NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1173 คนที่คิดถึงทุกวันคืน
แต่เมื่อมือของเขาเพิ่งจะเอื้อมไปจับที่จับประตูก็ต้องชะงักไป เขากำมือพลางปล่อยมือ เป็นแบบนี้ซ้ำไปมาหลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่มีความกล้าที่จะเปิดประตูรถ
“หลี่ฝาง แกนี่มันขี้ขลาดจริงๆ !” หลี่ฝางก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ ในตาก็มีแต่ความหงุดหงิดไม่พอใจ
ฉินวี่เฟยนั้นอยู่ไกลๆ แต่ก็เห็นรถมายบัคสีดำจอดอยู่ที่หน้าประตูบ้านของตัวเอง ถึงแม้ทะเบียนรถจะไม่คุ้นตา แต่ไม่รู้ว่าทำไมในใจของฉินวี่เฟยนั้นกลับรู้สึกคุ้นเคยมาก เลยอดไม่ได้ที่จะมองไปหลายครั้ง
หลี่ฝางที่อยู่ในรถได้สบตากับฉินวี่เฟย ถึงแม้จะรู้ว่าเธอมองไม่เห็นตัวเอง แต่กลับรู้สึกกลับจนหดตัวลง เพื่อซ่อนตัวเองเอาไว้
ถึงแม้ในรถนั้นจะมืดดำ และมองอะไรไม่เห็นเลย แต่สัมผัสที่หกของผู้หญิงนั้นกลับทำให้ฉินวี่เฟยไม่ขยับฝีเท้า เธอคิดว่าในรถนั้นมีคน แถมคนในรถนั้นจะต้องเป็นคนที่เธอคิดถึงทุกวันคืนอย่างแน่นอน
เมื่อลังเลอยู่สักพัก ฉินวี่เฟยตัดสินใจเดินเข้าไปดูให้แน่ชัด หลี่ฝางนั้นมองฉินวี่เฟยที่เข้ามาใกล้มากข้นเรื่อยๆ ในใจก็แทบจะทะลุออกมาเลยทีเดียว
เขาที่ผ่านอะไรมามากมายแต่ก็เริ่มกลัวแล้ว มือทั้งสองนั้นก็มีเหงื่อแตกออกมา ขณะที่ฉินวี่เฟยอยู่ห่างจากรถเพียงไม่กี่ก้าวนั้น ก็มีรถเฟอร์รารีสีแดงขับเข้ามาอย่างกะทันหัน ก่อนจะมาจอดอยู่ตรงหน้าของเธอ
“สาวสวย ดึกขนาดนี้อยู่คนเดียวเหรอ?อยากมาสนุกกับพี่ชายไหม?” ในรถสปอร์ตนั้นมีชายอายุราวๆ ยี่สิบกว่าถึงสามคน แต่งตัวอย่างหล่อเหลา ส่วนคนที่ขับรถนั้นก็ผิวปากให้ฉินวี่เฟย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกี้ยวพาราสี
ใบหน้าของฉินวี่เฟยเย็นชาลง ก่อนจะเดินเข้าไปที่ประตูบ้าน โดยที่ไม่ได้มองชายสามคนนั้นเลย
“เห้อ อย่าเพิ่งไปเลย!เราไม่ใช่คนร้ายนะ แค่เห็นคุณสวยเท่านั้นเอง อยากเป็นเพื่อนด้วยเท่านั้นเอง” ไอ้ผมเหลืองที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับเมื่อได้เห็นฉินวี่เฟยกำลังจะไป ก็ลงจากรถก่อนจะขวางเธอเอาไว้ ด้วยใบหน้าที่หลงใหล ใบหน้านั้นมันน่ารังเกียจจนไม่รู้จะน่ารังเกียจอย่างไร
“ขอโทษด้วย ตอนนี้ฉันกำลังจะกลับบ้าน คุณหลบให้หน่อย” ฉินวี่เฟยโกรธเป็นอย่างมาก แต่ไม่กล้าใช้ไม้แข็ง เลยทำได้เพียงปฏิเสธความต้องการของไอ้ผมเหลือง
