NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1129 พ่อลูกทะเลาะกัน
ก็เพราะชื่อของหลี่ฝาง ทำให้ระยะนี้พูดได้ว่าเขาทำอะไรก็ราบรื่นไปหมด
แม้แต่การแย่งชิงด้านธุรกิจกับหลี่เฉินคุณพ่อของซูจื้อเย่เมื่อหลายวันก่อน คิดไม่ถึงว่ายังทำให้เขาสามารถแย่งชิงธุรกิจมาได้อย่างง่ายดาย
จะต้องรู้ว่า ถ้าพูดถึงความสามารถ เขาไม่มีคุณสมบัติพอแม้แต่จะถือรองเท้าให้หลี่เฉินด้วยซ้ำ ตามปกติแล้ว เขาไม่มีทางที่จะคว้าธุรกิจนั้นมาได้
ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเหตุผลเดียว นั่นก็คือหลี่ฝาง
เมื่อนึกถึงตรงนี้ หยางเทียนลี่กำลังจะทักทายหลี่ฝาง กลับถูกสายตาของหลี่ฝางขัดขวางเอาไว้ จึงได้แต่เพียงหุบปากไปอย่างหวาดกลัว ไม่ต้องพูดถึงความทุกข์ทรมานในหัวใจเลย
ฟางจื้อคุณพ่อของฟางหยู่ถงและหลี่เฉินคุณพ่อของซูจื้อเย่ กลับมีท่าทีที่ไม่พอใจ
กลับเป็นสวู่ยู่ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียว ที่ไม่ได้แสดงท่าทางใด ๆ เลย เพียงแค่มองสถานการณ์อยู่อย่างเงียบ ๆ
ในเวลานี้ เจ้าพ่อคนนั้นได้กล่าวด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย: “มือนี้ของพี่ฟาง น่าสนใจดีนะ”
“แค่ก ๆ เป็นพวกเด็ก ๆ เขาเล่นกัน อย่าไปใส่ใจอะไรเลย” ฟางจื้อกล่าวไป พลางมองไปที่ฟางหยู่ถงด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ฟางหยู่ถงไม่ได้สังเกตเห็นสายตาคุณพ่อของตัวเอง แต่หลี่ฝางกลับสังเกตเห็นแล้ว และรู้สึกน่าหัวเราะขึ้นมาทันที ฟางจื้อคนนี้เหมือนกับว่าจะไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ ทำไมถึงได้มีความโกรธแค้นตัวเองมากขนาดนี้ล่ะ?
ผ่านไม่สักพัก งานเลี้ยงตอนเย็นก็ได้เริ่มขึ้น ในเวลานี้ ฟางหยู่ถงกลับได้รับข้อความหนึ่งฉบับ กล่าวขอโทษหลี่ฝางเสร็จแล้วก็ได้จากไปทันที
เพราะว่าฟางจื้อคุณพ่อของเธอต้องการพบเธอเพียงลำพัง
และภายในห้องหนังสือของฟางจื้อ ฟางจื้อมองฟางหยู่ถงด้วยท่าทางทอดถอนใจ พลางกล่าว: “หยู่ถง ลูกทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
“หนูทำอะไรเหรอคะ?” ฟางหยู่ถงกล่าวอย่างไม่ยอมก้มหัวเล็กน้อย
“ลูกว่า ทำไมวันนี้ลูกถึงได้พาไอ้กระจอกนั่นมาด้วย?” ฟางจิ้อกล่าวด้วยความโมโหที่ไม่ได้ดั่งใจเล็กน้อย
“ทำไมหนูถึงจะพาเขามาไม่ได้ล่ะ?” ฟางหยู่ถงกล่าว: “คุณย่าเป็นคนบอกให้หนูพาเขามาด้วย นอกจากนี้ เขายังเป็นแฟนของหนูด้วย!”
“รปภ. เล็ก ๆ คนหนึ่ง มีคุณสมบัติอะไรมาเกาะตระกูลฟาง!” ฟางจื้อโมโหขึ้นมา ฝ่ามือข้างหนึ่งตบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ทำให้ฟางหยู่ถงตกใจขึ้นมา
ที่แท้แล้วซูจื้อเย่ได้แอบบบอกเรื่องนี้กับฟางจื้อเป็นการส่วนตัว ถึงได้ทำให้ฟางจื้อรังเกียจหลี่ฝางเช่นนี้
“รปภ. แล้วทำไมคะ!” ฟางหยู่ถงเถียงอย่างไม่ยิมไปหนึ่งประโยค จากนั้นกล่าวต่อ: “นอดจากนี้แล้วหลี่ฝางยังมีฝีมือแข็งแกร่ง! จะต้องเป็นยอดฝีมือที่ซ่อนตัวตนแน่! ไม่แน่ว่า รปภ. อาจจะเป็นเพียงวิธีที่เขาใช้ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเองก็ได้!”
“หึ ฝีมือแข็งแกร่ง จะแข็งแกร่งสักเท่าไหร่กัน?” ฟางจื้อยังคงไม่หายโมโห: “ตอนนี้ฝีมือของเขาอยู่ในระดับไหน? กำลังภายนอกช่วงหลัง? แดนสุดกำลังภายนอก?”
