NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1124 มีแขกมาเยื่อน
“คุณชายลู่ครับ เพื่อนคนหนึ่งของผมมาแล้ว ผมไปคุยกับเขาก่อน ขอตัวนะครับ” เมื่อบรรลุเป้าหมาย ซูจื้อเย่ทักทายเสร็จก็จากไปทันที
แน่นอน เขาเพียงแค่หาข้ออ้างเท่านั้นเอง แล้วพาพรรคพวกมาอยู่ที่ที่ไม่สะดุดตา และมองดูอยู่ห่าง ๆ เท่านั้นเอง
“มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว” พวกเขาสบตากัน ต่างก็มองแววความไม่ประสงค์ดีของอีกฝ่ายออก
และหลังจากที่พวกซูจื้อเย่ได้จากไป ลู่เผิงเฟยครุ่นคิดอยู่สักพัก ท้ายที่สุดแล้วยังคงยกเท้าก้าวเดินเข้าไปทางฟางหยู่ถง
เขาจะมองความคิดของคนอย่างซูจื้อเย่ไม่ออกได้ยังไงกัน เพียงแต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดคุณย่าของฟางหยู่ถง ยังไงเขาก็ต้องเจอกับฟางหยู่ถง สู้เข้าไปทักทายตอนนี้ยังจะดีกว่า
ทางด้านฟางหยู่ถงในเวลานี้ ทั้งสี่คนกำลังนั่งล้อมทานผลไม้บนโต๊ะอาหาร
หลี่ฝางนั้นทานอย่างมีความสุข ข่งจูและสวู่เจินเจินกลับรู้สึกขายหน้ามาก เพราะยังไงซะในงานเลี้ยงเช่นนี้ ผลไม้พวกนี้ไม่ได้มีไว้ทานสักหน่อย แต่เอามาเพื่อประดับต่างหาก
ไม่นาน ทั้งสองคนก็ทนไม่ไหวขึ้นมา แล้วกระซิบกับฟางหยู่ถง: “พวกเราทำแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่า ที่นี่คนเยอะแบบนี้……”
ในวโรกาสเช่นนี้ ไม่มีใครทานผลไม้บนโต๊ะนี้หรอก มีเพียงหลี่ฝาง ที่ไม่เพียงแค่ทาน แถมยังเพื่อทานได้อย่างเต็มที่ ยังเรียกให้คนเอาเก้าอี้มาให้นั่งทานอย่างช้า ๆ
ฟางหยู่ถงกล่าวกับพวกสวู่เจินเจินด้วยความเขินอายเล็กน้อย: “พวกเธอไปคุยกับคนอื่นก่อนดีไหม ฉันนั่งเล่นอยู่ตรงนี้สักพักก่อน”
“อย่าเลย พวกเราอยู่ที่นี่ดีกว่า” ข่งจูกล่าวด้วยท่าทางเศร้าสร้อย: “จะทิ้งเธอไว้ที่นี่ไม่ได้หรอก”
กล่าวอยู่แบบนี้ เธอยิ่งไม่พอใจหลี่ฝางเข้าไปใหญ่ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมา: “หยู่ถง เขาใช้ยาเสน่ห์อะไรใส่เธอกันแน่ถึงทำให้เธอหลงขนาดนี้? แปลกแบบนี้เธอก็ยังอยู่ข้างเขาไม่ยอมจากไปไหน”
เมื่อหลี่ฝางได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที ทำไมแค่ทานผลไม้ก็เป็นปัญหาขึ้นมาได้
“ข่งจูพูดจาโผงผางไปหน่อย คุรอย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะ” ฟางหยู่ถงกล่าวปลอบใจหลี่ฝาง
“หึ!” ข่งจูหันหน้าหนีไปอย่างไม่ชอบใจนักไม่อยากมองหลี่ฝางอีก ทว่าไม่นานเธอก็เห็นเงาร่างของลู่เผิงเฟย และอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
ได้ยินเสียงร้องของข่งจู ทุกคนต่างมองไปอย่างอดไม่ได้ พบว่าลู่เผิงเฟยกำลังเดินมาทางนี้จริง ๆ
“ดูเหมือนว่าจะต้องเพิ่มเก้าอี้อีกตัวซะแล้ว” หลี่ฝางลูบคางกล่าว
“อะไรกัน คุณคิดว่าลู่เผิงเฟยจะนั่งกินดื่มอย่างไม่รักษาภาพลักษณ์อยู่ที่นี่เหมือนคุณหรือไง” ข่งจูเบ้ปากกล่าว
หลี่ฝางกล่าวด้วยความจนใจเล็กน้อย: “ผมแค่ทานผลไม้เอง ไม่รักษาภาพลักษณ์ตรงไหน”
“หึ ทานผลไม้ไม่ดูสถานการณ์เลยหรือไง? ตัวคุณเองจะไม่ใส่ใจก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้คุณปรากฏตัวที่นี่ในฐานะแฟนของหยู่ถง คุณทำแบบนี้ไม่ทำให้หยู่ถงต้องถูกคนหัวเราะเยาะเอาหรอกเหรอ?”
