NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1162 หยางโล่จื้อ
ณ ที่บางแห่งในเมืองตง ในตอนนั้นไท่ซางก็กอดซ้ายคนขวาคน สองสาวนัวเนียและกำลังป้อนผลไม้ให้เขา คนนึงกำลังนวดเขาเบาๆ ไท่ซางสีหน้าผ่อนคลาย สบายใจสุดๆ
ขณะนั้นตรงข้ามยังมีชายวัยกลางคนคนนึงพลางยืนคำนับ พลางยิ้มพูดด้วยสีหน้าประจบประแจงไท่ซาง: “ปรมาจารย์ไท่ซาง ไม่ทราบว่าท่านพอใจในการจัดการครั้งนี้มั้ยครับ?”
“ไม่เลวๆ” ไท่ซางพยักหน้า และเหลือบมองชายวัยกลางคน แล้วพูดพลางปัดมือ: “นายออกไปก่อน มีเรื่องอะไรค่อยมาเรียกฉัน”
ชายวัยกลางคนผู้นั้นก็ดีใจ และโค้งคำนับพลางพูดอีกครั้ง: “ขอบคุณมากครับปรมาจารย์ไท่ซาง……”
ยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มคนนึงแทรกตัวเข้ามา และตะโกนด้วยความตกใจ: “พ่อ ไอ้เวรนั่นมันตีมาถึงแล้ว!”
“หึ รนหาที่ตาย!” ใบหน้าของชายวัยกลางคนโมโห เขารีบหันกลับมาพยักหน้าให้ไท่ซางพลางพูด: “ปรมาจารย์ไท่ซางครับ……”
“น่ารำคาญจริงๆ” ไท่ซางทำสีหน้าไม่อยากปล่อยสองสาว และขมวดคิ้วเดินออกไป
พ่อลูกสองคนด้านหลังสบตากัน ต่างทำหน้าพอใจ และเดินตามหลังไท่ซางออกไป
ไท่ซางพูด พลางเดินออกไปก่อน ด้านหลัง ชายวัยกลางคนนั้นดูมีความสุขเหลือเกิน และรีบตามออกไป
สำหรับปรมาจารย์ไท่ซางที่ไปเจออย่างบังเอิญ พวกเขานั้นมีความเชื่อใจอย่างแน่นอน
เมื่อสองวันก่อนพวกเขาเห็นกับตาตัวเองว่าปรมาจารย์ไท่ซางท่านนี้ สู้กับคนร่างใหญ่สิบกว่าคนจนล้มไปกองกับพื้นได้ด้วยตัวคนเดียว ที่ใช้ ก็มีแค่มือข้างเดียว แต่ละคนโดนตบไปทีเดียวเท่านั้น
ส่วนปรมาจารย์ไท่ซางที่เดินไปถึงด้านนอก กลับไม่ได้เห็นผู้คนมากมายมาล้อมไว้ เห็นเพียงแค่ชายผิวดำร่างสูงอย่างกับหอไอเฟล กำลังจ้องเขม็งมาที่นี่เท่านั้น
แค่คนคนเดียว ก็ทำให้กลุ่มรปภ.ที่เผชิญหน้ากับเขาไม่กล้าขยับเลย
เพราะว่ามีรปภ.ที่นอนกองอยู่กับพื้นเป็นบทเรียน
ชายร่างสูงนั้นแค่ต่อยคนละหมัด คนพวกนั้นก็ลุกไม่ขึ้นกันหมดเลย คนที่เหลือก็ไม่ได้โง่ ทำไมถึงต้องเข้าไปไฝว้กับเขาด้วย
“อย่ามาขวางทางฉัน ฉันไม่อยากต่อยพวกนายจนตาย!” ในที่สุดชายร่างสูงนั่นก็หมดความอดทน แสยะยิ้มอย่างโหดเหี้ยม และพุ่งเข้าไปตรงประตูใหญ่
แต่แค่เมื่อเขาพุ่งเข้ามาถึงหน้าประตู ก็เห็นชายผิวดำร่างบางเดินออกมาจากประตู และถีบเข้าไปที่ท้องของชายร่างสูง
เสียงดังปัง ทำเอาชายร่างสูงนั้นถูกถีบจนกระเด็นปลิวออกไป และไปกระแทกกับผนังที่ไกลออกไปหลายสิบเมตรอย่างแรง จนทั้งร่างประทับแนบกับกำแพง หลังจากกระอักเลือดออกมาก็เงียบไป
ส่วนชายร่างบางนั้นก็คือปรมาจารย์ไท่ซาง ทำสีหน้าไม่พอใจสุดๆ พลางพูดด่า: “เสียเวลากูจริงๆ เลยวุ้ย!”
