NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1127 ราชาอยู่บนเวทีเดียวกัน
ทันใดนั้น ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างสงบจิตสงบใจลง มีซูจื้อเย่อยู่ทั้งคน พวกเขาก็ไม่หวาดกลัวต่อฐานะยอดฝีมือนักรบที่ว่าของหลี่ฝางโดยสิ้นเชิง
และทางด้านหลี่ฝางในเวลานี้ หลังจากที่ข่งจูลังเลอยู่อีกหลายครั้ง ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถามความสัมพันธ์ระหว่างหลี่ฝางและลู่เผิงเฟย
เพราะถึงยังไงตอนที่พวกเธอทั้งสามคนฟังที่หลี่ฝางและลู่เผิงเฟยคุยกัน ก็ได้คาดเดาฐานะของหลี่ฝางอยู่ตลอดเวลา มันทำให้พวกเธออึดอัดแทบตายจริง ๆ
ลู่เผิงเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ก่อนหน้านี้เคยเจอกันมาสองสามครั้ง” คำตอบนี้ของเขา ก็เพราะหลังจากที่ได้ทราบว่าหลี่ฝางจงใจที่จะปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง เขาถึงได้กล่าวเช่นนี้
แต่ข่งจูไม่ได้อยากจะฟังคำตอบเช่นนี้หรอกนะ เธอเพียงต้องการทราบฐานะของหลี่ฝาง ว่าตกลงแล้วเป็นใครมาจากไหน
“แต่ว่า ตอนนี้พวกคุณสองคนก็นับว่าเป็นศัตรูหัวใจแล้วสินะ?” ข่งจูครุ่นคิดอยู่สักพัก จึงเปลี่ยนวิธีการพูดเพื่อทดสอบต่อไป
ลู่เผิงเฟยชะงักงันไปสักพัก อดไม่ได้ที่จะมองฟางหยู่ถงแวบหนึ่ง และพลันยิ้มขึ้นมา: “ไม่ เขาไม่ใช่”
เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกมา พลันทำให้ฟางหยู่ถงที่ไล่ตีข่งจูด้วยความเขินอายอยู่นั้นชะงักงันไปทันที
ไม่สนใจความประหลาดใจของทุกคน ลู่เผิงเฟยยังคงกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ดวงตาคู่นี้ของผมถึงแม้จะไปแหลมคมเหมือนคุณพ่อของผม แต่ก็มองอะไรได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ดังนั้น……”
ลู่เผิงเฟยจงใจเอ่ยเพียงครึ่งเดียว ฟังจนพวกข่งจูและสวู่เจินเจินงงงันไปหมด แต่เมื่อคำพูดนี้ตกเข้าที่หูของหลี่ฝางและฟางหยู่ถงนั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง เพราะพวกเขาเข้าใจดี เพียงแวบเดียวลู่เผิงเฟยก็สามารถมองความสัมพันธ์คู่รักจอมปลอมของทั้งสองคนออก
“ลู่เผิงเฟยคนนี้ สมกับที่เป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูลลู่จริง ๆ ร้ายกาจ” หลี่ฝางแอบชื่นชมอยู่ในใจ จู่ ๆ เขาก็ไอเบา ๆ ขึ้นมา และมองลู่เผิงเฟยอย่างเขินอาย
ถึงแม้ระหว่างหลี่ฝางและฟางหยู่ถงจะเป็นเพียงการแสดงละคร แต่เรื่องนี้จะให้พวกข่งจูรู้เข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นวันนี้คงจบไม่สวยแน่ ๆ ดังนั้น หลี่ฝางจึงได้แต่เพียงเตือนลู่เผิงเฟยอย่างเงียบ ๆ
ลู่เผิงเฟยเข้าใจภายในชั่ววินาทีเดียว จึงหาหัวข้อข้ามเรื่องนี้ไป พวกข่งจูผู้หญิงทั้งสองคนเหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ เหมือนกับว่าคาดเดาอะไรบางอย่างได้ จึงไม่ถามต่อไปอย่างชาญฉลาด ทุกคนต่างรักษาบรรยากาศกลมกลืนนี้ไว้โดยไม่ได้นัดหมาย
……
เวลาค่อย ๆ ผ่านไปจนมาถึงตอนกลางคืน งานเรื่องฉลองครบรอบวันเกิดครั้งนี้ก็ได้มาถึงจุดสูงสุด และดาววันเกิดในค่ำคืนนี้ และนั่นก็คือคุณย่างของฟางหยู่ถงโจวยู่ยิน ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นภายใต้การโอบล้อมอย่างพรั่งพรูของทุกคน
ถึงแม้หญิงชราจะอายุมากแล้ว แต่ยังคงมีชีวิตชีวาอยู่เลย ผมขาวเต็มหัว ดวงตาสว่างสดใส ร่างกายเองก็ค่อนข้างแข็งแรง
และกลุ่มคนที่สามารถยืนอยู่ที่ข้างกายของโจวยู่ยินในตอนนี้ได้ ดูก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่คนธรรมดา
