NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1207 ช่วยฉัน
“นี่คุณบ้าไปแล้วหรือไง!” ชีพจรของแคทเธอรินเป็นสัญลักษณ์บอกว่าเธอมีชีวิตได้อีกไม่นาน หลี่ฝางเดาได้ทันทีว่ามันเกี่ยวข้องกับการทำนายอนาคตในครั้งที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ใส่อารมณ์กับแคทเธอรินขึ้นมา
อาคาอูและปันปูพุ่งตัวได้เข้ามาที่ด้านหน้าของหลี่ฝางภายในชั่วพริบตา ปกป้องแคทเธอรินให้อยู่ที่ด้านหลัง จ้องมองหลี่ฝางอย่างดุร้าย กลัวว่าเขาจะทำร้ายแคทเธอริน
“แค่ก ๆ ……ร่างกายของฉัน……ฉันรู้ดี พวกเรา……แม่ แม่มดทุกรุ่นต่างมีชีวิตอยู่ไม่เกินสามสิบปี ปีนี้ฉันอายุยี่สิบสองแล้ว มี มีชีวิตอยู่มามากพอแล้ว ไม่เป็นไรหรอก”
แคทเธอรินพิงพนังและหอบหายใจหนัก ๆ เพียงแค่ประโยคง่าย ๆ กลับใช้พลังมากมายกว่าจะพูดจบ ผิวขาวจนเหมือนกับว่าจะสลายหายไปได้ทุกเมื่อ
“นี่คุณ!” มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของแคทเธอริน หลี่ฝางเพียงรู้สึกว่าลมหายใจติดอยู่ที่หน้าอก อึดอัดจนรู้สึกเจ็บ
“หลี่ฝาง คุณรู้ไหมว่อูข่าทำไมเมื่อสักครู่ฉันถึงบอกว่าคุณกับกู่ยี่เทียนไม่เหมือนกัน?” มองดูหลี่ฝางที่เป็นห่วงตัวเอง แคทเธอริน รู้สึกหวานในใจของเธอ
หลี่ฝางส่ายหัวอย่างงุนงง รอฟังสิ่งที่แคทเธอรินจะกล่าวต่อไป
“คุณรู้ไหมว่าทำไมชนเผ่าอูข่าของพวกเราถึงต้องมีแม่มด?” ในตอนที่พูดประโยคนี้หลี่ฝางรู้สึกว่ารัศมีทั่วทั้งร่างของแคทเธอรินได้เปลี่ยนไป โดยเฉพาะดวงตาที่เป็นประกายคู่นั้น ในวินาทีนี้กลับเต็มไปด้วยความหม่นหมอง
แววตาที่แคทเธอรินมองหลี่ฝางในตอนนี้นั้นเลื่อนลอยมาก ราวกับได้มองดูอีกคนผ่านลี่ฝาง ราวกับได้มองใครอีกคนผ่านหลี่ฝางไปอย่างไรอย่างนั้น
“บรรพบุรุษของพวกเราชาวอูข่า และนั่นก็คือแม่มดใหญ่คนแรกของพวกเรา ความจริงแล้วเป็นน้องสาวที่เทพอ้านรักและเอ็นดูมากที่สุด แม่มดใหญ่รักใคร่เทพอ้านมาตั้งแต่ยังเด็ก สาบานว่าโตขึ้นจะต้องแต่งให้กับเทพอ้านต่อมาแม่มดใหญ่ได้สมความปรารถนาของเธอ แต่ทว่าความสุขนั้นมันสั้นนัก หลังจากที่พวกเขาแต่งงานได้ไม่นานก็เกิดสงครามขึ้น”
“หลังจากที่เทพอ้านรู้ว่าตัวเองจะต้องพ่ายแพ้ ก็ได้สั่งให้กองทัพส่วนหนึ่งของตัวเองคุ้มครองแม่มดใหญ่เข้ามาในโลกใต้พิภพ ส่วนตัวเขาเองนั้นได้นำสิบสองอัศวินไปสู้กับเทพหมิง เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่สงครามสิ้นสุดลง แม่มดใหญ่เชื่อว่าเทพอ้านยังมีชีวิตอยู่ ในอนาคตเขาจะต้องกลับมาที่อูนัสอีกครั้งอย่างแน่นอน”
“ดังนั้นแม่มดใหญ่จึงได้นำกองกำลังเหล่านั้นสร้างเผ่าพันธุ์อูข่าขึ้นมา คอยปกป้องดูแลโลกใต้พิภพมาทุกยุคทุกสมัย จนมาถึงตอนนี้ เดิมที่ฉันคิดว่าฉันคงไม่สามารถรอให้ทายาทของเทพอ้านมาถึงได้ คิดไม่ถึงว่ากลับได้พบกับคุณ ท่านเทพอ้านของฉัน”
เมื่อแคทเธอรินพูดสิ่งเหล่านี้จบไปร่างของเธอก็ได้ล้มลงสู่อ้อมอกของหลี่ฝาง ทำให้หลี่ฝางตกใจจนตัวแข็งทื่อ คิดจะผลักแคทเธอรินออกไป แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าร่างกายของเธอนั้นได้อ่อนแอมากแล้วเขาก็ลังเลขึ้นมา
“คุณว่ายังไงนะ? หลี่ฝางเป็นทายาทของเทพอ้านงั้นเหรอ? คุณมั่วหรือเปล่าน่ะ?” กู่ยี่เทียนรู้สึกว่าตัวเองแทบบ้าไปแล้ว นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย!
