NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1180 เมามายที่บาร์
“สาวน้อย……เอ้ย……พวกพ้อง รีบมาดูเถอะว่าใครโทรมา” ตาแก่หลี่ปรี่เข้ามาหาหลี่ฝางที่กลั้นขำด้วยความรู้สึกไม่ดี หลังจากที่พูดออกไปก็รีบออกไปปลอบลูกสาว
หลี่ฝางมองท่าทีน้อยใจอย่างตาแก่หลี่ ก่อนจะส่ายหัวแล้วยิ้มๆ ก่อนจะเปิดโทรศัพท์ออกมาก็พบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ได้รับเจ็บแปดสาย เหลียงเชี่ยนเป็นคนโทรมา หลี่ฝางนั้นรีบลุกมาจากเตียง ก่อนจะโทรกลับไปโดยไม่ทันคิด
เหลียงเชี่ยนเป็นผู้ช่วยที่เก่งของฉินวี่เฟย และก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอ ในตอนนี้ที่เธอโทรมาหา นั่นก็ต้องเป็นเรื่องของฉินวี่เฟยแน่นอน
โทรศัพท์มันดังอยู่นานก่อนจะรับสายได้ อีกอย่างเสียงทางเหลียงเชี่ยนนั้นมันวุ่นวายมาก เหมือนจะอยู่ที่บาร์ หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา “เหลียงเชี่ยน?เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“พี่หลี่ฝาง คุณอยู่ที่ไหนล่ะ?คุณรีบมาดูประธานฉินเถอะ เธอดื่มทั้งคืนเลย ถ้าดื่มมากกว่านี้อาจจะเป็นอะไรไปก็ได้”
เสียงของเหลียงเชี่ยนนั้นแหลมเสียดหูของหลี่ฝาง หลังจากที่ได้ยินว่าฉินวี่เฟยดื่มจนเมามายหลี่ฝางก็นั่งไม่ติดแล้ว
“ตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหนแล้ว?ส่งที่อยู่มาให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะไปหาเลย!” หลี่ฝางเก็บของของตัวเองไปก่อนจะเดินไปด้านนอก
“พี่ คุณจะไปแล้วเหรอ?” เมื่อญาญาเห็นหลี่ฝางออกมาจากห้อง ก็รีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ตัวเล็กๆ จากนั้นก็ส่งเสื้อคลุมให้หลี่ฝาง
“อือ ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการ อยู่กับคุณไม่ได้แล้ว” หลี่ฝางยื่นมือข้างหนึ่งไปลูบผมของญาญา จากนั้นก็หันไปพูดกับตาแก่หลี่ “รุ่นพี่หลี่ พรุ่งนี้ฉันจะพาเพื่อนมา เดี๋ยวพวกเราค่อยคุยกันละเอียดๆ นะ”
เมื่อออกมาจากบ้านของตาแก่หลี่ หลี่ฝางก็รีบไปที่บาร์ที่ฉินวี่เฟยอยู่ เขานั้นไม่ไว้ใจฉินวี่เฟย พวกเธอทั้งสองเป็นผู้หญิง เลยไปดื่มกันจนดึก นี่ไม่ได้จะให้คนอื่นเอาเปรียบได้เหรอ?
เมื่อคิดว่าบาร์จะมีข่าวรั่วออกไป หลี่ฝางก็ขับเร็วขึ้นไปอีก ถนนที่ต้องใช้เวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมงก็ถูกเขาหดเหลือราวๆ สิบนาทีแล้ว
แต่ทางบาร์นั้น เหลียงเชี่ยนเองก็ร้อนใจไม่น้อยเลย เมื่อเห็นฉินวี่เฟยที่เมาไม่ได้สติก็ปวดใจและทำอะไรไม่ถูก “ประธานฉิน คุณเลิกดื่มก่อนเถอะ นี่มันห้าขวดแล้ว ถ้าดื่มต่อไปกระเพาะคุณจะต้องทะลุแน่ๆ ”
เมื่อเห็นเหลียงเชี่ยนจะแย่งขวดเหล้าจากตัวเอง ฉินวี่เฟยก็ผลักออก ก่อนจะกอดขวดเหล้าไม่ยอมปล่อยมือ “ฉันยังไม่เมา!คุณออกไป!อย่ามาขวางฉัน!”