แต่ยิ่งฉินวี่เฟยปฏิเสธ ไอ้ผมเหลืองก็ยิ่งมีแรงมากขึ้น ก่อนจะยื่นมือออกมาขวางฉินวี่เฟยเอาไว้ ใบหน้านั้นก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาใกล้ฉินวี่เฟยมากขึ้น
“อย่ารีบปฏิเสธขนาดนั้น เหล่าพี่ๆ เป็นคนมีเงินทั้งนั้นเลย ถ้าเกิดว่ามาอยู่กับพวกเราสักคืน คุณจะได้ประโยชน์มากมาย มาให้หอมสักหน่อยเถอะ”
เมื่อพูดจบ ไอ้ผมเหลืองก็ยื่นมือออกมาจับใบหน้าของฉินวี่เฟย ก่อนจะเอาปากเข้ามาจูบเธอ ฉินวี่เฟยจะเคยได้รับความน่าน้อยใจแบบนี้ที่ไหนกัน เลยเอากระเป๋าของตัวเองมาฟาดใบหน้าของไอ้ผมเหลือง บัตรสีทองนั้นฟาดไปกับจมูกของไอ้ผมเหลือง เพียงไม่นานก็มีเลือดไหลออกมาจากรูจมูกของเขา
“ฮ่าๆ คุณชายหวง คุณถูกผู้หญิงคนหนึ่งตบเข้าให้แล้ว คุณไหวไหมนะ?”
“คุณชายหวง ไม่จำเป็นต้องอ่อนโยนกับผู้หญิงแบบนี้ ใช้ไม้แข็งไปเลยสิ”
……
คนอีกสองคนในรถเมื่อได้เห็นไอ้ผมเหลืองโดยทำร้าย ก็หัวเราะอยู่ในรถอย่างสนุกสนาน ชายที่ถูกเรียกว่าคุณชายหวงนั้นเช็ดเลือดที่จมูกของตัวเอง ก่อนจะถุยน้ำลายลงพื้น
“ถุย หญิงสารเลว ให้เกียรติดีๆ ไม่ชอบ!กล้ามาทำร้ายข้า คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ” คุณชายหวงด่าไปพลางจับแขนของฉินวี่เฟย ก่อนจะพยายามลากขึ้นไปบนรถ
ฉินวี่เฟยจะไปยอมที่ไหน เธอเลยยึดยื้อสุดกำลัง ตอนนี้เธอทั้งกลัวและก็ไร้ทางช่วยเหลือ ใครจะไปรู้ว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ที่หน้าบ้านของตัวเอง ถ้าหลี่ฝางอยู่ก็คงดี คงจะไม่มีใครมาแกล้งเธอได้
เธอเป็นเพียงหญิงบอบบางเลยสู้คุณชายหวงไม่ได้ แววตาก็เห็นเธอที่กำลังจะถูกลากขึ้นไป ฉินวี่เฟยตะโกนชื่อของหลี่ฝางสุดเสียงอย่างไร้ความหวัง
เมื่อได้ยินเสียงของหญิงที่ตัวเองรักตะโกนออกมา หลี่ฝางก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เลยเปิดประตูรถก่อนจะมาอยู่ที่ด้านหลังของคุณชายหวง ยังไม่ทันรอให้คุณชายหวงรู้ตัวว่าเขาปรากฏตัวขึ้น หลี่ฝางก็เตะไปไกลเป็นสิบเมตร
“วี่เฟย ขอโทษ ฉันกลับมาแล้ว” หลี่ฝางนั้นกอดฉินวี่เฟยที่มองด้วยความงุนงง ก่อนจะขอโทษเธอหลายครั้ง เพียงไม่นาน หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดก็มีสติกลับคืนมา ก่อนจะเอามือทั้งสองโอบเอวของหลี่ฝาง แล้วร้องห่มร้องไห้อย่างหนัก
“ฮือๆ ทำไมคุณเพิ่งกลับมาล่ะ?คุณไปอยู่ที่ไหนมาในช่วงนี้?ทำไมคุณไม่สนใจฉัน!ทำไมถึงทิ้งฉัน!”
