NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1185 จุดจบ
แม้ตอนแรกเขาเองก็คิดว่าหลี่ฝางน่าหมั่นไส้ แต่เมื่อได้รู้จักกันลึกๆ หลี่ฝางเองก็เป็นคนที่น่าคบหาด้วย
“พอได้แล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งของท่านผู้อาวุโส พวกแกรอพวกเราอยู่ที่ทางเข้านี่แหละ”
กู่ยี่เทียนออกคำสั่งแล้ว ต่อให้หงส์แดงไม่ยอมยังไงก็ต้องทำตามคำสั่ง
“หัวหน้า สะดวกไหมที่จะคุยกับฉันสองต่อสอง?” ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หงส์แดงถึงได้รวบรวมความกล้าคุยกับกู่ยี่เทียนให้รู้เรื่อง
เขาเกรงว่าหากวันนี้ไม่พูดความในใจออกมาให้รู้เรื่อง ต่อจากนี้จะไม่มีโอกาสพูดอีก
กู่ยี่เทียนที่ตรวจสอบความเรียบร้อยอยู่ไม่รับรู้ถึงความผิดปกติของหงส์แดง กล่าวตอบโดยไม่แม้แหงนหน้าขึ้นมอง “ทุกคนเป็นพวกพ้องกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องคุยส่วนตัวหรอก”
อันที่จริงกู่ยี่เทียนเพียงรู้สึกว่าการพูดคุยส่วนตัวนั้นเสียเวลาเท่านั้น ยังไงซะอีกเดี๋ยวเขาก็จะต้องเข้าไปที่ซากปรักหักพังลึกลับแล้ว แต่ประโยคของเขากลับทำให้หงส์แดงเข้าสู่ความประหม่า ใบหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู
หลี่ฝางที่ได้ยินอยู่อีกด้านแทบระเบิดหัวเราะออกมา เมื่อเห็นทีท่าของหงส์แดงที่แทบจะร้องไห้ออกมา จึงแย่งของที่อยู่ในมือของกู่ยี่เทียนมาไว้ ผลักเขาไปยังหงส์แดง
“แม่สาวน้อยเธออยากจะพูดคุยกับนายหน่อยมันจะทำไม สมแล้วที่แกเป็นโสดมาตั้งหลายปี เลิกลีลาได้แล้ว ไม่แน่ว่าเราสองคนจะมีชีวิตรอดกลับมาไหม รีบไปประสานสัมพันธ์กับเธอซะ”
เมื่อหลี่ฝางชี้แนะ กู่ยี่เทียนถึงได้ไหวตัว คนที่นิ่งขรึมอย่างเขาพลันประหม่าขึ้นมา พลางแอบเหลือบมองหงส์แดง กระแอมไป “แค่กๆ เราไปทางนั้นเถอะ”
เมื่อถูกเปิดโปง หงส์แดงเขินอายอย่างมาก เธอเหมือนกับเด็กผู้ชายมาตั้งแต่ยังเล็ก เล่นกับเด็กผู้ชายมาตลอด จนตัวเธอเองก็แทบจะลืมไปแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิง
กระทั่งเธอถูกเลือกเข้าทีมหลงหยา ได้พบกับกู่ยี่เทียน นาทีที่เธอหัวใจหวั่นไหว หงส์แดงถึงได้รู้ว่ายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีทีท่าของผู้หญิง
ผมที่มัดเอาไว้เพราะความสะดวกก็ค่อยๆ สยายออก เธอที่ไม่เคยใช้เครื่องสำอางประทินผิวก็ค่อยๆ ฝึกฝนตามเน็ต แม้กระทั่งเธอที่ไม่เคยใส่กระโปรงมาก่อน ก็ใส่ชุดกระโปรงสีชมพูในวันเกิดของกู่ยี่เทียน
ความผิดปกติของเธอมักถูกเพื่อนร่วมทีมล้อเล่นอยู่เสมอ คนที่มีตาต่างก็รู้ว่าหงส์แดงชอบกู่ยี่เทียน นอกจากตัวกู่ยี่เทียนเอง
