NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1148 เจิ้งเหวินซิงต้องตาย
เจิ้งชิงส่ายหน้าแผ่วเบากับประโยคของหลี่ฝาง พร้อมกล่าว “ตระกูลเจิ้งออกหนึ่งร้อยล้าน เงินสดของข้าน้อยรามือ เรื่องนี้ก็ถือว่าผ่านไปแล้ว”
เจิ้งเหวินซิงที่เป็นคนในตระกูลเจิ้ง ไม่มีทางที่จะยกเขาให้กับหลี่ฝาง ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับตบหน้าตัวเองงั้นเหรอ?
เจิ้งเหวินซิงที่อยู่ด้านหลังปากสั่น
เริ่มแรก เขาตั้งรางวัลค่าหัวของหลี่ฝางที่สองร้อยล้าน แถมตอนท้ายยังขึ้นเป็นห้าร้อยล้าน ตอนนี้ปู่ของตนออกหนึ่งร้อยล้านจะทำให้หลี่ฝางพอใจได้อย่างไรกัน?
เจิ้งชิงที่เผชิญกับหลี่ฝางไม่หวั่นไหว จึงคิดว่าหนึ่งร้อยล้านคงจะน้อยไป จึงได้แต่ขึ้นราคา “ห้าร้อยล้าน!”
หลี่ฝางยังคงนิ่งเฉยเช่นเคย
เขาต้องการให้เจิ้งเหวินซิงตาย เพราะฝ่ายตรงข้ามต้องการชีวิตของเขา ในเมื่อนับชีวิตเข้ามาแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องจะที่ตีค่าได้ด้วยเงินทอง
ในเวลานี้ ปรมาจารย์ถังที่นิ่งเงียบมาตลอด ก็ปริปากพูด “ข้าน้อยคือหลี่ฝางใช่ไหม ปรมาจารย์หลี่?”
เมื่อประโยคนั้นหลุดออกมา ทุกคนในงานต่างตกตะลึง
ทุกคนในงานต่างก็เป็นชนชั้นสูง ชื่อเสียงของหลี่ฝางนั้นเคยได้ยินอยู่แล้ว
“กระผมถังโจว ปรมาจารย์หลี่ไม่ทราบว่าเคยได้ยินบ้างไหม” ถังโจวกล่าวอย่างเชื่องช้า
“เกินกำลังภายในสู่แดนเต๋า คุณมีอะไรจะพูดไหม?” หลี่ฝางหรี่ตา
อย่างไรซะ ข่าวคราวที่เขาจะมาเมืองตงนั้น ไม่ได้ทำการปกปิดแต่อย่างใด หลิวฮุยที่รู้อยู่แต่แรกได้รั้งเขาเอาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เมื่อรู้ตัวว่าการรั้งของเขานั้นไร้ผล หลิวฮุยที่ไร้หนทางจึงนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเจิ้งให้กับหลี่ฝางและหวังว่าหลี่ฝางจะไม่ทำให้เกิดเรื่องใหญ่
ในนี้ก็มีถังโจวที่อายุสี่สิบห้า ก็ได้เป็นกำลังภายในแปดสิบเข้าสู่แดนเต๋านักรบมากฝีมือ
“กระผมกับศิษย์น้องเจิ้งรู้จักกัน เมื่อสมัยหนุ่มกระผมอายุมากกว่าเขาสี่ปี เขานับผมเป็นศิษย์พี่ เรื่องในวันนี้กระผมไม่ยุ่งเกี่ยวไม่ได้”
ถึงโจวส่ายหน้ากล่าว “ปรมาจารย์หลี่ชีวิตมีแต่มองไปข้างหน้า แม้คนได้ล้มตายไปมากมาย แต่คนที่มีชีวิตอยู่อย่างไรก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป แก้แค้นกันไปมาเมื่อไหร่จะจบสิ้น ไม่อย่างนั้นจะเปลี่ยนวิธีอื่นเพื่อคลี่คลายความบาดหมางนี้ได้”
หลังจากที่รู้ว่าคนตรงหน้าคือหลี่ฝาง เจิ้งชิงก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีทางจบง่ายๆ แน่ จึงให้ราคาที่สูงส่ง
ราคานี้เป็นราคาที่เงินสดที่สูงที่สุดที่ตระกูลเจิ้งจะให้ได้
ทรัพย์สินและกระแสเงินสดเป็นคนละเรื่อง ตระกูลเจิ้งมีทรัพย์สินที่หนาแน่น แต่กระแสเงินสดนั้นมีจำกัด
เมื่อได้ยินตัวเลขนั้น ทุกคนในงานก็ต่างตกตะลึง เงินสดจำนวนมากขนาดนี้ จะมีใครมากมายที่ไม่ตาร้อน
เมื่อได้ยินคำของเจิ้งชิง ปฏิกิริยาของหลี่ฝางนั้นก็เยือกเย็นมากกว่าเดิม
“ผมบอกแล้ว ว่าถ้าไม่ตายก็ไม่รามือ”
เจิ้งชิงและถังโจวสบสายตากัน เหมือนว่าต่างฝ่ายต่างได้เห็นความลำบากใจของอีกฝ่าย
เจิ้งเหวินซิงเองก็ได้เห็นสิ่งนี้เช่นเดียวกัน พลันคุกเข่าลงอย่างหวาดผวา พร้อมกล่าวเสียงหลง “ปู่ผมยังหนุ่ม ผมยังเปลี่ยนตัวเองได้ ผมยังไม่อยากตาย!”