เทพอ้านอะไรนั่นไม่ใช่เป็นฝั่งคนเลวหรอกเหรอ? ถ้าหากหลี่ฝางเป็นทายาทของเทพอ้านนั่นมันไม่หมายความว่าหลี่ฝางเป็นศัตรูหรอกหรือไง?
“แคทเธอริน คุณเข้าใจผิดไปหรือเปล่าน่ะ? วิธีที่ผมฝึกฝนนั้นแตกต่างกับวิธีของเทพอ้านโดยสิ้นเชิง วิธีของอาซาโทสนั่นถึงเหมือนกันกับวิธีของเทพอ้าน”
หลี่ฝางเองก็งงไปหมด ว่ากันว่าเทพอ้านนั่นเพิ่มพลังของตัวเองด้วยการดูดกลืนพลังงานของคนอื่นไม่ใช่เหรอ? ที่ตัวเองฝึกฝนนั้นเป็นการต่อสู้ขนานแท้ จะเป็นทายาทของเทพอ้านได้ยังไงกัน
“ไม่ผิดแน่ ดูจากความหลงใหลที่คุณมีต่อเลือดของฉันเมื่อสักครู่แล้ว คุณก็คือทายาทของเทพอ้านอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนข้อมูลที่หินเฮยสวนบันทึกเอาไว้ ที่บอกว่าเทพอ้านฝึกวิชาโดยการดูดกลืนพลังงานของคนอื่นนั้น มันต่างจากความเป็นจริง”
แคทเธอริน เอื้อมมือออกไปลูบแก้มของหลี่ฝาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความลุ่มหลง สายตาที่ใช้มองคนรักของเธอทำให้หลี่ฝางขนลุกอยู่ภายในใจ
ถึงแม้แคทเธอรินจะมีหน้าตาสวย รูปร่างดี แต่สำหรับหญิงสาวลึกลับที่พึ่งรู้จักกันยังไม่ถึงวันคนนี้ หลี่ฝางไม่กล้าที่จะมีความคิดไม่ดีกับเธอจริง ๆ
เพราะจะว่ายังไงสิ่งที่แคทเธอรินพูดในตอนนี้นั้นก็เป็นแค่เพียงคำพูดฝ่ายเดียว ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจริงหรือเปล่า ถ้าเกิดนี่เป็นกับดักที่อาซาโทสและแคทเธอริน วางเอาไว้ ให้ตัวเองและกู่ยี่เทียนตกลงไปคงแย่แน่เลย
“ถ้าหากคุณไม่ใช่ทายาทของเทพอ้านแล้วทำไมคุณถึงเข้าไปในหินเฮยสวนได้? คุณจะอธิบายกับเหตุการณ์ที่คุณหลงใหลต่อเลือดของฉันเมื่อสักครู่ยังไง? หยุดปฏิเสธได้แล้ว ในส่วนลึกของร่างกายของคุณมีเสียงหนึ่งกำลังร้องเรียกหาอยู่ไม่ใช่เหรอ? ไม่ต้องไปกลัวมัน มันคือที่มาของพลังของคุณ”
“หลี่ฝาง ถ้าหากคุณไม่ยอมรับเอาพลังของเทพอ้านที่อยู่ในร่างกายของคุณ คุณก็จะไม่สามารถเอาชนะอาซาโทสได้ หยุดวิ่งหนีได้แล้ว เชื่อฉันเถอะ ทันทีที่คุณกลายเป็นเทพอ้านก็จะไม่มีใครเทียบกับคุณได้อีก”
คำพูดของแคทเธอรินนั้นราวกับมีเวทมนตร์ เต็มไปด้วยแรงดึงดูด และนั่นทำให้ความรู้สึกอันแปลกประหลาดที่เดิมทีหลี่ฝางได้กดลงไปแล้วนั้นพุ่งทะยานขึ้นมาอีกครั้ง ถึงขั้นร้องที่จะทำลายการควบคุมจากสติสัมปชัญญะของหลี่ฝาง
“หลี่ฝาง! มีสติหน่อย!” กู่ยี่เทียนเองก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของหลี่ฝาง และดึงเอาหลี่ฝางมาที่ข้างกายของตัวเอง เว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากพวกแคทเธอริน
