NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1213 พบกันแล้ว
ประโยคนี้ฉินวี่เฟยกล่าวอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เธอไม่อยากจะยืนยันความสัมพันธ์กับจ้าวเทียนหลินเร็วเกินไป หนึ่งคือเธอยังไม่พร้อม สองเธอรู้สึกว่าจ้าวเทียนหลินคนนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นภายนอก
เพราะมีอยู่หลายครั้งที่เธอได้เห็นจ้าวเทียนหลินมองตัวเองด้วยสายตาที่ใช้มองเหยื่อ สายตาแบบนั้นมันทำให้ฉินวี่เฟยรู้สึกขนลุกขึ้นมาภายในใจ
“โอเค ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว ไม่เป็นไร ผมไม่รีบ ยังไงชีวิตนี้ก็ยังอีกยาวนาน ผมจะใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจที่ผมมีต่อคุณ”
ถึงแม้ว่าฉินวี่เฟยจะไม่ได้พูดจบ แต่จ้าวเทียนหลินก็ยังเข้าใจความหมายของฉินวี่เฟย ท่าทางได้รับบาดเจ็บปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า จากนั้นก็ได้ฉีกยิ้มออกมา แสร้งทำเป็นใจกว้างมองฉินวี่เฟยพลางกล่าว
ต้องบอกว่าจ้าวเทียนหลินคนนี้จับความคิดของคนได้เก่งจริง ๆ เดิมทีก็มีหน้าตาที่ดูเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว บวกกับสีหน้าท่าทางเช่นนี้ ช่างดูเป็นผู้ชายที่ลุ่มหลงในความรักจริง ๆ ทำให้ฉินวี่เฟยเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างรุนแรง
“คุณชายเจ้า ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันแค่……”
“จุ๊……ไม่ต้องอธิบาย ผมเข้าใจ คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด ผมรอได้ พวกเราค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป”
ฉินวี่เฟยกล่าวได้เพียงครึ่งเดียว ก็ถูกจ้าวเทียนหลินใช้นิ้วชี้ปิดริมฝีปากไว้ ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเซนติเมตร บรรยากาศในห้องส่วนตัวเปลี่ยนไปทันที ฉินวี่เฟยรู้สึกว่าอุณหภูมิโดยรอบได้เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณ คุณชายเจ้าฉันอิ่มแล้ว พวกเราไป ไปดูหนังกันเถอะ” ฉินวี่เฟยรู้สึกตื่นตระหนก เธอไม่กล้ามองตาของจ้าวเทียนหลินตรง ๆ หันหน้าหลบหลีกไปอย่างลนลาน เว้นระยะห่างระหว่างทั้งสองคนออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฮ่า ๆ เฟยคุณเขินเหรอ?” เป็นธรรมดาที่จ้าวเทียนหลินจะไม่ปล่อยโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป ฉินวี่เฟยขยับไปที่ด้านข้างเล็กน้อย เขาก็ขยับใกล้เข้าไปอีกนิด บีบจนฉินวี่เฟยไม่มีทางให้ถอยได้อีก
“เฟย เวลาคุณเขินช่างน่ารักจริง ๆ แก้มแดงเหมือนแอปเปิลแดงเลย ทำให้ผมอดไม่ได้อยากจะกัดสักคำจริง ๆ” จ้าวเทียนหลินใช้มือค้ำยันเสื่อทาทามิ ปิดล้อมฉินวี่เฟยเอาไว้ในอ้อมแขน ปากก็พูดคำบอกรักที่ชวนอี๋อยู่ไม่หยุด
ฉินวี่เฟยเพียงรู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งกาย ลมหายใจของชายแปลกหน้าทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา จะต้องรู้ว่าภายในห้องส่วนตัวในตอนนี้มีเพียงแค่พวกเขาสองคน ถ้าหากจ้าวเทียนหลินคิดจะทำอะไรจริง ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเธอไม่มีทางที่จะขัดขืนได้
“คุณชายเจ้า พวกเราควรไปกันแล้ว” กล่าวจบ ฉินวี่เฟยก็ลุกขึ้นมาจากเสื่อทาทามิ และคิดที่จะจากไป
แต่ยังไม่ทันที่ฉินวี่เฟยจะจะยืนตัวตรง จ้าวเทียนหลินก็ได้จับเอนานลงไปบนพื้น ทั่วทั้งร่างของฉินวี่เฟยถูกเงาร่างของจ้าวเทียนหลินครอบงำเอาไว้ ท่าทางของทั้งสองคนก็คลุมเครือมากเช่นกัน
“เฟย คุณสวยมากจริง ๆ ผมชอบคุณมากจริง ๆ นะ คุณเป็นแฟนผมเถอะ ผมจะต้องรักทะนุถนอมคุณอย่างแน่นอน!”