เจิ้งเหวินซิงมีอำนาจและเงินทองมากมาย อยากจะใช้อย่างไรก็ได้ แล้วจะยอมไปตายได้อย่างไร?
เมื่อเจิ้งชิงเห็นเจิ้งเหวินซิงเช่นนั้น ไม่วายถอนหายใจมองไปทางถังโจว
“พี่ถัง……”
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอก” ถังโจวส่ายหน้า พลางกล่าว “ศิษย์น้องเจิ้ง กระผมติดหนี้บุญคุณของท่าน ผมจะคืนให้ในตอนนี้”
เขากล่าวพร้อมกันไปทางหลี่ฝาง
“ปรมาจารย์หลี่ ท่านเป็นนักรบ พูดด้วยความสามารถของตัวเองดีกว่า”
“ตรงนี้เหรอ?” หลี่ฝางนึกถึงคนรอบข้าง พลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน
หากพวกเขาสู้กันตรงนี้โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด คนที่อยู่ที่นี่คงไม่มีใครมีชีวิตรอดไปได้แน่
“ไม่ใช่อยู่แล้ว!” ถังโจวมีสีหน้าเคร่งครัด “สามวันให้หลัง บนภูเขาจิ่วเจ หากกระผมแพ้เจิ้งเหวินซิง ก็แล้วแต่ท่านจะจัดการ ห้าพันล้านก็ยังเป็นของท่านเช่นเคย แต่หากท่านแพ้เรื่องนี้เป็นอันหายกัน เป็นไง?”
เมื่อได้ยินว่าชีวิตของตนเองอยู่ในการเดิมพัน ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า
แต่เมื่อนึกถึง หากไม่มีการเดิมพันในครั้งนี้ ตอนนี้เขาก็คงจะตายไปแล้ว
ในใจเจิ้งเหวินซิงได้แต่ยอมรับชะตากรรมอย่างไร้หนทาง
หลี่ฝางไตร่ตรอง สักพักใบหน้าเผยรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“เจิ้งเหวินซิง……”
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ฝาง ในใจของถังโจวก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น
ทันใดนั้น ไม่ทันรอให้ถังโจวมีการเคลื่อนไหวใดๆ ก็เห็นร่างของหลี่ฝางแว็บผ่าน กำปั้นก็ตกอยู่บนร่างของเจิ้งเหวินซิง
“……วันนี้ต้องตาย!”
เมื่อทุกคนในการไหวตัวได้ หลี่ฝางก็ได้กลับมายังที่เดิมเป็นอันเรียบร้อย ทว่าเจิ้งเหวินซิงกลับยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไหวติง ดวงตาเบิกกว้างร่างกายแข็งทื่อ
หัวใจของเขาถูกหมัดของหลี่ฝางจนหยุดเต้น
“ไม่!”
ทันใดนั้นเจิ้งชิงคำรามอย่างโกรธแค้น หลังสิ้นเสียงคำราม เจิ้งชิงที่เจ็บปวดแสนสาหัสเป็นลมหยุดหายใจล้มไปด้านหลัง แต่ได้ถังโจวประคองเอาไว้
“หลี่ฝาง……” ถังโจวจ้องเขม็งหลี่ฝาง ก่อนจะฉายแววอาฆาตในสายตา
เขาไม่คิดเลย ว่าหลี่ฝางคิดจะฆ่าก็ฆ่าเลยต่อหน้าเขา เพราะงั้นจึงช้าไปหนึ่งก้าว จนทำให้เจิ้งเหวินซิงหมดลมหายใจทันที
“เดิมพันนี้ ผมรับปากสามวันให้หลัง เตรียมให้ดี”
หลี่ฝางหมุนตัว พลางทิ้งท้ายประโยคอย่างเย็นชา ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
แผ่นหลังที่ค่อยๆ ลับตาของหลี่ฝาง ทุกคนในที่นี้ต่างรู้ดี ว่าผืนแผ่นดินเมืองตงกำลังจะเปลี่ยนไป