NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1189 จัดการศัตรูหัวใจ
“ใครบอกกันว่าฉันทำเพื่อเขา เขาได้รับสิทธิ์นั้นที่ไหน ฉันก็แค่ไปตามความก้าวหน้าของสังคมก็เท่านั้น เพียงแค่ในประเทศเท่านั้นไม่มีอนาคต การเจาะตลาดต่างชาติเป็นเรื่องช้านานอยู่แล้ว”
มือที่ตักโจ๊กทานเห็นได้ชัดว่าชะงักกึก แต่เธอก็ยังไม่ยอมรับความรู้สึกจริงๆ ข้างใน แถมยังแสร้งทำทีท่าไม่แยแส เหลียงเชี่ยนไร้หนทาง ได้แต่ไม่ขัดใจเธอ
“ประธานฉิน หลี่ฝางเขาไปทำธุรกิจท่านรู้ไหม?” เมื่อนึกขึ้นที่หลี่ฝางพูดเมื่อคืนว่าครั้งนี้คงจะอันตรายมาก เหลียงเชี่ยนจึงอดลองใจไม่ได้
“เขาจะไปไหนมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันกับเขาตอนนี้เป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น เพราะงั้นเธออย่าพูดถึงเขาต่อหน้าฉันอีก”
อันที่จริงฉินวี่เฟยเห็นข้อความที่หลี่ฝางส่งหาเธอแล้ว เพียงแต่เมื่อเธออ่านจบก็ลบข้อความทิ้งทันที ตอนนี้เธอเลิกกับหลี่ฝางแล้ว ข้อความแบบนี้สำหรับเธอแล้วไร้ความหมายอีกต่อไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หลี่ฝางมีผู้หญิงคนอื่นแล้ว เป็นห่วงเขา กังวลเรื่องของเขาไม่ใช่หน้าที่ของเธออีกต่อไปแล้ว แล้วเธอจะหาเรื่องปวดหัวไปทำไมกัน
“แต่ว่าประธานฉิน หลี่ฝางเขา……”
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าพูดถึงเขาอีก? เหลียงเชี่ยน ถ้าเธอทำเหมือนคำพูดฉันไร้ความหมายอีกละก็ ถ้างั้นตำแหน่งเลขาของเธอก็ไม่ต้องเป็นแล้ว!”
อันที่จริงเหลียงเชี่ยนอยากจะบอกกับฉินวี่เฟยว่า ครั้งนี้หลี่ฝางคงจะมีอันตรายมาก แต่เพิ่งจะเริ่มประโยค ก็ถูกฉินวี่เฟยขัดขึ้นอย่างไร้เยื่อใยเสียก่อน
เมื่อเห็นว่าฉินวี่เฟยโกรธ เหลียงเชี่ยนจึงได้แต่กลืนคำพูดที่อยู่ในลูกคอกลับไป ได้แต่ลอบอวยพรให้กับหลี่ฝางในใจ หวังว่าคราวนี้เขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย
สามวันผ่านไป ในสามวันนี้ฉินวี่เฟยนอกจากนอนแล้วก็คือทำงาน ค้านความคิดเห็นของทุกคนต้องตีตลาดประเทศอเมริกาในปลายปีนี้
ผู้ถือหุ้นทั้งหลายต่างไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ หรือแม้แต่บางคนถึงกับลั่นวาจา บอกว่าหากฉินวี่เฟยทำด้วยตัวคนเดียว จะโหวตให้เธอออกจากตำแหน่งประธาน
ตอนแรกอราฟาเอลที่คิดจะสั่งสอนเหล่าผู้ถือหุ้นที่ไม่พอถึงพอใจสักหน่อย แต่กลับถูกฉินวี่เฟยปฏิเสธ และไล่ราฟาเอลออกไป
หากจะพูดแทนฉินวี่เฟยละก็ ราฟาเอลเป็นคนของหลี่ฝาง เขาเองก็ได้รับคำสั่งจากหลี่ฝางให้มาปกป้องเธอ ในเมื่อตอนนี้ฉินวี่เฟยและหลี่ฝางเลิกกันแล้ว ถ้างั้นราฟาเอลก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ข้างกายเขาอีก