เมื่อเห็นฉินวี่เฟยที่ร้องไห้ไปดื่มไป เหลียงเชี่ยนก็โกรธเป็นอย่างมากจน อดไม่ได้ที่จะด่าหลี่ฝางออกมา
“เห้อ จริงๆ เลยนะ ทำไมหลี่ฝางต้องทะเลาะกับประธานฉินนะ ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าเขารักประธานฉินมาก ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นชายเลวๆ คนหนึ่งเลยล่ะ!”
เมื่อด่าหลี่ฝางจบ เหลียงเชี่ยนนั้นมองไปรอบๆ ด้วยความกลัว ถึงแม้ฉินวี่เฟยจะพาบอดี้การ์ดสองคนมาด้วย แต่ก็มีผู้ชายไม่น้อยที่มองเหมือนต้องจะกินเธอ
แววตากระหายที่ปกปิดไม่อยู่นั้นมันทำให้เหลียงเชี่ยนร้อนใจ “เมื่อไหร่หลี่ฝางจะมากันนะ!ชายบ้าพวกนี้ก็น่ารังเกียจจริงๆ ทำเหมือนไม่เคยเห็นผู้หญิงเลย บอดี้การ์ดสองคนสองคนนี้น่าจะไม่เป็นไรใช่ไหมเนี่ย?”
บางทีกลัวอะไรก็จะได้แบบนั้น เหลียงเชี่ยนทั้งบ่นเสร็จ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขา
“หยุดนะ อย่าเดินเข้าไปไม่อย่างนั้นอย่าโทษว่าเราไม่เกรงใจนะ” บอดี้การ์ดสองคนของฉินวี่เฟยเองก็อยู่ในหน้าที่ เมื่อเห็นชายคนนั้นเดินเข้ามา ก็รีบยื่นมือเข้ามาขวางเขาเอาไว้
“ฉันนับถึงสาม หลบให้คุณชายเดี๋ยวนี้”
ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนมีเลศนัย ถึงแม้ตัวจะผอมกว่าพวกบอดี้การ์ด แต่ว่าโทนนั้นมันกดดันเป็นอย่างมาก และไม่ได้ใส่ใจเหล่าบอดี้การ์ดเลย แถมยังยื่นมือออกมานับเลขด้วย
“เหอะ พี่ ไอ้ตัวเตี้ยคนนี้เสียงดังไม่เบสเลย วันนี้ฉันอยากให้เขารู้สักหน่อยว่ากระดูกคนละเบอร์คืออะไร”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งที่ค่อนข้างผอมได้เห็นดังนั้น ก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว พวกเขานั้นเป็นคนที่ได้เหรียญรางวัลระดับประเทศ ไอ้เตี้ยคนนี้กล้ามาหาเรื่องต่อหน้า คงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ
บอดี้การ์ดอีกคนไม่ได้ขวาง แต่ย้ายเดินไปด้านข้าง ก่อนจะให้พื้นที่พวกเขาในการประลอง ในสายตาเขา คนผอมตรงหน้านั้นไม่ใช่คู่แข่งของพวกพ้องเลยด้วยซ้ำ เพียงไม่ถึงห้านาทีก็ถูกเตะฟุบลงบนพื้น
“ถึงเวลาแล้ว ดูเหมือนพวกคุณจะเลือกแล้วนะ กล้ามากจริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจะเหลือพวกคุณให้เป็นศพเลย”
ชายคนนั้นหัวเราะเสียงเย็นชา ก่อนจะเก็บมือของตัวเองเอาไว้ เมื่อพูดไป บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็กระเด็นออกไป ก่อนจะชนกับชั้นวางเหล้ามากมาย จนแทบจะพิการเลยล่ะ
บาร์ที่คึกคักก็เงียบลง ชายหญิงที่กำลังเต้นกันต่างนิ่งอยู่ที่เดิมไปหมด ขนาดบอดี้การ์ดคนนั้น ยังตกใจจนอ้าปากค้างไป
แม่ง เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ?ตัวเองยังไม่ทันได้เห็นท่าทางของไอ้คนผอมเลย แต่คนก็กระเด็นลอยไปแล้ว
เหลียงเชี่ยนได้ฟังดังนั้นก็ตกใจจนขาอ่อน เธอบอกว่าชายคนนี้มีความกล้า กล้ามาวัดกับบอดี้การ์ดสองคนนี้ ที่แท้ก็คือนักรบนี่เอง!