หลายครั้งที่หงส์แดงทนไม่ไหวอยากจะถามกู่ยี่เทียนให้รู้แล้วรู้รอด อยากจะถามเขาว่าคิดยังไงกันแน่ แต่ทุกครั้งมีเห็นสายตาของกู่ยี่เทียนก็ปอดแหกขึ้นมา คำพูดที่อยู่ในปากก็เปลี่ยนไป
เธอรังเกียจความปอดแหกนี้ของตนเองมาก
“หงส์แดง เธออยากจะพูดอะไรกับฉัน?” กู่ยี่เทียนจ้องมองหงส์แดงที่ก้มหน้าอยู่อย่างงั้น กล่าวถามพร้อมเกาหัวแกร็ก
เมื่อได้ยินเสียงของกู่ยี่เทียน หงส์แดงถึงได้แหงนหน้าขึ้น กัดริมฝีปากจับจ้องชายที่ตนเองชอบมาหลายปี
ในใจเธอมีเรื่องราวมากมายที่อยากจะพูด แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ใบหน้าที่ไร้เครื่องประทินผิวผุดเม็ดเหงื่อเพราะความตื่นเต้น ใบหูแดงเรื่อ
ของในรูปลักษณ์แบบนี้ ไม่ว่ากู่ยี่เทียนจะใสซื่อยังไงก็รับรู้ได้ เมื่อรู้ว่าหงส์แดงอาจจะชอบตนเข้า กู่ยี่เทียนเองก็ทำอะไรไม่ถูก
“คือว่า หงส์แดง เธอ เธอ ใช่หรือไม่……” กู่ยี่เทียนอ้ำอึ้งอยู่ครึ่งค่อนวัน แต่ก็ไม่สามารถกล่าวถามคำถามสุดท้ายออกไปได้ เขาไม่คิดเลยว่าหงส์แดงเกิดความรู้สึกต่อเขาเข้า
นี่มันไม่ใช่แบบที่เขาชอบ!
เขาชอบพี่สาวที่งดงามผิวขาวนวลขายาว หงส์แดงที่ใสซื่อแบบนี้ไม่เหมาะกับเขาแม้แต่น้อย
กู่ยี่เทียนในตอนนี้เกิดคลั่งเล็กน้อย เขาคิดว่าตรงไหนกันแน่ที่เขาดึงดูดหงส์แดง เขามั่นใจว่าเขาเท่าเทียมกับทั้งสี่มาตลอด ไม่เคยคิดว่าเพราะหงส์แดงเป็นผู้หญิงจึงให้ความดูแลเป็นพิเศษ
เป็นลูกน้องของกู่ยี่เทียนมานานปี หงส์แดงดูออกถึงความคิดของกู่ยี่เทียน เธออดหัวเราะตนเองไม่ได้
ไม่เคยเลยว่าความสัมพันธ์นี้ของเธอยังไม่ได้พูดก็จบลงซะแล้ว
อันที่จริงเธอควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว ว่ากู่ยี่เทียนไม่ชอบเธอ เพียงแค่เธอโง่เอง ที่ไม่ยอมรับมาตลอด
ขอถามหน่อย ว่ามีผู้ชายคนไหนบ้างที่จะพูดพร่ำไปทั่วต่อหน้าผู้หญิงที่ตนชอบ หรือแม้แต่แนะนำเธอต่อหน้าเธอกับผู้ชายคนอื่น?
ในสายตาของกู่ยี่เทียน เขาไม่ได้มองหงส์แดงเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ
สูดลมหายใจเข้า หงส์แดงแสร้งจับจ้องกู่ยี่เทียนอย่างผ่อนคลาย “ลูกพี่ใหญ่ คิดอะไรอยู่! ฉันมองพี่เป็นสหายที่ดีที่สุด แต่พี่กลับคิดว่าฉันชอบพี่ ดูเหมือนว่าต่อจากนี้ฉันจะใกล้ชิดกับพี่ไม่ได้อีก จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีก”
ประโยคของหงส์แดงทำให้กู่ยี่เทียนนิ่งไป เขาจับจ้องหงส์แดงอย่างไม่แน่ใจ “เธอพูดจริงหรือ? มองฉันแค่สหายเท่านั้น?”