ทันทีที่ออกห่างจากแคทเธอริน หลี่ฝางก็ได้สติกลับคืนมา เขาไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกคนอื่นคอยบงการเป็นอย่างมาก แววความโมโหปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา
“แคทเธอริน คุณได้ช่วยพวกเรา ผมรู้สึกขอบคุณมาก แต่การกระทำของคุณในนอนนี้มันเพื่ออะไร? หรือว่าคุณคิดจะเป็นศัตรูกับพวกเรา?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฝาง บนใบหน้าของแคทเธอรินได้ปรากฏแววได้รับบาดเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย: “ฉันจะเป็นศัตรูกับคุณได้ยังไง? ฉันกำลังช่วยพวกคุณยังไงล่ะ! ถ้าหากคุณไม่ปลุกพลังของเทพอ้านที่อยู่ในตัวของคุณขึ้นมา คุณก็จะไม่สามารถเอาชนะอาซาโทสได้”
“ผมไม่ต้องการยืมพลังของเทพอ้านอะไรนั่น ผมเชื่อว่าผมจะเอาชนะศึกในครั้งนี้ได้ด้วยพลังของตัวเอง แคทเธอริน ขอบคุณที่ช่วยพวกเรา และต้องขอบคุณเป็นอย่างมากที่ช่วยปลดผนึกคาถาที่อยู่ในตัวของพวกเรา เรื่องที่รับปากคุณก่อนหน้านี้ผมจะต้องทำให้ได้แน่ พวกเราจากกันแค่นี้เถอะ”
หลี่ฝางไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับแคทเธอรินไปมากกว่านี้ เรื่องราวเมื่อหลายพันปีก่อนเขายิ่งคร้านจะไปใส่ใจ ในเมื่อตอนนี้เขาและกู่ยี่เทียนได้ฟื้นฟูพลังแล้ว เช่นนั้นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือรีบตามหาอาซาโทสให้เจอ ขัดขวางไม่ให้เขากลายเป็นเทพ
“เดี๋ยวก่อน! หลี่ฝาง!” เมื่อเห็นหลี่ฝางและกู่ยี่เทียนจะจากไป แคทเธอรินก็ได้รีบเรียกหยุดพวกเขาเอาไว้อย่างร้อนรน
“แคทเธอริน ที่นี่คือบ้านของพวกคุณ ถ้าไม่อยากให้อาซาโทสทำลายมัน ผมหวังว่าคุณจะมาช่วยผมอีกแรง”
หลี่ฝางชะงักไปสักพัก สุดท้ายก็ได้หยุดฝีเท้าลง พูดตามตรง ตอนนี้อาซาโทสได้เข้ามาในโลกใต้พิภพ จะต้องมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนเป็นแน่ ต่อให้เขาและกู่ยี่เทียนร่วมมือกัน ก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะอาซาโทสได้
ถึงแม้แคทเธอรินจะได้รับบาดเจ็บ แต่ความสามารถยังคงอยู่ นอกจากนี้อาคาอูและปันปู ผู้พิทักษ์ทั้งสองของเธอก็แข็งแกร่งไม่เบา สกัดกั้นสิบสองอัศวินของอาซาโทสคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ถ้าหากสามารถดึงเอาพวกแคทเธอรินมาเป็นพวกได้ เช่นนั้นก็จะทำให้พวกตัวเองแข็งแกร่งขึ้นอีกมาก
“ดูเหมือนไม่ว่าฉันจะพูดยังไงคุณก็ไม่มีทางที่จะยอมรับความจริงที่ว่าตัวเองเป็นเทพอ้านในเมื่อเป็นแบบนี้ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก อูนัสเป็นบ้านของฉัน และเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าของฉันมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ต้องให้คุณพูด ยังไงฉันก็จะต้องไปหาอาซาโทสเพื่อแก้แค้นแน่”