NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1122 เผชิญหน้ากับการกลั่นแกล้งอีกครั้ง
แต่ทว่าฟางหยู่ถงกลับไม่ชอบใครเลยสักนิด เช่นนั้นหลี่ฝางที่อยู่ตรงหน้าจึงทำให้พวกเธอประหลาดใจยิ่งนัก จึงได้ใช้สติปัญญาทั้งหมดไปคาดเดา
หลี่ฝางเผชิญหน้ากับสายตาอันแปลกประหลาดของทั้งสองคน เขายิ้มขึ้นมาเล็กน้อย และไม่ได้เอ่ยอะไร
ไม่เช่นนั้นจะให้เขาทำยังไงล่ะ บอกว่าตัวเองเป็นคนที่ฟางหยู่ถงเชิญมาเพื่อหลอกคุณย่าของเธองั้นเหรอ?
ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาทางพวกหลี่ฝาง
“แฟนคลับอันดับหนึ่งของหยู่ถงมาแล้ว คุณระวังตัวให้ดีล่ะ” ข่งจูกระซิบกับหลี่ฝาง
ทันทีที่หลี่ฝางมองดู เขาเกือบจะหัวเราะออกมา
เห็นเพียงคนที่มานั้นแต่งตัวหรูหราสุดขีด สวมทองสวมหยก ไม่ใช่คุณชายซู ซูจื้อเย่ที่พบในป่าวันนั้นหรอกเหรอ?
หลังจากที่ซูจื้อเย่เดินเข้ามาใกล้ก็ได้เห็นหลี่ฝางเหมือนกัน ทันใดนั้นไฟความโมโหก็ได้ปรากฏขึ้นมาในดวงตาคู่นั้นของเขา
“ทำไมนายถึงมาที่นี่ได้ด้วย?” เขาเดินเข้ามาพลางกล่าวกับหลี่ฝางด้วยสีหน้าเย็นชา
รอยยิ้มอันแปลกประหลาดได้ปรากฏขึ้นมาในดวงตาของหลี่ฝาง ดูเหมือนว่าหลายวันที่ผ่านมานี้ ไอ้หมอนี่ได้ค้นหาความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับตัวเองอีกครั้งได้แล้ว
ข่งจูได้ยินคำพูดของซูจื้อเย่ ก็เอ่ยถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย: “พวกคุณ……เคยเจอกันมาก่อนเหรอ?”
“เหอะ ๆ แค่เคยเจอกันมาก่อนซะที่ไหน……” ซูจื้อเย่กล่าวคำพูดนี้ออกมาจากไรฟัน
เขาจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างชัดเจน รวมถึงภาพคนที่เขาพาไปด้วยต่างก็ถูกหมอนี่อัดจนล้มลงไปกองบนพื้นอย่างน่าประหลาดใจ รวมถึงที่เขาถูกเตะจนลอยเข้าไปในพุ่มไม้ในเท้าเดียว ต่อหน้าต่อตาของฟางหยู่ถง ทำให้เขาอับอายขายหน้า
เพราะเหตุนี้เมื่อได้เจอกับหลี่ฝางอีกครั้ง เขาเลยควบคุมความโกรธเอาไว้ไม่ได้
ส่วนคนที่อยู่ข้างกายของซูจื้อเย่พวกนั้น เมื่อเห็นน่าทางเช่นนี้ของซูจื้อเย่ ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย: “คุณชายซู เป็นอะไรไปเหรอ?”
“อย่าถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม!” ซูจื้อเย่กำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เขาด่ากลับไปโดยไม่ได้คิด ทำให้คนคนนั้นเงียบไปอย่างว่าง่ายทันที แต่ในสายตากลับมีความเย็นยะเยือกแว็บผ่านไป
ส่วนซูจื้อเย่ในเวลานี้ก็ได้มองไปที่หลี่ฝางอีกครั้ง และกล่าวอย่างเยือกเย็น: “นี่นาย นายแอบเข้ามาได้ยัง? ฉันจะบอกนายให้นะ อย่าคิดว่าตัวเองสู้เก่ง ก็ทำอะไรได้ตามอำเภอใจโดยไม่ต้องเกรงกลัวใครแล้ว!”
“ซูจื้อเย่ หลี่ฝางเป็นแฟนของฉัน เขามาที่นี่นายมายุ่งอะไรด้วย?” ฟางหยู่ถงเดินขึ้นมากล่าวปกป้องหลี่ฝาง
ได้ฟังคำว่า “แฟน” ออกมาจากปากของฟางหยู่ถง ดวงตาคู่นั้นของซูจื้อเย่ก็แดงก่ำขึ้นมาทันที
ไม่มีทางที่เขาจะนึกถึงว่า ตัวเองจีบฟางหยู่ถงมานานขนาดนั้น อีกฝ่ายกลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลยสักนิด หมอนี่พึ่งจะรู้จักกับฟางหยู่ถงเพียงแค่กี่วันเอง ก็ยืนยันความสัมพันธ์กับฟางหยู่ถงซะแล้ว!
ซูจื้อเย่เดินเข้ามาที่ด้านหน้าหลี่ฝาง และกล่าวอย่างเย็นชา: “หยู่ถงไม่ใช่คนที่ยาจกอย่างนายจะไขว่คว้าได้ ฉลาดหน่อยก็รีบไสหัวไปซะ ไม่งั้นนายจะได้เห็นดีแน่!”