ชายหญิงอยู่ในห้องสองต่อสอง จ้าวเทียนหลินหักห้ามนิสัยของสัตว์เดรัจฉานที่อยู่ในใจเอาไว้ไม่อยู่ตั้งนานแล้ว บวกกับที่เขาได้ดื่มเหล้าสาเกลงไปหนึ่งไหเมื่อสักครู่ ตอนนี้รู้สึกเพียงว่าท้องน้อยของตัวเองร้อนเป็นอย่างมาก
เมื่อพูดประโยคนี้จบก็ก้มต่ำลงจะไปจูบริมฝีปากของฉินวี่เฟย ฉินวี่เฟยจะต้องไม่สมยอมเป็นธรรมดา ใช้มือค้ำยันหน้าอกของจ้าวเทียนหลินเอาไว้ คิดจะผลักให้เขาออกไปจากตัวเอง
เธอยิ่งต่อต้าน จ้าวเทียนหลินก็ยิ่งได้ใจใหญ่ ฉินวี่เฟยลองร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่อยู่ด้านนอกกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในตอนนี้เธอถึงรู้ว่า ที่แท้จ้าวเทียนหลินได้วางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว อาหารค่ำในวันนี้เป็นกับดักนั่นเอง
ฉินวี่เฟยที่ถูกจ้าวเทียนหลินล็อกแขนล็อกขาเอาไว้รู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา ทำไมในตอนนั้นเธอต้องไล่ราฟาเอลลงจากรถด้วย ถ้าหากตอนนี้มีราฟาเอลอยู่ เกรงว่าจ้าวเทียนหลินคงแตะต้องไม่ได้แม้แต่ขนของตัวเอง
ในตอนที่ฉินวี่เฟยแทบจะหมดหวังไปแล้วนั่นเอง ก็ได้มีเสียงต่อสู้ดังลอยเข้ามาจากด้านนอก เดิมทีการเคลื่อนไหวไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่เสียงร้องคร่ำครวญก็ได้ค่อย ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
จ้าวเทียนหลินที่กำลังเกิดอารมณ์กระสันเมื่อได้ยินเสียงโกลาหลที่อยู่ด้านนอกก็ได้หยุดการเคลื่อนไหวลง ฉินวี่เฟยถือโอกาสออกแรงเตะเขาที่ตรงกลางระหว่างขอของเขา สลัดหลุดจากการควบคุมแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
เธอไม่มีเวลาที่จะมาไตร่ตรองว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ฉินวี่เฟยเพียงแค่ต้องการอาศัยโอกาสนี้สลัดหลุดจากเงื้อมมือของจ้าวเทียนหลิน ต้องการหนีออกไปจากห้องส่วนตัว เช่นตัวเองก็จะได้รับการช่วยเหลือแล้ว
“พี่สะใภ้วี่เฟย? คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” โหจื่อพึ่งหักแขนข้างหนึ่งของนักรบชาวญี่ปุ่นไป หันไปก็เห็นฉินวี่เฟยเสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบวิ่งลงมาจากด้านบน
“โหจื่อ! ช่วยฉันด้วย!” ฉินวี่เฟยที่ขวัญหนีดีฝ่อเมื่อได้ยินเสียงของโหจื่อ ดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา เธอวิ่งโซซัดโซเซเข้าไปทางโหจื่อ
ในตอนนี้โหจื่อก็ไม่มีเวลาไปใส่ใจคนญี่ปุ่นพวกนั้นแล้ว เขารีบถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก และห่อหุ้มฉินวี่เฟยเอาไว้อย่างมิดชิด
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน! แค่ออกมาทานข้าวเอง ทำไมผู้หญิงของหลี่ฝางทั้งสองคนก็ถูกลวนลามซะแล้ว? นี่ถ้าให้หลี่ฝางรู้เข้า จะต้องลอกหนังของเขาแน่!