ไท่ซางเหลือมองพ่อลูกคู่นั้นอย่างไม่พอใจสุดๆ และพูดหึ: “แค่สาวสองคน จะคู่ควรกับฐานะของฉันได้ยังไง แลกกับการที่ฉันออกโรงให้ครั้งนี้ พวกนายไปหาสาวสวยมาเพิ่มให้ฉันอีกสองคน!”
พ่อลูกคู่นั้นแสดงให้เห็นถึงสีหน้าลำบากใจ แต่เมื่อไท่ซางส่งสายตาดุดันมาก็เปลี่ยนคำพูดเป็นประจบทันที: “ไม่มีปัญหาครับ พวกเรา……”
“ไท่ซาง ช่วงนี้นายไม่เลวนี่?” ในขณะนั้น ก็มีเสียงที่เย็นชาดังขึ้นจากข้างหูคนดู
พ่อลูกคู่นั้นหันไปมองอย่างตกใจและโมโห อยากจะดูว่าใครกันที่กล้าเรียกชื่อปรมาจารย์ไท่ซางห้วนๆ แบบนี้
และที่ทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือ ไท่ซางที่ท่าทีดูสูงส่งเมื่อครู่ เมื่อได้ยินเสียงนี้สีหน้ากลับเปลี่ยน ใบหน้าของเขาปรากฏความประจบขึ้นมาทันที และยิ้มพลางคำนับเล็กน้อย: “ลูกพี่ ผมแค่ออกมาพักผ่อนนิดหน่อย พักผ่อนนิดหน่อยน่า……”
เสียงเย็นชานั้นหึอย่างเย็นชาครั้งนึงพลางพูด: “เอาล่ะ ไปเถอะ!”
“ครับ ลูกพี่!” ไท่ซางรีบก้าวเท้า ด้วยความเร็วสุดๆ ก็หายไปจากสายตาของพ่อลูกคู่นั้น
ทิ้งให้พ่อลูกคู่นั้น ยืนสับสน ไม่รู้ว่าจู่ๆ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ที่เมืองจินซาน คฤหาสน์ตระกูลหยาง
“คนต่างชาติพวกนั้นต่างผิดสัญญากันหมดจริงๆ เหรอ? พวกเขาเป็นบ้ากันหรือยังไง?” หยางเทียนลี่มองหยางฉงอย่างอึ้งๆ ราวกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูด
“ถูกแล้ว นอกจากความร่วมมือของต่างประเทศ คนในประเทศพวกนั้นตอนนี้กระสับกระส่ายกันนิดหน่อย” หยางฉงพูดอย่างนิ่งๆ
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้!” หยางเทียนลี่รู้สึกแย่สุดๆ นี่ล้วนแต่เป็นการร่วมมือทางธุรกิจที่เขารักษามาอย่างยากลำบาก
คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะลงมือเร็ว และโหดเหี้ยมขนาดนี้
เห็นทีว่านี่เป็นการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแล้ว คงเล็งตระกูลหยางไว้นานแล้ว เมื่อนายท่านหยางจากไป ก็จะลงมือทันที นี่มันเหี้ยมจริงๆ !
เมื่อเทียบกับหยางเทียนลี่ หยางฉงกลับทำหน้านิ่งๆ และพูด: “เรื่องพวกนี้ตอนนี้เราอย่าเพิ่งไปสนใจ รอให้ส่งคุณปู่ไปอย่างสงบแล้ว ค่อยมาหาทาง”
“อะไรนะ? เธอยังคิดจะหาทางอะไร” ทันใดนั้นหยางเทียนลี่ก็จ้องเขม็งไปทางหยางฉงและตะคอกขึ้น “เส้นทางธุรกิจของตระกูลหยางกำลังถูกตัดแล้ว ยังจะคิดหาทางอะไรอีก!หลี่ฝางบอกว่าจะรีบกลับมาไม่ใช่ไง ไหนล่ะคน!”
“ระวังคำพูดที่นายพูดกับฉันด้วย คุณอาซาน!” เสียงเย็นชาของหยางฉงดังขึ้น “ฉันคือหัวหน้าของตระกูลหยาง ถ้านายยังคิดจะใช้ท่าทีแบบนี้กับฉันต่อ ฉันไม่ลังเลที่จะใช้กฎของตระกูล!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางฉง หยางเทียนลี่ก็ชะงักไป จู่ๆ ก็เหมือนราวกับนึกขึ้นได้ ว่าตอนนี้หยางฉงได้เป็นหัวหน้าตระกูลหยางไปแล้ว
เมื่อเห็นสีหน้าของหยางเทียนลี่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หยางฉงจึงหึอย่างเย็นชา และไม่ได้ตำหนิต่อ
“เรื่องที่ตอนนี้หลี่ฝางกลับมาแล้ว จะให้พวกนายรู้ได้ยังไง?” หยางฉงแอบคิดอยู่ในใจ ในใจเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวหลี่ฝาง