กู่ยี่เทียนที่ถอนหายใจอย่างโล่งอกทิ่มแทงหงส์แดงอย่างเจ็บปวด จนแทบจะร้องไห้ ทว่าเธอกัดฟันฝืนทน ฉีกยิ้มอย่างขมขื่น
“จริงอยู่แล้วสิ สมภารไม่กินไก่วัด เราสนิทกันเกินไป พูดไม่ออกจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ลูกพี่ใหญ่พี่ไม่ใช่แบบที่ฉันชอบ พี่แข็งกระด้างเกินไป ฉันชอบแบบอ่อนโยน เอาใจเก่ง”
ไม่เสียแรงที่กู่ยี่เทียนเป็นผู้ชายแข็งกระด้าง เมื่อเห็นว่าหงส์แดงว่าอย่างงั้น สูดหายใจอย่างโล่งอก พลางตบที่หน้าอกของตนเองอย่างยินดี “ซู่ ถ้างั้นก็ดีแล้ว ก็ดีแล้ว ท่าทางของเธอเมื่อกี้นี้ฉันตกใจแทบแย่”
เพราะหลี่ฝางไม่อยู่หรอกนะ คำพูดเหล่านี้หากหลี่ฝางมาได้ยินเข้า ต้องฟาดเข้าให้อย่างแรงแน่ กู่ยี่เทียนมันน่าโมโหนัก! ไร้สมองหรือยังไง? แม้แต่อะไรจริงไม่จริงก็ฟังไม่ออก!
ในใจเจ็บจนเจียนตาย แต่หงส์แดงก็ยังคงยิ้มให้กับกู่ยี่เทียน ใช่ว่าเธอไม่เคยคิดถึงจุดจบแบบนี้ เพียงแต่เมื่อจุดนั้นมาถึงจริงๆ ถึงได้รู้ว่าการแสร้งทำไม่เป็นอะไรนั้นยากมากเหลือเกิน
“ฮ่าๆ เป็นฉันเองที่ไม่พูดให้รู้เรื่อง ลูกพี่ใหญ่ พี่ต้องระวังตัวด้วยนะ ต้องมีชีวิตกลับมาให้ได้ กลับมาให้ได้ ฉัน……ฉันและพวกเสือขาวยังรอพี่อยู่”
อันที่จริงที่หงส์แดงอยากจะพูดคือเธอรอกู่ยี่เทียนอยู่ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเปลี่ยนคำพูด ในเมื่อรู้แล้วว่าความสัมพันธ์นี้เป็นไปไม่ได้ ก็ไม่มีเหตุผลจะต้องเพิ่มปัญหา
แบบนี้เขาและกู่ยี่เทียนก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้อยู่
“เมื่อไหร่ที่คุณเป็นคนอ่อนไหวง่าย? สำหรับเราแล้ว ความตายเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือไง? หากครั้งนี้ฉันไม่ได้มีชีวิตกลับมา ถ้างั้นอนาคตของ ประเทศจีนก็ต้องเพิ่งพาพวกเธอแล้ว! จำไว้นะ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขัดขวางอาซาโทสให้ได้! เขาได้เป็นเทพเมื่อไหร่ โลกใบนี้แย่แน่”
ดวงตาที่แดงก่ำของหงส์แดง กู่ยี่เทียนไม่คิดมาก เพียงรู้สึกว่าเธอเป็นห่วงเกรงเขาจะตายเท่านั้น กับความเป็นความตาย กู่ยี่เทียนเองปลงมาก ตั้งแต่ที่เขาเริ่มฝึกยุทธภพ ผ่านความตายมามากมาย สำหรับความตายเขาไม่คิดมากอะไรทั้งนั้น