สิ่งนี้ทำให้ราฟาเอลที่นิ่งเงียบเสมอลำบากใจ ก่อนที่หลี่ฝางจะไปได้กำชับเป็นพิเศษ ต้องดูแลความปลอดภัยของฉินวี่เฟยให้ดี ตอนนี้ฉินวี่เฟยกลับจะไล่เขาออก นี่มันเรื่องอะไรกัน
ด้วยความสิ้นหวัง เขาทำได้เพียงกลับไปที่รีสอร์ทเพื่อขอความช่วยเหลือ
“พี่ราฟาเอล ทำไมพี่ถึงได้หน้าบึ้งขนาดนั้น ใครทำให้พี่โมโห ผมจะไปสั่งสอนมัน!” โหจื่อที่เข้ามาก็เห็นราฟาเอลที่นั่งขรึมอยู่ที่โซฟา ด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งราวกับมีคนติดหนี้เขาเป็นพันล้าน
“ฉินวี่เฟยไม่ต้องการให้ฉันปกป้องเธออีก แต่ลูกพี่ใหญ่มีคำสั่งเด็ดขาด ให้ฉันปกป้องฉินวี่เฟยไร้ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรทั้งนั้น ทำยังไงดี?”
เมื่อราฟาเอลได้ยินเสียงของโหจื่อ เหลือบมองเขาอย่างขอไปที ก่อนที่จะก้มหน้ากล่าว
โหจื่อชินแล้วกับความเย็นชาของราฟาเอล พลันประชิดราฟาเอลอย่างสนิทสนม ก่อนคว้าเมล็ดทานตะวันจากโต๊ะ แทะไปด้วยพร้อมกล่าว
“มันจะไปยากอะไร แม้พี่สะใภ้จะบอกว่าไม่ต้องการให้พี่ปกป้อง แต่เธอเป็นคนธรรมดา จะไปมองเห็นพี่ใหญ่ที่ปกป้องเธออยู่ห่างๆ ได้ยังไง”
“วิธีนี้ใช้ได้!” ประโยคของโหจื่อจุดประกายราฟาเอล เขาดีดลุกขึ้นจากโซฟา ทิ้งท้ายประโยคก่อนที่จะกลับไปยังบริษัทของฉินวี่เฟยด้วยความเร็วแสง
เมื่อเขากลับมายังใต้ตึกของบริษัท ชายคนหนึ่งในชุดสูทสีขาว ในมือถือดอกกุหลาบสีแดงช่อหนึ่งพร้อมด้วยป้ายเพื่อสารภาพรัก
ข้างเขามีรถสปอร์ตเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งจอดอยู่ บนรถเต็มไปด้วยดอกกุหลายอย่างเวอร์วัง การกระทำของเขาทำให้เกิดไทมุงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหล่าสาวๆ ที่ช่างเพ้อฝันทั้งหลาย ต่างตะโกนร้องด้วยความอิจฉา
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายใส่สูทชอบใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มได้ใจที่ชวนอ้วก ในมือของเขาถือลำโพงเอาไว้ ตะโกนใส่หน้าบริษัทของฉินวี่เฟยเสียงดัง
“วี่เฟย! ฉันรักเธอ! แต่งงานกับ……” ผมนะ……
ไม่รอให้ชายใส่สูทกล่าวจนจบประโยค ราฟาเอลก็ทำลายลำโพงจนแหลกละเอียด
ชายใส่สูทงงเป็นไก่ตาแตก ดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า ชายตรงหน้ามันอะไรกัน? เขาจะสารภาพรักแท้ๆ เขาจะมายุ่งอะไรด้วย?
“ให้ตาย แกรนหาที่ตายหรือไง? ถึงได้กล้าพังงานของกู! ชิวคุน ยังไม่รีบจัดการไอ้จนตรอกนี่อีก!”