“ฉินวี่เฟย! นังสารเลวนี่! กล้าเตะฉันเหรอ วันนี้ฉันจะต้องเอาเธอให้ตายแน่!”
จ้าวเทียนหลินที่ถูกเตะเข้าที่ง่ามขาก็ได้ลงมาจากข้างบนแล้วในตอนนี้ มองฉินวี่เฟยที่หลบอยู่ด้านหลังของโหจื่อก็กัดฟันกรอดตะคอกด่า
“พี่สะใภ้วี่เฟย? คนนั้นใช่ไหมที่รังแกคุณ?” เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวเทียนหลิน โหจื่อก็เข้าใจขึ้นมาทันที สีหน้าที่เดิมทีก็ไม่ค่อยจะน่าดูนักยิ่งเลวร้ายลง
ฉินวี่เฟยยังไม่ทันได้พูดอะไร โหจื่อก็ได้เคลื่อนตัวแวบไปถึงตรงหน้าจ้าวเทียนหลิน และเตะเข้าไปที่ง่ามขาของจ้าวเทียนหลินอย่างแรงอีกครั้ง
เท้านี้ของเขาหนักกว่าฉินวี่เฟยอีกมาก ถูกฉินวี่เฟยเตะหนึ่งครั้ง อย่างมากจ้าวเทียนหลินก็เจ็บอยู่แค่สักพัก แต่ถูกโหจื่อเตะในครั้งนี้ มันทำจ้าวเทียนหลินให้ไร้ผู้สืบสกุลเลยทีเดียว
เสียงร้องโอดครวญดังลั่นร้านอาหารญี่ปุ่น จ้าวเทียนหลินให้มือกุมด้านล่างของตัวเองและเกือบจะเป็นลมไปเพราะความเจ็บปวด
แต่โหจื่อยังคงไม่หายโมโห เขาหยิบเอาดาบซามูไรมาจากด้านข้าง และตัดเส้นเอ็นทั้งแขนและขาของจ้าวเทียนหลินอย่างไม่กะพริบตา
ฉินวี่เฟยดูสภาพน่าอนาถาของจ้าวเทียนหลิน ร่างกายของเธออดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน เธอเบือนหน้าหนีไปอย่างทนดูไม่ได้ และในตอนนั้นเอง ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างกลับปิดปากอาเจียนขึ้นมา
“เสี่ยวฉง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หวางซีเหยามองดูหยางฉงที่เกือบจะอาเจียนจนน้ำดีออกมา และตบหลังให้เธอด้วยความเป็นห่วง หยางฉงอาเจียนไปพลางโบกมือให้กับหวางซีเหยา เป็นเชิงว่าตัวเองไม่เป็นอะไร
“พี่สะใภ้ คุณและหวางซีเหยาไปรอพวกเราที่รถก่อนเถอะ ภาพคาวเลือดแบบนี้คุณท้องอยู่ก็อย่าดูเลย พวกเราจัดการเสร็จเดี๋ยวก็ออกไป
ตอนนี้ไท่ซางกำลังสู้กับนักรบชาวญี่ปุ่นอย่างดุเดือด หันไปเห็นหยางฉงอาเจียนอย่างหนัก จึงรีบให้พวกเขาออกไปจากที่นี่ แต่เพราะกำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้จึงไม่ได้สังเกตเห็นฉินวี่เฟยที่อยู่ด้านข้าง
เดิมทีฉินวี่เฟยคิดว่าหยางฉงเป็นแฟนสาวของโหจื่อ แต่พอได้ยินคำพูดของไท่ซางเธอก็ตะลึงงันไปทันที
ไท่ซางเรียกผู้หญิงคนนี้ว่าพี่สะใภ้ เช่นนั้นก็หมายความว่า ผู้หญิงท้องที่ยืนอยู่ข้างหน้าของตัวเองคนนี้ ก็คือแฟนอีกคนของหลี่ฝาง