ถึงยังไงหลี่ฝางก็อายุยังน้อยแบบนั้น แม่แน่ว่ากำลังภายนอกช่วงหลัง ก็ยังถือว่าชมมากเกินไปแล้ว
ฟางหยู่ถงเองก็ยากที่จะเอ่ยปากไปชั่วขณะ เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าหลี่ฝางแข็งแกร่งเพียงใด
“เฮ้อ หยู่ถง ลูกดูลูกสิ เลือกใครไม่เลือก กลับไปเลือกไอ้กระจอกนั่น?” ฟางจื้อดูกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก: “คนแรกก็ลู่เผิงเฟย เป็นถึงคุณชายของตระกูลอันดับต้น ๆ ลูกบอกว่าไม่เหมาะสม พ่อแม่เองก็สนับสนุนลูก เพราะถึงยังไงซะตระกูลของเราก็ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องขายลูกสาวเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลลู่ ต่อมาก็มีซูจื้อเย่ ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลูกมาตลอด แต่ลูกก็ปฏิเสธไป!”
ฟางจื้อยิ่งกล่าวยิ่งโมโห: “ลูกชายของลุงเหอของลูกก็ไม่เลว เดิมทีพ่อได้คุยกับเขาไว้ซะดิบดี ลูกคิดว่าวันนี้ลุงเหอของลูกมาเพราะใครกันแน่?”
“ลุงเหอของลูกในวันนี้เป็นถึงเจ้าพ่อ ในอนาคตอาจจะยึดครองได้อย่างมั่นคงก็เป็นไปได้ สามารถมาที่ตระกูลฟางของพวกเราสักครั้ง ก็ไม่ใช่มาแทนลูกชายของตัวเองหรอกเหรอ? แต่ลูกกลับพาหลี่ฝางขึ้นไปอวยพรคุณย่าโดยตรง ลูกจะให้พ่อเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!”
“ลูกว่า ไอ้หลี่ฝางคนนั้นมันมีอะไร? มันมีเงินเหรอ? มันมีอำนาจอิทธิพลไหม? มันมีความสามารถพอให้ลูกตั้งหลักตั้งตัวได้ไหม?”
ฟางหยู่ถงเองก็ยิ่งโมโหขึ้นมาเหมือนกัน อดไม่ได้ที่จะตะคอกกับคุณพ่อของตัวเอง: “แล้วยังไงล่ะคะ! หนูไม่ชอบพวกเขา ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ!”
“ชอบมันจะมีประโยชน์อะไร!” ฟางจื้อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ: “ถ้าหากตอนไหนที่เธอไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน ฉันจะดูสิว่าเธอจะพูดเรื่องชอบพอกับฉันยังไง!”
ฟางหยู่ถงโมโหจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว เธอไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมคุณพ่อขจองตัวเองถึงไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ชอบพอคนคนหนึ่งก็คบหาเป็นแฟนกัน ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจเลยล่ะ?
แต่ทว่ามองดูลูกสาวของตัวเอง ถึงแม้ฟางจื้อจะโมโห ในใจกลับทอดถอนใจอยู่ไม่หยุด
ลูกสาวของตัวเองคนนี้ถูกตัวเองปกป้องดีเกินไปมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยลิ้มลองรสชาติของความลำบาก จะรู้ว่าชีวิตของคนนั้นไม่ง่ายได้ยังไง?
ทุกคนต่างก็มีอุดมคติ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นจริง จะมีสักกี่คนที่ไม่ยอมก้มหัว?
โดยเฉพาะสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างความรู้สึก มีอยู่หลายครั้ง ที่อ่อนแอเป็นอย่างมากเมื่ออยู่ต่อหน้าความจริงที่โหดร้าย
และมีอยู่หลายครั้ง สิ่งที่ทำลายความรู้สึก ก็คือเรื่องเพียงเล็กน้อยในชีวิต
ทอดถอนใจอยู่สักพัก ฟางจื้อก็ยังคง ไม่ใจแข็งพอที่จะไปต่อว่าลูกสาวของตัวเอง จึงได้แต่เพียงกล่าวโน้มน้าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง: “หยู่ถง ครั้งนี้ฟังพ่อนะ หาคนที่มีฐานะเหมาะสมกัน นิสัยโอเค พ่อจะไม่ขัดขวางแน่ ไม่ว่าจะเป็นลู่เผิงเฟยหรือลูกชายของลุงเหอ หรือจะเป็นซูจื้อเย่ ต่างก็ได้ทั้งนั้น หรือจะเป็นลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลหยาง พ่อล้วนไม่ขัดขวางทั้งนั้น……”
แต่ทว่าฟางหยู่ถงไม่มีกะจิตกะใจจะฟังฟางจื้อพูดต่อไปเลยสักนัด เธอเดินออกไปทันที ปล่อยไว้เพียงฟางจื้อให้ฟังเสียงปิดประตูที่สั่นคลอนหูอย่างทอดถอนใจ
หลี่ฝางในเวลานี้ กำลังนั่งอยู่ที่มุมมุมหนึ่งที่ไม่สะดุดตาเพียงลำพัง รอฟางหยู่ถงออกมา
สวู่เจินเจินและข่งจูได้ไปหาเพื่อนของพวกเธอแล้ว ลู่เผิงเฟยเดิมทีอย่างจะคุยกับหลี่ฝาง แต่หลี่ฝางมักรู้สึกว่าผู้ชายสองคนอยู่ด้วยกันมันแปลก ๆ ก็เลยไม่ให้เขาอยู่ที่นี่
ดังนั้นเขาจึงนั่งอยู่ตรงนี้เพียงคนเดียว