“งั้นเหรอ?” หลี่ฝางยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา: “แค่อาศัยนายนี่นะ?”
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที ราวกับว่าอากาศที่อยู่รอบ ๆ ก็ได้จับตัวเป็นน้ำแข็งตามไปด้วย
“พวกคุณอย่าทำแบบนี้สิ วันนี้มาเพื่ออวยพรวันเกิดให้คุณย่ากันนะ!” สวู่เจินเจินกล่าว
“มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันหลังจากนี้ วันนี้อย่าก่อความวุ่นวาย!”
มองออกว่า ภูมิหลังของสวู่เจินเจินนั้นไม่ธรรมดา อย่างน้อย ก็ทำให้ซูจื้อเย่หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของเธอแล้วก็เกิดความลังเลขึ้นมาบ้าง สุดท้ายก็หันหลังจากไปด้วยความโมโห โดยไม่ได้มีเรื่องกับหลี่ฝางโดยตรง
เมื่อสวู่เจินเจินเห็นดังนั้น ก็ได้กระซิบกับหลี่ฝาง: “คุณอย่าไปมีเรื่องกับซูจื้อเย่นะ ครอบครัวของเขามีความสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่ด้านยุทธภพของหนานเจียง ตระกูลฟางก็ยังไม่ยอมไปมีเรื่องกับเขาง่าย ๆ”
“ตระกูลใหญ่ด้านยุทธภพของหนานเจียง?” หลี่ฝางยิ้มหยัน
สวู่เจินเจินเห็นปฏิกิริยาของหลี่ฝาง ก็ค่อนข้างไม่พอใจขึ้นมาทันที ตนเองใจดีแนะนำโน้มน้าว แต่กลับได้รับการตอบรับจากหลี่ฝางเช่นนี้ และเธอเองก็ไม่รู้จักฐานะของหลี่ฝาง จึงเป็นธรรมดาที่เธอจะไม่พอใจ
คิดอยู่แบบนี้ สวู่เจินเจินก็ไม่อยากที่จะแนะนำโน้มน้าวอะไรหลี่ฝางอีกแล้ว
แต่ทว่าฟางหยู่ถงกลับเริ่มเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย เธอรู้ว่า นักรบต่างก็มีความหยิ่งทระนงของตัวเอง และยิ่งเป็นหลี่ฝางที่เป็นนักรบที่เก่งกาจเช่นนี้
แต่ตระกูลใหญ่ด้านยุทธภพของหนานเจียง มียอดฝีมือมากมาย หลี่ฝางอายุยังน้อย จะเทียบได้อย่างไร?
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ถังเต๋อหยวนก็ได้เดินเข้ามาจากระยะไกล เขาทักทายกับซูจื้อเย่อย่างสนิทสนมก่อน แล้วค่อยเบือนสายตาไปที่หลี่ฝาง
“เอ๊ะ หัวหน้าหลี่ เมื่อสักครู่ยังคุยกันดี ๆ อยู่เลยทำไมถึงได้มาที่นี่ซะแล้วล่ะ?” เขาจงใจกล่าวด้วยท่าทางประหลาดใจ
ซูจื้อเย่ได้ยินคำพูดของถังเต๋อหยวน ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือหัวหน้าหลี่คือตำแหน่งอะไร คิดอยู่ครึ่งค่อนวันก็คิดไม่ออก ก็เลยเอ่ยถามถังเต๋อหยวนไป: “คุณเองก็รู้จักเขาเหรอ?”
“ไม่หรอก เมื่อกี้ได้คุยกันอยู่สองสามประโยคน่ะครับ” ถังเต๋อหยวนจงใจกล่าวอย่างยิ้มระรื่น: “พี่ซู คุณยังไม่รู้จักใช่ไหม เดี๋ยวผมจะแนะนำให้เอง หลี่ฝาง ตอนนี้เป็นหัวหน้าพนักงานรักษาการของบริษัทหนึ่งในอาคารจินโอว มีอนาคตที่สดใสเชียวนะ!”
“อะไรนะ? หัวหน้าพนักงานรักษาการงั้นเหรอ?”
ผู้คนที่อยู่ด้านหลังต่างก็ตะลึงงันขึ้นมาทันที ปฏิกิริยาแรกสงสัยแม้กระทั่งว่าถังเต๋อหยวนกำลังล้อเล่น
หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง จะคู่ควรกับคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฟางได้ยังไง?
“คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย?” ซูจื้อเย่อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“จะเป็นไปได้ยังไง หัวหน้าหลี่เป็นคนพูดเองกับปากเชียวนะ” ถังเต๋อหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ตอนนั้นหยู่ถงเองก็อยู่ด้วย คุณลองถามเธอดูก็ได้นี่”
ซูจื้อเย่รีบหันไปหาฟางหยู่ถงทันที เห็นเธอถึงแม้จะไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใด ๆ แต่สีหน้าท่าทางของเธอก็สามารถอธิบายทุกอย่างได้แล้ว
“หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยงั้นเหรอ? ฮ่า ๆ ๆ ๆ ……” ซูจื้อเย่หัวเราะเสียงดังขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ทันที: “ไอ้หนุ่ม ที่แท้นายก็เป็นหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยเองหรอกเหรอ?”