลยอยู่ในตระกูลหยางได้
ท่าทีเมื่อครู่ของหลี่ฝาง เป็นท่าทีที่ทำให้กับคุณท่าน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ คุณท่านก็มองหยางฉงพลางพูดขึ้น “เสี่ยวฉง ฉันเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว……”
“ปู่!” เมื่อได้ยินคำพูดของคุณท่านคำแรก หยางฉงก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา “ปู่จะอายุเป็นร้อยปี อยู่ดีๆ ……”
“เห้อ เป็นคนยังไงก็ต้องตาย ฉันอายุเท่านี้ก็มากพอแล้ว” หยางเซี่ยวหู่ถอนหายใจเล็กน้อย “ตอนนี้ตระกูลหยางอ่อนแอเป็นอย่างมาก ต้องการคนคนหนึ่งเพื่อมาพาตระกูลหยางออกจากวิกฤตินี้ แล้วเดินหน้าต่อ……”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ คุณท่านก็มีท่าทีเข้มงวดขึ้นมา “ฉันหวังว่าคนคนนั้นจะเป็นคุณ!หยางฉงรับความรับผิดชอบไว้ เป็นเจ้าบ้านที่ดีของตระกูลหยางให้ได้นะ!”
หยางฉงทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา
“ฉัน ฉันไม่ไหวหรอก ปู่……”
เธอเป็นเพียงเด็กสาวอายุยี่สิบกว่าปีเท่านั้น ไม่ว่าจะวิธีการจัดการต่างๆ หรือความน่าเกรงขาม ก็ไม่มากพอ จะเป็นเจ้าบ้านได้อย่างไร?ในบ้านนั้นมีคนรุ่นที่สองที่อาวุโสกว่า จะฟังเธอที่เป็นคนอายุน้อยงั้นเหรอ?
“ไม่เป็นไร คุณทำได้ เสี่ยวฉง” หยางเซี่ยวหู่มองหยางฉงด้วยความเมตตา ก่อนจะมองหลี่ฝาง ก่อนจะเริ่มพูดปลอบ “คุณเรียนรู้อย่างสงบ ทำให้ดี มีหลี่ฝางอยู่ ตระกูลหยางก็จะไม่แตก ไม่ล้ม!คุณเป็นเจ้าบ้าน ใครก็แย่งไปไม่ได้!”
หลี่ฝางถอนหายใจเสียงเบาๆ ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างวางบนไหล่ของหยางฉง พลางพูดเสียงทุ้มต่ำ “หยางฉงเป็นคนของฉัน ฉันไม่มีทางทำให้เธอได้น้อยเนื้อต่ำใจเลย คุณท่าน วางใจเถอะ”
“ดี ดีเลย!” คุณท่านเหมือนได้วางของที่หนักอึ้งลงแล้ว ทั้งตัวเลยผ่อนคลายลงไม่น้อย
“มา เสี่ยวฉง แบมือมา ปู่จะให้ของขวัญกับพวกคุณ”
เมื่อพูดไปก็เห็นเพียงเขาเอากระสุนออกมาจากถุง และวางลงในมือของหยางฉง
เมื่อมองแววตาที่สงสัยของทั้งสอง หยางเซี่ยวหู่ก็หัวเราะขึ้นอย่างภาคภูมิ “ในสงครามนั้น ฉันเคยบังกระสุนให้ผู้อาวุโส กระสุนเม็ดนี้ ก็เป็นเหมือนสัญญาที่มาจากปากของผู้อาวุโสเอง ฉันก็ไม่มีอะไรจะให้มาก เลยอยากเอาของสิ่งนี้ให้พวกคุณ ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานของพวกคุณในวันข้างหน้าก็แล้วกัน!”
หลี่ฝางคิดไม่ถึงเลย ว่าที่มาของกระสุนนี้มันจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้
น้ำใจของผู้อาวุโส มันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
แต่คุณท่านกลับเอาน้ำใจนี้มาให้หลี่ฝาง มันเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
กระสุนนั้นถูกหยางฉงวางเอาไว้ในมือของหลี่ฝาง ราวกับว่าเธอได้มอบหัวใจให้กับหลี่ฝางแล้ว
มันเป็นเหมือนกระสุนธรรมดาๆ นัดหนึ่ง แต่กลับทำให้หลี่ฝางคิดว่ามันหนักอึ้ง และถูกหลี่ฝางจับเอาไว้ในมือแน่น