ข่งจูเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับฟางหยู่ถงด้วยความโมโห
“พอแล้ว ข่งจู เธอเองก็พูดน้อย ๆ หน่อย” ฟางหยู่ถงรีบกล่าวโน้มน้าว
ข่งจูงเหลือบตามองบนให้กับหลี่ฝางด้วยความโมโหเล็กน้อย และจู่ ๆ ก็หันไปถามฟางหยู่ถง: “หยู่ถง ทำไมตอนที่ลู่เผิงเฟยตามจีบเธอ เธอถึงไม่ตอบตกลงล่ะ?”
“เรื่องนี้……” ฟางหยู่ถงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
มันก็จริง ลู่เผิงเฟยนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานะครอบครัวหรือรูปลักษณ์ภายนอกรวมไปถึงความสามารถเฉพาะตัว ต่างก็อยู่ในอันดับต้น ๆ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง นิสัยที่อ่อนน้อมถ่อมตนของลู่เผิงเฟย รวมทั้งการทะนุถนอมชื่อเสียงของตัวเองที่ไม่เหมือนกับคุณชายในระดับเดียวกันคนอื่น ๆ
สามารถพูดได้ว่า ลู่เผิงเฟยคนนี้สมบูรณ์แบบไร้ตำหนิ
แต่ก็เพราะความสมบูรณ์แบบที่มากเกินไปของลู่เผิงเฟย ดังนั้นในตอนที่เขาตามจีบตัวเอง จึงทำให้ตัวเองรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ความรู้สึกไม่จริงเช่นนี้มาพร้อมกับความรู้สึกห่างเหินของระยะห่าง ทำให้ฟางหยู่ถงแปลกใจเป็นพิเศษ เธอเองก็เคยลองดูเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีตรงไหนที่ลู่เผิงเฟยทำให้เธอรู้สึกใจเต้นเลยสักนิด
ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธลู่เผิงเฟยไป เพราะเธอกลัวว่าถ้ารับปากลู่เผิงเฟยไปแล้ว เธอจะต้องมีชีวิตที่ไร้รสชาติแบบนี้ไปตลอด
แต่ทว่า ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ หลังจากที่ได้รู้จักกับหลี่ฝาง เธอกลับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกใจเต้นได้อย่างน่าแปลกใจ
ก็เพราะความรู้สึกแบบนี้ ถึงทำให้เธอใกล้ชิด และคล้อยตามหลี่ฝางเช่นนี้
หรือแม้แต่ เธอยังแอบคาดหวังอยู่ในใจว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนในตอนนี้ จะเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เพียงแค่ละครตบตา
ไม่นาน ลู่เผิงเฟยก็ได้เดินเข้ามา นอกจากฟางหยู่ถงแล้ว ข่งจูกลับมีท่าทางตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ
เมื่อเห็นข่งจูมีท่าทางแบบนี้ หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะกระซิบถามฟางหยู่ถง: “สาวน้อยคนนี้คงไม่ได้ชอบลู่เผิงเฟยหรอกนะ?”
“ใช่แล้ว” ฟางหยู่ถงพยักหน้าอย่างจำใจเล็กน้อย
ส่วนในเวลานนี้ลู่เผิงเฟยกลับกำลังจ้องฟางหยู่ถงเขม็ง ในดวงตาคู่นั้นของเขาไม่มีคนอื่นอยู่เลย เขากล่าวกับฟางหยู่ถง: “ไม่เจอกันนานเลยนะ หยู่ถง”
“นั่นน่ะสิคะ พี่เผิงเฟย” ฟางหยู่ถงกล่าวกับลู่เผิงเฟยด้วยรอยยิ้มอย่างมีมารยาท
จากนั้น ลู่เผิงเฟยก็ได้หันไปทักทายข่งจูและสวู่เจินเจินอย่างเรียบ ๆ ข่งจูใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที ตื่นเต้นดีใจอย่างสุดขีด
ท้ายที่สุด ในตอนที่ลู่เผิงเฟยเลื่อนสายตาไปที่หลี่ฝางจริง ๆ สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นมีสีสันขึ้นมาอย่างสุดขีด เขาชะงักงันไปทันที
ส่วนข่งจู่ที่อยู่ด้านข้างเมื่อได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของลู่เผิงเฟย นึกว่าท่าทางไม่มีมารยาทของหลี่ฝางทำให้ลู่เผิงเฟยตกใจ จึงรีบกระซิบกับหลี่ฝาง: “นี่ รีบทักทายเร็วเข้า หยุดกินได้แล้ว!”