ชายใส่สูทโมโหจนแทบจะโยนดอกไม้ในมือทิ้ง มุ่งไปที่ชายผมแห้งด้านหลัง แต่ชายวัยกลางคนที่เต็มที่ด้วยกล้ามเนื้อคำรามลั่น
เมื่อคนที่ชื่อชิวคุนได้ยิน ถึงได้เอามือไขว้หลังเดินไปตรงหน้าราฟาเอล ด้วยความโอหัง “ไอ้หนู ถ้าไม่อยากตาย ก็รีบกราบขอโทษคุณชายของเราซะ ไม่อย่างนั้น มือของแกข้างนี้วันนี้คงรักษาเอาไว้ไม่ได้แน่”
ชิวคุนคนนี้เองก็เป็นนักรบเช่นเดียวกัน แต่ความสามารถของเขามีเพียงกำลังภายนอกชั้นกลางท่านั้น อันที่จริงเขาเป็นศิษย์มีสำนัก เพียงแต่ธรรมดาเท่านั้น อายุสี่สิบกว่าแล้วแต่ความสามารถยังอยู่ที่กำลังภายนอกชั้นกลางเท่านั้น
เมื่อรู้ว่าตนเองไร้ความหวังที่จะได้สืบทอดเจ้าสำนัก ชิวคุนจึงลาสำนักตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เพิ่งพาสถานะนักรบของตนเอง เป็นบอดี้การ์ดให้กับเหล่าคุณชายมั่งคั่ง
อย่าว่าไป แม้กำลังภายนอกชั้นกลางของเขาจะธรรมดาในแวดวงนักรบ แต่เมื่อเทียบกับคนธรรมดาแล้ว กลับเป็นการมีอยู่เยี่ยงราชา สู้คนเดียวยี่สิบถึงสามสิบคนนั้นไม่มีปัญหา
หลายมีมานี้เขาเพิ่งพาทางนี้สร้างเงินได้อยู่ไม่น้อย นานวันเข้า เขาก็เลิกราจากวงการนักรบโดยสมบูรณ์ ไม่รู้เรื่องราวของวงการนักรบแม้แต่น้อย
ราฟาเอลถ่อมตนอยู่เสมอ การแต่งการเองก็เรียบง่าย เสื้อผ้าของเขาส่วนใหญ่หาซื้อตามออนไลน์ร้อยสองร้อยเท่านั้น เพราะงั้นความรู้สึกแรกที่คนอื่นมองเขาคือจนตรอกไม่มีเงิน
แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความรู้สึกไม่ที่ผิดไป แม้ราฟาเอลจะไม่รวยเท่ากับหลี่ฝาง แต่ในบัตรของเขาก็มีอยู่หลายร้อยล้าน คุณชายมั่งคั่งแบบนี้ ไม่ได้อยู่ในสายตาของแม้แต่น้อย
ไม่ต้องพูดก็รู้ ชิวคุนถูกรูปลักษณ์ภายนอกของราฟาเอลล่อลวงเข้าให้เต็มๆ เพราะงั้นความสามารถของเขาเองก็ไม่ได้หยั่งเชิง คิดว่าเขาเป็นคนธรรมดา
“ให้ผมคุกเข่าขอโทษ เขาไม่คู่ควร” เขาทิ้งประโยคเอาไว้อย่างเย็นชา ก่อนราฟาเอลจะหักแขนทั้งสองข้างของชิวคุน
กระบวนท่าจบลงในพริบตา แม้แต่ปฏิกิริยาของชิวคุนเองก็ช้าไปกว่าครึ่ง เมื่อราฟาเอลยืนอยู่กับที่อีกครั้ง เขาถึงได้โอดครวญราวกับเชือดหมู
เหล่าไทมุงต่างนิ่งอึ้ง อ้าปากกว้างจนสามารถอมไข่ได้ทั้งฟอง ชายใส่สูทตกใจจนฟุบลงกับพื้น จ้องมองราฟาเอลด้วยความผวา อ้ำอึ้งอยู่ครึ่งค่อนวันแค่ก็พูดอะไรไม่ออก
“ฉินวี่เฟย เป็นผู้หญิงของพี่ใหญ่ผม ถ้าแกกล้าคิดไม่ซื่อต่อเธอ ก็เตรียมตัวตายได้เลย”