ฉินวี่เฟยร้องไห้พลางใช้กำปั้นทุบอกของหลี่ฝาง ก่อนจะระบายอารมณ์ที่น้อยใจและไม่พอใจออกมา
หลี่ฝางกอดเธอแน่น โดยที่ไม่ขัดขืนอะไร ก่อนจะยอมรับหมัดของฉินวี่เฟย เธอเป็นหญิงคนเดียว ไม่ได้มีแรงมากมาย ถึงจะทำร้ายไปทั้งวัน หลี่ฝางเองก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร
“เชื่อฟังนะ อย่าร้องไห้เลย เดี๋ยวเครื่องสำอางลบออกหมดแล้วไม่สวยนะ” ลูบผมสลวยของฉินวี่เฟยแล้ว เสียงอ่อนโยนของหลี่ฝางก็ทำให้คนละลายได้เลย
ทั้งสองคนนั้นไม่ได้เจอกันมานาน เลยมีเรื่องที่พูดไม่จบไม่สิ้นและเป็นความคิดถึงที่พูดอย่างไรก็ไม่จบ ใครก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ควรจะเข้าไปขัด
แต่ช่วยไม่ได้ว่าไอ้ผมเหลืองนั้นไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร ทั้งสองคนในรถพยุงคุณชายหวงขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็ชี้และด่าหลี่ฝาง
“ให้ตายเถอะ กล้ามาทำร้ายข้า อยากตายเหรอ?” ไอ้ผมเหลืองจับท้องของตัวเองที่ถูกเตะ พลางจ้องหลี่ฝางด้วยความเกลียดชัง
เหมือนกับพวกเขาไม่รู้จักคนของยุทธภพ เลยมองความเก่งกาจของหลี่ฝางไม่ออก และคิดเพียงว่าเขานั้นเข้ามาขัดช่วงสำคัญ ทำให้เรื่องของตัวเองนั้นเสีย
คนที่กำลังคุยกับฉินวี่เฟยอย่างอ่อนโยนอย่างหลี่ฝางนั้นเมื่อได้ยินไอ้ผมเหลืองพูด ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะมองไปที่พวกไอ้ผมเหลืองด้วยแววตาเย็นชา พลางไล่ให้ไสหัวไปอย่างไม่แยแส
คนธรรมดาแบบนี้หลี่ฝางเก็บกวาดได้อย่างไม่แยแส ถ้าเกิดไม่ได้จัดกำลังให้ดี ทั้งสามคนเกรงว่าจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างตอนนี้เขาแค่อยากจะพูดกับฉินวี่เฟย ไม่อยากให้ใครมารบกวน
“เด็กดี เรากลับบ้านกันก่อนเถอะ” คนที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นอารมณ์เย็นลงแล้ว หลี่ฝางก้มหน้าลงมาจูบตาของฉินวี่เฟยที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ก่อนจะจูงมือเธอเพื่อเดินเข้าไปในบ้าน
แต่ไอ้ผมเหลืองโอ้อวดตัวเองนั้นหลี่ฝางกลับเมินเฉยไป ท่าทีโอ้อวดของเขานั้นกลับทำให้พวกไอ้ผมเหลืองโกรธขึ้นมา จึงเห็นเพียงพวกเขาควักมีดออกมาจากรถ ก่อนจะปรี่เข้ามาฟันหลี่ฝาง
“โอ้ย!หลี่ฝางระวังนะ!” ฉินวี่เฟยตกใจจนขาอ่อน พลางร้องเสียงหลงเพื่อเตือนหลี่ฝาง
ส่วนหลี่ฝางกลับไม่ได้มีแววตาที่ขยับเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะปล่อยพลังของตัวเองออกมาจนทำให้ไอ้ผมเหลืองทั้งสามนั้นพลิกตลบไปกองอยู่กับพื้น แรงกดที่มากมายนั้นทำให้พวกเขาทั้งสามกระอักเลือด
มันน่าตลกจริงๆ เลย หลี่ฝางที่ถูกยิงก็ไม่ตายนั้น จะมาบาดเจ็บเพราะมีดงั้นเหรอ?
พวกไอ้ผมเหลืองนั้นมองหลี่ฝางเหมือนเห็นผี ฉากที่โผล่มาแต่ในนิยายกำลังภายในนั้นมาเกิดกับตัวของพวกเขาเอง ถ้าไม่เจ็บปวดเจียนตาย พวกเขาจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่แน่นอน