นี่จะจบเห่แล้ว!ไม่ต้องพูดถึงบอดี้การ์ดสองคนหรอก ถึงแม้จะมีสิบคน ก็ไม่น่าจะเป็นศัตรูของชายคนนี้ ทำอย่างไรดีๆ ?หลี่ฝางแกมันไอ้สารเลวจะเข้ามาไหม!
“เชอะๆ ไม่แพ้ใครเลยจริงๆ เป็นอย่างไร คุณยังอยากจะสู้กับฉันไหม?” ชายคนนั้นปัดมือของตัวเอง พลางหันไปถามบอดี้การ์ด
“ให้ตายเถอะ ข้าจะสู้กับแกแล้วนะ!” ถึงแม้จะรู้ความแตกต่างของตัวเองกับชายคนนี้ แต่ว่าบอดี้การ์ดที่เหลือนั้นยังปรี่เข้ามาอย่างไม่กลัวตาย
ถึงจะต้องตาย เขาเองก็ต้องตายอย่างมีศักดิ์ศรี!
ตอนแรกที่เขาบ่นและอยากจะปรี่เข้ามา ก็หลับตาเตรียมตัวตายแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่คิดเอาไว้นั้นยังไม่เข้ามาหาสักที
ผ่านไปไม่กี่วินาที บอดี้การ์ดถึงจะลืมตาขึ้นมา แล้วเห็นว่าคนตรงหน้านั้นเพิ่มมาอีกหนึ่งคน และเห็นว่าเขากันการโจมตีของชายคนนั้นด้วยมือข้างเดียว
“หลี่ฝาง!” เมื่อเห็นเงาที่ชัดเจนแล้ว เหลียงเชี่ยนก็ตะโกนชื่อของหลี่ฝางออกมาในขณะเดียวกันก็โล่งใจ
“พวกพ้อง หญิงสองคนนี้ฉันชอบก่อนนะ คุณมาตัดออกแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกมั้ง?”
คนที่สามารถรับท่านี้ของตัวเองได้ ถึงอย่างไรก็ต้องเป็นนักรบ ดังนั้นชายคนนี้เลยเก็บความโอ้อวดของตัวเองไว้ ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นการปรึกษาแทน
เขานั้นมองออกแล้วว่าบอดี้การ์ดสองคนนั้นเป็นคนธรรมดา ถึงได้กล้าลงมือ การเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นแบบในวันนี้ เป็นผู้ฝึกเหมือนกับตัวเอง เลยต้องคอยคิดให้ดีๆ
“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน คุณสนใจเธอ อยากตายเหรอ?” เมื่อมองฉินวี่เฟยที่เมาจนไม่ได้สติแล้ว หลี่ฝางก็จริงจังขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิม
“ให้ตายเถอะ ข้าว่าแกน่าจะเป็นนักรบเหมือนกัน ถึงได้เคารพคุณ ถ้าคุณไม่รับความเคารพนี้เอาไว้ อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ!”