“เห็นสี่คนที่ยืนอยู่ข้างกายคุณย่านั่นไหม? พวกเขาเป็นคนที่มีฐานะสูงที่สุดในงานนี้” ณ เวลานี้ ฟางหยู่ถงได้เอ่ยขึ้นมาเบา ๆ ที่ข้างกายหลี่ฝาง
คนที่อยู่ซ้ายสุดคือคุณพ่อของซูจื้อเย่ หลี่เฉิน สองท่านที่อยู่ข้าง ๆ คนหนึ่งเป็นคนใหญ่คนโต อีกคนคือภรรยาของเจ้าบ้านตระกูลสวู่ สวู่ยู่ และก็คือคุณป้าของเจินเจินนั่นเอง”
สวู่เจินเจินสาวสวยคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้จริง ๆ หลี่ฝางคิดอยู่ในใจ
“ส่วนคนสุดท้าย……” ฟางหยู่ถงพึ่งเอ่ยปากพูด ก็ได้ถูกเสียงที่น่ารังเกียจขัดจังหวะไป: “คนสุดท้ายท่านนั้น คือคนของตระกูลหยาง”
เป็นซูจื้อเย่ที่ไม่รู้ว่ามุดออกมาจากตรงไหนอีก
ณ เวลานี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่ทุกคนมองมา ซูจื้อเย่ก็ได้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ: “ท่านนั้นคือหยางเทียนลี่บุตรชายคนที่สามของคุณท่านหยางเซี่ยวหู่ ความจริงแล้วเดิมทีตระกูลหยางก็ไม่นับอะไร ตอนนี้กลับบุญหล่นทับ ตำแหน่งสถานะสูงขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ จะมีคุณสมบัติพอยืนอยู่กับทั้งสามท่านนั้นได้ยังไงกัน!”
กล่าวอยู่แบบนี้ ซูจื้อเย่เห็นว่าหยางเทียนลี่สามารถยืนอยู่กับคุณพ่อของตัวเองได้อย่างไม่คาดคิด ทั้งรู้สึกดูถูกเหยียดหยาม ทั้งรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
“ได้ยินมาว่าตระกูลหยางมีลูกสาวที่ดี ได้ลูกเขยเป็นปรมาจารย์กำลังภายใน ทำให้ฐานะของตระกูลพุ่งสูงขึ้นมาทันที อยู่ที่เมืองจินซานแห่งนี้ ไม่มีใครกล้าดูถูกอีก”
กล่าวอยู่เช่นนี้ น้ำเสียงของซูจื้อเย่ทั้งอิจฉาริษยา ทั้งดูถูกเหยียดหยาม เต็มไปด้วยรสชาติอันขมขื่น บางอย่าง ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าทรมานเพียงใด
“ตระกูลหยางมีปรมาจารย์กำลังภายในจริง ๆ แล้วงั้นเหรอ?” ข่งจูอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
แม้ว่าเรื่องนี้จะแพร่กระจายไปทั่ว แต่ถึงยังไงก็เป็นเพียงแค่ฉันเล่าให้คุณฟังคุณเล่าให้ฉันฟัง คนที่อายุยังน้อยอย่างพวกเธอ ไม่ทราบเรื่องราวที่แท้จริงเลยสักนิด
“แน่นอน ข่าวกรองของตระกูลซู ไม่มีทางผิดพลาด” ซูจื้อเย่กล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจ
“หยางฉงร้ายกาจจริง ๆ แม้กระทั่งปรมาจารย์กำลังภายในยังสามารถเอาอยู่หมัดได้!” ข่งจูอิจฉาสุดขีด: “ถ้าฉันเองก็ได้พบกับปรมาจารย์กำลังภายในเหมือนกันก็คงจะดี!”
“ตัวเล็ก ๆ อย่างเธออย่าคิดเลยเถอะ” ฟางหยู่ถงอดไม่ได้ที่จะลูบหัวเล็ก ๆ ของข่งจูพลางกล่าวหยอกล้อ: “หยางฉงสวยมากเชียวนะ อีกทั้งเธอยังมีขาเรียวยาวคู่หนึ่ง ขาเรียวยาวน่ะ!”
“หึ! ถ้าหากปรมาจารย์กำลังภายในคนนั้นเห็นฉันแล้วตกหลุมรักเข้าให้ล่ะ!” ข่งจูกล่าวพลางทำเสียงฮึดฮัด: “อย่ามาลูบหัวฉันนะ แล้วก็เลิกหาว่าฉันเตี้ยซะที!”
เมื่อได้ยินคำพูดของข่งจู หลี่ฝางเกือบจะสำลักน้ำลายตัวเอง จึงรีบไอออกมา เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง
เธอพูดแบบนี้ต่อหน้าคนที่เธอนินทา มันทำให้คนเขินอายมากเลยนะ!
“เอ๊ะ ผมคิดขึ้นมาได้แล้ว” ในตอนนั้นเอง ซูจื้อเย่ก็ได้หันไปมองหลี่ฝางอย่างไม่ประสงค์ดีพลางยิ้มเย้ยขึ้นมา: “หัวหน้ารปภ. ของพวกเรา ชื่อเดี๋ยวกันกับปรมาจารย์กำลังภายในท่านนั้นเชียวล่ะ! หลี่ฝาง นายคงจะไม่ได้รู้จักกับปรมาจารย์กำลังภายในท่านนั้นหรอกนะ!”